[CR] เที่ยวเกาหลี ชมซากุระ ต้นเดือนเมษายน ตะลุยพระราชวัง ( โซล สู่ จินเฮ[1 day] )

เที่ยวเกาหลี ชมซากุระ ตะลุยพระราชวัง [โซล สู่ จินเฮ]

สวัสดีทุกคนนะครับ กระทู้เป็นกระทู้แรกที่อยากจะลองแชร์ประสบการณ์การเดินทางให้เพื่อนๆได้อ่านได้ชมกันนะครับ ภาษาอาจจะงงๆไปบ้างก็ขออภัย มือใหม่หัดเขียนอมยิ้ม02

การเดินทางในครั้งนี้ อย่างแรกเลย ตั้งใจว่าจะไปดูซากุระที่เกาหลี ช่วงเวลาที่เดินทาง คือ 1-5 เมษายน ในระหว่างการจัดแผนการเดินทาง อ่านกระทู้นุ้นนี้ไป สุดท้ายก็กลัวจะไม่เจอในโซล เลยตัดสินใจไปชมดอกซากุระบานที่ จินเฮ โดนการนั่งรถไฟความเร็วสูง(KTX) ไปชมเป็น OneDay Trip กันเลยทีเดียว และเที่ยวชมพระราชวัง การที่แชร์ในครั้งนี้หวังว่าเพื่อนๆจะได้ข้อมูลในการตัดสินใจบางอย่างในการเดินทางนะครับ

เอาละ !! เริ่มแรกเลย การเดินทางของผมนะ อันนี้จองตั๋วไว้ปีที่แล้ว ปี 60 ในเดือนพฤศจิกายน อันนี้ผมได้จองกับ AirasiaGo ที่มีทั้งที่พัก และตั๋วบินไว้พร้อมเลย ทางเอเจ้นจะจองให้หมดและเร็วมาก อันนี้เขาไม่ได้จ่ายนะครับ 555 ในเรื่องตั๋วเครื่องบินนั้นหากเราจะเพิ่มน้ำหนัก อาหาร หรือเลือกที่นั่ง เราต้องไปจัดการ บุ๊คกิ้งของเราเองเพิ่มเติมนะครับ หลังจากที่ได้ หมายเลขบุ๊คกิ้งมาแล้ว เราก็จัดการแอดๆกันไป จัดกันไปรวมราคาที่โดนไป 24510 บาท ในราคา 2 คนนะครับ ที่พักพร้อม ตั๋วพร้อม ได้เวลาลุย !!

สายการบินสีแดงของเรานั้นเวลาที่เดินทางก็คือ 2.50 นาที โดยประมาณ ง่วงโคดๆ เวลาถึง ประมาณ 10 โมงเช้าที่เกาหลี เดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงกว่า เครื่องบินทางสายการบินเรานั้นแน่นอน รุ่น A330 อันนี้เราไปกันสองคนนะครับเลยจองแถวหลังท้ายๆเครื่องต่อจาก 3 เบาะเลย รู้สึกว่าสบายดีนะ สัมผัสได้ว่ากว้างกว่าทั่วไป ใครไปสองท่าน แนะนำในจุดๆนี้ หลังจากนั้นเครื่องได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้า การเดินทางในวันนั้น ผ่านกลุ่มเมฆฝนเยอะมาก เครื่องบินมีวู้บๆได้ลุ้นระทึก หลังจากนั้นผมก็ได้หลับไป...

โอเค ตื่นมาอีกทีในรุ่งอรุณพระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขึ้นมา เราก็ถ่ายรูปกันไป และหลับต่อไม่ไหวแล้ว !!! อะต่อ! ตื่นครั้งนี้แดดจ้าเลยจ้า ลูกเรือได้เริ่มเสริฟอาหารกันให้เราได้อุ่นท้องสบายๆ เราก็นั่งกันไปอีกสักพัก เครื่องบินทำการลดระดับสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน (ICN) ลงจากเครื่องสู่ด่าน ตม. อันนี้ก็ได้ลุ้นๆ จะได้เข้าไหมหน่อ ตอนต่อแถวมีคนโดนเรียกไป 3 คนเห็นจะได้ถึงกับกลัว ฮ่าๆ โอเคพอถึงคิวเรา ผ่านแบบสบายๆ ได้เข้าประเทศละจ้า

เราก็รอรับกระเป๋าออกมา หลังจากนั้นเราได้เดินหา T-Money ที่เอาไว้ชำระการเดินทางต่างๆของเรานั้นเอง สุดท้ายหาไม่ได้ ตู้ไม่ขายบัตร ในร้านบัตรหมด เซอไพรส์ สุดท้ายก็ไปซื้อตั๋วเที่ยวเดียว เดินเข้าสู่กรุงโซล เพื่อเข้าไปที่พักฝากกระเป๋าไว้นั้นเอง...

ที่พักของเราอยู่ใกล้ พระราชวังชางด๊อกกุง ใกล้แบบใกล้มากกกกก ชื่อโรงแรมก็ โฮสเทลโคเรีย 11 ชางด๊อกกุง Hostel Korea 11th Changdeokgung‎ จริงๆแล้วอันนี้มารู้ทีหลังว่า ตรงนี้เดินทางจากสนามบินมาโดยรถบัส จะสะดวกกว่านั่งยาวๆ สาย 6011 นะ ค่าเดินทาง 10,000 won  แต่เราเดินทางด้วยรถไฟ ราคาถูกกว่านิดเดียวตามระยะทางเดินทางละนะ แต่จะเหนื่อยนิดๆตรงที่ต้องยกกระเป๋าผ่านบันได จากใต้ดินสู่พื้นดิน การเดินทางทุกรูปแบบก็ประมาณ 50 นาทีไม่น่าจะเกิน 1 ชม. หลังจากนั้นลากกระเป๋ากันไป ประมาณ 500m ถึงที่พักฝากระเป๋าเสร็จสับ ณ เวลานั้น ก็ประมาณ 12.00

เที่ยงแล้วหิวแล้ว มาถึงวันแรกมันจะงงๆหน่อยเราก็เดินหาร้านอาหารฝ่าอากาศเย็นๆ รู้สึกว่าอาร้านอาหารยากมากกกก ก็เดินมั่วๆไปเข้าซอกซอยจนสุดท้ายมาเจอร้านอาหารร้านนี้ bukchon hanok jib korean restaurant  ได้กินสะที ด้วยความหิวมื้อแรกก็สั่งกันไป อาหารมาทีร้อง เยอะเว่อ เยอะมาก อาหารที่นี้รู้สึกว่าเยอะทุกร้านเลยทีเดียว อาหารที่สั่งไปก็คือ เนื้อผัดถูกเสริฟมาในกระทะร้อน และหมูกิมจิ เสริฟมาพร้อมเครื่องเคียงเยอะเกิ้นนนน จนกินเสร็จจ่ายเงินกันไป


แผนการเดินทางวันนี้ที่แรก ผู้ร่วมเดินทางอยากไปเหลือเกิน ไปสวนฮานึลปาร์ค(Haneul Park) เราก็นั่งรถเมล์กันยาวๆ แต่!! ตอนแรกผมอยากจะไปถ่ายสนามฟุตบอลที่อยู่ใกล้ๆนะ พอลงรถเมล์ โอ้โหหหหห พัง!! วันนั้นมีแข่งฟุตบอลพอดี รถจอดกันเพียบ

สุดท้ายก็เดินจากไปสู่สวนทุ่งหญ้าสีเหลืองทอง เดินๆกันไป จนไปพบ!!!! ต้นไม้สีชมพูต้นแรกของทริปการเดินทางที่ตั้งใจจะมาดู เอ้าละ ใจชื้นละ กรุงโซลมีต้นไม้สีชมพู ดอกไม้บานละวุ้ย เราก็ถ่ายรูปกันสักพักจึงเดินต่อสู่สวนกันต่อไป ใกล้ๆที่เราถ่ายรูปกันก็จะมีสวนสำหรับพาสุนัขมาวิ่งเล่น มาฝึกอยู่ด้านข้างพอดีเลยไปเก็บภาพสักพักนึง

หลัวจากนั้นเราก็ได้เดินเท้าไปเรื่อยๆ ไปสู่สวนฮานึลปาร์ค(Haneul Park) ที่อยู่เพียงฝั่งตรงข้าม ระหว่างทางก็เจอดอกไม้เหลืองๆ ก็หยุดถ่ายกันอีกพักนึง
และข้ามสะพานลอยเข้าสู่สวนฮานึล ปาร์คในที่สุด

และด่านแลกที่เราจะเจอก็คือ การเดินขึ้นสู่ยอดนั้นเองงงงงงงง....  291 ขั้นเอง ชิวๆ แปปเดียวก็ถึง

ถึงยอดแล้วจ้าาาา เดินขึ้นก็พอเหนื่อยเบาๆ ไม่มากเท่าไหร่ หอบอยู่ 55 สุดทางบันไดที่ต้องขึ้นแล้วต้องเดินเท้าต่อไปตามทางสู่ยอด เพื่อถึงสวนที่เราจะไปกัน การขึ้นยอดเขาไปถึงสวนก็มีรถบริการนะ คนละ 2000 วอน

และในที่สุด.... เราก็ได้ถึงทุ่งหญ้าสีทองเสียที ผ่ามมมมมมมมม เหลืองอร่ามตา

นั้นและ ตามภาพเลย เดือนนี้ไม่เหมาะที่จะมานะจ้ะ จะบอกให้ 555 ทุ่งหญ้านั้นถูกตัดไปหมดแล้ววววววว เดือนที่ควรจะมา ก็ตุลา เป็นต้นไป ช่วงจะเข้าสู่ฤดูหนาว นั้นแหละ สุดก็เดินไปจุดชมวิว ตรงจุดชมวิวเราจะได้เห็นแม่น้ำที่ไหลผ่านเมือง มีสวนสาธารณะ ขนาดใหญ่ เลนจักรยาน สถานที่ออกกำลังกายครบ แบบเห็นละอยากมีแบบนั้นบ้างจริงๆเลย

หลังจากนั้นที่ถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางด้วยรถลงจากยอดเขา ไม่ไหวแล้วจ้าไม่เดินแล้ว ต้องพักร่างกายบ้าง เมื่อลงถึงตีนเข้า เราก็เดินทางไปโดยรถเมล์สาธารณะหาข้าวเย็น ช้อปปิ้งเล็กๆ ณ บริเวรใกล้ๆ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา เช่นเคยคนก็เยอะพอประมาน มาถ่ายรูปโพสท่ากันเพี้ยบ ที่นี้ยังไม่เห็นดอกซากุระบานอะไรเท่าไหร่ หรือไม่มีก็ไม่ทราบ มีแต่พุ่มชมพูๆ ไม่รู้ต้นอะไรนะ ถ่ายเสร็จก็จัดการหาของกิน หลังจากนี้เก็บกล้องแล้วต้องขออภัย จบวันแรกครับ...สวัสดี  เดียวมาต่อวันต่อไปครับผม  


ขอฝากไว้ในอ้อมใจ :: A Story
Ig : A____story #astroy
ชื่อสินค้า:   เกาหลี, ทริปเกาหลี, รีวิวทริปเกาหลี, Seoul, SouthKorea, ซากุระ, โซล, จินเฮ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่