คิดอย่างไรกับข่าวนี้ครับ [ สื่อรัสเซียเปิดพยานเบื้องหลังคลิป อาวุธเคมีโจมตีเมืองดูมาในซีเรีย “จริง” หรือ “จัดฉาก” ]

หมายเหตุ: “ข่าวสด” ถอดความรายงานพิเศษ เบื้องหลัง “นักแสดงฮอลลีวูดซีเรีย”: เปิดพยานผู้เห็นการจัดฉากเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมา จากผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์รอสซียา 24 ของรัสเซีย ในเมืองดูมา ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 18 เม.ย.

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เยฟกีนี พอดดุบนี ผู้สื่อข่าวสายทหารพร้อมทีมงานสถานีโทรทัศน์รอสซียา 24 มีโอกาสพูดคุยโดยตรงกับคนร่วมในคลิปจัดฉากเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมาของซีเรีย กลุ่มกบฏซีเรียใช้อาหารเป็นเครื่องมือหลอกล่อเด็กผู้หิวโหย และนำเด็กเหล่านี้มาถ่ายคลิปยั่วยุปลุกปั่นและเผยแพร่ผ่านองค์การ “หมวกนิรภัยสีขาว” หน่วยกู้ภัยในสงครามซีเรีย


ฮาซาน ดิอาบ เด็กชายวัย 11 ปี อาศัยอยู่ในเมืองดูมา ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนโด่งดังหลังจากปรากฏตัวในคลิป ฮาซานเป็นหลักฐานที่ยังมีชีวิตอยู่ (Living Proof) จากการบุกโจมตีอำนาจอธิปไตยของซีเรียโดยกลุ่มประเทศตะวันตกที่ใช้ข้อมูลเท็จของกลุ่มกบฏซีเรียมาเป็นข้ออ้าง

ฮาซานปรากฏในคลิปเมื่อวันที่ 7 เม.ย. มีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายปฐมพยาบาลให้ฮาซานที่โรงพยาบาลในเมืองดูมา หลังเกิดเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมี ทำท่าคอยช่วยเหลือ ราดน้ำ และเขย่าตัว ฮาซานอยู่ในสภาพเปียกแฉะ หวาดกลัว และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรอบๆ ตัวของเขา เย็นวันเดียวกันนั้น ฮาซานอยู่ที่บ้าน ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก

ฮาซานให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์รอสซียา 24 ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น


“ผมอยู่ในห้องใต้ดินครับ แม่บอกว่า วันนี้ไม่มีอะไรกินเลย ต้องรอพรุ่งนี้ พวกผมได้ยินเสียงคนตะโกนจากข้างนอกว่า “ไปโรงพยาบาล” พวกผมก็วิ่งไปโรงพยาบาลครับ ทันทีที่ผมมาถึงก็มีคนคว้าตัวและเริ่มราดน้ำ หลังจากนั้นพวกเราถูกจับนอนบนเตียงนอนติดกับคนอื่นๆ ครับ” ฮาซานเผย



จากคลิปที่มีการเผยแพร่ออกมา ฮาซานรู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว ด้านนายโอมาร์ ดิอาบ พ่อของฮาซาน เล่าว่า กลุ่มกบฏไม่อธิบายอะไรให้ลูกของผมฝัง แค่ตะโกนเรียกให้ทุกคนไปยังจุดหมายที่โรงพยาบาลของเมืองดูมา


“เมื่อผมรู้ว่าลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาลก็ขอตัวจากที่ทำงานและวิ่งไปโรงพยาบาล ไม่มีอาวุธเคมีครับ ผมสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกและไม่ได้รู้สึกอะไร เมื่อผมไปโรงพยาบาลก็เห็นครอบครัวของอยู่ที่นั้น กลุ่มกบฏให้อินทผลัม คุกกี้ และข้าวสาร มากิน เป็นการตอบแทนที่เข้าร่วมในการถ่ายคลิป และทุกคนได้รับการปล่อยตัวให้กลับบ้าน ลูกชายของผมรู้สึกดีมากครับ” โอมาร์ พ่อของฮาซาน ระบุ

ฮาซานรู้สึกดีมากและจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่า ทำไมตัวเองกลายเป็นที่น่าสนใจอย่างมากในเวลานี้ ความจริงแล้ว ฮาซานโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างที่รู้กันว่าหน่วยงานพิเศษจากต่างประเทศจะไม่ให้ใครเห็น เมื่อเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ แต่กลุ่มกบฏในเมืองดูมาก็ทิ้งหลักฐานไว้มากมายจนเห็นอย่างชัดเจนว่ามีอะไรผิดปกติ

ในห้องโถงของโรงพยาบาลดูมา องค์การ “หมวกนิรภัยสีขาว” หน่วยกู้ภัยในสงครามซีเรีย ถ่ายคลิปสภาพผู้คนหลังคนถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่า คลิปดังกล่าวเป็นการจัดฉากขึ้นมา

บารา บาดรัน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเมืองดูมา เล่าเหตุการณ์ขณะปฏิบัติงานในวันที่ 7 เม.ย. ซึ่งมีการถ่ายคลิปจัดฉากว่า ไม่ได้รับแจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บจากการได้รับสารพิษอยู่ในโรงพยาบาล และมีผู้คนต่างเอาสายยางฉีดน้ำใส่ตัวเอง แต่ไม่มีใครมีอาการจากการได้รับสารพิษ


“ในวันนั้นมีสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากถูกทำลายและเกิดเพลิงไหม้ ผงฝุ่นและควันจากสิ่งปลูกสร้างฟุ้งกระจายจนผู้คนประสบปัญหาการหายใจ ถูกนำตัวส่งมาโรงพยาบาล พวกเราให้ความช่วยเหลือ ตอนมีคนวิ่งเข้ามาและตะโกนร้องทันทีว่า “เราถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี! เราถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี!” ผู้คนเริ่มตักน้ำราดตัวเอง แต่ความจริงแล้วไม่มีหลักฐานบ่งชี้สำหรับเรื่องนี้ (ที่ว่าได้รับสารพิษจากอาวุธเคมี)” บารา บาดรัน ระบุ


จิ๊กซอว์อีกชิ้นหนึ่งที่ทำให้เห็นภาพรวมทั้งหมด คือ ห้องปฏิบัติการใต้ดินของกลุ่มกบฏ ซึ่งเห็นอย่างชัดเจนว่า กลุ่มกบฏใช้ห้องปฏิบัติการใต้ดินแห่งนี้ เพื่อเตรียมการยั่วยุปลุกปั่น โดยใช้อาวุธเคมีโจมตีในเมืองดูมา ที่นี่ยังผลิตคลอรีน และพบทั้งเอกสารทางเทคนิคและตัวทำปฏิกิริยา (สสารตอนเริ่มต้นในปฏิกิริยาเคมี) ด้วย

กลุ่มกบฏอาจผลิตสารพิษในห้องปฏิบัติการแห่งนี้สำหรับเป้าประสงค์ทางการทหารของตัวเอง ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาในซีเรีย ผู้เชี่ยวชาญอิสระตรวจสอบและบันทึกข้อมูลว่า มีการใช้อาวุธเคมีหลายสิบกรณีจากฝีมือของกลุ่มกบฏ ทว่าซีกโลกตะวันตกไม่สนใจข้อมูลเหล่านี้ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเพราะอะไร

หมายเหตุ: “ข่าวสด” ถอดความรายงานพิเศษ เบื้องหลัง “นักแสดงฮอลลีวูดซีเรีย”: เปิดพยานผู้เห็นการจัดฉากเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมีในเมืองดูมา จากผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์รอสซียา 24 ของรัสเซีย ในเมืองดูมา ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 18 เม.ย.

ที่มาครับ

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_981813
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่