รีวิวเรื่องที่ 9/100
ตัวผมเองได้มีโอกาสได้ดูหนังรักสัญชาติเกาหลีเรื่อง Always(2011)ไปเมื่อไม่นานมานี้ครับ หลังจากที่ร้างราจากการดูหนังรักเกาหลีไปหลายปี(ไม่ได้มีอคตินะครับแต่แค่รู้สึกว่าพล็อตเดิมๆ) โดยเหตุผลที่ตัดสินเลือกดูหลักๆเลยก็คือชื่นชอบนางเอกของเรื่อง ฮัน ฮโย-จู ครับ บวกกับเป็นคนชอบดูหนังที่มีตัวเอกเป็นนักมวยด้วยเพราะรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ไม่ธรรมดาและมักมีแง่มุมที่น่าสนใจเสมอสำหรับหนังเกี่ยวกับนักมวย เรื่องนี้พระเอกและนางเอกมีปมด้อยทั้งคู่ครับ พระเอกเป็นอดีตนักมวยตกอับส่วนนางเอกตาบอดอีกแต่ยังไม่บอดสนิทนะครับ พอได้รู้เนื้อเรื่องคร่าวๆแล้วเลยคิดว่าน่าสนใจดีอะไรที่ทำให้ทั้งคู่มารักกันได้และจะไปรอดกันไหม ก่อนดูผมมีความคิดว่าหนังเรื่องนี้อาจเหมือนหนังรักเกาหลีตามสูตรทั่วไปที่เราเคยเจอคือต้นเรื่องทะเลาะ กลางเรื่องรักซึ้ง ท้ายเรื่องตายจากอะไรประมาณนี้ครับเลยทำใจไว้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องความซึ้งนั้นหนังรักเกาหลีค่อนข้างพิสูจน์ให้เราเห็นอยู่บ่อยๆอยู่แล้วว่ามาตรฐานสูงมากกับการเรียกน้ำตาเรื่องRomantic Drama เนี่ยไว้ใจได้เลยครับ ไม่มีน้ำตาคือคุณไม่มีหัวใจว่างั้นเลยก็ได้ เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะทำให้ผมดำดิ่งอินไปกับความซึ้งที่ตัวหนังต้องการนำเสนอได้
(แทรกMVมาให้ดูนะครับไม่อยากให้ดูtrailerเพราะผมว่าspoilตัวหนังพอสมควร)
ตัวหนังว่าด้วยเรื่องราวของชอลมินอดีตนักมวยตกอับผู้หันหลังให้กับอดีตและอนาคตทำอาชีพเป็นพนักงานขนน้ำในตอนกลางวันส่วนตอนกลางคืนก็มาช่วยงานลุงยามเฝ้าที่จอดรถในป้อมของอาคารสำนักงานเป็นครั้งคราว วันหนึ่งลุงที่ปกติจะทำงานที่ป้อมที่จอดรถก็ขอให้ซอลมินทำหน้าที่ต่อจากตนเป็นการถาวร ทำให้ซอลมินได้พบกับจองฮวาสาวออฟฟิตตาบอดที่ทำงานที่อาคารที่ตนมาเฝ้าที่จอดรถให้อยู่ โดยปกติจองฮวาจะเข้ามาดูละครกับลุงยามที่ป้อมเป็นประจำ(โดยการฟังเสียง)จึงทำให้ได้พบกับซอลมินโดยบังเอิญ จองฮวาขอซอลมินว่าตนอยากมาดูละครภาคค่ำทีป้อมนี้ต่อจะได้ไหมซึ่งซอลมินก็ยินยอม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเริ่มต้นขึ้น ซอลมินผู้หันหลังให้อดีตอันดำมืดของตนได้ยอมรับการก้าวเข้ามาของจองฮวาซึ่งเป็นเหมือนแสงสว่างมากขึ้นเพราะจองฮวาเป็นคนมองโลกในแง่ดีและมนุษยสัมพันธ์ดี ความรักของเขาทั้งสองค่อยๆก่อตัวและเติมเต็มความรู้สึกถึงการมีชีวิตให้กับซอลมินอีกครั้ง ซอลมินกลับไปเป็นนักมวยอีกครั้งเพื่อให้มีเงินจะได้สามารถดูแลจงฮวาได้ แต่แล้วซอลมินก็ได้รับรู้ว่าจงฮวานั้นที่จริงแล้วตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งที่จริงแล้วซอลมินมีส่วนกับการเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้นด้วย อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เธอสูญเสียพ่อแม่และตาบอดแต่ไม่ได้บอดสนิทซึ่งแพทย์ผู้รักษาแนะนำให้ผ่าตัดเปลียนดวงตาเพราะยังมีโอกาสที่ตาจะกลับมามองเห็นแต่ต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกินไป ซอลมินได้ตัดสินใจเข้าที่จะหาเงินก้อนใหญ่มารักษาดวงตาของจองฮวาให้ได้แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ความรักครั้งนี้จะต้องแลกมาด้วยอะไร จะจบอย่างไหร่ อันนี้แนะนำให้ลองไปดูกันเองนะครับ
ผมค่อนข้างชอบการดำเนินเรื่องของหนังที่ไม่พยายามเร่งความสัมพันธ์ของตัวละครมากจนเกินไป ค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติเพราะcharacterของซอลมินค่อนข้างปิดตัวเป็นคนเข้าถึงยากอยู่แล้ว ทำให้ต้องใช้เวลาให้การพัฒนาความสัมพันธ์ในขณะเดียวกันหนังทำออกมาได้ดีในการค่อยๆคลายปมในอดีตของทั้งสองตัวละครโดยไม่ได้ยัดเยียดทุกอย่างเข้ามาในซีนๆเดียว แต่ค่อยปล่อยทีละฉากทีละตอนเพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆและได้รู้ความจริงที่เกิดขึ้นในที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ว่าสิ่งที่พระเอกทำในอดีตได้ส่งผลให้นางเอกตาบอดโดยทางอ้อม จริงๆค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยที่หนังไม่ได้โฟกัสไปที่การต่อสู้ด้วยหมัดมวยของพระเอกมากเท่าไหร่นักเพราะแอบคาดหวังให้มีฉากต่อยมวยเด็ดๆสักหน่อยตัวหนังกลับโฟกัสไปที่การต่อสู้ภายในจิตใจของตัวละครทั้งสองซะมากกว่า แต่ตัวหนังทำออกมาได้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่องจึงชดเชยเรื่องฉากต่อยมวยที่ขาดหายได้ครับ สำหรับผมนับว่าเป็นการcomebackของหนังรักเกาหลีได้เป็นอย่างดีเพราะผมไม่ได้ดูมานาน หนังจัดการกับการเรียงลำดับเนื้อเรื่องได้ดีมาก ข้อด้อยก็คือฉากการต่อสู้สุดท้ายนั้นฉากแอ๊คชั่นไม่ดุเดือดไม่peakมากเท่าไหร่ทั้งมุมกล้องและจังหวะต่างๆ คิดว่าน่าจะไม่ใช่งานถนัดของผู้กำกับอยู่แล้ว สิ่งที่ทำออกมาได้ดีตามคาดคือความซึ้งและการเรียกน้ำตาครับ น้ำตาลูกผู้ชายของผมมันใหลออกมาไม่หยุดจริงๆครับในตอนท้าย อีกทั้งหนังยังทำให้เราได้ลุ้นดีครับว่าสุดท้ายตอนจบจะเป็นอย่างไร
รีวิวตัวละคร
ชอลมิน (โซ จี-ซ็อบ) แสดงได้ดีมากครับโดยเฉพาะการแสดงออกทางดวงตาเพราะตัวละครจะค่อนข้างมีcharacterที่นิ่งมากอยู่แล้วฉะนั้นการแสดงออกทางสายตาเป็นสิ่งสำคัญมากครับซึ่งก็ทำออกมาได้ดี และมีหุ่นที่ดีสมกับเป็นนักมวยครับทำให้เราเชื่อได้จริงๆว่าเขาเป็นนักมวย แม้ฉากต่อยมวยจริงๆจะทำออกมาได้ไม่สุดแต่ก็ถือว่าโอเคครับเพราะหนังไม่ได้เน้นอยู่แล้ว
จองฮวา (ฮัน ฮโย-จู) แสดงได้ดีมาถึงมากที่สุดครับสำหรับการเล่นเป็นคนตาบอดเรียกได้ว่าเป็นบทที่ท้าทายพอสมควรและเธอก็ทำออกมาได้ดีมากทำให้ผมเชื่อได้จริงๆว่าเธอมองไม่เห็น ผมนี่หลงเสน่ห์ความน่ารักของเธอไปจังๆเลยครับในฉากหวานแหววส่วนในฉากที่ดราม่าก็ทำออกมาได้ดีมากครับ
ใครที่คาดหวังหนังรักนักมวยจ๋าอาจผิดหวังหน่อยนะครับ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่หนังนักมวยเจ้ายุทธภพเพื่อเป็นที่หนึ่งครับ แต่มันกลับกลายเป็นแค่การสู้เพื่อคนที่รักโดยไม่ได้คาดหวังว่าตนเองจะยิ่งใหญ่เลยสักนิด ถ้าคุณกำลังต้องการหาน้ำตามาอาบเพื่อให้คุณรู้สึกว่าหัวใจคุณยังทำงานได้ดีอยู่ละก็หนังเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์ได้ครับอีกทั้งแสดงให้คุณเห็นด้วยว่าความรักสามารถทำให้คนเรายอมทำได้ทุกอย่างจริงๆ เรียกได้ว่าเป็น Romantic Drama ที่คู่ควรแก่การเสียเวลาครับ ลองทิ้งอคติที่มีต่อหนังรักเกาหลีดูครับแล้วเปิดใจคุณอาจจะสนุกและอินไปกับมันก็ได้
บทภาพยนต์: 8/10
ความสนุก: 8/10
การตัดต่อภาพและเสียง:7/10
[CR] รีวิว " Always, O-jik geu-dae-man " (รีวิวหนัง100เรื่อง/100วัน)
ตัวผมเองได้มีโอกาสได้ดูหนังรักสัญชาติเกาหลีเรื่อง Always(2011)ไปเมื่อไม่นานมานี้ครับ หลังจากที่ร้างราจากการดูหนังรักเกาหลีไปหลายปี(ไม่ได้มีอคตินะครับแต่แค่รู้สึกว่าพล็อตเดิมๆ) โดยเหตุผลที่ตัดสินเลือกดูหลักๆเลยก็คือชื่นชอบนางเอกของเรื่อง ฮัน ฮโย-จู ครับ บวกกับเป็นคนชอบดูหนังที่มีตัวเอกเป็นนักมวยด้วยเพราะรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ไม่ธรรมดาและมักมีแง่มุมที่น่าสนใจเสมอสำหรับหนังเกี่ยวกับนักมวย เรื่องนี้พระเอกและนางเอกมีปมด้อยทั้งคู่ครับ พระเอกเป็นอดีตนักมวยตกอับส่วนนางเอกตาบอดอีกแต่ยังไม่บอดสนิทนะครับ พอได้รู้เนื้อเรื่องคร่าวๆแล้วเลยคิดว่าน่าสนใจดีอะไรที่ทำให้ทั้งคู่มารักกันได้และจะไปรอดกันไหม ก่อนดูผมมีความคิดว่าหนังเรื่องนี้อาจเหมือนหนังรักเกาหลีตามสูตรทั่วไปที่เราเคยเจอคือต้นเรื่องทะเลาะ กลางเรื่องรักซึ้ง ท้ายเรื่องตายจากอะไรประมาณนี้ครับเลยทำใจไว้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องความซึ้งนั้นหนังรักเกาหลีค่อนข้างพิสูจน์ให้เราเห็นอยู่บ่อยๆอยู่แล้วว่ามาตรฐานสูงมากกับการเรียกน้ำตาเรื่องRomantic Drama เนี่ยไว้ใจได้เลยครับ ไม่มีน้ำตาคือคุณไม่มีหัวใจว่างั้นเลยก็ได้ เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะทำให้ผมดำดิ่งอินไปกับความซึ้งที่ตัวหนังต้องการนำเสนอได้
ตัวหนังว่าด้วยเรื่องราวของชอลมินอดีตนักมวยตกอับผู้หันหลังให้กับอดีตและอนาคตทำอาชีพเป็นพนักงานขนน้ำในตอนกลางวันส่วนตอนกลางคืนก็มาช่วยงานลุงยามเฝ้าที่จอดรถในป้อมของอาคารสำนักงานเป็นครั้งคราว วันหนึ่งลุงที่ปกติจะทำงานที่ป้อมที่จอดรถก็ขอให้ซอลมินทำหน้าที่ต่อจากตนเป็นการถาวร ทำให้ซอลมินได้พบกับจองฮวาสาวออฟฟิตตาบอดที่ทำงานที่อาคารที่ตนมาเฝ้าที่จอดรถให้อยู่ โดยปกติจองฮวาจะเข้ามาดูละครกับลุงยามที่ป้อมเป็นประจำ(โดยการฟังเสียง)จึงทำให้ได้พบกับซอลมินโดยบังเอิญ จองฮวาขอซอลมินว่าตนอยากมาดูละครภาคค่ำทีป้อมนี้ต่อจะได้ไหมซึ่งซอลมินก็ยินยอม ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเริ่มต้นขึ้น ซอลมินผู้หันหลังให้อดีตอันดำมืดของตนได้ยอมรับการก้าวเข้ามาของจองฮวาซึ่งเป็นเหมือนแสงสว่างมากขึ้นเพราะจองฮวาเป็นคนมองโลกในแง่ดีและมนุษยสัมพันธ์ดี ความรักของเขาทั้งสองค่อยๆก่อตัวและเติมเต็มความรู้สึกถึงการมีชีวิตให้กับซอลมินอีกครั้ง ซอลมินกลับไปเป็นนักมวยอีกครั้งเพื่อให้มีเงินจะได้สามารถดูแลจงฮวาได้ แต่แล้วซอลมินก็ได้รับรู้ว่าจงฮวานั้นที่จริงแล้วตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เธอสูญเสียพ่อแม่และตาบอดแต่ไม่ได้บอดสนิทซึ่งแพทย์ผู้รักษาแนะนำให้ผ่าตัดเปลียนดวงตาเพราะยังมีโอกาสที่ตาจะกลับมามองเห็นแต่ต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกินไป ซอลมินได้ตัดสินใจเข้าที่จะหาเงินก้อนใหญ่มารักษาดวงตาของจองฮวาให้ได้แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ความรักครั้งนี้จะต้องแลกมาด้วยอะไร จะจบอย่างไหร่ อันนี้แนะนำให้ลองไปดูกันเองนะครับ
ผมค่อนข้างชอบการดำเนินเรื่องของหนังที่ไม่พยายามเร่งความสัมพันธ์ของตัวละครมากจนเกินไป ค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติเพราะcharacterของซอลมินค่อนข้างปิดตัวเป็นคนเข้าถึงยากอยู่แล้ว ทำให้ต้องใช้เวลาให้การพัฒนาความสัมพันธ์ในขณะเดียวกันหนังทำออกมาได้ดีในการค่อยๆคลายปมในอดีตของทั้งสองตัวละครโดยไม่ได้ยัดเยียดทุกอย่างเข้ามาในซีนๆเดียว แต่ค่อยปล่อยทีละฉากทีละตอนเพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆและได้รู้ความจริงที่เกิดขึ้นในที่สุด[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จริงๆค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยที่หนังไม่ได้โฟกัสไปที่การต่อสู้ด้วยหมัดมวยของพระเอกมากเท่าไหร่นักเพราะแอบคาดหวังให้มีฉากต่อยมวยเด็ดๆสักหน่อยตัวหนังกลับโฟกัสไปที่การต่อสู้ภายในจิตใจของตัวละครทั้งสองซะมากกว่า แต่ตัวหนังทำออกมาได้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่องจึงชดเชยเรื่องฉากต่อยมวยที่ขาดหายได้ครับ สำหรับผมนับว่าเป็นการcomebackของหนังรักเกาหลีได้เป็นอย่างดีเพราะผมไม่ได้ดูมานาน หนังจัดการกับการเรียงลำดับเนื้อเรื่องได้ดีมาก ข้อด้อยก็คือฉากการต่อสู้สุดท้ายนั้นฉากแอ๊คชั่นไม่ดุเดือดไม่peakมากเท่าไหร่ทั้งมุมกล้องและจังหวะต่างๆ คิดว่าน่าจะไม่ใช่งานถนัดของผู้กำกับอยู่แล้ว สิ่งที่ทำออกมาได้ดีตามคาดคือความซึ้งและการเรียกน้ำตาครับ น้ำตาลูกผู้ชายของผมมันใหลออกมาไม่หยุดจริงๆครับในตอนท้าย อีกทั้งหนังยังทำให้เราได้ลุ้นดีครับว่าสุดท้ายตอนจบจะเป็นอย่างไร
รีวิวตัวละคร
ชอลมิน (โซ จี-ซ็อบ) แสดงได้ดีมากครับโดยเฉพาะการแสดงออกทางดวงตาเพราะตัวละครจะค่อนข้างมีcharacterที่นิ่งมากอยู่แล้วฉะนั้นการแสดงออกทางสายตาเป็นสิ่งสำคัญมากครับซึ่งก็ทำออกมาได้ดี และมีหุ่นที่ดีสมกับเป็นนักมวยครับทำให้เราเชื่อได้จริงๆว่าเขาเป็นนักมวย แม้ฉากต่อยมวยจริงๆจะทำออกมาได้ไม่สุดแต่ก็ถือว่าโอเคครับเพราะหนังไม่ได้เน้นอยู่แล้ว
จองฮวา (ฮัน ฮโย-จู) แสดงได้ดีมาถึงมากที่สุดครับสำหรับการเล่นเป็นคนตาบอดเรียกได้ว่าเป็นบทที่ท้าทายพอสมควรและเธอก็ทำออกมาได้ดีมากทำให้ผมเชื่อได้จริงๆว่าเธอมองไม่เห็น ผมนี่หลงเสน่ห์ความน่ารักของเธอไปจังๆเลยครับในฉากหวานแหววส่วนในฉากที่ดราม่าก็ทำออกมาได้ดีมากครับ
ใครที่คาดหวังหนังรักนักมวยจ๋าอาจผิดหวังหน่อยนะครับ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่หนังนักมวยเจ้ายุทธภพเพื่อเป็นที่หนึ่งครับ แต่มันกลับกลายเป็นแค่การสู้เพื่อคนที่รักโดยไม่ได้คาดหวังว่าตนเองจะยิ่งใหญ่เลยสักนิด ถ้าคุณกำลังต้องการหาน้ำตามาอาบเพื่อให้คุณรู้สึกว่าหัวใจคุณยังทำงานได้ดีอยู่ละก็หนังเรื่องนี้สามารถตอบโจทย์ได้ครับอีกทั้งแสดงให้คุณเห็นด้วยว่าความรักสามารถทำให้คนเรายอมทำได้ทุกอย่างจริงๆ เรียกได้ว่าเป็น Romantic Drama ที่คู่ควรแก่การเสียเวลาครับ ลองทิ้งอคติที่มีต่อหนังรักเกาหลีดูครับแล้วเปิดใจคุณอาจจะสนุกและอินไปกับมันก็ได้
บทภาพยนต์: 8/10
ความสนุก: 8/10
การตัดต่อภาพและเสียง:7/10