เริ่มกันเลยค่ะ
.
.
.

วันแรก
พวกเราตัดสินใจเดินทางกันโดยรถทัวร์ค่ะ อยากซึมซับบรรยกาศกันด้วย ไม่ได้เร่งรีบกันเท่าไหร่ จากกรุงเทพ - นคนศรีธรรมราช
ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง
เราออกเดินทางกันประมาณ 2 ทุ่ม ถึงนครก็ประมาณ 8 โมงเช้าพอดี
ไปค่ะ ออกเดินทางกัน
ตามเวลาที่คาดไว้เป๊ะ ๆ รถทัวร์มาส่งเราลงที่ บขส. อำเภอเมืองเลยค่ะ
ล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวไปกันต่อ
แพลนหลักๆ วันนี้ของเราคือ เดินเที่ยวกันในตัวเมืองนครก่อน แล้วค่อยไปเดินทางไปอำเภอขนอมกันช่วงบ่ายๆ ค่ะ
เช้านี้แรกตอนว่าจะฝากท้องกันที่ร้านติ่มซัมเจ้าดังประจำจังหวัด
แต่....... ดันปิดวันนี้พอดี!!!!!
โอเคไม่เป็นไรค่ะ เรายังอยู่ที่นี่อีกตั้งหลายมื้อ เดินๆ ไปเจออะไรก็จอดเลยแล้วกัน
สรุปคือมาหยุดที่ร้านข้าวแกงข้าวทางนี่แหละ หิวแล้วไม่เลือกมาก
อาหารที่นี่รสชาติจัดจ้านแบบคนใต้จริงๆ
บรรยกาศภายในอำเภอเมืองช่วงเช้าค่ะ ไม่วุ่นวายเท่าไหร่ รถไม่เยอะ แดดก็ไม่แรงมาก เดินเล่นได้สบายๆ

อิ่มกันแล้ว เรากำลังจะไปไหว้พระกันต่อที่วัด “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ค่ะ
ช่วงสาระมีอยู่จริง : วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็น มิ่งขวัญชาวเมือง นครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศานิกชน  ทั้งหลาย สัญลักษณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่รู้จัก กันแพร่หลายก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์  ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เนื่องจากเป็นที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศ จดทะเบียนวัดพระมหาธาตุเป็นโบราณสถาน นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้
(ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.paiduaykan.com/76_province/south/nakhonsithammarat/watpratad.html)

หลังจากไหว้พระกันเสร็จแล้ว เราจะไปต่อกันที่ “พิพิธภัณฑ์หนังตะลุงสุชาติ”
เป็นพิพิธภัณฑ์หนังตะลุงแห่งแรกของไทยที่เป็นแหล่งเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นที่สำคัญของประเทศ
ภายในพิพิธภัณฑ์มีโวนจัดแสดงพิพิธภัณฑ์หนังตะลุง การจัดแสดงหนังตะลุง บ้านศิลปินแห่งชาติ
บรรยากาศร่มรื่น อาคารบ้านไม้เก่าๆ แบบไทยแท้ มีของที่ระลึกขาย มีท่านวิทยากรมาให้ความรู้ คอยตอบคำถาม พาเดินชมภายในอย่างใกล้ชิด
และได้สาธิตวิธีการทำหนังตะลุงให้ดูด้วย เด็กกรุงเทพอย่างเราๆ คงหาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว แนะนำให้ทุกคนที่มาเที่ยวนครแวะมาชมมรดกแห่งชาติที่นี่กันนะคะ
.
.
.
ตกบ่ายแล้ว ได้เวลาเดินทางไปขนอมแล้วค่ะ
พวกเราเดินทางกันโดยรถส่วนตัวของที่พัก ที่ Vish Hotel and Cafe ค่ะ
สามารถดูรายละเอียดการจองที่พักเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/vishhotels/
หรือติดต่อโดยตรงได้ที่เบอร์ 097 358 2777 ค่ะ

ขนอม เป็นอำเภอเล็กที่สุดและอยู่เหนือสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราชค่ะ
ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองนครศรีธรรมราชประมาณ 100 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 60 กิโลเมตร
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ จากตัวเมือง เป็นเมืองที่มีชายทะเลยาว 32 กิโลเมตร มีอ่าวน้อยใหญ่จำนวน 16 อ่าว
เป็นอำเภอหนึ่งที่มีทรัพยากรท่องเที่ยวมากมายที่โดดเด่น ตั้งแต่หาดทรายชายทะเลที่ล้อมรอบด้วยป่าเขาสูงบนคาบสมุทร
ทิวทัศน์สวยงามอบอวลไปด้วยเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน ให้เราได้เห็นกันอยู่ทั่วพื้นที่

หลังจากที่ได้เข้าที่พักกันก็เกือบเย็นแล้ว
พวกเราตัดสินใจมาเดินเล่นกันที่ชายหาดที่ไม่ไกลจากตัวที่พัก สามารถเดินถึงกันได้
ทะเลที่นี่สงบมากค่ะ ไม่มีใครเลยจริงๆ นักท่องเที่ยวบางตา มีแต่คนในพื้นที่ ชาวประมง เท่านั้นเลยจริงๆ
โรงแรม รีสอร์ทต่างๆ ตึกรางไม่ค่อยมีเลย น้อยมาก มองไปทางไหนจะแต่ภูเขา ทะเล และต้นมะพร้าวค่ะ
พระอาทิตย์หกโมงเย็น วันแรกที่ขนอมค่ะ สวยงามมากจริงๆ สงบเงียบ มีแค่พวกเรา นั่งรับลมเย็นจนค่ำ แล้วกลับที่พักกันค่ะ
ดาดฟ้าของที่พักเวลาประมาณสามทุ่ม ดาวเยอะมากกกกกกกกกกก อยู่กรุงเทพไม่เคยเห็นดาวเยอะขนาดนี้มาก่อน
เต็มฟ้าไปหมด คงเป็นเพราะที่นี่สงบ และมืด ไม่มีแสงในเมืองรบกวน ทำให้เห็นดาวทั้งท้องฟ้าได้ชัดขนาดนี้

หมดไปแล้วค่ะวันแรก เข้านอนเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อ




วันที่ 2
เช้าวันที่ 2 ฝากท้องด้วยอาหารจากที่พัก
แพลนหลักๆ วันนี้คือเราจะไปตามล่าหาปลาโลมาสีชมพูกันค่ะ ช่วงบ่ายไปต่อกันที่ถ้ำเขาวังทอง
เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า โก โก โก!

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับปลาโลมาสีชมพูกันซักหน่อย
ลักษณะเด่นของโลมาชนิดนี้คือ การมีสีเฉพาะตัว ในตอนเกิดมีสีเทาเหมือนโลมาทั่วไป แต่เมื่ออายุมากเม็ดเลือดกระจายมาชิดผิวหนังมากขึ้น
จึงทำให้เห็นเป็นสีชมพูค่ะ

ทั้งนี้ โลมาสีชมพู หรือ ปลาโลมาเผือกหลังโหนก มีรูปร่างยาว ปากผอมยาว ยิ่งอายุมากปากจะจางลงเรื่อย ๆ โคนครีบหลังเป็นฐานกว้างโค้งลงด้านหลัง บางครั้งอาจมีฐานครีบกว้างถึงหนึ่งในสามของความยาวลำตัว มีอายุประมาณ 40-50 ปี ชอบอาศัยตามชายฝั่งปากแม่น้ำตลอดอ่าวขนอม แหล่งที่อยู่ประจำคือ บริเวณอ่าวเตล็ด และบ้านแหลมประทับ สามารถนั่งเรือเที่ยวชมระหว่างเดือนมีนาคม-ตุลาคม โดยขึ้นเรือได้จากอ่าวแขวงเภา และบ้านแหลมประทับ อีกทั้งยังคุ้นเคยและสนิทกับคน โดยเมื่อได้ยินเสียงเรือหางยาว จะว่ายน้ำเข้ามาหาทันที
( ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sator4u.com/paper/1880 )

เรามาถึงแหลมประทับกันในเวลาไม่นาน ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
แค่เห็นวิวก็ตื่นเต้นแล้วค่า
(ภาพมุมสูงต่อไปนี้เราใช้โดรนในการถ่ายค่ะ)


ก่อนอื่นเลยค่ะ ความประทับใจแรกเลย คือ ทะเลที่นี่สวยมากกกกกกกกกกกก สะอาดมากกกกกกกกก สงบมากกกกกกกกกก
มีแค่ท่าเรือเล็กๆ ไม่วุ่นวาย นักท่องเที่ยวประปราย อาจเพราะเป็นวันธรรมดาด้วย แต่ที่นี่เงียบสงบมากจริงๆ ค่ะ
ธรรมชาติก็สวย นี่ขนาดเพิ่งลงเรือ ยังไม่ทันเจอปลาโลมาก็ประทับใจขนาดนี้เเล้ว
ไปค่ะ ไปตามหาปลาโลมากัน!!
เรือค่อยๆ เคลื่อนออกจากปากอ่าวออกมาเรื่อยๆ ตื่นเต้นกันทุกคนค่ะ วิวสองข้างทางคือสวยมาก
มีเรื่องให้ตกใจนิดหน่อยตอนนั่งเรือออกไปได้ซักพัก ปลากระโดดเข้าเรือค่ะ!! โอ้โห!!!! เป็นปลาตัวเล็กๆ เชื่อแล้วว่าอุดมณ์สมบูรณ์จริงๆ
มีที่ไหนเนี่ย ปลากระโดดเข้าหาเรือเองเลย ตกใจค่ะ
เอ้าพวกเรา โบกมือให้กล้องหน่อย ~

เรานั่งเรือชมวิวออกมากันได้เกือบๆ ชั่วโมง
เริ่มเกิดคำถามกัน จะเจอแน่ๆ ใช่มั้ยเนี่ย เราจะเจอปลาโลมาจริงๆ ใช่มั้ย เริ่มกังวล เพื่อนๆ ก็ตื่นเต้น เลยถามลุงคนขับเรือ
คอนเฟิร์มกลับมาว่าเจอแน่นอน โอเค เราคงใจร้อนไปหน่อย... อดใจรออีกนิด

ในขณะที่มีเรือลำอื่นที่มีนักท่องเที่ยววิ่งสวนกลับมา เป็นเรือนักท่องเที่ยวที่มาชมปลาโลมาก่อนหน้าเรากำลังเดินทางกลับ
ลุงคนขับเรือให้สัญญาณกัน ทำท่า ชี้ๆ ไปทางนั้นๆๆ อยู่ทางนั้น
ไอเราก็เริ่มอยู่ไม่สุข หันซ้ายหันขวา ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว

และในที่สุด!!!
.
.
.
เหนโหลลลลลลลลลลลลลลลลลลลทุกคน
บทจะเจอก็เจอถี่เลยค่ะ  เห็นจากในเรือคือตัวใหญ่ม๊ากกกกกกก โผล่ขึ้นมาพ่นน้ำ ว่ายไปว่ายมา
โฉบมาใกล้ๆ เรือด้วย T___________T
ตื่นเต้นกันทั้งลำค่ะ เสียงดังตะโกนเรียกปลาโลมากันใหญ่  ใกล้ชิดมาก เอ็กซ์คูลซิฟสุดๆ
มิชชั่นสำหรับทริปนี้คอมพลีทแล้วค่ะ กลับบ้านได้ (ล้อเล่น)

คุณลุงพาวนเรือดูอยู่ซักพัก ได้เห็นปลาโลมากันจนเต็มที่แล้ว เราก็วนเรือกลับกันค่ะ
ทางขากลับคุณลุงพาแวะเกาะเล็กๆ ที่เพิ่งผ่านมา มีหอยนางรมที่เกิดเองตามธรรมชาติด้วย แวะชมสักหน่อย
ขากลับถึงจะนานเป็นชั่วโมง ในการนั่งเรือไม่ได้ทำให้เบื่อเลยค่ะ วิวสองข้างสวยงามมากจริงๆ
ถ่ายออกมากี่รูปๆ ก็สวย ลมเย็นๆ น้ำทะเลสวยๆ แบบนี้ เกินจะบรรยายค่ะ

กลับมาถึงท่าเรือ
คนที่ท่าเรือแนะนำให้ไปแวะชม เจดีย์ปะการัง ที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วย ไปค่ะ..
เจดีย์ปะการัง เป็นโบราณสถานเก่าแก่ของเมืองขนอม เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 1000 ปี ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาธาตุ ในวัดจันทน์ธาตุทาราม