สวัสดีค่ะทุกคน คิดจะเขียนกระทู้นี้มานานมากแล้ว ก่อนเราฝังยาคุมหารีวิวเรื่องผลข้างเคียงของยาคุมแบบฝังยากมากกกก เลยกะว่าถ้าฝังมาแล้วจะเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นข้อมูลให้สาว ๆ ต่อไปค่ะ วันนี้เพิ่งไปตรวจ follow up ครบรอบ 1 ปีมา จัดว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะมาตั้งกระทู้ พร้อมแล้วเลื่อนอ่านเนื้อหาด้านล่างเลยค่า

ก่อนเข้าเนื้อหา ขอฝากลิงก์ความรู้พื้นฐานสำหรับคนที่ไม่รู้จักยาคุมแบบฝังมาก่อนเลยไว้ตรงนี้นะคะ มีคนเขียนไว้เยอะแล้วไม่อยากเขียนซ้ำ อ่านให้เข้าใจยาคุมก่อนจะได้ไม่งงตอนอ่านรีวิวนะคะ

http://haamor.com/th/ยาฝังคุมกำเนิด/

มาค่ะ เข้าใจยาคุมแล้ว มาเข้าเรื่องคนฝังยาคุมกัน

ทำไมถึงฝังยาคุม?

การคุมกำเนิดก็มีตั้งหลายแบบ ทำไมเราเลือกฝังยาคุม? บอกเหตุผลส่วนตัวไว้เผื่อใครได้เอาไปประกอบการตัดสินใจนะคะ

1. เราขี้ลืมมาก ตัดยาคุมแบบแผงที่ต้องกินทุกวันให้ตรงเวลาไปก่อนเลย

2. ยาคุมแบบฉีดนี่ยิ่งไม่น่าใช้ใหญ่ เสียตังค์แถมเจ็บตัวทุก 3 เดือน ไม่คุ้มเลย

3. ถุงยาง - อันนี้ไม่ได้ใช้แล้วเพราะมีแฟน คลีนทั้งคู่ - แต่สมัยก่อนมีแฟนนี่ถุงขาดจนต้องกินยาคุมฉุกเฉินไปรอบนึง ไม่เอาอีกแล้วจ้าาาา เรากินแล้วอารมณ์เสียมาก หงุดหงิดมาก ประจำเดือนมาปกติเรายังไม่เคยเหวี่ยงเลย แถมเวียนหัวคลื่นไส้ไปอีก กลัวแล้วววว ถุงขาดครั้งต่อ ๆ มาเรายอมลุ้นเอาเลยค่ะ ไม่เอาอีกแล้วยาคุมฉุกเฉิน ฮือ

4. แผ่นแปะคุมกำเนิด แพงมากกกกก ฝังไปเลยดีกว่าคุ้ม ๆ

5. ข้อนี้อย่าด่าน้องนะ 555555 จริง ๆ แล้วข้อนี้เป็นข้อหลักที่ทำให้อยากฝังเลยค่ะ คือเราหวังให้ประจำเดือนไม่มาเลยตลอด 5 ปีที่ฝังยาคุม ผลข้างเคียงจริง ๆ แล้วคือ “ประจำเดือนมาไม่ปกติ” แต่คนส่วนใหญ่ที่เราเคยได้ยินคือไม่มาเลย ไปฝังเพราะอยากให้ประจำเดือนไม่มานี่แหละค่ะ 555

สรุปที่เลือกคือนอกจากอยากให้ประจำเดือนไม่มาแล้ว ยาคุมแบบฝังมีโอกาสพลาดท้องต่ำที่สุดในบรรดาวิธีการคุมกำเนิดทั้งหมด สบายตัว สบายใจ สบายกระเป๋าที่สุดแล้วค่ะ ยิ่งเด็ก ๆ อายุไม่เกิน 20 ฝังฟรีด้วยนะ คุ้มมม โครงการนี้ดันคลอดตอนเราอายุ 20 พอดี อดเลยจ้า 555 แต่ไม่เป็นไร ปลอบใจตัวเองไปว่าเขาฝังให้แค่ 3 ปี เราตั้งใจจะฝังแบบ 5 ปีอยู่แล้ว ไม่ต้องเจ็บตัวบ่อย T_T

ก่อนฝัง

เราฝังที่ศิริราชเพราะมีบัตรร.พ.อยู่แล้ว ที่นี่ฟรีค่ายา แถมถ้าเป็นนักศึกษาราคาถูกกว่าคนนอกไปอีก แต่นี่รู้ช้า ดันไปฝังตอนเรียนจบแล้ว ถือว่าอุดหนุนสถาบันตัวเองไปก็แล้วกัน 555 ราคาเท่าไรจำไม่ได้แล้ว แต่กำแบงค์พันไปมีทอนให้ไปช้อปไปกินต่อที่วังหลังได้ยาว ๆ เลยจ้า เท่าที่จำได้ก็ทอนหลักร้อยอยู่นะ ถ้าไปฝังร.พ.เอกชนราคา 2,500-3,000+ เด้อจ้า

ถ้าจะฝังที่นี่ โทรนัดก่อนนะคะ วอล์คอินเข้าไปเฉย ๆ จะโดนนัดให้กลับมาวันอื่นถ้าคิวเต็ม ปกติต้องนัดล่วงหน้าเป็นเดือนอยู่นะ วางแผนดี ๆ นะคะ และคลินิกเปิดแค่ช่วงเช้า ถ้าจะไปให้ไปถึงสัก 7:45 น.กำลังดีค่ะ เช้าไปคลินิกยังไม่เปิดก็ต้องนั่งรอเด้อ

เราโชคดีมากที่เข้าไปแล้วมีคิวพอดี ที่ศิริราชจะให้ฝังช่วงที่มีประจำเดือนนะคะ ไปแล้วถ้าไม่อยากผิดหวังกลับบ้านให้บอกว่าประจำเดือนมาเมื่อวานวันแรก ได้ฝังแน่นอน (ถ้ามีคิวอะนะ เราไปบอกแบบนี้พี่พยาบาลปรึกษากันว่าวันนี้คิวไม่เยอะ ให้ฝังไปเลยก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลามาอีก)

อันนี้ขอเขียนไว้เป็นความรู้และป้องกันดราม่า จริง ๆ แล้วจะฝังวันไหนของรอบเดือนก็เหมือนกันนะคะ ถามอาจารย์มาอาจารย์บอกว่าฝังช่วงไหนของรอบเดือนก็ต้องรอ 7 วันถึงจะมีผลในการคุมกำเนิดเต็มที่เหมือนกัน ที่ให้คนไข้มาฝังช่วงวันแรก ๆ ที่มีประจำเดือนเพราะเป็นช่วงที่คนไข้จะไม่มีเพศสัมพันธ์ไปประมาณสัปดาห์นึงอยู่แล้ว ป้องกันความเสี่ยงเรื่องคนไข้ดื้อหรือลืม และถึงจะมีเพศสัมพันธ์ก็มีโอกาสท้องต่ำกว่าช่วงอื่นในรอบเดือน เพราะอยู่ในช่วงหลังประจำเดือนเริ่มมา 7 วันค่ะ

(อ่านเพิ่มเติมเรื่อง “หน้า 7 หลัง 7” ได้ที่นี่ค่ะ: https://www.pobpad.com/หน้า-7-หลัง-7-นับระยะปลอดภั?gclid=CjwKCAjwwuvWBRBZEiwALXqjw5J-5F8tPsjixAl2hIFrwMYlsInJGdFFuvvmNwZTZUe5UkkzfdI6pBoC4MUQAvD_BwE)

วันฝัง

เราหาบัตรร.พ.ไม่เจอ ต้องไปทำใหม่จ้า 55555555 เริ่มตั้งแต่ทำบัตรเลยแล้วกันเนอะ

ผู้ป่วยใหม่ทำบัตรได้ที่ตึกผู้ป่วยนอก (OPD) ชั้น 1 กรอกประวัติเรียบร้อยแล้วเอาไปยื่นที่ช่องทำบัตร วันนั้นเราไปถึงร.พ.เกือบ ๆ 8 โมง ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีค่ะ เสร็จแล้วไปที่โต๊ะคัดกรอง บอกว่าอยากฝังยาคุมกำเนิด เจ้าหน้าที่จะส่งไปหน่วยวางแผนครอบครัว อยู่หลังตึกพระศรีฯ ถ้าเดินไปจาก OPD เดินออกหน้าร.พ.แล้วเลี้ยวซ้าย ไปเข้าประตูข้างธนาคารไทยพาณิชย์ คลินิกจะอยู่ทางขวามือก่อนถึง S&P ค่ะ ทางนี้เราว่าเดินง่ายกว่าในร.พ.เพราะคนน้อยดี

ไปถึงแล้วยื่นบัตรร.พ.กับบัตรประชาชน รอทำประวัติ แล้วจะได้เข้ารับคำปรึกษาก่อนฝังค่ะ คุณพี่ที่ให้คำปรึกษาจะอธิบายเรื่องวิธีต่าง ๆ ในการคุมกำเนิด ถามเรื่องประวัติประจำเดือน การมีเพศสัมพันธ์ การคุมกำเนิดก่อนฝัง การตั้งครรภ์ แล้วก็คุยเรื่องการวางแผนครอบครัวของเรา ให้เราตัดสินใจว่าจะฝังแบบหลอดเดียว 3 ปี หรือ 2 หลอด 5 ปี เราไม่อยากมีลูกอยู่แล้วก็จัดไปยาว ๆ 5 ปี ตัดสินใจเสร็จแล้วก็อธิบายเรื่องผลข้างเคียงและการปฏิบัติตัวหลังฝังให้ฟัง พร้อมบอกว่า “ฝังแล้วประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่ใช่เหตุผลในการมาเอาออกนะคะ” คนคงมางอแงกันเยอะ อย่าทำกันเลยนะคะ ยาแพง เสียดายยย

คุยเสร็จก็เซ็นรับทราบ เอาแฟ้มไปยื่นหน้าเคาน์เตอร์ พี่เจ้าหน้าที่จะให้ใบสั่งยาไปซื้อยากับอุปกรณ์ในการฝัง พร้อมจ่ายตังค์ที่ตึกพระศรีฯ จ่ายเสร็จ ได้ยามาปุ๊บ ก็กลับมานั่งรอคิวที่คลินิกค่ะ นั่งรอจ่ายยาเกือบครึ่งชม.แน่ะ มันนานที่ขั้นตอนนี้แหละ

หมอมาถึงก็ได้เวลาขึ้นเขียง พี่หมอที่ทำให้เราน่าจะเป็นเรสซิเดนท์แล้ว ยังดูตื่น ๆ อยู่เลย เหมือนจะเป็นการฝังยาเคสแรกของพี่เขา ถ้าใครมายด์เรื่องแบบนี้ไปที่อื่นที่ไม่ใช่โรงเรียนแพทย์นะค้า แต่มีรุ่นพี่คุมนะคะ ยืนบอกบทและช่วยคุมสติ 55555

ขั้นตอนการฝังก็ไม่มีไรมาก ฉีดยาชา เจ็บแค่ขั้นตอนนี้แบบจี๊ด ๆ นิดนึง รอจนคีบเนื้อแล้วไม่เจ็บก็ได้เวลากรีด รอยกรีดนี้ไม่ต้องเย็บนะคะ แผลยาวแค่ 2-3 มม.เท่านั้นเอง กรีดเสร็จก็เอาปืนที่มีหลอดยาแทงเข้ามาเพื่อดันหลอดยาใส่ใต้ท้องแขน ใส่ครบสองหลอดแล้วก็ปิดแผล แนะนำการดูแลแผล เสร็จแล้ว รับใบนัด กลับบ้านได้

อ้อ ตอนฝังมีผ้าให้ปิดตานะคะถ้ากลัว แต่เราอยากดูเลยไม่ปิด 555

การนัดจะนัดติดตามผลทุกปี ถ้าไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างเรา พี่เขาก็จะลงคิวไว้ให้ด้วยเลยค่ะ 2 in 1 คุ้มไปอีก มาฟอลโลวอัพ+ตรวจภายในเสียค่าบริการผู้ป่วยนอก 90 บาทเอง

ช่วงหลังฝังเสร็จ 7 วันแรก

เนื่องจากเรามีแผลที่ต้นแขนซ้าย การอาบน้ำก็จะลำบากหน่อยเพราะโดนน้ำไม่ได้ คือพลาสเตอร์มันก็กันน้ำนั่นแหละค่ะ แต่เลี่ยงไว้ก่อนก็ดี อีกอย่างที่ค่อนข้างทรมานสำหรับเราคือเราเล่นเวท เล่นแขนไม่ได้ไป 7 วัน ฮือ

เหมือนจะมีรูปแผลอยู่ในมือถือ ถ่ายเก็บไว้จะมาทำรีวิวนี่แหละ แต่มันผ่านมาปีนึงแล้วก็จะหายากหน่อย เข้าใจน้องใช่ไหมคะ 555

ผลข้างเคียงในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

ประจำเดือนมาไม่ปกติจริง ๆ จ้าาาาา มาหนักกว่าเดิมอี๊กกกกก สวยเซ็ง

คือปกติประจำเดือนเรามาค่อนข้างตรงเวลา ทุก 6-8 สัปดาห์ไม่เกินนี้ และจะมาครั้งละ 7 วัน มีอาการปวดท้องค่อนข้างมาก ไม่เคยกินยานะคะ ทนได้ก็ทนเอา 2-3 วันมันก็หายแล้ว หงุดหงิดง่ายและเหวี่ยงบ้างบางเดือน ปีนึงจะมีเดือนที่มี mood swing สักไม่เกิน 3 เดือน

หลังฝัง จากที่หวังว่ามันจะไม่มา มันมา! และมาเยอะกว่าเดิม! แต่ไม่มาทุกเดือนแล้ว กลายเป็นทุก 2-3 เดือน เดือนละ 10+ วันแทน แถมมีการสับขาหลอก คือมันจะหมดแบบแห้งเลยไปอาทิตย์นึง แล้วมันจะกลับมากะปริบกะปรอยอีกประมาณ 7 วันก่อนจะเริ่มวงจรใหม่

ฮือ

เซ็งมาก ณ จุด ๆ นี้ คงเป็นกรรมที่ไปโกหกพี่พยาบาลไว้ตอนวันฝัง 55555

แต่ข้อดีคืออาการปวดท้องดีขึ้นมากนะคะ ปวดน้อยลงมากและไม่ได้ปวดทุกรอบ อารมณ์ก็ดีขึ้นเช่นกัน เท่าที่จำได้เราเหวี่ยงไปรอบเดียว และมีรอบที่เราเศร้ามาก ๆ แต่แค่รอบเดียวและน่าจะมีหลายปัจจัยประกอบกัน

ส่วนเรื่องพวกอ้วน สิว ฝ้า อะไรอย่างอื่นเราไม่มีเลยค่ะ เรากินเยอะอยู่แล้วเลยบอกไม่ได้ว่าฝังยาแล้วทำให้เจริญอาหารขึ้นมั้ย แต่กินเท่าเดิม ออกกำลังเท่าเดิม ก็ไม่มีอาการน้ำหนักขึ้นผิดปกติค่ะ

1 ปีต่อมา ณ วันนัดตรวจฟอลโลวอัพ

เราเปลี่ยนชื่อ ต้องไปทำบัตรใหม่อีกแล้ว 55555555 ก็เอาใบเปลี่ยนชื่อไปกรอกคำร้องขอบัตรใหม่ที่ OPD ที่เดิม ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเช่นเคยค่ะ หรือถ้าใครไม่ต้องทำบัตรใหม่แบบเราก็ไม่ต้องแวะ OPD เข้าไปยื่นใบนัดที่หน่วยวางแผนครอบครัวได้เลยค่ะ

ยื่นใบนัดเสร็จก็นั่งรอคิวแป๊บนึงจะได้เข้าไปคุยกับพี่ที่ปรึกษาเหมือนเดิม คราวนี้ถามเรื่องว่ามีผลข้างเคียงอะไรบ้าง รู้สึกยังไง ชีวิตหลังฝังเป็นยังไง คุยแป๊บเดียวเพราะเราไม่ได้มีปัญหาอะไร คุยเสร็จก็นัดวันมาตรวจสำหรับปีหน้า และเนื่องจากว่าเราไปเช้ามาก แต่หมอเข้า 9 โมง เลยมีเวลาไปกินข้าวเช้ารอหมอค่ะ

ตรวจภายใน

ตรวจมากับเกือบทุกอาชีพแล้วยกเว้นหมอเลยไม่ค่อยอายเท่าไร... 55555555555

พี่หมอที่ตรวจเราเป็นนายแพทย์ แต่ดูจะเป็นพี่สาวมากกว่าพี่ชาย เลยชิว ๆ ไม่ได้อ่อย เอ้ย ไม่ได้เขินอะไรค่ะ เขินพี่พยาบาลมากกว่าเพราะตอนขึ้นขาหยั่งเราอุตส่าห์พยายามดึงผ้าถุงให้มันคลุม ๆ หน่อย พี่แกเดินมาถลกขึ้นดังพรึ่บ! เย็นวาบเลยเรา

ตอนแรกก็เกร็ง ๆ นะคะเพราะไม่เคยตรวจภายในเลย แต่มันไม่เจ็บเด้อ ตอนสอดเครื่องมือหมอจะให้เบ่งลงก้น เบ่งแล้วมันก็ดูสอดเครื่องมือง่ายกว่าจริง ๆ นะ สอดปากเป็ดเข้าไปแล้วจะมีเครื่องมือเหมือนมาเก็บเนื้อเยื่อปากมดลูก อันนี้จะตึง ๆ หน่อยค่ะ แบบจุก ๆ อธิบายไม่ถูก

เอาเครื่องมือออกแล้วหมอจะใช้นิ้วสอดเข้ามาตรวจดูมดลูกและรังไข่ ดูขนาด ตำแหน่ง คลำก้อนเนื้อ เราเองปกติดี ประมาณ 5-10 นาทีก็ตรวจเสร็จแล้วค่ะ ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรทั้งสิ้น แต่ลงขาหยั่งมาแล้วปวดตดมาก ปล่อยลมไปลูกใหญ่ สงสัยพี่หมอกวาดนิ้วไปโดนลำไส้ด้วย 55555

ตรวจเสร็จไปจ่ายเงินที่ตึกพระศรีฯ โดนค่าบริการไป 90 บาทเท่านั้นน เสร็จแล้วกลับมารับใบนัดของปีหน้าก็กลับบ้านได้เลยค่ะ