....การเล่นของเด็ก มีความสำคัญต่อคุณภาพความเป็นอยู่
ช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เสริมสร้างสุขภาพกายและจิตใจ
แต่การเล่นที่ส่งผลและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ เด็กกับผู้ใหญ่ได้เล่นด้วยกัน
เพราะจะช่วยสานสัมพันธ์ ความแน่นแฟ้นระหว่างช่วงวัยที่แตกต่าง และยังทำให้ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ดังนั้นลองมาดูรูปแบบการเล่นในแบบต่างๆกัน
1.เล่นแบบฟรีสไตล์ ('Free-Style’ Play): เป็นการเล่นที่เกิดขึ้นตามสัญชาตญาณ ไม่มีการวางแผน
เช่น การแสดงบทบาทสมมุติ ช่วยให้เด็กกล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ และแสดงความเป็นตัวเอง
2.เล่นแบบจำลองสิ่งต่างๆ (‘Build-It’ Play): การฝึกสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมา เช่น ตัวต่อเลโก้เสริมสร้างจินตนาการ ความคิดและการแก้ปัญหา
นอกจากนี้ยังเป็นการเล่นที่สมาชิกในครอบครัวใช้เวลาเล่นด้วยกันได้
3.เล่นเพื่อเลียนแบบ ('Mirror-Me' Play): การเลียนแบบผู้ใหญ่ของเด็กๆ ทำได้ง่ายๆ
เช่น กิจกรรมที่เด็กๆ ช่วยผู้ใหญ่ทำงานบ้าน ทำอาหารหรืออบขนมด้วยกัน
นอกจากเด็กจะได้เสริมทักษะ การเข้าสังคมและความกล้าแสดงออกแล้ว
ผู้ใหญ่ก็ยังมีความสุขที่มีเจ้าตัวเล็กมาคอยสร้างสีสันอีกด้วย
สวมบทบาทสมมุติในอาชีพต่างๆ ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเชฟน้อยเข้าครัว
หรือเป็นเถ้าแก่เนี้ยคนเก่ง ด้วยชุดของเล่นทำขนม
4.เล่นคลุกฝุ่น (‘Muddy-Boots’ Play): เป็นการเล่นภาคสนาม เช่น ออกไปเล่นซ่อนหา วิ่งไล่จับ
ทำให้เด็กๆ ได้สำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวและเข้าสังคมกับเพื่อนๆ
นอกจากนี้ยังสามารถเล่นกับผู้ใหญ่ในครอบครัว เพื่อสร้างความสุข เสียงหัวเราะพร้อมกับออกกำลังกายไปด้วยกันอีกด้วย
5.เล่นนอกกรอบ (‘Out-of-the-Box’ Play): คือการเล่นโดยอาศัยอารมณ์ศิลปิน
เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่จำกัดและไม่มีข้อบังคับ
ช่วยให้เขาได้ค้นพบศักยภาพ พรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ เช่น การร้องเพลง วาดภาพระบายสี
6.เล่นเป็นแบบแผน (‘Formal’ Play): เป็นการฝึกสมองประลองปัญญา
ฝึกการวางแผนด้วยเกมกระดานต่างๆ ที่ทุกคนในครอบครัวเล่นด้วยกันได้ เช่น หมากรุก เกมเศรษฐี เป็นต้น
การรังสรรค์พื้นที่ในบ้าน เพื่อให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ได้สนุกไปพร้อมๆกัน
การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในพื้นที่สำหรับเด็กๆ จะต้องคำนึงถึงการใช้สอยในการทำกิจกรรมต่างๆ
เช่น การวาดรูประบายสี ควรเลือกโต๊ะที่มีพื้นผิวซึ่งสามารถทำความสะอาดได้ง่ายและมีความกว้างพอให้เด็กๆ เล่นเกมอื่นๆ ได้ด้วย
นอกจากนี้ เด็กๆ มักจะใช้ทุกห้องเป็นพื้นที่ในการเล่น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมากคือความปลอดภัย
เฟอร์นิเจอร์ที่มีความหนัก ควรเลือกฐานที่มีความมั่นคงช่วยในการรองรับได้ดี หรือยึดติดไว้กับผนังเพื่อป้องกันไม่ให้ล้มลงมาได้
การเก็บของเล่นไว้ในมุมหรือในระดับความสูงที่เด็กๆสามารถหยิบจับเองได้ จะช่วยให้พวกเขานำออกมาเล่นได้ตามต้องการ
และรู้จักเก็บให้เป็นที่เป็นทางเมื่อเล่นเสร็จ
ผ้าหุ้มเฟอร์นิเจอร์ควรเป็นแบบที่สามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดได้ง่ายเพื่อสุขอนามัยที่ดีของเด็ก
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : IKEA
....การเล่นของลูก เพื่อเปิดโลกจินตนาการเจ้าตัวน้อย
ช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เสริมสร้างสุขภาพกายและจิตใจ
แต่การเล่นที่ส่งผลและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ เด็กกับผู้ใหญ่ได้เล่นด้วยกัน
เพราะจะช่วยสานสัมพันธ์ ความแน่นแฟ้นระหว่างช่วงวัยที่แตกต่าง และยังทำให้ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ดังนั้นลองมาดูรูปแบบการเล่นในแบบต่างๆกัน
1.เล่นแบบฟรีสไตล์ ('Free-Style’ Play): เป็นการเล่นที่เกิดขึ้นตามสัญชาตญาณ ไม่มีการวางแผน
เช่น การแสดงบทบาทสมมุติ ช่วยให้เด็กกล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ และแสดงความเป็นตัวเอง
2.เล่นแบบจำลองสิ่งต่างๆ (‘Build-It’ Play): การฝึกสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมา เช่น ตัวต่อเลโก้เสริมสร้างจินตนาการ ความคิดและการแก้ปัญหา
นอกจากนี้ยังเป็นการเล่นที่สมาชิกในครอบครัวใช้เวลาเล่นด้วยกันได้
3.เล่นเพื่อเลียนแบบ ('Mirror-Me' Play): การเลียนแบบผู้ใหญ่ของเด็กๆ ทำได้ง่ายๆ
เช่น กิจกรรมที่เด็กๆ ช่วยผู้ใหญ่ทำงานบ้าน ทำอาหารหรืออบขนมด้วยกัน
นอกจากเด็กจะได้เสริมทักษะ การเข้าสังคมและความกล้าแสดงออกแล้ว
ผู้ใหญ่ก็ยังมีความสุขที่มีเจ้าตัวเล็กมาคอยสร้างสีสันอีกด้วย
สวมบทบาทสมมุติในอาชีพต่างๆ ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเชฟน้อยเข้าครัว
หรือเป็นเถ้าแก่เนี้ยคนเก่ง ด้วยชุดของเล่นทำขนม
4.เล่นคลุกฝุ่น (‘Muddy-Boots’ Play): เป็นการเล่นภาคสนาม เช่น ออกไปเล่นซ่อนหา วิ่งไล่จับ
ทำให้เด็กๆ ได้สำรวจสิ่งต่างๆ รอบตัวและเข้าสังคมกับเพื่อนๆ
นอกจากนี้ยังสามารถเล่นกับผู้ใหญ่ในครอบครัว เพื่อสร้างความสุข เสียงหัวเราะพร้อมกับออกกำลังกายไปด้วยกันอีกด้วย
5.เล่นนอกกรอบ (‘Out-of-the-Box’ Play): คือการเล่นโดยอาศัยอารมณ์ศิลปิน
เป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่จำกัดและไม่มีข้อบังคับ
ช่วยให้เขาได้ค้นพบศักยภาพ พรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ เช่น การร้องเพลง วาดภาพระบายสี
6.เล่นเป็นแบบแผน (‘Formal’ Play): เป็นการฝึกสมองประลองปัญญา
ฝึกการวางแผนด้วยเกมกระดานต่างๆ ที่ทุกคนในครอบครัวเล่นด้วยกันได้ เช่น หมากรุก เกมเศรษฐี เป็นต้น
การรังสรรค์พื้นที่ในบ้าน เพื่อให้เด็กๆ และผู้ใหญ่ได้สนุกไปพร้อมๆกัน
การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในพื้นที่สำหรับเด็กๆ จะต้องคำนึงถึงการใช้สอยในการทำกิจกรรมต่างๆ
เช่น การวาดรูประบายสี ควรเลือกโต๊ะที่มีพื้นผิวซึ่งสามารถทำความสะอาดได้ง่ายและมีความกว้างพอให้เด็กๆ เล่นเกมอื่นๆ ได้ด้วย
นอกจากนี้ เด็กๆ มักจะใช้ทุกห้องเป็นพื้นที่ในการเล่น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมากคือความปลอดภัย
เฟอร์นิเจอร์ที่มีความหนัก ควรเลือกฐานที่มีความมั่นคงช่วยในการรองรับได้ดี หรือยึดติดไว้กับผนังเพื่อป้องกันไม่ให้ล้มลงมาได้
การเก็บของเล่นไว้ในมุมหรือในระดับความสูงที่เด็กๆสามารถหยิบจับเองได้ จะช่วยให้พวกเขานำออกมาเล่นได้ตามต้องการ
และรู้จักเก็บให้เป็นที่เป็นทางเมื่อเล่นเสร็จ
ผ้าหุ้มเฟอร์นิเจอร์ควรเป็นแบบที่สามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดได้ง่ายเพื่อสุขอนามัยที่ดีของเด็ก
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : IKEA