สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของ ‘มีกล้องต้องเที่ยว’
เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ 21 และ 22 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานจันทร์ถึงศุกร์อย่างเราๆ ก็ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อน ชาร์จพลังงานจากธรรมชาติ แต่เวลาแค่ 2 วันจึงต้องเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่ใกล้แต่สวย และหน้าร้อนแบบนี้คงหนีไม่พ้นทะเลค่ะ เราจึงเลือกอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลยค่ะ


เราขึ้นรถกับทางสวัสดิการทร.หรือสวัสดิการทหารเรือจากท่าราชวรดิษฐ์ ตรงใกล้กับวัดพระแก้วไปอำเภอสัตหีบ เลือกรอบที่เช้าที่สุดของวันนั้นเลยค่ะ คือรอบ 9 โมงเช้า


หน้าตารถของสวัสดิการทร. ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ ด้านในนั่งสบายแอร์เย็นฉ่ำส่วนใหญ่เป็นข้าราชการกับครอบครัวที่ใช้เดินทางเป็นประจำ จะให้ดีควรซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้นะคะกันรถเต็มค่ะ ราคาตั๋วอยู่ที่ 120 บาท


เราลงที่จุดจอดท่าเทียบเรือห้องเย็นค่ะ เพราะเราจองบ้านพักชื่อ ‘บ้านสัตหีบ ชายทะเล’ ไว้ ผ่านทางเพจและไลน์คุยกับพนักงานที่นั่นจนได้ห้องพักค่ะ รถจอดแล้วข้ามถนนมาก็จะเป็นอ่าวประมงหรือจุดจอดเรือของชาวประมงค่ะ


มุมนี้คลาสสิกตรงมีซากปรักหักพังของเรือประมงที่ถูกทิ้งร้างไว้ และเวิ้งไกลๆ มองเห็นเรือประมงที่สมบูรณ์กำลังแล่นอยู่บนน้ำทะเล


เดินมาไม่ไกลนักก็ถึงบ้านพักของเราแล้วค่ะ บ้านสัตหีบชายทะเล (Baan Sattahip by the sea) เป็นบ้านพักสไตล์บูติกเฮ้าส์ พอเดินเข้าไปพนักงานก็ทักทายเราด้วยคำพูดดีๆ และรอยยิ้มสวยๆ ทำให้เราหายเหนื่อยจากการนั่งรถกันเลยทีเดียว


ด้านในเหมือนห้องนั่งเล่นให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลยค่ะ เพราะเงียบสงบมีเพลงสากลเปิดคลอเบาๆ


มีภาพวาดสีน้ำมันสวยๆ ให้เดินเล่นชมรอบบ้านด้านล่างสบายตา ให้เห็นวิถีประมงบนท้องทะเลผ่านภาพวาด


โดยปกติแล้วเวลาเช็คอินเป็นเวลาบ่าย 2 โมง แต่เรามาถึงที่พักตั้งแต่เที่ยง กรณีที่ห้องพักได้รับการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเราก็สามารถเข้าพักผ่อนได้เลยค่ะ


ห้องลมทะเล 203 ที่เราได้นั้น (ด้วยความฟลุค เพราะที่นี่คิวจองห้องพักยาวต้องจองข้ามเดือนกันเลยทีเดียว) เป็นห้องที่เหมือนจะเป็นระเบียงชมวิว แต่ไม่สามารถเดินออกไปได้ ชมวิวได้ผ่านจากในห้องค่ะ 180 องศากันไปเลย


ในห้องยังมีห้องน้ำสะอาดส่วนตัวและมุมนั่นเล่นบนเก้าอี้ไม้สานจัดมุมได้น่ารักน่านั่ง


เดินมาด้านหลังต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว เพราะหลังบ้านเป็นวิวทะเลไกลสุดลูกหูลูกตามองเท่าไรก็ไม่เบื่อ เป็นอ่าวของชาวประมง


มีเรือประมงทั่วผืนน้ำ ด้านข้างเป็นหมู่บ้านชาวประมง


ส่วนมุมด้านขวานั้นเป็นสะพานปลาเก่า ไม่แนะนำให้ไปเดินเล่นเพราะสะพานไม้ค่อนข้างเก่าอาจชำรุดได้


ช่วงบ่ายๆ ลงมาด้านล่างบ้านพักสอบถามพนักงานเรื่องโปรแกรมเที่ยวที่เรามี แต่เสียอยู่ตรงไม่มีรถส่วนตัวในการเดินทาง พนักงานไม่รอช้ารีบจัดการเรื่องเช่ารถมอเตอร์ไซด์ราคา 300 บาท 24 ชั่วโมงในการทัวร์ทั่วหาดย่านทหารเรือครั้งนี้ของเรา เริ่มจากไปไหว้หลวงพ่ออี๋ที่วัดฝั่งตรงข้ามบ้านพัก และขับมอเตอร์ไซด์ต่อไปที่หาดนางรำค่ะ


หาดนางรำติดกับหาดนางรองสามารถเดินผ่านหาดถึงกันได้ แต่ด้วยเป็นวันหยุดนักท่องเที่ยวจึงมากโข เราอยู่ได้ไม่นานจึงเคลื่อนย้ายตัวเองไปที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย


เพราะที่นี่มีสิ่งที่ดีและงดงามมากเราจึงมา ด้านล่างจะเป็นห้องปรับอากาศให้เข้าชมเกี่ยวกับประวัติท้องทะเลไทย น่านน้ำไทย แต่ที่เรารอคอยคือด้านบนค่ะ เมื่อเดินเขาขึ้นมาตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติของพิพิธภัณฑ์นั้นคืออาคาร 5 อาคารชมวิวทะเลแบบ 360 องศาของจริง




จากวิวด้านบนมองเห็นท่าเรือเขาหมาจอ เกาะขาม เกาะแสมสาร และเกาะอีกมากมาย


พิพิธภัณฑ์ที่นี่ปิดโซนห้องนิทรรศการเวลา 16.30 นาที และปิดจุดชมวิวด้านบนสุดคืออาคาร 5 เวลา 5 โมงเย็น


เวลาที่เหลือเราจึงเดินทางไปต่อที่หาดน้ำใส ไปดูให้แน่ใจว่าน้ำใสเหมือนชื่อจริงไหม แล้วก็ค้นพบว่าใสจริงๆ ค่ะ


วันรุ่งขึ้นเรามาอรุณสวัสดิ์กันที่หาดสอ เมื่อรับประทานอาหารมื้อเมื่อเช้าที่ผ่านไปเป็นพวกไข่ลวก ปาท่องโก๋ ขนมปัง ข้าวเหนียวหมูฝอย หาดที่นี่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักคนจึงไม่ค่อยมาก เสียค่าเข้าหาดแค่ 20 บาท


ยำปูม้าที่นี่รสเข้มข้น หอมกลิ่นผักสวนครัว ปูสดมาก ซึ่งมื้อค่ำเมื่อวานที่เราแอบไปเดินตลาดโต้รุ่งกันเพื่อกินส้มตำปูม้า กินคนเดียวไปสองจานบอกได้เลยค่ะหยุดไม่ได้เพราะอาหารทะเลที่นี่เป็นแหล่งที่สดและสะอาด


กลับที่พักมาแวะกินน้ำกินท่านั่งห้อยขา ที่บ้านผักมีผลไม้จำพวกเงาะ ชา กาแฟ บริการตลอดทั้งวัน


เราซื้อตั๋วเตรียมไว้ก่อนแล้วเลยไม่ต้องกังวล รอรถกลับรอบ 5 โมงเย็นยังมีเวลานั่งเล่นอีกหาดนั่นคือหาดใกล้บ้านพักเราเองชื่อว่าหาดดงตาล ไปชมการแล่นเรือใบของนักเรียนฝึกหัดกัน


และขอปิดท้ายไปด้วยภาพยามเย็นหลังบ้านสัตหีบชายทะเล บ้านพักของเราค่ะ


ขอบคุณสำหรับการรับชมภาพที่มือใหม่หัดถ่ายและการเขียนกระทู้แรกที่แสนตั้งใจของเรา ‘มีกล้องต้องเที่ยว’ ขอฝากชื่อรีวิวเรื่องเที่ยวนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจนักอ่านพันทิปทุกท่านและพบกันใหม่ทริปหน้า มีข้อคิดเห็น ติชม สามารถแสดงความคิดเห็น รวมถึงโหวตได้เสมอนะคะ ... เพราะความสุขในการเที่ยวซ่อนอยู่ระหว่างทาง ... ด้วยรัก ‘Me Kong Tong Teaw’

สวัสดีค่ะ