ก.อุตฯ” ยัน MOU อาลีบาบาไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบแน่
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอุตสาหกรรม (กสอ.) แจง MOU 4 ฉบับ กับ อาลีบาบา กรุ๊ป จะไม่ทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบทางการค้าแต่อย่างใด เหตุไม่ได้เน้นนำสินค้าจีนเข้าไทย แต่เน้นให้เอสเอ็มอีไทยเข้าถึงตลาดค้าออนไลน์ ขณะเดียวกัน MOU ไม่ได้ให้สิทธิบริษัท อาลีบาบา ในการดึงข้อมูลของผู้ประกอบการไทยออกไปได้ แต่กลับช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดการค้าเสรีได้ง่ายขึ้น และได้ประโยชน์จากข้อมูลการวิเคราะห์ตลาดเป้าหมายผ่านการวิเคราะห์ของบริษัท อาลีบาบา อีกด้วย
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังมีกระแสข่าวความไม่เข้าใจต่อการที่หน่วยงานภาครัฐ ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) 4 ฉบับ กับทางบริษัท อาลีบาบา ว่า ความร่วมมือที่รัฐบาลไทยทำข้อตกลงกับอาลีบาบา มุ่งเน้นการพัฒนาให้วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ทุกระดับ รวมถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มธุรกิจเกษตรทั่วประเทศ ให้มีความรู้และทักษะทางด้านดิจิทัล และ อี-คอมเมิร์ซ สามารถเข้าถึงตลาดออนไลน์สู่ประเทศจีนและตลาดสากล
ทั้งนี้ อาลีบาบาจะมาช่วยอบรมให้ผู้ประกอบการไทยมีความรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ผู้บริการ (Service Provider) ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงระบบด้านโลจิสติกส์โดยอาศัยเทคโนโลยีของอาลีบาบาเข้ามาช่วยให้สามารถส่งสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยไปยังตลาดจีนและตลาดสากลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบ อี-คอมเมิร์ซ และ โลจิสติกส์ จะใช้กรณีของอาลีบาบาเป็นภาคปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) ในการปรับปรุงและพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ อี-คอมเมิร์ซ และ โลจิสติกส์ไทย อย่างต่อเนื่องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน
“ความกังวลที่ว่าอาลีบาบาจะได้ฐานข้อมูล (ดาต้าเบส) ของไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผมขอชี้แจงว่าไม่มีประเด็นใดที่จะนำออกซึ่งข้อมูลในระบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อมูลของผู้ประกอบการไทย โดยหน่วยงานต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการปี พ.ศ. 2540 อย่างเคร่งครัด ซึ่งหากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใดเลือกที่จะทำตลาดออนไลน์กับอาลีบาบาก็จะได้ประโยชน์จากข้อมูลการวิเคราะห์ตลาดเป้าหมายผ่านการวิเคราะห์จากระบบฐานข้อมูลของอาลีบาบาด้วย” นายกอบชัย กล่าว
นอกจากนี้ การเข้ามาของ นายแจ็ค หม่า ประธานของอาลีบาบา ที่ทำให้นักธุรกิจไทยเกิดความวิตกกังวลนั้น ผมขอเรียนชี้แจงว่า ตลาดการค้าออนไลน์เป็นตลาดการค้าเสรี แม้ในปัจจุบันผู้บริโภคคนไทยก็สามารถเลือกซื้อสินค้าจากประเทศจีนผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ได้ในหลากหลายช่องทางอยู่แล้ว ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น ช่วยให้ตลาดจีนและผู้บริโภคชาวจีนที่อยู่ในระบบออนไลน์ซึ่งมีจำนวนกว่า 500 ล้านคน และตลาดของจีนได้รับรู้ถึงศักยภาพของสินค้าและบริการของไทย ที่สำคัญ ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลจีนได้เปลี่ยนไปจากเดิมที่เน้นการส่งออกไปเป็นเน้นการนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศมากขึ้น
โดยความร่วมมือของรัฐบาลไทยกับอาลีบาบา ไม่ได้เน้นการนำเข้าสินค้าจากจีนมาบริโภคในประเทศไทย แต่เป็นการสร้างเครื่องมือเพื่อเพิ่มโอกาสให้สินค้าที่มีคุณภาพของไทยสามารถเข้าไปขายในประเทศจีน และประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ได้มากขึ้น” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวทิ้งท้าย
https://mgronline.com/business/detail/9610000039614
“กอบชัย”แจงชัดเซ็นMOUกับAlibabaไทยไม่เสียประโยชน์ปัดข่าวข้อมูลผู้ประกอบการไทยรั่ว
http://www.thansettakij.com/content/276647
เกษตรกรไทยต้องรู้! รมต.พาณิชย์ แนะวิธีเตรียมตัวสู่ตลาดออนไลน์ของแจ็ค หม่า
“สนธิรัตน์” ยืนยัน...การเข้ามาของอาลีบาบาคือโอกาสทองของไทย โดยเฉพาะคนตัวเล็กๆ ที่จะมีช่องทางใหม่ในการเข้าถึงตลาดระดับโลก พร้อมแนะ...จะขายของบนเว็บทีมอลล์ได้ ต้องผ่านเงื่อนไข 3 ข้อ
กลายเป็นปรากฏการณ์ที่พูดกันสนั่นเมืองไปแล้ว สำหรับการเข้ามาของยักษ์ใหญ่แห่งแดนมังกรอย่างอาลีบาบาของแจ็ค หม่า ที่เพียงนาทีเดียวก็ขายทุเรียนไทยผ่านเว็บไซต์ทีมอลล์ได้มากถึง 8 หมื่นลูก ทำเอาตกตะลึงไปทั่วบ้านทั่วเมือง พร้อมเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ที่ว่ากันไปต่างๆ นานา ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” นั่งลงเปิดใจถึงแรงสั่นสะเทือนของปรากฏการณ์ดังกล่าว พร้อมเล่าถึงทิศทางข้างหน้าที่จะเดินต่อไป
“จริงๆ เราได้มีการทดลองทำการเปิดพรีออเดอร์ก่อนหน้านั้นประมาณสองวันแล้วและมีออเดอร์เข้ามามากกว่าหกหมื่นออเดอร์จากคนจีน” รมต.พาณิชย์เท้าความถึงปรากฏการณ์ทุเรียนหมอนทอง 8 หมื่นลูก
“ตามจริง เราคิดว่าน่าจะได้แค่ประมาณหนึ่งหมื่นออเดอร์ และน่าจะใช้เวลานานกว่านี้ แต่ตอนนี้ต้องปรับเป้าหมายปรับแผนกันแล้ว
“ถามว่าตรงนี้มีข้อดีอย่างไร คือผู้ที่รวบรวมทุเรียน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม ก็มีโอกาสขายทุเรียนหมอนทองของตัวเอง ส่งออกได้ด้วยตัวเองไปสู่ตลาดจีนได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านล้งหรืออะไรเหมือนเมื่อก่อน การค้าของโลกยุคใหม่จะเปลี่ยนแปลงไป”
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ รมต.พาณิชย์เน้นย้ำอย่างมากก็คือเรื่องของเงื่อนไข ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาขายสินค้าในเว็บไซต์ทีมอลล์ จะต้องมีคุณสมบัติครบตามต้องการ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็น “พี่เลี้ยง” ช่วยดูแลให้อย่างเป็นระบบ
“คุณสมบัติที่จะสามารถค้าขายบนเว็บไซต์ดังกล่าวได้ คือ
1.ต้องมีความเป็นนิติบุคคล
เพราะการค้าขายบนเว็บไซต์ ต้องมีความน่าเชื่อถือ แต่การเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นบริษัทจำกัดเท่านั้น แต่ห้างหุ้นส่วน สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ไปจนถึงเกษตรกรที่รวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มก็ได้ แต่ต้องเป็นนิติบุคคล ซึ่งถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรในการทำให้เป็นนิติบุคคล กระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมจะช่วยเหลือดูแลให้ในส่วนนี้
2.สินค้าต้องมีคุณภาพที่ดี
อันนี้สำคัญมาก เพราะไม่ใช่ว่าเรามีโอกาสปุ๊บ จะขายอะไรก็ขายกันเลย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่เกิดความน่าเชื่อถือ
3.มีแบรนด์ (ยี่ห้อ)
เมื่อมีคุณภาพแล้ว ก็จะต้องมีแบรนด์ เพราะแบรนด์จะเป็นสิ่งค้ำประกันความน่าเชื่อถือ และแบรนด์นั้นจะต้องมีการจดลิขสิทธิ์หรือจดเครื่องหมายการค้าไว้ เพราะไม่อย่างนั้น เดี๋ยวก็จะมีการก็อปปี้ยุ่งกันไปหมด”
ทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญเบื้องต้นที่ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเกษตรกรที่รวมตัวจัดตั้งกันเป็นกลุ่ม จะต้องมี
นายแจ็ค หม่า (ภาพจากเฟซบุ๊ก China Xinhua News)
คำถามสำคัญก็คือ สำหรับพี่น้องเกษตรกร จะต้องเตรียมตัวอย่างไร เพื่อเข้าสู่ระบบนี้?
“ใครที่อยากจะมาช่องทางนี้ สามารถติดต่อเข้ามาที่กระทรวงพาณิชย์ได้เลย ทางเว็บไซต์ไทยเทรดดอทคอม (www.thaitrade.com) ที่เป็นเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ แล้วทางไทยเทรดจะเป็นคนเชื่อมโยงกับทีมอลล์ของอาลีบาบาอีกต่อหนึ่ง
“ถามว่า ทำไมต้องมาที่ไทยเทรดดอทคอมก่อน ก็เนื่องจากว่าต้องเตรียมความพร้อมพี่น้องเกษตรกร ซึ่งไม่ใช่มีของแล้วจะโพสต์ขายกันเลย เพราะอย่างที่บอกว่า ถ้าไม่ได้คุณสมบัติ มันก็จะทำให้ความน่าเชื่อถือหมดไป แล้วก็ขายได้ครั้งเดียว แต่ไทยเทรดจะเป็นตัวช่วยกรองและแนะนำให้ และถ้ากลุ่มใดยังไม่มีความพร้อม เช่น ยังไม่เป็นนิติบุคคล แบรนด์ยังไม่มี ยังไม่ได้จดเครื่องหมายการค้า เราจะเตรียมความพร้อมให้ รวมทั้งเตรียมการว่าจะค้าขายออนไลน์ต้องทำอะไรยังไงบ้าง ตรงนี้ก็จะให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นผู้ช่วยดูแลให้”
มีอีกเรื่องที่หลายคนกังวล นั่นก็คือเรื่องของ “ราคา” ที่ตอนแรกอาจจะดี แต่ไปๆ มาๆ อาจจะถูกกดราคาเอาได้ และบางคนก็มโนไปไกลถึงขั้นที่วิตกว่า เดี๋ยว แจ๊็ค หม่า หรืออาลีบาบา ก็กำหนดราคาเอง ซึ่งในเรื่องนี้ รมต.พาณิชย์ ได้ไขข้อข้องใจไว้ชัดเจน
“เรื่องราคา เป็นเรื่องของการแข่งขันกันในทางการค้า ที่ถ้าคุณภาพมี ราคาตั้งสูงก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้น ผมถึงพยายามเน้นว่า เรื่องคุณภาพ หรือแบรนด์สินค้า เป็นหัวใจสำคัญ และต้องเรียนอย่างนี้ครับว่า ราคาที่ตั้ง มันไม่ได้ถูกกำหนดโดยอาลีบาบา ตัวของอาลีบาบาไม่ได้ไปเกี่ยวกับกลไกราคา แต่กลไกราคาโดยตรงก็คือ ฝั่งของผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อเวลาคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าสินค้าเรามีคุณภาพ แบรนด์เป็นที่น่าเชื่อถือ ราคาก็อาจจะแพงขึ้น และเมื่อตั้งราคาแล้ว ถ้าผู้บริโภคปลายทางซื้อ แสดงว่าราคามันใช่ คุณภาพมันใช่”
รมต.พาณิชย์ กล่าวเน้นย้ำอีกว่า เวลาค้าขายบนออนไลน์ มาตรฐานสำคัญมาก เพราะถ้ามาตรฐานไม่ดี เว็บไซต์เขาก็ไม่ยอม ดังนั้นตรงนี้สามารถมองได้ว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาของผู้ประกอบการและพี่น้องเกษตรกร เราต้องยกตัวเราเองขึ้นมาด้วยให้มีมาตรฐาน ไม่ใช่ว่าอะไรก็ขายได้ เพราะถ้าทำอย่างนั้นมันจะไม่ยั่งยืน
ข่าวดีก็คือ นอกจากทุเรียนและข้าวที่เล็งว่าจะทำตลาดในเบื้องต้น ยังจะมีการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ตามมาอีกด้วย
“การจัดการของอาลีบาบา ก็คือการเปิดให้คนข้างล่างซึ่งไม่เคยมีโอกาสที่จะไปถึงผู้บริโภคได้เลย มีโอกาสผ่านช่องทางนี้ และขอเรียนครับว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้จับมือกับอาลีบาบาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพราะเร็วๆ นี้ เราจะจับมือกับระดับโลกทั้งหมด และทำในสิ่งเดียวกัน คือเปิดให้พี่น้องเกษตรกร เปิดให้เอสเอ็มอีไทย หรือคนตัวเล็กๆ ข้างล่าง มีช่องทางในการเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก” สนธิรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000039611
น่าสังเวช? "แจ๊ค หม่า" โผล่เท่ากับ....หน้า"พิชัย-กูรูผู้มดเท็จ"ตรงๆ แต่"สื่อแดง-เด็กบางกลุ่มกลับหลับหูหลับตาอวยเป็นวีรบุรุษ ปชต."ไปได้
แต่จะพูดไปทำไมมี ในเมื่อก่อนหน้า รองนายกรัฐมนตรีอย่าง "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ในรัฐบาลเดียวกับเขา อยู่พรรคเดียวกับเขา ก็เคยโกหกใหญ่โตมาแล้ว แต่เมื่อโดนจับได้ไล่ทันกลับอ้างว่า โลกอนุญาตให้ รองนายกฯ โกหกได้บางเรื่อง...ดังที่เรียกกันว่า..."โกหกสีขาว" ก่อนจะโดนผู้รู้ทันก่นด่าไปทั้งประเทศ
http://www.phenkhao.com/contents/402502
'พิชัย' ยินดี 'แจ็ค หม่า' ลงทุนในไทย เตือนรัฐบาล ตามให้ทัน
"จึงอยากขอเตือนให้รัฐบาลรอบคอบและตามให้ทัน เพื่อไม่ให้ธุรกิจใหญ่น้อยของไทยได้รับผลกระทบจากการลงทุนนี้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้มีนโยบายและแผนงานในการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ของประเทศอย่างเป็นระบบแล้ว เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ให้พ่อค้าใหญ่ได้ประโยชน์เหมือนที่เกิดเป็นประจำในรัฐบาลนี้
อ่านข่าวต่อได้ที่:
https://www.thairath.co.th/content/1260409
ในที่สุดองุ่นหวานๆก็เปรี้ยวไปในทันที เพราะทุเรียนเกือบแสนลูกขายได้ใน 1 นาที
เป็นเรื่องดีๆของเกษตรกรไทย แต่คนมือไม่พายกำลังจะราน้ำไปเสียทุกเรื่องค่ะ
คราวนี้ทำเป็นกลัวไทยจะเสียเปรียบ อาลีบาบามาไม่ดีบ้างล่ะ
นี่แหละค่ะ คนพรรคเพื่อไทย ถ้าอะไรที่ดีต่อบ้านเมืองแต่ไม่ใช่เรื่องของตัวจะต่อต้านไปทุกเรื่อง
ปล่อยให้องุ่นเปรี้ยวเสียให้เข็ด
🌞☂️~มาลาริน~องุ่นเลยเปรี้ยว เมื่อทุเรียน 8 หมื่นลูกขายได้ใน 1 นาที..MOU อาลีบาบาไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบโอกาสของเกษตรกรไทย
ก.อุตฯ” ยัน MOU อาลีบาบาไม่ทำให้ไทยเสียเปรียบแน่
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอุตสาหกรรม (กสอ.) แจง MOU 4 ฉบับ กับ อาลีบาบา กรุ๊ป จะไม่ทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียเปรียบทางการค้าแต่อย่างใด เหตุไม่ได้เน้นนำสินค้าจีนเข้าไทย แต่เน้นให้เอสเอ็มอีไทยเข้าถึงตลาดค้าออนไลน์ ขณะเดียวกัน MOU ไม่ได้ให้สิทธิบริษัท อาลีบาบา ในการดึงข้อมูลของผู้ประกอบการไทยออกไปได้ แต่กลับช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดการค้าเสรีได้ง่ายขึ้น และได้ประโยชน์จากข้อมูลการวิเคราะห์ตลาดเป้าหมายผ่านการวิเคราะห์ของบริษัท อาลีบาบา อีกด้วย
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังมีกระแสข่าวความไม่เข้าใจต่อการที่หน่วยงานภาครัฐ ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) 4 ฉบับ กับทางบริษัท อาลีบาบา ว่า ความร่วมมือที่รัฐบาลไทยทำข้อตกลงกับอาลีบาบา มุ่งเน้นการพัฒนาให้วิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ทุกระดับ รวมถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มธุรกิจเกษตรทั่วประเทศ ให้มีความรู้และทักษะทางด้านดิจิทัล และ อี-คอมเมิร์ซ สามารถเข้าถึงตลาดออนไลน์สู่ประเทศจีนและตลาดสากล
ทั้งนี้ อาลีบาบาจะมาช่วยอบรมให้ผู้ประกอบการไทยมีความรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ผู้บริการ (Service Provider) ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงระบบด้านโลจิสติกส์โดยอาศัยเทคโนโลยีของอาลีบาบาเข้ามาช่วยให้สามารถส่งสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยไปยังตลาดจีนและตลาดสากลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบ อี-คอมเมิร์ซ และ โลจิสติกส์ จะใช้กรณีของอาลีบาบาเป็นภาคปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) ในการปรับปรุงและพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ อี-คอมเมิร์ซ และ โลจิสติกส์ไทย อย่างต่อเนื่องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน
“ความกังวลที่ว่าอาลีบาบาจะได้ฐานข้อมูล (ดาต้าเบส) ของไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ผมขอชี้แจงว่าไม่มีประเด็นใดที่จะนำออกซึ่งข้อมูลในระบบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อมูลของผู้ประกอบการไทย โดยหน่วยงานต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการปี พ.ศ. 2540 อย่างเคร่งครัด ซึ่งหากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใดเลือกที่จะทำตลาดออนไลน์กับอาลีบาบาก็จะได้ประโยชน์จากข้อมูลการวิเคราะห์ตลาดเป้าหมายผ่านการวิเคราะห์จากระบบฐานข้อมูลของอาลีบาบาด้วย” นายกอบชัย กล่าว
นอกจากนี้ การเข้ามาของ นายแจ็ค หม่า ประธานของอาลีบาบา ที่ทำให้นักธุรกิจไทยเกิดความวิตกกังวลนั้น ผมขอเรียนชี้แจงว่า ตลาดการค้าออนไลน์เป็นตลาดการค้าเสรี แม้ในปัจจุบันผู้บริโภคคนไทยก็สามารถเลือกซื้อสินค้าจากประเทศจีนผ่านทางเว็บไซต์ออนไลน์ได้ในหลากหลายช่องทางอยู่แล้ว ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น ช่วยให้ตลาดจีนและผู้บริโภคชาวจีนที่อยู่ในระบบออนไลน์ซึ่งมีจำนวนกว่า 500 ล้านคน และตลาดของจีนได้รับรู้ถึงศักยภาพของสินค้าและบริการของไทย ที่สำคัญ ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลจีนได้เปลี่ยนไปจากเดิมที่เน้นการส่งออกไปเป็นเน้นการนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศมากขึ้น
โดยความร่วมมือของรัฐบาลไทยกับอาลีบาบา ไม่ได้เน้นการนำเข้าสินค้าจากจีนมาบริโภคในประเทศไทย แต่เป็นการสร้างเครื่องมือเพื่อเพิ่มโอกาสให้สินค้าที่มีคุณภาพของไทยสามารถเข้าไปขายในประเทศจีน และประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ได้มากขึ้น” อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวทิ้งท้าย
https://mgronline.com/business/detail/9610000039614
“กอบชัย”แจงชัดเซ็นMOUกับAlibabaไทยไม่เสียประโยชน์ปัดข่าวข้อมูลผู้ประกอบการไทยรั่ว
http://www.thansettakij.com/content/276647
เกษตรกรไทยต้องรู้! รมต.พาณิชย์ แนะวิธีเตรียมตัวสู่ตลาดออนไลน์ของแจ็ค หม่า
“สนธิรัตน์” ยืนยัน...การเข้ามาของอาลีบาบาคือโอกาสทองของไทย โดยเฉพาะคนตัวเล็กๆ ที่จะมีช่องทางใหม่ในการเข้าถึงตลาดระดับโลก พร้อมแนะ...จะขายของบนเว็บทีมอลล์ได้ ต้องผ่านเงื่อนไข 3 ข้อ
กลายเป็นปรากฏการณ์ที่พูดกันสนั่นเมืองไปแล้ว สำหรับการเข้ามาของยักษ์ใหญ่แห่งแดนมังกรอย่างอาลีบาบาของแจ็ค หม่า ที่เพียงนาทีเดียวก็ขายทุเรียนไทยผ่านเว็บไซต์ทีมอลล์ได้มากถึง 8 หมื่นลูก ทำเอาตกตะลึงไปทั่วบ้านทั่วเมือง พร้อมเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่ที่ว่ากันไปต่างๆ นานา ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” นั่งลงเปิดใจถึงแรงสั่นสะเทือนของปรากฏการณ์ดังกล่าว พร้อมเล่าถึงทิศทางข้างหน้าที่จะเดินต่อไป
“จริงๆ เราได้มีการทดลองทำการเปิดพรีออเดอร์ก่อนหน้านั้นประมาณสองวันแล้วและมีออเดอร์เข้ามามากกว่าหกหมื่นออเดอร์จากคนจีน” รมต.พาณิชย์เท้าความถึงปรากฏการณ์ทุเรียนหมอนทอง 8 หมื่นลูก
“ตามจริง เราคิดว่าน่าจะได้แค่ประมาณหนึ่งหมื่นออเดอร์ และน่าจะใช้เวลานานกว่านี้ แต่ตอนนี้ต้องปรับเป้าหมายปรับแผนกันแล้ว
“ถามว่าตรงนี้มีข้อดีอย่างไร คือผู้ที่รวบรวมทุเรียน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม ก็มีโอกาสขายทุเรียนหมอนทองของตัวเอง ส่งออกได้ด้วยตัวเองไปสู่ตลาดจีนได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านล้งหรืออะไรเหมือนเมื่อก่อน การค้าของโลกยุคใหม่จะเปลี่ยนแปลงไป”
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ รมต.พาณิชย์เน้นย้ำอย่างมากก็คือเรื่องของเงื่อนไข ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้ามาขายสินค้าในเว็บไซต์ทีมอลล์ จะต้องมีคุณสมบัติครบตามต้องการ โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็น “พี่เลี้ยง” ช่วยดูแลให้อย่างเป็นระบบ
“คุณสมบัติที่จะสามารถค้าขายบนเว็บไซต์ดังกล่าวได้ คือ
1.ต้องมีความเป็นนิติบุคคล
เพราะการค้าขายบนเว็บไซต์ ต้องมีความน่าเชื่อถือ แต่การเป็นนิติบุคคล ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นบริษัทจำกัดเท่านั้น แต่ห้างหุ้นส่วน สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ไปจนถึงเกษตรกรที่รวมตัวกันจัดตั้งเป็นกลุ่มก็ได้ แต่ต้องเป็นนิติบุคคล ซึ่งถ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรในการทำให้เป็นนิติบุคคล กระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมจะช่วยเหลือดูแลให้ในส่วนนี้
2.สินค้าต้องมีคุณภาพที่ดี
อันนี้สำคัญมาก เพราะไม่ใช่ว่าเรามีโอกาสปุ๊บ จะขายอะไรก็ขายกันเลย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่เกิดความน่าเชื่อถือ
3.มีแบรนด์ (ยี่ห้อ)
เมื่อมีคุณภาพแล้ว ก็จะต้องมีแบรนด์ เพราะแบรนด์จะเป็นสิ่งค้ำประกันความน่าเชื่อถือ และแบรนด์นั้นจะต้องมีการจดลิขสิทธิ์หรือจดเครื่องหมายการค้าไว้ เพราะไม่อย่างนั้น เดี๋ยวก็จะมีการก็อปปี้ยุ่งกันไปหมด”
ทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญเบื้องต้นที่ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเกษตรกรที่รวมตัวจัดตั้งกันเป็นกลุ่ม จะต้องมี
นายแจ็ค หม่า (ภาพจากเฟซบุ๊ก China Xinhua News)
คำถามสำคัญก็คือ สำหรับพี่น้องเกษตรกร จะต้องเตรียมตัวอย่างไร เพื่อเข้าสู่ระบบนี้?
“ใครที่อยากจะมาช่องทางนี้ สามารถติดต่อเข้ามาที่กระทรวงพาณิชย์ได้เลย ทางเว็บไซต์ไทยเทรดดอทคอม (www.thaitrade.com) ที่เป็นเว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์ แล้วทางไทยเทรดจะเป็นคนเชื่อมโยงกับทีมอลล์ของอาลีบาบาอีกต่อหนึ่ง
“ถามว่า ทำไมต้องมาที่ไทยเทรดดอทคอมก่อน ก็เนื่องจากว่าต้องเตรียมความพร้อมพี่น้องเกษตรกร ซึ่งไม่ใช่มีของแล้วจะโพสต์ขายกันเลย เพราะอย่างที่บอกว่า ถ้าไม่ได้คุณสมบัติ มันก็จะทำให้ความน่าเชื่อถือหมดไป แล้วก็ขายได้ครั้งเดียว แต่ไทยเทรดจะเป็นตัวช่วยกรองและแนะนำให้ และถ้ากลุ่มใดยังไม่มีความพร้อม เช่น ยังไม่เป็นนิติบุคคล แบรนด์ยังไม่มี ยังไม่ได้จดเครื่องหมายการค้า เราจะเตรียมความพร้อมให้ รวมทั้งเตรียมการว่าจะค้าขายออนไลน์ต้องทำอะไรยังไงบ้าง ตรงนี้ก็จะให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นผู้ช่วยดูแลให้”
มีอีกเรื่องที่หลายคนกังวล นั่นก็คือเรื่องของ “ราคา” ที่ตอนแรกอาจจะดี แต่ไปๆ มาๆ อาจจะถูกกดราคาเอาได้ และบางคนก็มโนไปไกลถึงขั้นที่วิตกว่า เดี๋ยว แจ๊็ค หม่า หรืออาลีบาบา ก็กำหนดราคาเอง ซึ่งในเรื่องนี้ รมต.พาณิชย์ ได้ไขข้อข้องใจไว้ชัดเจน
“เรื่องราคา เป็นเรื่องของการแข่งขันกันในทางการค้า ที่ถ้าคุณภาพมี ราคาตั้งสูงก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้น ผมถึงพยายามเน้นว่า เรื่องคุณภาพ หรือแบรนด์สินค้า เป็นหัวใจสำคัญ และต้องเรียนอย่างนี้ครับว่า ราคาที่ตั้ง มันไม่ได้ถูกกำหนดโดยอาลีบาบา ตัวของอาลีบาบาไม่ได้ไปเกี่ยวกับกลไกราคา แต่กลไกราคาโดยตรงก็คือ ฝั่งของผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อเวลาคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าสินค้าเรามีคุณภาพ แบรนด์เป็นที่น่าเชื่อถือ ราคาก็อาจจะแพงขึ้น และเมื่อตั้งราคาแล้ว ถ้าผู้บริโภคปลายทางซื้อ แสดงว่าราคามันใช่ คุณภาพมันใช่”
รมต.พาณิชย์ กล่าวเน้นย้ำอีกว่า เวลาค้าขายบนออนไลน์ มาตรฐานสำคัญมาก เพราะถ้ามาตรฐานไม่ดี เว็บไซต์เขาก็ไม่ยอม ดังนั้นตรงนี้สามารถมองได้ว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาของผู้ประกอบการและพี่น้องเกษตรกร เราต้องยกตัวเราเองขึ้นมาด้วยให้มีมาตรฐาน ไม่ใช่ว่าอะไรก็ขายได้ เพราะถ้าทำอย่างนั้นมันจะไม่ยั่งยืน
ข่าวดีก็คือ นอกจากทุเรียนและข้าวที่เล็งว่าจะทำตลาดในเบื้องต้น ยังจะมีการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ ตามมาอีกด้วย
“การจัดการของอาลีบาบา ก็คือการเปิดให้คนข้างล่างซึ่งไม่เคยมีโอกาสที่จะไปถึงผู้บริโภคได้เลย มีโอกาสผ่านช่องทางนี้ และขอเรียนครับว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้จับมือกับอาลีบาบาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพราะเร็วๆ นี้ เราจะจับมือกับระดับโลกทั้งหมด และทำในสิ่งเดียวกัน คือเปิดให้พี่น้องเกษตรกร เปิดให้เอสเอ็มอีไทย หรือคนตัวเล็กๆ ข้างล่าง มีช่องทางในการเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก” สนธิรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000039611
น่าสังเวช? "แจ๊ค หม่า" โผล่เท่ากับ....หน้า"พิชัย-กูรูผู้มดเท็จ"ตรงๆ แต่"สื่อแดง-เด็กบางกลุ่มกลับหลับหูหลับตาอวยเป็นวีรบุรุษ ปชต."ไปได้
แต่จะพูดไปทำไมมี ในเมื่อก่อนหน้า รองนายกรัฐมนตรีอย่าง "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ในรัฐบาลเดียวกับเขา อยู่พรรคเดียวกับเขา ก็เคยโกหกใหญ่โตมาแล้ว แต่เมื่อโดนจับได้ไล่ทันกลับอ้างว่า โลกอนุญาตให้ รองนายกฯ โกหกได้บางเรื่อง...ดังที่เรียกกันว่า..."โกหกสีขาว" ก่อนจะโดนผู้รู้ทันก่นด่าไปทั้งประเทศ
http://www.phenkhao.com/contents/402502
'พิชัย' ยินดี 'แจ็ค หม่า' ลงทุนในไทย เตือนรัฐบาล ตามให้ทัน
"จึงอยากขอเตือนให้รัฐบาลรอบคอบและตามให้ทัน เพื่อไม่ให้ธุรกิจใหญ่น้อยของไทยได้รับผลกระทบจากการลงทุนนี้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้มีนโยบายและแผนงานในการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ของประเทศอย่างเป็นระบบแล้ว เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์มากที่สุด ไม่ใช่ให้พ่อค้าใหญ่ได้ประโยชน์เหมือนที่เกิดเป็นประจำในรัฐบาลนี้
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1260409
ในที่สุดองุ่นหวานๆก็เปรี้ยวไปในทันที เพราะทุเรียนเกือบแสนลูกขายได้ใน 1 นาที
เป็นเรื่องดีๆของเกษตรกรไทย แต่คนมือไม่พายกำลังจะราน้ำไปเสียทุกเรื่องค่ะ
คราวนี้ทำเป็นกลัวไทยจะเสียเปรียบ อาลีบาบามาไม่ดีบ้างล่ะ
นี่แหละค่ะ คนพรรคเพื่อไทย ถ้าอะไรที่ดีต่อบ้านเมืองแต่ไม่ใช่เรื่องของตัวจะต่อต้านไปทุกเรื่อง
ปล่อยให้องุ่นเปรี้ยวเสียให้เข็ด