สวัสดีครับ ผมขอเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยนะครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนครับว่าลักษณะบ้านที่ผมอยู่เป็นบ้านเช่าที่อยู่ติดกัน (หลังคาเดียวกัน) ซึ่งเป็นบ้านของญาติ โดยหลังที่ผมอยู่พ่อได้ซื้อแล้วครับ ส่วนอีกหลังได้ปล่อยเช่า (ญาติให้พ่อดูแล เก็บค่าเช่า)
วันนึงได้มีคนมาขอเช่า ซึ่งคนที่มาเช่าเป็นครอบครัวเล็กๆ มี พ่อ แม่ และลูกน้อย รวม 3 คน มีสุนัขอีก 1 ตัว ก่อนจะเช่าก็ไม่ได้มีการทำสัญญาเช่าแต่อย่างใด อยู่ๆ ก็ติดต่อน้องผม แล้วเข้ามาดูบ้าน แล้วบอกจะเช่าเลย หลังจากนั้น 1-2 วันก็เอาเงินค้าเช่าให้น้องผม แล้วน้องก็เอามาให้พ่อ ทั้งๆ ที่คนเช่ายังไม่ได้เข้ามาคุยหรือตกลงกับพ่อผมเลย จากนั้นคนเช่าใช้เวลา 3 วัน ก็ขนของมาตั้งไว้หน้าบ้านเช่าเลื่อยๆ โดยไม่บอกกล่าวเลย ซึ่งของเยอะมากเลยครับ เพราะเขาเหมือนขายเครื่องดื่ม น้ำองุ่น พวกนี้แหละครับ บ้านมีแค่ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แอร์ 1 ตัวเองครับ ของที่ขนมาเหมือนยกมาทั้งโกดัง ตั้งของสูงหลายชั้นบังหน้าบ้านผมหมดเลยครับ อีกอยากมีรถตั้ง 3  คัน ที่จอดก็ไม่มี แถมคนเช่ายังไปจอดไว้ที่บ้านที่อยู่ตรงข้ามอีก ตอนนี้เครียดมาก และตั้งแต่เขามาเช่าบ้านก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลย ต่างคนต่างอยู่เลยครับ คือถ้าเป็นคนปกติก็ต้องมีอัธยาศัย ที่ดีต่อกันพูดจาทักทายกัน
่ส่วนเรื่องที่ผมบอกว่าคนเช่าเห็นแก่ตัว คือ
-ขนย้ายของเข้ามาตั้งไว้หน้าบ้านโดยไม่บอกกล่าวสักคำ (คนเช่าไม่ได้บอกด้วยครับว่าจะเข้ามาอยู่วันไหน)
-เจาะผนังบ้านโดยไม่ขออนุญาตเลย
-เก็บมะม่วงหรือผักต่างๆ โดยไม่ขอสักคำ ทั้งๆ ที่เห็นว่ามีเจ้าของเดินอยู่หน้าบ้าน
-การจอดรถ ไปจอดหน้าบ้านคนอื่นโดยไม่มีความเกรงใจ
-เก็บสินค้าหรือของที่เอามาขาย สูงบังบ้านคนอื่น

แต่พ่อก็ไม่เคยไปบอกเขานะครับว่าให้เกรงใจคนอื่นบ้าง เพราะพ่อกลัวว่าจะมีปัญหากัน

ผมควรทำไงดีครับ เพราะตอนนี้ครอบครัวผมเครียดมาก อยากจะไล่ออก แต่เขาพึ่งมาอยู่ได้ 1 อาทิตย์เองครับ มีวิธีไหนช่วยได้ไหมครับ

ขอบคุณครับ

#บทเรียนบ้านเช่า