เรานั่งเครื่องโดยสายการบิน ANA มาลงยังสนามบิน New Chitose ถึงประมาณ 17.00 พิพิธภัณฑ์โดเรมอนใกล้จะปิดแล้ว


เลยได้แค่ถ่ายรูปกับ Royce Chocolate World มาเท่านั้นเอง ...😭


คืนนี้เราเลือกพักที่ APA Susukino ใจกลางด้านแสงสี (จริงๆ เพิ่งรู้ตอนมาถึง)


ลากกระเป๋าเข้า Check-in เรียบร้อย เลยออกมาเดินเล่น หาอะไรทานกันซักหน่อย



พี่ชายจ๋า!! นู๋หิวจังเลย 🤤 พี่ชายบอกให้อดทนรอทานพรุ่งนี้พร้อมเพื่อน (เดินทางตามเรามาทีหลัง) เพราะทริปนี้เรามาทั้งหมด 9 วัน เพื่อนบอกนานไป 55+


เอ๊ะ!! นั่นอะไร เห็นคนมุงๆ กันอีกแล้ว เลยเบียดตัวเล็กๆ เข้าไปแย่งชิง 55+


ได้มาแล้วซาลาเปาลูกเบ้อเร่อ ไส้คล้ายๆ แกงกระหรี่ อุ่นๆ ทานแก้หนาวได้ดีเลย


ตบท้ายก่อนขึ้นนอน แวะ 7/11 กับน้ำผลไม้ เบียร์ (ขาดไม่ได้เล่อะ) และขนมนิดหน่อย ท้องอิ่มจะได้นอนหลับสบาย


แอร๊ย!! สายแล้ว นึกขึ้นได้ว่านัดไปรับเพื่อนที่สถานนี้ JR Supporo  ไว้ตอน 11 โมง line หากันไปๆ มา จนในที่สุดก็เจอกันจนได้ (ก็สถานีมันกว้างขวางซะขนาดนั้น) พาเพื่อนลากกระเป๋าไป Check-in เปลี่ยนเสื้อพาเรียบร้อย ก็เตรียมตัวตะลุยกันได้เลย


เรามาลงที่สถานี Odori เพื่อไปที่ Odori Park กับ Sapporo TV Tower แต่น่าเสียดายบรรยากาศมันแห้งๆ แล้งๆ ถ้ามาช่วงฤดูหนาว หรือช่วงซากุระ น่าจะสวยกว่านี้แต่ก็ได้ภาพสวยๆ ให้เพื่อนได้ 1 ภาพ



เดินไปตามทางเรื่อยๆก็จะถึง Sapporo Clock Tower สัญลักษณ์ของเมือง Sapporo


เดินไปจนถึงศาลาว่าการหลังเก่า เราชอบที่นี้ บรรยากาศน่ารัก ดูอบอุ่น


เดินถ่ายรูปสาวๆ จนหน่ำใจ ก็กลัวว่าพวกหนุ่มๆ จะเบื่อ เราเลยเปลี่ยนแพลนพาหนุ่มๆ ไป Sapporo Beer Museum แต่พอออกจากแพลน ก็จะหลง งงๆ หน่อย แต่ก็ไปกันจนถึง แนะนำถ้าไปหลานคนนั่ง Taxi ก็ดี เพราะเดินจากสถานีค่อนข้างไกล


ภายในพิพิธภัณฑ์จะแนะนำประวัติของเบียร์ในญี่ปุ่น และกระบวนการขั้นตอนการผลิตเบียร์



แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราสนใจ 555+ เพราะอ่านรีวิวมาว่า มีเบียร์ให้เทส มีทั้งหมด 3 รสชาติด้วยกัน เราจะต้องหยอดตู้ น่าจะอยู่ที่ 600 yen แล้วนำตั๋วมาให้พนักงานที่เคาร์เตอร์ ก็จะได้เบียร์น่าตาแบบนี้มา



เอ้า!! ชนแก้ว ชิมกันไปเบาๆ เราว่า Classic อร่อยสุดค่ะ


หลังจากตามใจหนุ่มๆ กันไปแล้ว กลับมาตามใจสาวๆ กันบ้าง ด้วยการไปโรงงานช็อคโกแลต กรี๊ดๆ!! ฟังไม่ผิดหรอก เราจะพาไป Shiroi Koibito Park


ระหว่างทางเดินจากสถานีไปโรงงานช็อคโกแลต มีอะไรให้ถ่ายรูปตลอดเลย


ต้องซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมโรงงาน (Factory walk) ที่เคาเตอร์กันก่อน ราคา 600 yen / คน และรับ "พาสปอร์ตเข้าโรงงาน" ที่จะมีแผนที่ภายในอาคารและคำอธิบายแต่ละส่วนไว้ให้ค่ะ



หลังจากชมโรงงานแล้ว มีให้ลองทำขนม มีให้เลือกหลายคอร์ส ทั้งคอ์สแต่งคุ้กกี้ด้วยชอคโกเเลต, คอร์สการทำคุ้กกี้เลยค่ะ


มีแบบเค้กต่างๆ ตั้งโชว์อยู่เรียงราย ในรูปน่าจะเป็นเค้กครบรอบ 70 ปีของ ISHIYA เองค่ะ


ภายในนี้มีร้านขนมหลายร้าน แต่เราเมื่อยละ เลยนั่งพักและทานขนมที่นี้กันเลย


จากตรงนี้เรามองเห็นสนามซ้อมฟุตบอลของเจคุง กันด้วยนะ (ชนาธิปไงจะใครล่ะ)


ทางเดินลงจากการชมโรงงานทำให้เราคิดว่าเราเป็นเจ้าหญิงเลยค่ะ ซึ่งด้านล่างจะเป็นขายขนม ของฝากของที่นี้ แต่ถ้าไม่อยากหอบหิ้วมากที่สนามบินก็มีขาย แต่เราก็อุดหนุนเค้าไปนิดหน่อย


พออิ่มหน่ำ สำราญใจเราเลยลงมาเดินที่ Park กัน ช่วงที่ลงมากำลังเปิดไฟ สวย งามเหมือนในนิทานเลย


ได้เวลาต้องอำลาโลกแห่ง Chocolate กันแล้วเพื่อไปยังสถานีต่อไป Mount Moiwa Ropeway


ถึงแบ้ว Mount Moiwa Ropeway  เพื่อชมวิวกลางคืนของซัปโปโร ค่าโดยสารกระเช้า 1,700 yen / คน บนนี้เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมากนัก เนื่องจากอากาศหนาว และลมแรงมาก ยืนได้แป๊ปเดียวก็รีบกลับเข้าไปด้านใน ซึ่งจะร้านขนม และไอศครีมขายค่ะ


ค่ำคืนนี้ขอลาไปด้วยบรรยากาศสวยๆ ของ Mount Moiwa ..✨

แล้วพบกันใหม่ กระทู้ถัดไป 👉🏻 👉🏻Kiroro Oh my God!!