รบกวนขอความคิดหน่อยค่ะ ทำอย่างไรดี
ขออนุญาตเกริ่นนำนะคะ
แม่สามีจริงๆเป็นคนจิตใจดีค่ะ เป็นคนมีน้ำใจมาก เพียงปากไว พูดไม่คิด ชอบโวยวาย จู้จี้จุกจิก
พี่เลี้ยงลูกเลี้ยงลูกมาตั้งแต่ลูก 6 เดือน ตอนนี้ลูก 2 ขวบกว่าแล้ว
พี่เลี้ยงก็เป็นคนจิตใจดี ใจเย็นมากก ไม่ได้เป็นคนขยันอะไร ทำงานไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่เรามอง
เห็นแค่ว่า เขาเลี้ยงลูกดี แค่นี้ก็อุ่นใจแล้ว
(ลูกเป็นเด็กกินยากมากกกกกกค่ะ พี่เลี้ยงไม่เคยโมโห พยายามหลอกล่อ ด้วยวิธีน่ารักๆจนลูกกินข้าวได้ตลอดๆค่ะ)
ปัญหาหลัก เรามองว่า เพราะเค้า 2 คนอยู่ด้วยกันตลอดเวลาๆๆๆๆ มันก็เลยมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ่อยๆน่ะค่ะ
จนตอนนี้แม่สามี ลึกๆในใจ อคติ และหมั่นไส้พี่เลี้ยงค่อนข้างมากกก เพราะเราและสามี ดูแลพี่เลี้ยงดีมากระดับนึงเลย
ด้วยความที่แม่สามีจู้จี้จุกจิกมาก ทุกๆการกระทำต่อหลาน แม่สามีจะคอมเม้นพี่เลี้ยงเสมอๆ ทุกเม็ดดด
เช่น เรียกให้เปลี่ยนแพมเพิส ทั้งๆที่เพิ่งเปลี่ยนไปได้เพียง 2-3 ชม.
เรียกให้เอาหลานนอน เรียกให้ปลุกหลานตื่น ซึ่งบางครั้ง ยังไม่ใช่เวลาที่สมควร
พี่เลี้ยงหยิบเสื้อมาให้หลานใส่ ก็คอมเม้น ตัวนี้ไม่ดีเลย ใส่แล้วร้อน นั่นนุ่นนี่ (คอมเม้นไปต่างๆนานา ในแทบทุกวัน)
พี่เลี้ยงป้อนข้าวหลาน หลานร้องไห้ ไม่ยอมกิน แม่สามี จะคอยยืนชี้นิ้ว บอกให้ทำอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ
เอาอันนี้ให้กินทำไม ทำไมไม่ให้กินอันนี้
ส่วนพี่เลี้ยง ยอมทำตามทุกอย่าง ที่แม่สามีสั่ง แต่สุดท้ายก็บ่นให้เราฟังว่า
หนูเอาใจไม่ถูกจริงๆ เพราะเอาใจไปเท่าไหร่ ก็ไม่เคยถูกใจซักที
ล่าสุดพี่เลี้ยงเล่าให้ฟังว่าแม่สามีบ่นเรื่อง ค่าน้ำ (ที่บ้านสั่งน้ำดื่มเป็นแกลลอน ก่อนหน้าที่จะมีลูกและพี่เลี้ยง ใช้อาทิตย์ละ 3 แกลลอน
แต่ทุกวันนี้อาทิตย์ละ 4 แกลลอน
แม่สามีบ่นเปรยๆ เวลาจ่ายคูปองน้ำทุกครั้ง ว่าเดี๋ยวนี้ต้องมาจ่ายค่าน้ำเพิ่มขึ้นตั้งเยอะ แพงจริงๆ
และเคยถามพี่เลี้ยงว่า ทำไมต้องมาขนน้ำที่นี่กลับไปที่ห้อง ทำไมไม่ไปซื้อเป็นขวดๆกิน (เช่าอพาร์ตเมนต์ให้พี่เลี้ยงอยู่ตรงข้ามหมู่บ้านค่ะ
8 โมงมาทำงาน 2 ทุ่มกลับทุกวันค่ะ)
คำเปรย และคำถามพวกนี้ นัยยะของมันก็คือ ไม่ต้องการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มกับพี่เลี้ยง อยากให้พี่เลี้ยงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
เพิ่งมาสังเกตหลังๆว่าพี่เลี้ยงไม่เอาน้ำกลับไปกินที่ห้องแล้ว เลยถาม นางบอกว่า นางกดตู้ที่ใต้อพาร์ตเมนต์เอาเอง สะดวกดีค่ะ
พี่เลี้ยงเป็นคนทานเก่ง ทานจุ แม่สามีก็จะบ่นๆประจำ ว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ
พอเราและสามี ซื้อกับข้าวมาตุนให้นางไว้เยอะๆ แม่สามีก็ดูจะหมั่นไส้เอามากๆ
ทุกอย่างคือเรื่องจุกจิกๆๆๆๆๆๆ หงุมหงิมๆๆๆๆ และมีเรื่องมากกว่านี้อีกล้านแปด กลุ้มใจมากเลยค่ะ ลูกก็รักพี่เลี้ยงคนนี้มากค่ะ เราเองก็รักค่ะ พี่เลี้ยงดีๆ ไม่ได้หาได้ง่ายๆ
ถ้ากลับกันนะคะ เราปฏิบัติตัวกับพี่เลี้ยงไม่ดี ใจร้าย เอารัดเอาเปรียบ ดุด่าพี่เลี้ยง ให้แม่สามีเห็น รับรองแม่สามีจะกลับตาลปัตร สงสาร และปกป้องนางแน่ๆค่ะ แต่จะให้เราปฏิบัติตัวไม่ดีกับเค้า เพื่อแสดงละครให้แม่สามีมาสงสาร ชีวิตจริงมันก็ไม่ใช่ละครอ่ะค่ะ เห้อ กลุ้มใจมากค่ะ
กลัวอีกไม่นาน เขาจะลาออก เราควรทำอย่างไรดีคะ
แม่สามี กับพี่เลี้ยงของลูกมีปัญหากัน ทำอย่างไรดีคะ
ขออนุญาตเกริ่นนำนะคะ
แม่สามีจริงๆเป็นคนจิตใจดีค่ะ เป็นคนมีน้ำใจมาก เพียงปากไว พูดไม่คิด ชอบโวยวาย จู้จี้จุกจิก
พี่เลี้ยงลูกเลี้ยงลูกมาตั้งแต่ลูก 6 เดือน ตอนนี้ลูก 2 ขวบกว่าแล้ว
พี่เลี้ยงก็เป็นคนจิตใจดี ใจเย็นมากก ไม่ได้เป็นคนขยันอะไร ทำงานไม่ละเอียดเท่าไหร่ แต่เรามอง
เห็นแค่ว่า เขาเลี้ยงลูกดี แค่นี้ก็อุ่นใจแล้ว
(ลูกเป็นเด็กกินยากมากกกกกกค่ะ พี่เลี้ยงไม่เคยโมโห พยายามหลอกล่อ ด้วยวิธีน่ารักๆจนลูกกินข้าวได้ตลอดๆค่ะ)
ปัญหาหลัก เรามองว่า เพราะเค้า 2 คนอยู่ด้วยกันตลอดเวลาๆๆๆๆ มันก็เลยมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ่อยๆน่ะค่ะ
จนตอนนี้แม่สามี ลึกๆในใจ อคติ และหมั่นไส้พี่เลี้ยงค่อนข้างมากกก เพราะเราและสามี ดูแลพี่เลี้ยงดีมากระดับนึงเลย
ด้วยความที่แม่สามีจู้จี้จุกจิกมาก ทุกๆการกระทำต่อหลาน แม่สามีจะคอมเม้นพี่เลี้ยงเสมอๆ ทุกเม็ดดด
เช่น เรียกให้เปลี่ยนแพมเพิส ทั้งๆที่เพิ่งเปลี่ยนไปได้เพียง 2-3 ชม.
เรียกให้เอาหลานนอน เรียกให้ปลุกหลานตื่น ซึ่งบางครั้ง ยังไม่ใช่เวลาที่สมควร
พี่เลี้ยงหยิบเสื้อมาให้หลานใส่ ก็คอมเม้น ตัวนี้ไม่ดีเลย ใส่แล้วร้อน นั่นนุ่นนี่ (คอมเม้นไปต่างๆนานา ในแทบทุกวัน)
พี่เลี้ยงป้อนข้าวหลาน หลานร้องไห้ ไม่ยอมกิน แม่สามี จะคอยยืนชี้นิ้ว บอกให้ทำอย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ
เอาอันนี้ให้กินทำไม ทำไมไม่ให้กินอันนี้
ส่วนพี่เลี้ยง ยอมทำตามทุกอย่าง ที่แม่สามีสั่ง แต่สุดท้ายก็บ่นให้เราฟังว่า
หนูเอาใจไม่ถูกจริงๆ เพราะเอาใจไปเท่าไหร่ ก็ไม่เคยถูกใจซักที
ล่าสุดพี่เลี้ยงเล่าให้ฟังว่าแม่สามีบ่นเรื่อง ค่าน้ำ (ที่บ้านสั่งน้ำดื่มเป็นแกลลอน ก่อนหน้าที่จะมีลูกและพี่เลี้ยง ใช้อาทิตย์ละ 3 แกลลอน
แต่ทุกวันนี้อาทิตย์ละ 4 แกลลอน
แม่สามีบ่นเปรยๆ เวลาจ่ายคูปองน้ำทุกครั้ง ว่าเดี๋ยวนี้ต้องมาจ่ายค่าน้ำเพิ่มขึ้นตั้งเยอะ แพงจริงๆ
และเคยถามพี่เลี้ยงว่า ทำไมต้องมาขนน้ำที่นี่กลับไปที่ห้อง ทำไมไม่ไปซื้อเป็นขวดๆกิน (เช่าอพาร์ตเมนต์ให้พี่เลี้ยงอยู่ตรงข้ามหมู่บ้านค่ะ
8 โมงมาทำงาน 2 ทุ่มกลับทุกวันค่ะ)
คำเปรย และคำถามพวกนี้ นัยยะของมันก็คือ ไม่ต้องการมีค่าใช้จ่ายเพิ่มกับพี่เลี้ยง อยากให้พี่เลี้ยงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
เพิ่งมาสังเกตหลังๆว่าพี่เลี้ยงไม่เอาน้ำกลับไปกินที่ห้องแล้ว เลยถาม นางบอกว่า นางกดตู้ที่ใต้อพาร์ตเมนต์เอาเอง สะดวกดีค่ะ
พี่เลี้ยงเป็นคนทานเก่ง ทานจุ แม่สามีก็จะบ่นๆประจำ ว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ
พอเราและสามี ซื้อกับข้าวมาตุนให้นางไว้เยอะๆ แม่สามีก็ดูจะหมั่นไส้เอามากๆ
ทุกอย่างคือเรื่องจุกจิกๆๆๆๆๆๆ หงุมหงิมๆๆๆๆ และมีเรื่องมากกว่านี้อีกล้านแปด กลุ้มใจมากเลยค่ะ ลูกก็รักพี่เลี้ยงคนนี้มากค่ะ เราเองก็รักค่ะ พี่เลี้ยงดีๆ ไม่ได้หาได้ง่ายๆ
ถ้ากลับกันนะคะ เราปฏิบัติตัวกับพี่เลี้ยงไม่ดี ใจร้าย เอารัดเอาเปรียบ ดุด่าพี่เลี้ยง ให้แม่สามีเห็น รับรองแม่สามีจะกลับตาลปัตร สงสาร และปกป้องนางแน่ๆค่ะ แต่จะให้เราปฏิบัติตัวไม่ดีกับเค้า เพื่อแสดงละครให้แม่สามีมาสงสาร ชีวิตจริงมันก็ไม่ใช่ละครอ่ะค่ะ เห้อ กลุ้มใจมากค่ะ
กลัวอีกไม่นาน เขาจะลาออก เราควรทำอย่างไรดีคะ