คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ซื่อสัตย์กับตัวเองไว้ดีกว่าครับ คุณเชื่อว่าศาสนาของคุณเป็นศาสนาที่ดีอยู่แล้ว
ไม่ต้องการละทิ้งศาสนาเดิมไปนับถือศาสนาใหม่ที่คุณไม่ได้ศรัทธาจากใจจริง
และความคิดที่ว่า ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ก็เป็นความคิดที่คนปกติธรรมดาทั่วไปยอมรับกันอยู่แล้ว
ดังนั้นในประเด็นนี้ ทางเลือกที่ดีกว่าคือแสดงให้เขาเห็นว่าคุณเป็นคนดีในศาสนาของคุณก็พอ
ถ้าคุณไปเปลี่ยนศาสนาเพียงเพื่อจะให้แม่ของเขายอมรับ ทั้งๆที่ไม่ศรัทธาตามแบบที่ควรจะเป็น
มันกลับจะทำให้คุณดูเป็นคนหลอกลวง เสแสร้ง เป็นที่รังเกียจของคนศาสนาเขามากกว่า
ทีนี้โจทย์ต่อมาคือจะก้าวข้ามเงื่อนไขที่ว่า ต้องเป็นมุสลิมถึงจะได้แต่งงาน ได้อย่างไร ?
ผมว่ากรณีของคุณยังง่ายกว่าคู่อื่นๆอีกหลายคู่ เพราะแฟนคุณเป็นคนเยอรมันที่ไม่เคร่งศาสนา ซึ่งน่าจะมีความเข้าใจ
โลกสมัยใหม่ ทั้งในเรื่องวิทยาการต่างๆ เรื่องสิทธิมนุษชน ความเชื่อทางศาสนาเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
เป็นเรื่องปัจเจก คนทุกคนมีอิสระที่จะมีความเชื่อเป็นของตัวเอง และไม่มีสิทธิไปบังคับผู้อื่น
ใช้เหตุผลนี้คุยกับแฟนของคุณให้เห็นว่าความเชื่อของแม่แฟนที่ทำให้คุณต้องเลือก
ระหว่างการเปลี่ยนศาสนากับเลิกกัน เป็นเรื่องไม่ถูกต้องเสียก่อน เมื่อคุณได้แฟนคุณมาเป็นกำลังเสริม
การเปลี่ยนความคิดของแม่แฟนคุณก็จะง่ายขึ้น
ขั้นต่อมาควรจะทำอย่างระมัดระวัง ถ้าแฟนของคุณไม่ใช่พวกที่เคร่งศาสนาจนเกินไป ก็น่าจะคุยกันรู้เรื่อง
ลองยกตัวอย่างคำสอนในศาสนาเขามาสักเรื่องที่พิสูจน์ได้ง่ายว่ามันไม่ถูก เช่นลองให้เขาเรียงลำดับ
การเกิดขึ้นของ โลก พระอาทิตย์ และกลางคืนกลางวัน ตามที่ศาสนาเขาสอน อันไหนเกิดก่อน
อันไหนเกิดทีหลัง ซึ่งมันไม่ตรงกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเปิดใจเขา
ให้เขาเห็นว่าสิ่งที่ศาสนาเขาสอนมันไม่ได้ถูกต้องไปซะทั้งหมดทุกเรื่อง จากนั้นค่อย
เอาเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันมาคุยกันว่า ในความเป็นจริงมันมีข้อดีข้อเสียอะไร ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิตคุณทั้งสองคน
ใช้เหตุผลคุยกันให้ได้คำตอบว่า มันเป็นคำสอนที่ควรจะไปยึดถือปฏิบัติตามหรือไม่
จากนั้นทางออกของปัญหาก็จะตามมาเองครับ
ไม่ต้องการละทิ้งศาสนาเดิมไปนับถือศาสนาใหม่ที่คุณไม่ได้ศรัทธาจากใจจริง
และความคิดที่ว่า ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ก็เป็นความคิดที่คนปกติธรรมดาทั่วไปยอมรับกันอยู่แล้ว
ดังนั้นในประเด็นนี้ ทางเลือกที่ดีกว่าคือแสดงให้เขาเห็นว่าคุณเป็นคนดีในศาสนาของคุณก็พอ
ถ้าคุณไปเปลี่ยนศาสนาเพียงเพื่อจะให้แม่ของเขายอมรับ ทั้งๆที่ไม่ศรัทธาตามแบบที่ควรจะเป็น
มันกลับจะทำให้คุณดูเป็นคนหลอกลวง เสแสร้ง เป็นที่รังเกียจของคนศาสนาเขามากกว่า
ทีนี้โจทย์ต่อมาคือจะก้าวข้ามเงื่อนไขที่ว่า ต้องเป็นมุสลิมถึงจะได้แต่งงาน ได้อย่างไร ?
ผมว่ากรณีของคุณยังง่ายกว่าคู่อื่นๆอีกหลายคู่ เพราะแฟนคุณเป็นคนเยอรมันที่ไม่เคร่งศาสนา ซึ่งน่าจะมีความเข้าใจ
โลกสมัยใหม่ ทั้งในเรื่องวิทยาการต่างๆ เรื่องสิทธิมนุษชน ความเชื่อทางศาสนาเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
เป็นเรื่องปัจเจก คนทุกคนมีอิสระที่จะมีความเชื่อเป็นของตัวเอง และไม่มีสิทธิไปบังคับผู้อื่น
ใช้เหตุผลนี้คุยกับแฟนของคุณให้เห็นว่าความเชื่อของแม่แฟนที่ทำให้คุณต้องเลือก
ระหว่างการเปลี่ยนศาสนากับเลิกกัน เป็นเรื่องไม่ถูกต้องเสียก่อน เมื่อคุณได้แฟนคุณมาเป็นกำลังเสริม
การเปลี่ยนความคิดของแม่แฟนคุณก็จะง่ายขึ้น
ขั้นต่อมาควรจะทำอย่างระมัดระวัง ถ้าแฟนของคุณไม่ใช่พวกที่เคร่งศาสนาจนเกินไป ก็น่าจะคุยกันรู้เรื่อง
ลองยกตัวอย่างคำสอนในศาสนาเขามาสักเรื่องที่พิสูจน์ได้ง่ายว่ามันไม่ถูก เช่นลองให้เขาเรียงลำดับ
การเกิดขึ้นของ โลก พระอาทิตย์ และกลางคืนกลางวัน ตามที่ศาสนาเขาสอน อันไหนเกิดก่อน
อันไหนเกิดทีหลัง ซึ่งมันไม่ตรงกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเปิดใจเขา
ให้เขาเห็นว่าสิ่งที่ศาสนาเขาสอนมันไม่ได้ถูกต้องไปซะทั้งหมดทุกเรื่อง จากนั้นค่อย
เอาเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันมาคุยกันว่า ในความเป็นจริงมันมีข้อดีข้อเสียอะไร ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิตคุณทั้งสองคน
ใช้เหตุผลคุยกันให้ได้คำตอบว่า มันเป็นคำสอนที่ควรจะไปยึดถือปฏิบัติตามหรือไม่
จากนั้นทางออกของปัญหาก็จะตามมาเองครับ
แสดงความคิดเห็น
มีแฟนที่กำลังจะแต่งงานด้วยนับถืออิสลาม
แฟนเป็นลูกครึ่งเยอรมันกับตุรกี คุณแม่ของเค้านับถืออิสลาม คุณพ่อเป็นชาวเยอรมันแท้ๆ เค้าเกิดและโตที่เยอรมัน แต่นับถือศาสนาตามแม่ของเค้า
และพวกท่านมีแฟนเราโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่พวกท่านก็หย่ากันตั้งแต่เค้ายังเล็กๆ แฟนของเราเลยเลือกที่จะอยู่กับแม่และนับถืออิสลามตามไปด้วยคะ แต่แฟนไม่ได้เคร่งมาก ท่องบทสวดก็ไม่เป็น เคยไปมัสยิดแค่หนึ่งครั้งในชีวิต
ตัวเราเองนับถือพุทธ เรากับแฟนคุยกันคร่าวๆว่าถึงเวลาที่จะต้องแต่งงานแล้ว
แต่ปัญหามาเกิดตรงที่ เค้าไปบอกคุณแม่ว่าจะแต่งงานกับเราที่เป็นพุทธ แต่คุณแม่เค้าบอกว่าเราต้องเปลี่ยนศาสนาถึงจะแต่งได้
แต่ใจเราไม่อยากเปลี่ยนคะเพราะเชื่อว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีด้วยกันทั้งหมด... เราทั้งคู่รักกันดีมากนะคะ เค้าเป็นคนดีมากคนนึง เรื่องนี้ทำให้เราคิดหนักมาหลายวันแล้ว คิดเท่าไหร่ก็หาทางออกไม่ได้สักที
เราเคยถามเค้านะคะว่าถ้าเราไม่เปลี่ยนแล้วเรายังสามารถแต่งงานกันได้ไหม? เค้าบอกงั้นก็คงไม่ได้แต่ง
อยากถามเพื่อนๆท่านไหนหรือคนที่เคยมีประสบการ์ณเหมือนกับเราว่าพอจะมีทางไหนที่จะพยุงรักไปให้รอดโดยที่ไม่ต้องเลิกรากันไหมคะ? หรือการเลิกกันคือทางออกที่ดีที่สุด?
ปล. เดือนหน้าแฟนจะพาไปหาคุณแม่ของเค้าแล้ว TT