ปกติแล้ว JR Pass จะหมายถึง Pass ใหญ่ที่ใช้ได้ทั่วประเทศครับ มาจาก Japan Rail Pass ถ้าเป็นตัวอื่นๆ ก็จะเรียกเป็นชื่อ Pass ไป เช่น JR East - South Hokkaido Pass หรือ Hokuriku Arch Pass เป็นต้น

ส่วนเรื่องจะใช้ตัวไหนมันก็ต้องทำแพลนออกมาก่อนอะครับ เอางี้ จากลิสต์ความต้องการคร่าวๆ ของคุณ ผมลองจัดตามนี้ดู

Day 01

ลงจากเครื่องแล้ว เอากระเป๋าไปฝากแถวๆ Ueno หรือจะใช้บริการส่งกระเป๋าไปก็ได้ แล้วไปเที่ยว Kamakura ก่อน ใช้ Tokyo Wide Pass ไปครับ เที่ยว Kamakura เสร็จแล้วขึ้นมา Yokohama เที่ยวจนถึงบ่ายๆ เย็นๆ กลับมาเดินช้อปปิ้ง Odaiba (ขึ้น Keihin-Tohoku Line จาก Yokohama มาลง Oimachi ต่อ TWR Rinkai Line ไปได้ เพราะ Tokyo Wide Pass เป็น Pass เดียวของ JR ที่ใช้ TWR Rinkai Line ได้) ขากลับโรงแรมก็ขึ้น Rinkai Line มาลง Oimachi ต่อ Keihin-Tohoku Line กลับ Ueno

Day 02 ไป Nikko ใช้ Tokyo Wide Pass ไปนั่นแหละครับ ใช้ได้ถึง Nikko เหมือนกัน ตอนเย็นถ้าเวลาเหลือ กลับมาเดินเล่นแถวๆ Shinjuku ก็ได้

Day 03 อาจจะไป Hakone ซึ่งจริงๆ แล้ว ออกจาก Tokyo ไป Hakone มันไปทิศทางเดียวกับ Yokohama / Kamakura แต่ไปไกลกว่า เกือบๆ ถึง Atami ซึ่งจะเป็นสถานีที่สุดเขตการใช้ Tokyo Wide Pass นั่งรถไฟค่อนข้างนาน แถมคุณใช้ได้แค่รถไฟธรรมดา (Ltd. Exp Odoriko) ขึ้น Tokaido Shinkansen เพื่อมาลง Odawara ไม่ได้อีก เลยอยากให้ย้ายแพลนที่ไป Hakone มาไว้วันนี้มากกว่า ก็เอาเวลาไปเที่ยว Hakone นั่นแหละครับ ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ถ้าเวลาเหลือ ก็กลับมาเดินเล่นช้อปปิ้งในเมือง ไม่ว่าจะเป็น Shibuya, Ueno, Shinjuku ก็ได้

ซึ่ง 3 วันแรก ถ้าคุณใช้ Tokyo Wide Pass ราคา 10,000 เยน ก็คุ้มละครับ

Day 04 - Day 05 เปิด Subway Pass แบบ 48 ชั่วโมง เพื่อใช้ในวันที่ 4 และวันที่ 5 เพื่อเก็บสถานที่ท่องเที่ยวในเมือง เช่น ตลาดปลาสึกิจิ, Tokyo Skytree, วัด Senso-ji (Asakusa), ศาลเจ้า Meiji-Jingu, เดินเล่น Shibuya - Harajuku - Shinjuku นั่นแหละครับ

ถ้าลองแพลนตามนี้ IC Card คุณแทบจะไม่ต้องซื้อเลยทีเดียว ซื้อแต่ Tokyo Wide Pass กับ Subway Pass แบบ 72 ชั่วโมงเท่านั้น