คอนโดเรามีห้องนอนอยู่ 4 ห้อง แต่มีห้องนอนหลักห้องเดียว นอกนั้นก็จะเป็นห้องเล็กๆ เราและเเฟนเรากะว่าจะให้ลูกอยู่ 2 ห้อง และอีกห้องก็ให้พ่อแม่เขามาค้างถ้าพ่อแม่เขามาจากตจว. แต่พี่ชายเเฟนขอเข้ามาอยู่ทั้งๆที่เขาก็มีบ้านของเขาอยู่แล้ว โดยให้เหตุผลว่าแฟนใหม่ที่เขาเพิ่งเจอกันได้ประมาณ 2 อาทิตย์นั้น ไม่ชอบใจที่จะต้องไปอยู่ทับที่แฟนเก่า ด้วยความที่แฟนเราเขาไม่คิดอะไรมากก็ให้เข้ามาอยู่ แต่พอเรารู้เรื่อง เราก็ไม่ชอบใจ เพราะเราถือว่ารักความเป็นส่วนตัวมาก และพอรู้เรื่องราวของพี่ชายแฟนว่าเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย จนทำให้เรารู้สึกไม่ได้อยากไปสุงสิงอะไรกับเขา เราและเเฟนทะเลาะกันบ่อยๆในเรื่องนี้ แต่จุดแตกหักมีอยู่ว่าตอนนั้นเราและแฟนยังไม่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่คอนโดเลยเพราะงานบิ้วอิ้นยังไม่เสร็จ พี่ชายแฟนและคู่ขาใหม่ของเขาในตอนแรกอยู่ในห้องนอนเล็ก แต่ไปๆมาๆย้ายเข้าไปอยู่ในห้องนอนหลัก โดยให้เหตุผลว่าห้องนอนเล็กแอร์มันร้อน แฟนเราเข้าไปเจอหลังจากที่เขาย้ายเข้าไปกันได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว เขาและพี่ชายก็ทะเลาะกันจนเเฟนเราร้องไห้เพราะพี่ชายเขาโกรธแฟนเราที่มีปัญหา เอาจริงๆเราเองก็ไม่ชอบใจมาตั้งแต่เเรก แล้วยิ่งรู้ว่าเขาเข้าไปอยู่ในห้องนอนหลักที่สมควรจะเป็นห้องของเจ้าของบ้าน เราก็โมโห และเเอบมีความเกลียดพี่ชายแฟนขึ้นมานิดๆอยู่ในใจ จากตอนแรกแค่ไม่อยากสุงสิง แต่ตอนนี้อยากตีตัวออกห้างไปให้ไกลเลย พี่ชายแฟนและคู่ขาของเขาก็ได้ย้ายออกไปจากคอนโดเรา หลังจากนั้นเขาก็มาเยี่ยมพ่อแม่แฟนบ้างเวลาท่านทั้งสองมาจากตจว.แล้วมาพักอยู่มี่คอนโดเราครั้งละหลายๆวัน
ที่พูดว่าคอนโดเรามันแค่เป็นความเคยชิน แต่เอาจริงๆแล้ว เราไม่มีส่วนช่วยคชจ.อะไรเลยในคอนโด เพราะเเฟนเราเต็มใจที่จะจ่ายทั้งหมดเอง เนื่องจากเรามีเงินเดือนน้อย แต่รายจ่ายที่บ้านเราค่อนข้างมาก
พอเราและแฟนแต่งงานกัน เราก็ย้ายเข้าไปอยู่คอนโดโดยทำที่นั่นเป็นเรือนหอ ห้องส่งตัวในวันแต่งงาน หลังจากนั้นอีก 1 ปี เราและสามีก็ยังไม่มีลูก เราจึงปล่อยไปตามธรรมชาติโดยไม่คิดอะไรให้ไม่สบายใจอีก แต่ลูกก็ยังไม่มาเกิด จนสามีเราต้องย้ายไปทำงานประจำที่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 ปี เราจึงตัดสินใจไปด้วยกัน โดยตอนแรกเรายังอยู่ที่ไทยก่อน แล้วค่อยตามเขาไป โดยคอนโดเราให้กุญแจและคีย์การ์ดไว้กับพ่อแม่ของเราให้เข้าไปดูบ้างนานๆที เราและแฟนจะกลับไปก็ต่อเมื่อมีวันหยุดอย่างน้อย 1 อาทิตย์ ครั้งหนึ่งเรากลับไปไทย พี่ชายของสามีเราก็เอ่ยปากขอกุญแจกับคีย์การ์ดคอนโดไว้โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยมาดูให้ถ้าพ่อแม่เราไม่ว่างเนื่องจากพ่อแม่เราอยู่ไกลกว่าเขา แฟนเราก็ให้ไป หลังจากนั้นเราก็กลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่น โดยดูกล้องในคอนโดบ้างเป็นครั้งคราว ก็เห็นว่าพี่ชายแฟนชอบไปนั่งเล่นที่คอนโดเราเป็นเวลานานๆ หลายครั้ง และเขาก็ได้ย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ในคอนโด และโทรมาบอกสามีเราว่าเขาย้ายเข้ามาแล้วนะ ทะเลาะกับแฟน จะเลิกแล้ว แฟนเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เราและสามีก็เต็มใจให้อยู่ เพราะเราถือว่าเขาเป็นพี่ชายคนเดียวของสามี มาอยู่คนเดียว และมีเรื่องร้อนใจมา ก็มาพักให้หายร้อน
ครั้งล่าสุดที่เรากลับไทยและได้เจอพี่ชายสามี อยู่ที่คอนโดได้ยินเขาพูดกับสามีว่าช่วงนี้ธุรกิจเขากำลังแย่ เขาไม่ค่อยมีเงินใช้ สามีเราเลยพูดขึ้นประมาณว่า ก็อยู่ที่นี่ไปได้ ยินดีให้อยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตต่างๆ ตัดจากบัตรเครดิตสามีเราหมด เต็มใจที่จะช่วยเหลือ เราก็เกิดความซึ้งใจในความรักและความปรารถนาดีที่สามีเรามีต่อคนในครอบครัว ถึงแม้ว่าพี่ชายสามีไม่เคยเห็นว่าคนอื่นหยิบยื่นน้ำใจให้หลายต่อหลายครั้ง เพียงแค่มีเรื่องขัดใจเขานิดเดียว เขาก็พร้อมที่จะตัดความสัมพันธ์แล้วเดินออกไปทันที เป็นเเบบนี้มาหลายต่อหลายครั้ง เราถึงกล้าพูดได้อย่างเต็มปาก ว่าพี่ชายสามีเราไม่เคยเห็นค่าน้ำใจใครในวันที่คนๆนั้นมีปัญหาขัดใจเขา หลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็กลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่น
จนวันหนึ่งแฟนเราก็ได้มาบอกเราว่าพี่ชายเขาขอพอผู้หญิงเข้าไปค้างได้ไหม เราก็ไม่พอใจเกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้นเนื่องจากสามีอนุญาตไปแล้วก่อนที่จะมาถามเรา เราทะเลาะกันบ่อยๆ เพราะเราไม่ชอบให้คอนโดเราเป็นเหมือนโรงแรมที่จะมีใครมาค้างก็ได้ โดยที่เราไม่รู้จัก ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยู่ที่นั่นก็ตาม เราไม่ชอบ!
แต่สามีเราก็ไม่ได้ไปบอกพี่ชายเขา เลือกที่จะทะเลาะกับเราไปเรื่อยๆแทนที่จะเอ่ยปากให้พี่ชายเขาพาผู้หญิงของเขาออกไป ผู้หญิงที่เข้าออกคอนโดเรามีอย่างน้อย 4 คนแล้วในระยะเวลาที่เราไม่อยู่ไทย พี่ชายเขาให้เหตุผลที่ไม่พาไปที่บ้านเขาว่าตอนนี้แฟนเขาที่เลิกกันแล้วยังไม่ยอมย้ายออกไป เขาจึงต้องออกมาอยู่ที่อื่นเเทน เพราะตัดสินใจเลิกแล้ว พี่ชายแฟนแต่ละครั้งพาผู้หญิงมาค้างก็ย้ายไปห้องโน้นบ้างห้องนี้บ้าง ห้องพ่อแม่บ้าง แต่ไม่สามารถเข้าไปห้องหลักได้เพราะเราไม่ได้ทิ้งกุญแจไว้กับเขาและเราล็อคห้องไว้ตลอดเวลา
เราไม่พอใจมาก ไม่ชอบเลยที่เขามาทำแบบนี้ในคอนโดเรา เราไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายถ้าไม่จำเป็น
เรื่องนี้เราคุยกับสามีแล้ว แต่สามีก็บอกว่าเราใจแคบเกินไป พี่ชายเขามาอยู่จะพาใครมาก็แล้วแต่เพราะมีห้องนอนตั้งหลายห้อง มาพักมาอาศัยได้ไม่เป็นไร เพียงแต่อย่าเข้าไปนอนในห้องของเราเท่านั้น เเต่เราก็ยังไม่ชอบใจอยู่ ตอนนี้รู้สึกว้าวุ่นมาก พยายามทำใจให้สงบแล้ว แต่เวลานึกถึงไทยเราก็จะคิดถึงคอนโดแล้วพาลไปนึกถึงพวกผู้หญิงที่พี่ชายสามีเราพาเข้าไปในคอนโดเราเรื่อยๆ
เราคิดมากไปหรอ และเราควรทำไงดีคะ?
ทำอย่างไรเมื่อพี่ชายสามีชอบเอาผู้หญิงมามั่วในบ้านเรา
ที่พูดว่าคอนโดเรามันแค่เป็นความเคยชิน แต่เอาจริงๆแล้ว เราไม่มีส่วนช่วยคชจ.อะไรเลยในคอนโด เพราะเเฟนเราเต็มใจที่จะจ่ายทั้งหมดเอง เนื่องจากเรามีเงินเดือนน้อย แต่รายจ่ายที่บ้านเราค่อนข้างมาก
พอเราและแฟนแต่งงานกัน เราก็ย้ายเข้าไปอยู่คอนโดโดยทำที่นั่นเป็นเรือนหอ ห้องส่งตัวในวันแต่งงาน หลังจากนั้นอีก 1 ปี เราและสามีก็ยังไม่มีลูก เราจึงปล่อยไปตามธรรมชาติโดยไม่คิดอะไรให้ไม่สบายใจอีก แต่ลูกก็ยังไม่มาเกิด จนสามีเราต้องย้ายไปทำงานประจำที่ญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 ปี เราจึงตัดสินใจไปด้วยกัน โดยตอนแรกเรายังอยู่ที่ไทยก่อน แล้วค่อยตามเขาไป โดยคอนโดเราให้กุญแจและคีย์การ์ดไว้กับพ่อแม่ของเราให้เข้าไปดูบ้างนานๆที เราและแฟนจะกลับไปก็ต่อเมื่อมีวันหยุดอย่างน้อย 1 อาทิตย์ ครั้งหนึ่งเรากลับไปไทย พี่ชายของสามีเราก็เอ่ยปากขอกุญแจกับคีย์การ์ดคอนโดไว้โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยมาดูให้ถ้าพ่อแม่เราไม่ว่างเนื่องจากพ่อแม่เราอยู่ไกลกว่าเขา แฟนเราก็ให้ไป หลังจากนั้นเราก็กลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่น โดยดูกล้องในคอนโดบ้างเป็นครั้งคราว ก็เห็นว่าพี่ชายแฟนชอบไปนั่งเล่นที่คอนโดเราเป็นเวลานานๆ หลายครั้ง และเขาก็ได้ย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ในคอนโด และโทรมาบอกสามีเราว่าเขาย้ายเข้ามาแล้วนะ ทะเลาะกับแฟน จะเลิกแล้ว แฟนเราก็ไม่ได้ว่าอะไร เราและสามีก็เต็มใจให้อยู่ เพราะเราถือว่าเขาเป็นพี่ชายคนเดียวของสามี มาอยู่คนเดียว และมีเรื่องร้อนใจมา ก็มาพักให้หายร้อน
ครั้งล่าสุดที่เรากลับไทยและได้เจอพี่ชายสามี อยู่ที่คอนโดได้ยินเขาพูดกับสามีว่าช่วงนี้ธุรกิจเขากำลังแย่ เขาไม่ค่อยมีเงินใช้ สามีเราเลยพูดขึ้นประมาณว่า ก็อยู่ที่นี่ไปได้ ยินดีให้อยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ตต่างๆ ตัดจากบัตรเครดิตสามีเราหมด เต็มใจที่จะช่วยเหลือ เราก็เกิดความซึ้งใจในความรักและความปรารถนาดีที่สามีเรามีต่อคนในครอบครัว ถึงแม้ว่าพี่ชายสามีไม่เคยเห็นว่าคนอื่นหยิบยื่นน้ำใจให้หลายต่อหลายครั้ง เพียงแค่มีเรื่องขัดใจเขานิดเดียว เขาก็พร้อมที่จะตัดความสัมพันธ์แล้วเดินออกไปทันที เป็นเเบบนี้มาหลายต่อหลายครั้ง เราถึงกล้าพูดได้อย่างเต็มปาก ว่าพี่ชายสามีเราไม่เคยเห็นค่าน้ำใจใครในวันที่คนๆนั้นมีปัญหาขัดใจเขา หลังจากนั้นไม่กี่วันเราก็กลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่น
จนวันหนึ่งแฟนเราก็ได้มาบอกเราว่าพี่ชายเขาขอพอผู้หญิงเข้าไปค้างได้ไหม เราก็ไม่พอใจเกิดการทะเลาะกันเกิดขึ้นเนื่องจากสามีอนุญาตไปแล้วก่อนที่จะมาถามเรา เราทะเลาะกันบ่อยๆ เพราะเราไม่ชอบให้คอนโดเราเป็นเหมือนโรงแรมที่จะมีใครมาค้างก็ได้ โดยที่เราไม่รู้จัก ถึงแม้ว่าเราจะไม่อยู่ที่นั่นก็ตาม เราไม่ชอบ!
แต่สามีเราก็ไม่ได้ไปบอกพี่ชายเขา เลือกที่จะทะเลาะกับเราไปเรื่อยๆแทนที่จะเอ่ยปากให้พี่ชายเขาพาผู้หญิงของเขาออกไป ผู้หญิงที่เข้าออกคอนโดเรามีอย่างน้อย 4 คนแล้วในระยะเวลาที่เราไม่อยู่ไทย พี่ชายเขาให้เหตุผลที่ไม่พาไปที่บ้านเขาว่าตอนนี้แฟนเขาที่เลิกกันแล้วยังไม่ยอมย้ายออกไป เขาจึงต้องออกมาอยู่ที่อื่นเเทน เพราะตัดสินใจเลิกแล้ว พี่ชายแฟนแต่ละครั้งพาผู้หญิงมาค้างก็ย้ายไปห้องโน้นบ้างห้องนี้บ้าง ห้องพ่อแม่บ้าง แต่ไม่สามารถเข้าไปห้องหลักได้เพราะเราไม่ได้ทิ้งกุญแจไว้กับเขาและเราล็อคห้องไว้ตลอดเวลา
เราไม่พอใจมาก ไม่ชอบเลยที่เขามาทำแบบนี้ในคอนโดเรา เราไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายถ้าไม่จำเป็น
เรื่องนี้เราคุยกับสามีแล้ว แต่สามีก็บอกว่าเราใจแคบเกินไป พี่ชายเขามาอยู่จะพาใครมาก็แล้วแต่เพราะมีห้องนอนตั้งหลายห้อง มาพักมาอาศัยได้ไม่เป็นไร เพียงแต่อย่าเข้าไปนอนในห้องของเราเท่านั้น เเต่เราก็ยังไม่ชอบใจอยู่ ตอนนี้รู้สึกว้าวุ่นมาก พยายามทำใจให้สงบแล้ว แต่เวลานึกถึงไทยเราก็จะคิดถึงคอนโดแล้วพาลไปนึกถึงพวกผู้หญิงที่พี่ชายสามีเราพาเข้าไปในคอนโดเราเรื่อยๆ
เราคิดมากไปหรอ และเราควรทำไงดีคะ?