เราอยากให้กระทู้นี้เป็นข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจไปเที่ยวจอร์แดน รูปอาจไม่ได้สวยอลังการ แต่เนื้อหาการเตรียมตัวไปเที่ยวเอง เราจัดมาเต็มแน่นอนค่ะ เพราะเราอยากให้คุณได้ไปสัมผัส และถ่ายมันมาด้วยตัวของคุณเอง เราเจออะไรมา ก็อยากมาแชร์ประสบการณ์ ไม่อยากให้เสียเงินกับอะไรที่ไม่จำเป็น ไปเที่ยวให้สนุก และกลับมาอย่างประทับใจ แต่ถ้าอยากได้ความรู้ประวัติศาสตร์ เราไม่ถนัดจริงๆ ขอบาย 555+

ทำไมต้องจอร์แดน
Jordan มี ภูมิประเทศที่ไล่จากสีเขียวไปจนสีแดง (นี่เพิ่งรู้ตอนอยู่ที่โน่น)
Jordan มี Petra 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
Jordan มี Dead Sea ทะเลสาบน้ำเค็มและเป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก (อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล)
Jordan มี หุบเขาจันทราที่เหมือนกับดาวอังคาร แปลกมะ?




ช่วงไหนที่ควรเที่ยว
มีนาคม อากาศถือว่าเย็นสบาย ต้องใส่เสื้อหนาว jacket ทั้งวัน อุณหภูมิประมาณ 10 กว่าๆ พระอาทิตย์จะตกดิน 18.00-18.30
เมษายน อากาศถือว่าเย็นสบาย เช้าเย็นต้องมี jacket กลางวันถ้าโดนแดด ร้อนนนน!!! ใส่เสื้อยืดได้เลย พระอาทิตย์จะตกดิน 19.00-19.30
พฤษภาคม-กันยายน อากาศร้อนตามๆ ประเทศไทยมาเลย ใครเคยไปประเทศแถบนั้นในหน้าร้อนเค้า จะรู้ว่าร้อนได้ขนาดไหน กันยายนอาจมีฝนตกด้วย
ตุลาคม อากาศเหมือนเมษายน พระอาทิตย์จะตกดิน 18.00-18.30
พฤศจิกายน อากาศเหมือนมีนาคม พระอาทิตย์จะตกดิน 17.00-17.30
ธันวาคม-กุมภาพันธ์ เป็นฤดูหนาว พระอาทิตย์ตกเร็ว ถ้าคนไม่เคยค้างคืนกลางทะเลทราย จะหนาวไป ต้องเตรียมตัวดีๆ สำหรับใครลุยทะเลทรายอยู่แล้ว ก็น่าจะรู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง
คำแนะนำ ถ้าชอบอากาศเย็น แนะนำ มีนาคมและพฤศจิกายน แต่ถ้าอยากจะเที่ยว Wadi mujib จะเปิดตั้งแต่ 1 เมษายน-31 ตุลาคม ซึ่งเมษายนและตุลาคม เพราะว่าสถานที่ท่องเที่ยวจะเปิดประมาณ 8.00 และปิดประมาณพระอาทิตย์ตก ซึ่งเที่ยวได้ยาวกว่านั่นเอง และยังติดวันหยุดเยอะกว่า คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า



ตั๋วเครื่องบิน
ถ้ามีงบเยอะ หรือมีวันลาน้อย
     - แนะนำบินตรง Royal Jordanian เป็นสายการบินเดียวที่ไม่เสียเวลาบิน ให้เช็คโปรโมชั่นทุกวันศุกร์ช่วงประมาณ 10 โมงเป็นต้นไป เคยเห็นไปกลับ 23k แต่ไม่ได้มีโปรโมชั่นทุกวัน อาจจะไม่ได้ไปในวันที่ที่ต้องการ ราคาปกติเกือบ 32k (แพงกว่านี้คือแพง)
ถ้ามีงบน้อย วันลาเหลือๆ หรือไม่อยากนั่งยาวๆ 9 ชม. ซึ่งจะเสียวันบินไป 1-2 วัน
     - ถ้าบินไปกลับ Jordan เลย แนะนำ Kuwait Airways และ Gulf Air จะชอบมีโปรโมชั่นมาตลอด และราคามีตั้งแต่ 17-21k (แพงกว่านี้คือแพง)
     - ถ้าบินไปกลับคนละที่ เช่นลง Egypt กลับ Jordan ลง Jordan กลับ Israel แนะนำ Gulf Air และรอโปรโมชั่นวันพุธตอนบ่ายๆ จะลด 20% ซื้อขาเดียว 10-12k
     - ถ้าสายการบินอื่นๆ เช่น Oman Air, Qatar airways ไปกลับจะค่อนข้างแพงกว่านี้ 20k+

วีซ่า
สำหรับคนไทย สามารถขอ Visa on arrival ได้ แต่เราจะแนะนำให้ ซื้อ Jordan Pass คุ้มค่าที่สุด สามารถซื้อและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.jordanpass.jo/Default.aspx มี 3 ราคา คือ สามารถเข้า Petra 1,2,3 วัน 70,75,80 JD ตามลำดับ อยู่ที่ว่าอยากอยู่ Petra กี่วัน และสามารถเพิ่ม Bethany Beyond the Jordan ในราคา 8 JD จาก 12 JD ได้
เงื่อนไขคร่าวๆ
    1. Waived ค่า Single visa เมื่ออยู่ Jordan อย่างน้อย 3 คืนติดกัน ถ้าไม่ถึงจะต้องจ่ายค่า visa 40 JD
    2. ต้องซื้อก่อนเข้าประเทศจอร์แดน ให้พิมพ์เป็นกระดาษติดตัวไว้ตลอด ใช้ตั้งแต่ลงเครื่อง เมื่อซื้อแล้ว จะต้องใช้ภายใน 1 ปี ถ้าเกิดใช้ครั้งแรก (สถานที่เที่ยวแรก) จะหมดอายุภายใน 2 อาทิตย์
    3. สามารถใช้เข้าสถานที่ได้สถานที่ละ 1 ครั้ง-ครอบคลุมค่าเข้ากว่า 40 สถานที่
    4. ขาออกนอกประเทศจอร์แดน มีรีวิวว่าต้องเสีย 10 JD สำหรับ Exit fee แต่คนขับรถบอกว่ารวมอยู่ใน Jordan Pass และเราก็ไม่ต้องจ่าย

วิธีการเที่ยวในจอร์แดน

สำหรับเส้นทางการเที่ยว โดยส่วนใหญ่จะวนเป็นวงกลม ไม่เที่ยวจากด้านบน ก็เที่ยวจากด้านล่างขึ้นมา
เช่น Amman-Petra-Wadi rum-Aqaba-Amman-Jerash-Dead sea-Amman
Amman-Jerash-Dead sea-Petra-Wadi rum-Aqaba-Amman

แพลนการเที่ยวของเราในจอร์แดน ตั้งแต่วันที่ 4-11 เมษายน 2018
เราเลือกเที่ยวจากด้านบนลงล่าง เพื่อไปข้ามแดนต่อไปที่อิสราเอล ตามด้านล่างค่ะ
วันที่ 1  11.50-20.30 BKK-AMM
วันที่ 2   North Jordan - Um Quais, Ajlun, Jerash
วันที่ 3   Amman - Roman Theater, Citadel
        Madaba - St George Church, Mt Nebo
        Bethany Beyond the Jordan
        Dead sea
วันที่ 4   Wadi mujib
        ผ่าน Snake path
        ผ่าน King Highway
        Dana Biosphere Reserve view point
        Shorak Castle
        Petra
วันที่ 5   Petra
วันที่ 6   Petra
วันที่ 7   Petra
        Wadi rum
วันที่ 8   ข้าม border ไปอิสราเอล

ค่าเดินทางถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักของทริปเลย ควรคิดให้ดี สำหรับเรา เราเลือกเหมารถพร้อมคนขับ (Taxi) แต่ติดต่อไปก่อนตั้งแต่ไทย และมีไปติดต่อผ่านรรที่โน่น แต่ก็มีอีกหลายวิธี
ขับรถเที่ยวเอง
     - มีคนขับรถเที่ยวเยอะ ทางเกือบทั้งหมดเป็นภูเขา และขับคนละด้านกับเรา แต่สามารถขับเที่ยวเองได้ เช่น Dead sea, Wadi mujib, Petra, Wadi rum, Aqaba เพราะอยู่บนถนนเส้นหลัก ไม่น่าจะหลง แต่จะหลงก็เพราะหาที่พักไม่เจอมากกว่า อาจเจอด่านตรวจเล็กน้อย
     - ถ้าจะไปเที่ยว North Jordan - Um Quais, Ajlun, Jerash ไม่แนะนำ เพราะว่าถ้าเราไป Um Quais จะหาทางยากหน่อย ต้องตัดผ่านหมู่บ้าน
     - ค่าเช่ารถ 60-80 usd/วัน (ราคาขึ้นอยู่กับการซื้อประกันด้วย) ค่าน้ำมัน 0.78 JD/litre (เมษายน 2018)
เหมารถเที่ยวเอง
     - ก็สะดวกเหมือนกัน เราสามารถบอกได้ว่าจะไปไหน และเค้าจะแนะนำได้ว่า ควรไปไหนก่อน ที่ไหนจะใช้เวลากี่ชั่วโมง สถานที่เปิดปิดกี่โมง และที่สำคัญ ไม่หลงทาง
     - ส่วนใหญ่ค่าเช่าจะคิดตามระยะทาง เช่น  North Jordan - Um Quais, Ajlun, Jerash 40-60 JD, Amman-Dead Sea 30 JD, Amman-Petra 75 JD, Amman-Wadi rum 90 JD ถ้าดูแพงให้ต่อไว้ก่อนค่ะ โดนด่าก็แสดงว่าราคานั้นอาจเป็น ราคาที่เค้ารับได้ ถูกกว่านั้นไม่ได้แล้ว
     - Taxi โบกแล้วคุยกับเค้า เหมาได้เลย หรือไม่ก็ติดต่อผ่านพวก hostel จะได้แชร์ค่า Taxi กัน เพราะถ้าเหมา ยังไงก็ต้องจ่ายเป็นคัน ไปกันหลายคน หารแล้วถูกกว่า
ติดต่อ Local Agency Tours
     - เป็นระบบ สะดวกสุด ติดต่อกันได้ตั้งแต่ไทย ปรับเปลี่ยนแพลนได้ตามใจ ให้คำแนะนำได้ดีเหมือนกัน แต่ราคาก็จะแพงกว่าการเหมาผ่านคนขับตรงๆ
รถสาธารณะ
     - โดยส่วนตัวคิดว่าค่อนข้างลำบาก ไม่แนะนำให้ใช้ทั้งทริป บางวันเราต้องไป 3-4 ที่ ถ้านั่งบัสจะไม่มีที่ฝากกระเป๋า เสียเวลา และบัสจะมีในเส้นทางสำคัญๆ และบางเวลาเท่านั้น เช่น
        ○ Amman-Petra 6.30, Petra-Amman 16.00     10 JD ใช้เวลาประมาณ ~4 ชม.
        ○ Amman-Dead sea
        ○ Amman-King's Border
        ○ Petra-Wadi rum 6.30, Wadi rum-Petra 8.00   7 JD ใช้เวลาประมาณ~2 ชม.

มาเข้าเรื่องเราจริงๆ ละ เราจะพาทุกคนตามเราไปเที่ยวกัน มันเป็น 8 วัน ที่ไม่รู้สึกว่ามีวันไหนรู้สึกเหมือนเดิม เพราะทุกๆ วัน เราได้เจออะไรที่ไม่เคยเจอ ที่จะเจอซ้ำมากสุดใน 8 วันนี้ ก็มีอยู่อย่างเดียว…มาม่า