ตามหัวข้อนะครับ พอดีไม่อยากจะตั้งหัวข้อเท่าไรแต่ในเคสผมคิดว่าถูกเพิกเฉยและเอาเปรียบเกินไปจากทางกรุงไทยลิสซิ่ง
คือเรื่องมีอยู่ว่าผมเองได้มีการซื้อรถใหม่และทางศูนย์รถยนต์ได้เสนอผมให้ใช้ไฟแนนของกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่ง
ลำดับเหตุการณ์
เดือน
มี.ค. 2560
พอดีช่วงเดือนมีนาคม 2560 รถผมเกิดอุบัติเหตุโดยมีรถคู่กรณีหลับในขับข้ามเลนมาชนเกิดความเสียหายอย่างมากกับตัวรถจนถึงขนาดต้องเปลี่ยนตัวแชสซีและหัวรถใหม่ (ระยะเวลาในการซ่อมตั้งแต่วันเกิดเหตุจนซ่อมเสร็จรวมแล้วนาน 9 เดือน ) ทำให้หลังจากรถซ่อมเสร็จต้องมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเลขตัวถังรถใหม่และต้องขอจดทะเบียนใหม่กับกรมการขนส่ง กทม เขต5
เดือน
ปลาย พ.ย. 2560
ได้โทรสอบถามเจ้าหน้าที่ทะเบียนขั้นต้นของกรมการขนส่งทราบว่าต้องนำเล่มทะเบียนตัวเดิมไปทำการติดต่อ ซึ่งตอนแรกผมจะขอเล่มทะเบียนกับทางไฟแนนเพื่อไปดำเนินการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ขนส่งเองแต่ทางไฟแนนกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่งไม่ให้เล่มทะเบียนรถและแจ้งว่าจะไปทำการดำเนินเรื่องให้เองโดยมีเงื่อนไขให้ผมโอนเงินจ่ายค่าดำเนินการมาให้ทางไฟแนนเป็นจำนวนเงิน 1,700 บาท พร้อมแจ้งรายการเอกสารต่างที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนรถใหม่ให้ผมส่งให้ทั้งหมด ซึ่งผมก็ได้มีการส่งเอกสารให้ครบตามที่ขอ ยกเว้นใบตรวจสอบทางวิศวกรรมที่ทางไฟแนนไม่มีระบุมาและไม่ได้ขอมา ซึ่งผมเองก็แปลกใจและได้หาขอมูลเบื้องต้นแล้วว่าต้องใช้ด้วย แต่โทรไปสอบถามเจ้าหน้าของไฟแนนเพื่อความแน่ใจอีกรอบปรากฎว่าทางเจ้าหน้าที่ไฟแนนบอกไม่ต้องใช้ (ในใจคิดว่าเจ้าหน้าที่ไฟแนนเขาอาจจะมีแนวทางในการทำเลยไม่ต้องเอาใบตรวจสอบทางวิศวกรรม) แต่ที่ไหนได้วันที่เจ้าหน้าที่ตัวแทนไฟแนนที่ประจำอยู่ที่ขนส่งโทรแจ้งให้ผมเอารถไปตรวจสภาพ ทางเจ้าหน้าที่ขนส่งได้ทำการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นและแจ้งผมว่าเอกสารมีมาไม่ครบขาดใบตรวจสอบทางวิศวกรรม ซึ่งพอผมได้ยินรู้สึกโกรธและโมโหเอามากๆกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ไฟแนนคนที่ผมเคยโทรไปสอบถาม ( ผมทำงานบริษัทเอกชนลางานยากพอสมควรและต้องลากิจกับ MD ญี่ปุ่นเพื่อไปทำเรื่องดังกล่าวที่กรมการขนส่งแต่ต้องกลับมามื่อเปล่าโดยไม่ได้ทำอะไรเลยในวันนั้นเนื่องจากเอกสารไม่ครบ ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากการแนะนำแบบไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ไฟแนน ) ผมได้รีบโทรกลับไปยังทางไฟแนนกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่งรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดและตำหนิกับทางผู้จัดการหน่วยงานทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว(มีทั้งชื่อคนทำงานและผู้จัดการ)
เดือน
กลาง ธ.ค. 2560
ผมได้นำเอกสารและรถกลับเข้าไปตรวจสอบสภาพที่ขนส่งใหม่อีกรอบพร้อมทั้งมีการตอกหมายเลขตัวถังรถใหม่ ซึ่งคิดว่าเรื่องคงจะจบและรอรับเล่มและทะเบียนรถใหม่อีกภายในไม่เกิน 1เดือนอย่างช้า(ผมคิดเองครับ) แต่ไม่เป็นตามนั้น
เดือน
กลาง ม.ค. 2561
ทางเจ้าหน้าที่ของไฟแนนโทรมาแจ้งว่าทางขนส่งขอเอกสารและรายละเอียดการซ่อมมาอีกหลายรายการ ซึ่งผมก็ได้รีบดำเนินการติดต่อขอเอกสารกับทางประกันภัยรถยนต์และอู่ที่เข้าซ่อมและส่งให้เจ้าหน้าที่ไฟแนนตามที่ขอ และตั้งหน้าตั้งตารอคิดว่าอีกไม่นานคงได้
เดือน
กลาง ก.พ. 2561
โทรเข้าไปสอบถามความคืบหน้ากับทางไฟแนนหน่วยงานทะเบียน(กด3) ปรากฎว่าติดต่อยากมาก โทรติดแต่ไม่เคยมีคนรับเลย สุดท้ายต้องส่งอีเมลไปสอบถามข้อมูลและความคืบหน้าแต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาจากทางไฟแนนเลย จนอีกอาทิตย์หนึ่งผมต้องโทรไปใหม่ที่ Call center(เคยถามเจ้าหน้าที่ call center ว่าหน่วยงานนี้มีเจ้าหน้าที่ทำงานไหม โทรไปติดแต่ไม่เคยมีใครรับสายเลย) ให้ช่วยโอนสายให้หน่วยงานทะเบียนผมก็เลยได้คุยกับเจ้าหน้าที่ไฟแนนสักที ซึ่งเจ้าหน้าที่ไฟแนนคนที่ทำเรื่องรถผมคนเดิมได้บอกผมว่าตอนนี้รอเอกสารอีกตัวจากทางประกันภัยซึ่งจากระยะเวลาที่เขาขอเอกสารกับทางประกันภัยตีเป็นเวลาเกือบ 3 อาทิตย์ ซึ่งมันนานเกินไปเพราะเอกสารตัวนี้มีอยู่แล้วและส่งไปรษณีย์ก็ไม่น่านานขนาดนั้น (รอจนถึง มี.ค. 2561 ถึงได้บอกผมว่าได้เอกสารแล้ว ผมเลยถามว่าทำไมเอกสารฉบับเดียวรอนานจัง สุดท้ายแจ้งมาว่าเขาไม่ได้มาทำงานเลยไม่มีคนทำต่อ ปล.แล้วถ้าออกเลยผมก็คงต้องรอยาวเป็นปีๆใช้ไหม ผู้จัดการฝากเก็บไปคิดด้วยนะ) ทำใจรอต่อคิดว่าเรื่องคงใกล้จบแล้ว
เดือน
ปลาย มี.ค. 2561
โทรไปถามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ไฟแนนคนเดิม ได้คำตอบว่าตอนนี้กำลังจะส่งเอกสารที่ได้รับจากทางประกันภัยไปให้กรมการขนส่งตามที่มีการขอจากทางเจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง รอต่อครับลุ้นนน
เดือน
23 เม.ย. 2561
โทรไปสอบถามความคืบหน้า ปรากฎว่าไม่มีคนรับเหมือนเดิม ทั้ง ผู้จัดการและลูกน้อง โทรไปหา Call center บอกผมว่าเดียวจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวติดต่อกลับ จนแล้วจนรอด เงียบไม่มีใครโทรมาแจ้งอะไรเหมือนเดิม
นี้ละครับเหตุการณ์ที่ผมได้ประสบพบเจอกับตัวเองอยู่จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่รถซ่อมเสร็จเกือบ 6 เดือน แล้วที่ยังไม่สามารถขับไปใช้งานได้แต่ต้องส่งค่างวดตรงเวลาทุกเดือนซึ่งหากเกินเลยไม่กี่วันก็จะมีเจ้าหน้าที่ไฟแนนโทรตาม(ทำงานคนละแบบจริงๆ ผลประโยชน์ฉันถึงจะทำก่อนใช่ไหมกรุงไทย)
ใครมีแนวทางอย่างอื่นช่วยแนะนำด้วยครับ ไม่ไหวแล้วกับการทำงานของทางไฟแนนกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่ง ใครกำลังจะใช้บริการคิดดีๆนะครับ ไม่อยากให้เจอเหตุการณ์แบบผม สรุปปัญหาเกิดจากตัวบุคคลหรือเป็นแบบนี้ทั้งองค์กรฝากเอาไปพิจารณาด้วยนะครับผู้บริหารกรุงไทย
ร้องเรียนการทำงานกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่ง
ตามหัวข้อนะครับ พอดีไม่อยากจะตั้งหัวข้อเท่าไรแต่ในเคสผมคิดว่าถูกเพิกเฉยและเอาเปรียบเกินไปจากทางกรุงไทยลิสซิ่ง
คือเรื่องมีอยู่ว่าผมเองได้มีการซื้อรถใหม่และทางศูนย์รถยนต์ได้เสนอผมให้ใช้ไฟแนนของกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่ง
ลำดับเหตุการณ์
เดือน มี.ค. 2560
พอดีช่วงเดือนมีนาคม 2560 รถผมเกิดอุบัติเหตุโดยมีรถคู่กรณีหลับในขับข้ามเลนมาชนเกิดความเสียหายอย่างมากกับตัวรถจนถึงขนาดต้องเปลี่ยนตัวแชสซีและหัวรถใหม่ (ระยะเวลาในการซ่อมตั้งแต่วันเกิดเหตุจนซ่อมเสร็จรวมแล้วนาน 9 เดือน ) ทำให้หลังจากรถซ่อมเสร็จต้องมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเลขตัวถังรถใหม่และต้องขอจดทะเบียนใหม่กับกรมการขนส่ง กทม เขต5
เดือน ปลาย พ.ย. 2560
ได้โทรสอบถามเจ้าหน้าที่ทะเบียนขั้นต้นของกรมการขนส่งทราบว่าต้องนำเล่มทะเบียนตัวเดิมไปทำการติดต่อ ซึ่งตอนแรกผมจะขอเล่มทะเบียนกับทางไฟแนนเพื่อไปดำเนินการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ขนส่งเองแต่ทางไฟแนนกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่งไม่ให้เล่มทะเบียนรถและแจ้งว่าจะไปทำการดำเนินเรื่องให้เองโดยมีเงื่อนไขให้ผมโอนเงินจ่ายค่าดำเนินการมาให้ทางไฟแนนเป็นจำนวนเงิน 1,700 บาท พร้อมแจ้งรายการเอกสารต่างที่ต้องใช้ในการจดทะเบียนรถใหม่ให้ผมส่งให้ทั้งหมด ซึ่งผมก็ได้มีการส่งเอกสารให้ครบตามที่ขอ ยกเว้นใบตรวจสอบทางวิศวกรรมที่ทางไฟแนนไม่มีระบุมาและไม่ได้ขอมา ซึ่งผมเองก็แปลกใจและได้หาขอมูลเบื้องต้นแล้วว่าต้องใช้ด้วย แต่โทรไปสอบถามเจ้าหน้าของไฟแนนเพื่อความแน่ใจอีกรอบปรากฎว่าทางเจ้าหน้าที่ไฟแนนบอกไม่ต้องใช้ (ในใจคิดว่าเจ้าหน้าที่ไฟแนนเขาอาจจะมีแนวทางในการทำเลยไม่ต้องเอาใบตรวจสอบทางวิศวกรรม) แต่ที่ไหนได้วันที่เจ้าหน้าที่ตัวแทนไฟแนนที่ประจำอยู่ที่ขนส่งโทรแจ้งให้ผมเอารถไปตรวจสภาพ ทางเจ้าหน้าที่ขนส่งได้ทำการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นและแจ้งผมว่าเอกสารมีมาไม่ครบขาดใบตรวจสอบทางวิศวกรรม ซึ่งพอผมได้ยินรู้สึกโกรธและโมโหเอามากๆกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ไฟแนนคนที่ผมเคยโทรไปสอบถาม ( ผมทำงานบริษัทเอกชนลางานยากพอสมควรและต้องลากิจกับ MD ญี่ปุ่นเพื่อไปทำเรื่องดังกล่าวที่กรมการขนส่งแต่ต้องกลับมามื่อเปล่าโดยไม่ได้ทำอะไรเลยในวันนั้นเนื่องจากเอกสารไม่ครบ ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากการแนะนำแบบไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ไฟแนน ) ผมได้รีบโทรกลับไปยังทางไฟแนนกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่งรวมถึงบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดและตำหนิกับทางผู้จัดการหน่วยงานทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว(มีทั้งชื่อคนทำงานและผู้จัดการ)
เดือน กลาง ธ.ค. 2560
ผมได้นำเอกสารและรถกลับเข้าไปตรวจสอบสภาพที่ขนส่งใหม่อีกรอบพร้อมทั้งมีการตอกหมายเลขตัวถังรถใหม่ ซึ่งคิดว่าเรื่องคงจะจบและรอรับเล่มและทะเบียนรถใหม่อีกภายในไม่เกิน 1เดือนอย่างช้า(ผมคิดเองครับ) แต่ไม่เป็นตามนั้น
เดือน กลาง ม.ค. 2561
ทางเจ้าหน้าที่ของไฟแนนโทรมาแจ้งว่าทางขนส่งขอเอกสารและรายละเอียดการซ่อมมาอีกหลายรายการ ซึ่งผมก็ได้รีบดำเนินการติดต่อขอเอกสารกับทางประกันภัยรถยนต์และอู่ที่เข้าซ่อมและส่งให้เจ้าหน้าที่ไฟแนนตามที่ขอ และตั้งหน้าตั้งตารอคิดว่าอีกไม่นานคงได้
เดือน กลาง ก.พ. 2561
โทรเข้าไปสอบถามความคืบหน้ากับทางไฟแนนหน่วยงานทะเบียน(กด3) ปรากฎว่าติดต่อยากมาก โทรติดแต่ไม่เคยมีคนรับเลย สุดท้ายต้องส่งอีเมลไปสอบถามข้อมูลและความคืบหน้าแต่ก็ไม่มีการตอบกลับมาจากทางไฟแนนเลย จนอีกอาทิตย์หนึ่งผมต้องโทรไปใหม่ที่ Call center(เคยถามเจ้าหน้าที่ call center ว่าหน่วยงานนี้มีเจ้าหน้าที่ทำงานไหม โทรไปติดแต่ไม่เคยมีใครรับสายเลย) ให้ช่วยโอนสายให้หน่วยงานทะเบียนผมก็เลยได้คุยกับเจ้าหน้าที่ไฟแนนสักที ซึ่งเจ้าหน้าที่ไฟแนนคนที่ทำเรื่องรถผมคนเดิมได้บอกผมว่าตอนนี้รอเอกสารอีกตัวจากทางประกันภัยซึ่งจากระยะเวลาที่เขาขอเอกสารกับทางประกันภัยตีเป็นเวลาเกือบ 3 อาทิตย์ ซึ่งมันนานเกินไปเพราะเอกสารตัวนี้มีอยู่แล้วและส่งไปรษณีย์ก็ไม่น่านานขนาดนั้น (รอจนถึง มี.ค. 2561 ถึงได้บอกผมว่าได้เอกสารแล้ว ผมเลยถามว่าทำไมเอกสารฉบับเดียวรอนานจัง สุดท้ายแจ้งมาว่าเขาไม่ได้มาทำงานเลยไม่มีคนทำต่อ ปล.แล้วถ้าออกเลยผมก็คงต้องรอยาวเป็นปีๆใช้ไหม ผู้จัดการฝากเก็บไปคิดด้วยนะ) ทำใจรอต่อคิดว่าเรื่องคงใกล้จบแล้ว
เดือน ปลาย มี.ค. 2561
โทรไปถามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ไฟแนนคนเดิม ได้คำตอบว่าตอนนี้กำลังจะส่งเอกสารที่ได้รับจากทางประกันภัยไปให้กรมการขนส่งตามที่มีการขอจากทางเจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง รอต่อครับลุ้นนน
เดือน 23 เม.ย. 2561
โทรไปสอบถามความคืบหน้า ปรากฎว่าไม่มีคนรับเหมือนเดิม ทั้ง ผู้จัดการและลูกน้อง โทรไปหา Call center บอกผมว่าเดียวจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวติดต่อกลับ จนแล้วจนรอด เงียบไม่มีใครโทรมาแจ้งอะไรเหมือนเดิม
นี้ละครับเหตุการณ์ที่ผมได้ประสบพบเจอกับตัวเองอยู่จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่รถซ่อมเสร็จเกือบ 6 เดือน แล้วที่ยังไม่สามารถขับไปใช้งานได้แต่ต้องส่งค่างวดตรงเวลาทุกเดือนซึ่งหากเกินเลยไม่กี่วันก็จะมีเจ้าหน้าที่ไฟแนนโทรตาม(ทำงานคนละแบบจริงๆ ผลประโยชน์ฉันถึงจะทำก่อนใช่ไหมกรุงไทย)
ใครมีแนวทางอย่างอื่นช่วยแนะนำด้วยครับ ไม่ไหวแล้วกับการทำงานของทางไฟแนนกรุงไทยธุรกิจลิสซิ่ง ใครกำลังจะใช้บริการคิดดีๆนะครับ ไม่อยากให้เจอเหตุการณ์แบบผม สรุปปัญหาเกิดจากตัวบุคคลหรือเป็นแบบนี้ทั้งองค์กรฝากเอาไปพิจารณาด้วยนะครับผู้บริหารกรุงไทย