สวัสดีครับ ผมเชื่อว่าหลายๆ คนนั้นใช้ PC ในการเล่นเกม และมีหลายๆ คนที่มักจะบ่นว่า "เกมกระตุก" หรือ "เล่นไม่ลื่นแม้สเปคจะถึง" หรือ อื่นๆ แม้ว่า Windows 10 นั้นสามารถเล่นเกมได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว มันก็มีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถปรับแต่งเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการเล่นเกมให้ดียิ่งขึ้นได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ใครที่ซื้อ PC มาใหม่ หรือเพิ่งตัดสินใจลง Windows 10 ใหม่ ควรจะรู้เอาไว้บ้างครับ
กระทู้นี้หากมีใครมี Tips ดีๆ มาแบ่งปันกันก็เชิญเลยนะครับ เน้นย้ำอีกครั้งว่าผมเองทราบว่ามีวิธีการปรับแต่งอีกมาก แต่ใน กระทู้นี้ผมจะเน้นการปรับแต่งของคนใช้งานทั่วไปที่ไม่เก่งคอมนะครับ
เพราะเป็นกระทู้ ผมจึงย่อๆ ความมา หากต้องการอ่านตัวเต็ม ผมเขียนไว้ในลิงค์ด้านล่างนี้ครับ จะได้ไม่ต้องมาตอบคำถามกันหลายรอบ
http://py106digital.blogspot.com/2018/04/windows-10-pc.html
1) Update GPU Driver
อันดับแรกเลยที่ควรทำให้แน่ใจก็คือทำการ update GPU driver ให้เป็น version ล่าสุดอยู่เสมอ ทุกท่านที่เล่นเกมคงจะทราบกันดีกว่า GPU ในเครื่องของเราเป็นรุ่นไหน โมเดลไหน ก็หามาลงกันได้ครับ
2) ใช้ Windows 10 แท้ ที่ Update ล่าสุดอยู่เสมอ โดยควบคุมการ update ด้วยตนเอง
ไม่มีอะไรที่แย่ที่สุดเท่ากับการที่ Windows นั้น Download install Windows Updates ในช่วงเวลาคับขันที่เราเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นการที่เครื่องทำงานช้าลง หรือแย่กว่านั้นก็คือการ restart ตัวเองเพื่อลง updates ซึ่งรับรองได้เลยว่าจะ "หัวร้อน" ในทันทีแน่นอน อย่างไรก็ตาม การใช้ Windows 10 แท้ ที่ Update ล่าสุดอยู่เสมอนั้น มีข้อดีมากกว่าข้อเสียแน่นอน เพียงแต่เราต้องรู้จัก "จัดการ" กับ Windows Update ด้วยตัวเราเอง ดังนี้
2.1) ควบคุม feature update
Windows 10 นั้น จะมี Feature update ปีละสองครั้ง โดยปกติก็จะในเดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี อย่างไรก็ตาม Feature update นี้จะเป็นแบบ soft roll out ซึ่งหมายถึงว่าเป็นการทยอยปล่อยให้อัพเดทกัน บางรุ่นอาจจะได้รับการอัพเดทที่รวดเร็ว บางรุ่นอาจต้องรอเป็นเดือนก็มี
สิ่งที่มาพร้อม feature updates นี้ มักจะเป็น bug ใหม่ๆ ที่ต้องรอการ patch แก้ไข และมักจะต้องการ GPU Driver version ใหม่อีกด้วย (ไม่เสมอไป แต่เกิดขึ้นบ่อยๆ ครับ) ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่า PC ของเราสมรรถนะไม่ตกในการเล่นเกม ผมแนะนำว่า เราควรอัพเดท feature update นี้ หลังจากมี patch มาแก้ไขแล้ว 1 patch ซึ่งก็จะประมาณ 1 เดือนให้หลัง ดังนั้น วางแผนไว้เลยครับว่าจะทำ feature update ในปลายเดือนพฤษภาคม และปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นต้น
วิธีการอย่างง่ายในการควบคุมการ update สามารถทำได้โดยเลือก Pause update ใน Windows Update Settings ครับ
เพียงเท่านี้เราจะสามารถ delay การ update ออกไปได้สูงสุด 35 วัน (วิธีการอย่างละเอียด สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ที่ให้ไว้นะครับ)
2.2) เลือกเวลา Patch update
Windows 10 นั้นจะมี Patch update มาอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงคืนวันอังคารที่สองของแต่ละเดือน โดยปกติ patch update นี้จะมีขนาดเล็กและใช้เวลาไม่นาน ผมแนะนำว่า ให้ลงทันที โดยกำหนดเวลาให้ Windows ทำการ update ในช่วงเวลาที่เราไม่ใช่ PC นั่นเอง
วิธีการอย่างง่ายในการเลือกเวลา Patch update สามารถทำได้โดยเลือก Active hours ใน Windows Update Settings ครับ (วิธีการอย่างละเอียด สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ที่ให้ไว้นะครับ)
2.3) กำหนด Bandwidth ในการ Windows update
นี่เป็นข้อดีอีกข้อหนึ่งของการที่เราใช้ Windows version ล่าสุด (v1709 ณ เวลาที่เขียนบทความนี้) จะช่วยให้เราสามารถกำหนด bandwidth นี้ได้ด้วย ว่าจะให้ใช้ Bandwidth กี่ % ในการ download Windows update ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 5% - 100%
วิธีการอย่างง่ายในการกำหนด Bandwidth ในการ Windows update สามารถทำได้โดยเลือก Delivery Optimisation และ Advanced options ใน Windows update เช่นกันครับ (วิธีการอย่างละเอียด สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ที่ให้ไว้นะครับ)
3) ปรับ Windows ให้เป็น High Performance Mode
วิธีการนี้อาจจะใช้ได้กับบาง PC นะครับ โดยเฉพาะกับ Laptops ทั้งหลาย ที่จะทำให้ Windows นั้นปลดล็อกตัวจัดการพลังงานต่างๆ และดึงพลังงานมาใช้มากขึ้น แต่ก็จะแลกมาด้วยการที่เครื่องจะร้อนขึ้น และแบตเตอรี่จะหมดไวด้วยนะครับ แต่ถ้าบน Desktop PC เอง เราจะตั้งค่าไว้ที่นี่ตลอดเลยก็ไม่แปลกอะไร
4) ปิด Steam automatic update / Game automatic update และ Apps automatic update ทั้งหลาย
ต่อจาก Windows Update แล้ว ก็มาไล่ดู Updates อื่นๆ อีกนะครับว่ามีอะไรบ้างในเครื่องเรา ถ้าปิดได้ก็ไล่ปิดให้หมด แล้วมา Update ด้วยตนเองระหว่างที่เราทำ PC maintenance หรือไม่ก็กำหนดให้มันทำงานตอนที่เราไม่ใช้เครื่อง (อันนี้แล้วแต่ว่าแต่ละ app มีออพชั่นอะไรให้เราเลือกบ้าง)
5) กำหนด PC Maintenance ให้เป็นหัวข้อหนึ่งในชีวิตประจำวัน
เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับผมนะครับ เพราะวันวันนึงผมใช้ PC ในเรื่องต่างๆ ทั้งการทำงาน งานอดิเรก และเพื่อความบันเทิงอีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่ผมว่ามาข้างต้นนั้น ผมจะทำเป็นประจำจนชินไปแล้ว แต่เราสามารถทำให้ Windows เตือนเราได้ด้วยการตั้ง recurring event ไว้ใน Windows 10 Calendar นะครับ
เผื่อใครอยากอ่านเพิ่มเติมก็เข้าไปตามลิงค์ได้นะครับ
http://py106digital.blogspot.com/2018/04/windows-10-pc.html
[CR] ปรับแต่ง Windows 10 PC ให้มีประสิทธิภาพในการเล่นเกม
กระทู้นี้หากมีใครมี Tips ดีๆ มาแบ่งปันกันก็เชิญเลยนะครับ เน้นย้ำอีกครั้งว่าผมเองทราบว่ามีวิธีการปรับแต่งอีกมาก แต่ใน กระทู้นี้ผมจะเน้นการปรับแต่งของคนใช้งานทั่วไปที่ไม่เก่งคอมนะครับ
เพราะเป็นกระทู้ ผมจึงย่อๆ ความมา หากต้องการอ่านตัวเต็ม ผมเขียนไว้ในลิงค์ด้านล่างนี้ครับ จะได้ไม่ต้องมาตอบคำถามกันหลายรอบ
http://py106digital.blogspot.com/2018/04/windows-10-pc.html
1) Update GPU Driver
อันดับแรกเลยที่ควรทำให้แน่ใจก็คือทำการ update GPU driver ให้เป็น version ล่าสุดอยู่เสมอ ทุกท่านที่เล่นเกมคงจะทราบกันดีกว่า GPU ในเครื่องของเราเป็นรุ่นไหน โมเดลไหน ก็หามาลงกันได้ครับ
2) ใช้ Windows 10 แท้ ที่ Update ล่าสุดอยู่เสมอ โดยควบคุมการ update ด้วยตนเอง
ไม่มีอะไรที่แย่ที่สุดเท่ากับการที่ Windows นั้น Download install Windows Updates ในช่วงเวลาคับขันที่เราเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นการที่เครื่องทำงานช้าลง หรือแย่กว่านั้นก็คือการ restart ตัวเองเพื่อลง updates ซึ่งรับรองได้เลยว่าจะ "หัวร้อน" ในทันทีแน่นอน อย่างไรก็ตาม การใช้ Windows 10 แท้ ที่ Update ล่าสุดอยู่เสมอนั้น มีข้อดีมากกว่าข้อเสียแน่นอน เพียงแต่เราต้องรู้จัก "จัดการ" กับ Windows Update ด้วยตัวเราเอง ดังนี้
2.1) ควบคุม feature update
Windows 10 นั้น จะมี Feature update ปีละสองครั้ง โดยปกติก็จะในเดือนเมษายน และตุลาคมของทุกปี อย่างไรก็ตาม Feature update นี้จะเป็นแบบ soft roll out ซึ่งหมายถึงว่าเป็นการทยอยปล่อยให้อัพเดทกัน บางรุ่นอาจจะได้รับการอัพเดทที่รวดเร็ว บางรุ่นอาจต้องรอเป็นเดือนก็มี
สิ่งที่มาพร้อม feature updates นี้ มักจะเป็น bug ใหม่ๆ ที่ต้องรอการ patch แก้ไข และมักจะต้องการ GPU Driver version ใหม่อีกด้วย (ไม่เสมอไป แต่เกิดขึ้นบ่อยๆ ครับ) ดังนั้น เพื่อให้มั่นใจว่า PC ของเราสมรรถนะไม่ตกในการเล่นเกม ผมแนะนำว่า เราควรอัพเดท feature update นี้ หลังจากมี patch มาแก้ไขแล้ว 1 patch ซึ่งก็จะประมาณ 1 เดือนให้หลัง ดังนั้น วางแผนไว้เลยครับว่าจะทำ feature update ในปลายเดือนพฤษภาคม และปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นต้น
วิธีการอย่างง่ายในการควบคุมการ update สามารถทำได้โดยเลือก Pause update ใน Windows Update Settings ครับ
เพียงเท่านี้เราจะสามารถ delay การ update ออกไปได้สูงสุด 35 วัน (วิธีการอย่างละเอียด สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ที่ให้ไว้นะครับ)
2.2) เลือกเวลา Patch update
Windows 10 นั้นจะมี Patch update มาอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงคืนวันอังคารที่สองของแต่ละเดือน โดยปกติ patch update นี้จะมีขนาดเล็กและใช้เวลาไม่นาน ผมแนะนำว่า ให้ลงทันที โดยกำหนดเวลาให้ Windows ทำการ update ในช่วงเวลาที่เราไม่ใช่ PC นั่นเอง
วิธีการอย่างง่ายในการเลือกเวลา Patch update สามารถทำได้โดยเลือก Active hours ใน Windows Update Settings ครับ (วิธีการอย่างละเอียด สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ที่ให้ไว้นะครับ)
2.3) กำหนด Bandwidth ในการ Windows update
นี่เป็นข้อดีอีกข้อหนึ่งของการที่เราใช้ Windows version ล่าสุด (v1709 ณ เวลาที่เขียนบทความนี้) จะช่วยให้เราสามารถกำหนด bandwidth นี้ได้ด้วย ว่าจะให้ใช้ Bandwidth กี่ % ในการ download Windows update ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 5% - 100%
วิธีการอย่างง่ายในการกำหนด Bandwidth ในการ Windows update สามารถทำได้โดยเลือก Delivery Optimisation และ Advanced options ใน Windows update เช่นกันครับ (วิธีการอย่างละเอียด สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ที่ให้ไว้นะครับ)
3) ปรับ Windows ให้เป็น High Performance Mode
วิธีการนี้อาจจะใช้ได้กับบาง PC นะครับ โดยเฉพาะกับ Laptops ทั้งหลาย ที่จะทำให้ Windows นั้นปลดล็อกตัวจัดการพลังงานต่างๆ และดึงพลังงานมาใช้มากขึ้น แต่ก็จะแลกมาด้วยการที่เครื่องจะร้อนขึ้น และแบตเตอรี่จะหมดไวด้วยนะครับ แต่ถ้าบน Desktop PC เอง เราจะตั้งค่าไว้ที่นี่ตลอดเลยก็ไม่แปลกอะไร
4) ปิด Steam automatic update / Game automatic update และ Apps automatic update ทั้งหลาย
ต่อจาก Windows Update แล้ว ก็มาไล่ดู Updates อื่นๆ อีกนะครับว่ามีอะไรบ้างในเครื่องเรา ถ้าปิดได้ก็ไล่ปิดให้หมด แล้วมา Update ด้วยตนเองระหว่างที่เราทำ PC maintenance หรือไม่ก็กำหนดให้มันทำงานตอนที่เราไม่ใช้เครื่อง (อันนี้แล้วแต่ว่าแต่ละ app มีออพชั่นอะไรให้เราเลือกบ้าง)
5) กำหนด PC Maintenance ให้เป็นหัวข้อหนึ่งในชีวิตประจำวัน
เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับผมนะครับ เพราะวันวันนึงผมใช้ PC ในเรื่องต่างๆ ทั้งการทำงาน งานอดิเรก และเพื่อความบันเทิงอีกด้วย ดังนั้น สิ่งที่ผมว่ามาข้างต้นนั้น ผมจะทำเป็นประจำจนชินไปแล้ว แต่เราสามารถทำให้ Windows เตือนเราได้ด้วยการตั้ง recurring event ไว้ใน Windows 10 Calendar นะครับ
เผื่อใครอยากอ่านเพิ่มเติมก็เข้าไปตามลิงค์ได้นะครับ
http://py106digital.blogspot.com/2018/04/windows-10-pc.html