โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ คือนักเตะที่ร้อนแรงที่สุด ในโลกฟุตบอล ณ นาทีนี้ เรื่องในสนามของเขาไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น การันตีด้วยรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ หรือสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอันทรงเกียรติ

          เขาคือฮีโร่ของคนอียิปต์ มีสถานะ คือผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งคำถามก็คือ  ทำไมทุกคนถึงยกย่องเขาขนาดนี้ จากเรื่องฟอร์มในสนามเนี่ยะหรอ หรือมีอะไรมากกว่านั้น?



          ผู้สื่อข่าวจากเดอะ ซัน ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจกันโดยตรงที่บ้านเกิด ของซาลาห์ ในเมืองชื่อนากริ๊ก ที่แคว้นการ์เบีย ซึ่งระยะทางห่าง 80 ไมล์ จากเมืองหลวงกรุงไคโร ซึ่งการได้ไปถึงบ้านเกิดของเขา เราอาจพอได้คำตอบอะไรบ้าง



          โม ซาลาห์ เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง ในจังหวัดนากริ๊ก จากนั้นไต่เต้ามาเรื่อยๆ เขาเติบโตจากทีมฟุตบอลเล็กๆ ไปเล่นในสวิตเซอร์แลนด์  ไปอังกฤษ ไปอิตาลี และกลับมาอังกฤษอีกครั้ง ถือว่าเดินทางมาไกลมาก สำหรับนักเตะอียิปต์คนหนึ่ง  

          ไม่เพียงแค่นั้น รายได้ของซาลาห์ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันได้ 9 หมื่นปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งกลายเป็นนักเตะอียิปต์ ที่ได้ค่าเหนื่อยมากที่สุดในประวัติศาสตร์



          ด้วยรายได้ขนาดนี้ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ ที่เป็นข้าราชการ สามารถรีไทร์ออกมาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้แล้ว



          แต่ซาลาห์ ไม่ได้เอาเงินมหาศาลที่ได้ มาให้ครอบครัวอย่างเดียวเท่านั้น เขาเดินหน้าพัฒนาชุมชนอย่างจริงจัง ซาลาห์จ่ายเงินซื้อรถพยาบาล ให้โรงพยาบาลในชุมชน นอกจากนั้นยังซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ประจำไว้ในหลายๆโรงพยาบาลอีกด้วย



          ในวันแรกที่เซ็นสัญญา กับลิเวอร์พูล ซาลาห์ได้เงินโบนัสก้อนโต แต่เขาแบ่งเงินจำนวน 210,000 ปอนด์ หรือประมาณ 7.2 ล้านบาท เพื่อนำไปเข้ากองทุนลองลีฟอียิปต์ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล



          จากนั้น เพื่อให้เงินที่เขาบริจาค พุ่งตรงไปที่เป้าหมายที่เขาต้องการมากขึ้น ซาลาห์ ซึ่งจัดตั้งกองทุนของตัวเองขึ้นมา ในเขตจังหวัดนากริ๊ก



          มาเฮอร์ ชาติย่า นายกเทศมนตรีเมืองนากริ๊ก เปิดเผยว่า "ซาลาห์ ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั่วโลก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยลืมบ้านเกิด"



          "เขาให้ความช่วยเหลือชุมชนหลายอย่าง รถพยาบาลก็อย่างหนึ่ง แต่จริงๆมีมากกว่านั้น เขาเคยควักเงิน 1 หมื่นปอนด์ (4.5 แสนบาท) เพื่อซื้อเครื่องตรวจรักษาโรคข้อรูมาตอยด์ ซึ่งไม่เคยมีอุปกรณ์นี้มาก่อนในเมืองนากริ๊ก"



          "ด้วยความที่เขาอยู่ครอบครัวใหญ่ เขาส่งเงินมาที่บ้าน เดือนละ 3500 ปอนด์ (ประมาณ 1 แสน 5 หมื่นบาท) ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก แต่กับเงินที่มอบให้ชุมชน มากกว่าครอบครัวตัวเองหลายเท่า"



          "นอกจากนั้น มูลนิธิซาลาห์ ยังมีแผนการสร้างศูนย์การเรียนรู้ในชุมชน และสร้างคลีนิคขนาดเล็กอีกด้วย รวมถึงก่อตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะ"

          ซาลาห์ กลับมาบ้านเกิดที่เมืองนากริ๊กทุกๆช่วงรอมฎอน โดยหากบ้านไหนมีงานแต่งงาน เขาจะซื้อของขวัญไปฝากเป็นประจำ
ไม่เพียงแค่เงินส่วนตัว แต่เมื่อเขาได้รับเงินจากที่ไหนมา เขาจะนำมามอบให้กับชุมชนเสมอ ตัวอย่างคือ ตอนที่เขาพาอียิปต์ไปฟุตบอลโลกได้สำเร็จ มาดู อับบาส ประธานสโมสรซามาเล็ค ผู้ร่ำรวย ได้อัดฉีดเงินก้อนโตให้ซาลาห์ ซึ่งซาลาห์ก็ยินดีรับเงินก้อนนั้นไว้ แล้วเอามาซื้ออุปกรณ์การแพทย์เพิ่มเติมให้ชุมชน

          ครั้งหนึ่ง บ้านของซาลาห์ ที่อียิปต์ โดนขโมยบุกขึ้นบ้าน แทนที่ซาลาห์ จะแจ้งความให้ตำรวจขังคุก แต่เขาพูดคุยกับโจรคนนั้น ถามถึงเหตุผลที่มาขโมย จากนั้นก็ให้เงินก้อนเล็กๆพร้อมช่วยหางาน



          ถัดจากเรื่องของการแพทย์ ซาลาห์ ได้นำเงินอีกก้อน เอาไปให้กับโรงเรียน โมฮัมหมัด อาย อัลตันตาวี่ ที่เขาเคยเป็นนักเรียนมาก่อน โดยนำไปสร้างโรงยิมให้กับเด็กๆ เพื่อสร้างโอกาส เผื่อวันหนึ่งจะมีโอกาสเติบโตในเส้นทางกีฬาได้เหมือนเขา

          สิ่งที่ซาลาห์ ทำมาตลอดตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง จนย้ายไปบาเซิล เชลซี ฟิออเรนติน่า โรม่า และลิเวอร์พูล ในปัจจุบัน คือการคิดว่า เมื่อเขามีเงินมากมายแล้ว เขาควรจะแบ่งปันให้กับชุมชนบ้าง มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะเก็บเงินไว้มากมายเพียงคนเดียว



          นั่นจึงไม่แปลกใจเลย ที่เขาจะโดนยกย่องให้เป็น คิง ออฟ อียิปต์ หรือราชันย์แห่งอียิปต์ เพราะไม่ใช่แค่ฝีเท้าอันเก่งฉกาจเท่านั้น แต่น้ำใจมันมากมายของเขา มันช่วยทำให้สังคม และชุมชน พัฒนาขึ้นจากเดิม

          และยิ่งน่าทึ่งเข้าไปใหญ่ ที่ตัวซาลาห์เอง ทั้งๆที่บริจาคมากมายขนาดนี้ แต่เขาไม่เคยต้องการให้ใครมาชื่นชมเลย เขาแค่ทำในสิ่งที่เขาควรจะทำเท่านั้น...

---