ไม่ได้เอารูปมาลงค่ะ แต่คอนเฟริมอีกเสียงว่าวิวสวยมาก น้ำก็ใสมาก ตรงสะพานไม้ที่ยื่นออกไปที่ทะเล นั่งดู ยืนดูก็จะเห็นแนวปะการัง เม่นทะเล ปลาว่ายเต็มไปมา ที่นี้มีลานกางเต๊นท์ด้วย น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ แต่แดดร้อนมากเลย ควรไปตอนเย็นๆสักหน่อย ตอนเราไปตอนเที่ยงแดดร้อนจี๋เลยค่ะ

วันต่อมา ไปโดยไม่ได้ศึกษาค่ะ ตอนแรกตัดสินใจระหว่างไปทุ่งโปรงทองกับที่นี้ เพราะใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าๆจากที่พพักพอๆกัน แต่ใจอยากมาดูถ้ำมากกว่าเลยมาที่นี้ พอมาถึงคือไม่ใช่หน้าฝนจะไม่ได้นั่งเรือรอดถ้ำค่ะ คือเดินเข้าไปเลย ด้านในมีพระพุทธรูปให้กราบสักการะ และมีถ้ำหินหงอกหินย้อยให้เดินชม เมื่อเดินรอดถ้ำเขาไปก็จะไปโผล่เป็นพื้นที่ว่างกลางเขาค่ะ สงบร่มรื่นค่ะ
อุโมงค์เวลาหน้าฝน นั่งเรือลอดเข้าไปค่ะ
ถ้ำให้เดินเที่ยวชมค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าเวลาฝนตกชอบไฟดับ เดินเข้าไปก็ลึกพอสมควรค่ะ จขกท ใจถอดก่อนไม่กล้าเดินเข้าไปลึก ทางลึกๆมันจะลาดลงแคบๆ สงสัยจะกลัวที่แคบจะโดยเฉพาะในถ้ำค่ะ ประกอบกับตอนนั้นมีคนเดินนำหน้าไปประมาณสี่ห้าคนเป็นกลุ่ม ในขณะที่ จขกท กำลังถ่ายวีดีโอภาพในถ้ำไป เดินไปไม่ได้หยุดพักนาน จขกท ไปกับแฟนนะคะ เดินกันมาสองคน กลุ่มคนห้าคนเดินขึ้นนำหน้าและมีคนสองคนเดินสวนทางออกมาคุยกับคนกลุ่มนั้นว่า เข้าไปดูด้านในสิมีหินย้อยที่มีเสียงด้วย ตอนนั้นคือเราอยากไปดู จะต้องไปแน่ๆ เราก็ถ่ายหมุนรอบถ้ำแล้วเดินต่อ ถ้ำเริ่มแคบและต้องเดินไต่หินลงไป มีทางลอดตัวเล็กๆให้ไปต่อ ตรงจุดนั้น จขกท บอกแฟนว่ากลับเถอะ คนข้างหน้าเราสี่ห้าคนเขาไปไหนกันหมดแล้วเงียบมากเลย ก็เลยได้เดินออกมาแบบกลัวค่ะ พอออกมาปุปจากฟ้าสว่างตอนเข้ามาคือฟ้ามืดฝนจะตก เจ้าหน้าที่ตะโกนเรียกอยู่ตรงลานกว้างว่าเชิญออกทางนี้ครับที่นี้เวลาฝนตกไปดับบ่อย เราก็เรียบออก ไหว้ลาพระพุทธรูปแล้วรีบขึ้นรถกลับเลยค่ะ (ที่เล่ามาคือไม่คิดว่ามีอะไรค่ะ คงจะกลัวไปเอง แต่แค่สงสัยว่าคนห้าคนก่อนหน้าเดินไปไหนไวจัง ทางเดินก็ลำบาก เสียงเงียบหรือเพราะเป็นถ้ำ อาจจะเหมือนมีหินกั้นอยู่ก็คนละโซน เลยไม่ได้ยินเสียง ถ้ำหินงอกหินย้อยสวยมากนะคะ ใครที่ชอบแนวนี้ก็ไม่ควรพลาดค่ะ)