พอดี ช่วงก่อนสงกรานต์ รถผม (Audi A4) พัดลมหน้าหม้อน้ำไม่ทำงานไปตัวนึง  เวลาขับๆ ไป แล้วเกิดฮีทขึ้น ทำให้ไปขับเอาน้ำยาแอร์ออกมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เกลี้ยง  จะเอาไปให้ช่างจอนห์ ออดี้ อู่เจ้าประจำดู  ก็หยุดยาวช่วงสงกรานต์พอดี

ทนร้อนไม่ไหว   ผมเลยเอารถไปเปลี่ยนพัดลมที่ร้านซ่อมแอร์แถวบรรทัดทอง (โตการช่าง)  เค้าก็เปลี่ยนให้ แล้วเติมน้ำยาแอร์ให้ใหม่ จนกลับมาเย็นเหมือนเดิม

แต่ขับไปได้ไม่ถึงเดือน   พัดลมตัวที่เอาไปเปลี่ยน  ก็หยุดทำงานอีก  เลยกลับมาเป็นเหมือนเดิม คือแอร์ไม่เย็นเลย มีแต่ลมเป่าออกมา

ผมเลยกลับไปที่ร้านแก้อาการ   จนกลับมาทำงานเหมือนเดิม  ถามว่าเกิดจากสาเหตุอะไร  ช่างบอกว่า ช่างคนก่อน (วันนี้ลา) ต่อสายไฟผิด ทำให้ไฟช็อต

แต่ปัญหาคือ  แอร์ยังไม่เย็นเหมือนเดิม  ผมถามช่างว่า เติมน้ำยาแอร์หรือยัง  ช่างบอกยังไม่ได้เติม เพราะน้ำยาแอร์ไม่ได้ขาด  แล้วผมถามว่า งั้นทำไมแอร์ไม่เย็น  เค้าก็ตอบว่าไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ผมก็ถามว่า แล้วเค้าลองเช็คน้ำยาแอร์หรือยัง  เค้าก็ตอบว่า ยังไม่ได้เช็ค  

ผมก็บอกว่า ให้ลองเช็คน้ำยาแอร์ดูก่อน

เค้าถึงเอาเครื่องวัดน้ำยาแอร์ออกมาเช็ค   แล้วก็บอกว่า น้ำยาแอร์เกลี้ยงเลย ไม่เหลือซักนิด

ผมก็บอกให้ช่างเติมน้ำยาแอร์ใหม่ เดี๋ยวผมยอมจ่ายค่าเติมน้ำยาแอร์เองก็ได้

ช่างก็บอกว่า เติมไม่ได้  ถ้าน้ำยายังเหลือซัก 5% หรือ 10% ก็ยังพอเติมได้
แต่นี่ไม่เหลือสักหยด จึงเติมไม่ได้  เพราะเติมเข้าไป  ก็รั่วออกมาใหม่  ต้องหารูรั่วก่อน
ผมก็งงว่า  แล้วทำไมครั้งแรกที่ผมเอารถมาซ่อมพัดลม ถึงเติมน้ำยาแอร์ได้ ไม่ต้องหารูรั่ว   แต่ตอนนี้กลับเติมไม่ได้

คือประเด็นกลัวจะโดนหลอกอ่ะครับ   กลัวจะต้องมาเสียซ้ำเสียซ้อน

จึงอยากถามว่า อย่างที่ช่างพูดมา ถูกหรือเปล่าครับ