สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 27
ผมเองก็ไม่อยากมีครับ อยู่สองคนกับแฟนเงียบๆก็สุขใจแล้ว
หลายๆคนบอกว่า "ไม่ได้อยากมี แต่ครอบครัวบีบให้มี" (ซึ่งผมก็โดน) ผมยิ่งไม่ happy ผมไม่อยากทำแบบนั้นกับลูก คืออยากให้ผมมีลูกเพราะเขาอยากมีหลาน แต่ภาระการเลี้ยงดูนั่นชีวิตเราล้วนๆ คือจะให้มีลูกเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข นี่คือมันใช่เหรอ และชอบมาบอกว่าถ้าผมมีลูกผมก็มีความสุขเอง คือความสุขเรา เราขอเลือกเองได้ไหม ทำไมต้องกลายเป็นเราแบกรับความหวังคนอื่นเพื่อจะมีความสุข
ผมโคตรจะเบื่อภาวะแบบนี้ครับ เลยไม่อยากมีลูก ไม่ชอบคาดหวังกับชีวิตใคร ไม่ใช่ว่าครอบครัวผมไม่ดีนะครับ ดีมากๆ และมันก็เป็นเรื่องปกติ พ่อแม่ไม่หวังกับลูกจะให้หวังกับใครล่ะครับ หรือว่าไม่จริง...? แต่การเอาความหวังไว้ที่คนอื่นไม่ใช่ธรรมชาติของผม ผมจะสมหวังหรือผิดหวังขอรับผิดชอบเอง
ที่สำคัญ ผมเบื่อเหตุผลที่ชอบอ้างกัน
1. จะได้มีคนเลี้ยงดูยามแก่ ไม่อยากหวังกับใครครับ ถ้าเขาไม่เลี้ยง จะมานั่งร้องไห้ ด่าทอสาปแช่งให้ลูกเป็นบาป ให้คนมองว่าลูกเป็นคนเนรคุณ ผมไม่เอาหรอกครับ ไหนว่ารักโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วดูแลยามแก่นี่ไม่ใช่เงื่อนไขเหรอ...?? เขามีทางเลือกเหรอ ไม่ดูแล=เนรคุณ=ไม่เจริญ ถ้าข้ออ้างนี้มันจริงป่านนี้อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ล้มละลายหมดแล้วครับ ไม่มีใครเจริญเท่าไทยแน่ๆ ประเทศอื่นเขามีรัฐสวัสดิการทุกคนดูแลตัวเองได้ ไทยนี่ค่านิยมแบบนี้ เกิดลูกหลานจนก็ใช้ชีวิตกับการดูแลครอบครัวไปครับ ชีวิตตัวเองหมดเกลี้ยง พอพูดแบบนี้ก็จะหาว่าแรง ว่าเป็นคนไม่ดี คุณเข้าใจผิด ครอบครัวผมรักกันดี ทุกวันนี้ดูแลพ่อแม่ตามเหมาะสม และพ่อแม่ผมก็ไม่ได้เป็นภาระอะไร ผมแค่มองสังคมจริงๆที่บางบ้านลูกไม่ได้ผุดได้เกิดกับชีวิตตัวเองเพราะต้องหาเงินส่งให้คนข้างหลัง อะไรแบบนี้
สรุปว่าผมไม่หวังข้อนี้ครับ สงสารลูกเพราะ เขาก็คือชีวิตหนึ่งเช่นกัน เขาอาจรวยหรือจนหรือมีภาระ แม้แต่ตายก่อนเรา ฉะนั้น เราไม่หวังเป็นภาระใคร
2. จะได้มีโซ่ทองคล้องใจ ครอบครัวสมบูรณ์ เอาตรงๆนะครับ..!! ไม่จำเป็นเลยครับ สามีภรรยาจะอยู่กันได้ไม่จำเป็นต้องมีบ่วงอะไรมาคล้อง ขอแค่รักและซื่อสัตย์ต่อกัน ก็สมบูรณ์ได้ หากวันใดหมดสิ้นความรักความซื่อสัตย์อยากถามว่าจะคล้องกันไว้เพื่ออะไร? ภรรยาก็อ้างว่าต้องทนสามีเจ้าชู้เพื่อลูก (จริงๆคือตัวเองใจไม่เด็ดขาดพอ) สามีก็อ้างง้อภรรยาเมื่อถูกจับได้ว่าตนมีชู้ ว่าอย่าทิ้งกันเลยเห็นแก่ลูกเถอะ (ตอนไปมีชู้ไม่เห็นนึกถึงลูกเลย) สรุปจะดันทุรัง..?แบบนี้คือมีความสุข คือครอบครัวสมบูรณ์ แค่ได้อยู่กันพร้อมหน้าอย่างอดทนเนี่ยนะ ผมว่าหลายบ้านแยกกันลูกก็ยังมีครบทั้งพ่อแม่ ชีวิตสมบูรณ์กว่าอีก บางคนเอาลูกเป็นเครื่องมือต่อรองผัวด้วยซ้ำไป พาลูกไปไล่ตามราวีผัวถึงรังเมียน้อย หวังให้เมียน้อยอับอายใจว่าทำร้ายเด็ก หารู้ไม่ แม่แบบนี้ล่ะทำร้ายลูกที่สุด ภาพนั้นมันจะฝังใจเขาชั่วชีวิต ทำลงได้ยังไง เป็นแม่ภาษาอะไรจิตใจอำมหิตเหลือเกิน เห็นแก่ตัวจนเอาลูกเป็นอุปกรณ์
สรุปไม่ต้องมีโซ่ หมดรักก็เลิกกัน จบง่ายดี หรือพวกคุณคิดว่าไม่จริง..!!
3. จะได้มีความหวัง มีจุดมุ่งหมายในชีวิต อันนี้เห็นบ่อยครับ ทำงานเยอะๆ ทำเงินเยอะๆ ลูกจะได้มีอนาคตดีๆ ลูกต้องเรียนสูงๆ เรียนเก่งๆ ต้องมีพร้อมนะ อัดเข้าไปสอบเข้าที่นั่นแข่งขันที่นี่ เรียนดีต้องไปเป็นหมอ คือเอาความหวังของตัวเองยัดไว้บนไหล่ลูก และบอกว่านี่คือ "หวังดี" ทำ ทุกอย่างเพื่อให้แกได้เรียนน่ะ แกต้องตอบสนองบุญคุณสิ เรียนแบบที่พ่อแม่ต้องการ เป็นหมอสิ เป็นข้าราชการสิ จะได้ชื่นใจ (ชื่นใจใครครับ ไหนว่าเสียสละ) พอลูกทำไม่ได้ก็เสียอกเสียใจร้องไห้ให้ลูกเป็นตราบาป ความหวังตัวเองแท้ๆ ลูกผิดอะไร ไปสร้างบาปให้เขาทำไม
บางคนลูกอายุสามสิบกว่าแล้ว จะแต่งงาน พ่อแม่ไม่ยอมรับแฟน ไม่ให้แต่ง ถึงขั้นขู่ตัดพ่อแม่ถ้าแต่งกับแฟนคนนี้ ถามหน่อยมีสิทธิ์อะไรครับ คนเขาจะแต่งกัน จะแต่งแล้วจะเจริญหรือจะโดนหลอกหมดตัวมันก็ชีวิตของเขาที่ต้องเรียนรู้เอง บางคนซ้ำร้ายบังคับให้แต่งกับคนที่ตนเห็นว่าเหมาะสม ตกลงนี่ชีวิตคนรึเปล่า ไหนว่ามีลูกแล้วรู้จักเสียสละมากขึ้น รักมนุษย์มากขึ้น นี่สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานยังละเมิดกันเลย
ห่วงใย หวังดี ต้องตักเตือนสั่งสอนสร้างพื้นฐานที่ดีแต่เล็กให้ลูกคิดเองได้ ไม่ใช่บังคับจนโตนะครับ นี่คือมันไม่ใช่
4. คนมีลูกจะรู้จักอดทนเสียสละมากขึ้น ...ไม่เชื่อครับ อันนี้เห็นมามาก คืออดทนเสียสละมากขึ้นกับลูกตัวเองแต่ใจแคบลงกับสังคมครับ อดทนเพื่อลูก เสียสละเพื่อลูก แต่เอาเปรียบสังคม มาทำงานเกือบสิบโมง ออกบ่ายสามอ้างรับ-ส่ง ลูก ทั้งๆที่มีคนช่วยเลี้ยงช่วยรับส่งแต่ใจตัวเองติดลูก หาเรื่องเบี้ยวงาน แต่พอถึงเวลาโบนัสจะเอานะ ชั้นมีลูกมีภาระอยากได้เงิน (ทั้งออฟฟิศคลอดลูกเป็นอยู่คนเดียวเหรอครับ คนอื่นเขาก็มีลูก ทำงานหนักกว่า รับผิดชอบกว่า ไม่เห็นเอาอย่างเขา) จะต่อแถวก็ให้เด็กแซง ใครไม่ให้ก็บอกใจร้ายไม่สงสารเด็ก (มีแต่ลูกคุณน่ะที่จะล้มเจ็บถ้าไม่ได้แซงคิว ลูกคนที่ได้รับการขัดเกลาจนมีวัฒนธรรมเขาต่อแถวปกติ ทำเป็นคนป่าไปได้ อะไรนี่) พาไปไหนก็ปล่อยลูกวิ่งเอะอะชนข้าวของเสียหายแล้วบอกหน้าด้านหนาๆว่าเป็นเรื่องปกติ เด็กต้องซน ช่วยลองไปปกติที่ต่างประเทศหน่อยไหม ถ้าไม่โดนข้อหานี่มารับเงินไปเลย
เคยมีกระทู้ปรึกษาว่าลูกทำแหวนเพื่อนหาย หรือกำไลนี่ล่ะ ราคาสี่พันกว่า ควรชดใช้ไหม พ่อแม่หลายคนเกินครึ่งกระทู้บอกว่าไม่ต้องใช้ หรือใช้ครึ่งเดียว เป็นความผิดพ่อแม่เด็กเจ้าของแหวนที่ให้ลูกเอาของแพงๆมาใช้ โอ้โฮ สยองขวัญมากๆครับ สังคมบ้าอะไรคิดอย่างนี้ อีกหน่อยลูกโตติดยาก็โทษคนขายยา ไปข่มขืนเขาก็อ้างผู้หญิงแต่งโป๊ ไปขโมยเขาก็คงบอกคนพวกนั้นไม่ระวังข้าวของเอง แย่มาก คิดได้ยังไง ขอถามกลับว่าถ้ามีคนมาทำของลูกคุณหายจะใช้ตรรกะเดียวกันไหมคือโทษตัวเองว่าให้ลูกเอาของไป คนทำหายไม่ต้องชดใช้
นี่คือตัวอย่างพ่อแม่ของสังคมที่ทำให้ผมเองไม่อยากมีลูกครับ กลัวว่าความรู้สึกของการเป็นพ่อแม่จะทำให้เราต้องกดดันลูก เอาเปรียบบงการชีวิตลูกด้วยความต้องการของเราเอง หรือเบียดเบียนสังคมเพื่อเอาใจลูก บางคนบอกว่าไม่ชอบก็อย่าเป็นพ่อแม่แบบนั้นสิ ผมว่ามันพูดง่ายนะครับ วันนี้ใครก็พูดได้ แต่ความรักแบบพ่อแม่อาจทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อและไม่รู้ตัว ผมกลัวมากครับ เลยยังไม่พร้อมจะมี
พ่อแมที่ดีๆก็มีเยอะครับ แต่ที่เห็นๆในสังคมส่วนใหญ่ บอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่ค่อยปลื้มคับ...จบ..!!!
หลายๆคนบอกว่า "ไม่ได้อยากมี แต่ครอบครัวบีบให้มี" (ซึ่งผมก็โดน) ผมยิ่งไม่ happy ผมไม่อยากทำแบบนั้นกับลูก คืออยากให้ผมมีลูกเพราะเขาอยากมีหลาน แต่ภาระการเลี้ยงดูนั่นชีวิตเราล้วนๆ คือจะให้มีลูกเพื่อให้ครอบครัวมีความสุข นี่คือมันใช่เหรอ และชอบมาบอกว่าถ้าผมมีลูกผมก็มีความสุขเอง คือความสุขเรา เราขอเลือกเองได้ไหม ทำไมต้องกลายเป็นเราแบกรับความหวังคนอื่นเพื่อจะมีความสุข
ผมโคตรจะเบื่อภาวะแบบนี้ครับ เลยไม่อยากมีลูก ไม่ชอบคาดหวังกับชีวิตใคร ไม่ใช่ว่าครอบครัวผมไม่ดีนะครับ ดีมากๆ และมันก็เป็นเรื่องปกติ พ่อแม่ไม่หวังกับลูกจะให้หวังกับใครล่ะครับ หรือว่าไม่จริง...? แต่การเอาความหวังไว้ที่คนอื่นไม่ใช่ธรรมชาติของผม ผมจะสมหวังหรือผิดหวังขอรับผิดชอบเอง
ที่สำคัญ ผมเบื่อเหตุผลที่ชอบอ้างกัน
1. จะได้มีคนเลี้ยงดูยามแก่ ไม่อยากหวังกับใครครับ ถ้าเขาไม่เลี้ยง จะมานั่งร้องไห้ ด่าทอสาปแช่งให้ลูกเป็นบาป ให้คนมองว่าลูกเป็นคนเนรคุณ ผมไม่เอาหรอกครับ ไหนว่ารักโดยไม่มีเงื่อนไข แล้วดูแลยามแก่นี่ไม่ใช่เงื่อนไขเหรอ...?? เขามีทางเลือกเหรอ ไม่ดูแล=เนรคุณ=ไม่เจริญ ถ้าข้ออ้างนี้มันจริงป่านนี้อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ล้มละลายหมดแล้วครับ ไม่มีใครเจริญเท่าไทยแน่ๆ ประเทศอื่นเขามีรัฐสวัสดิการทุกคนดูแลตัวเองได้ ไทยนี่ค่านิยมแบบนี้ เกิดลูกหลานจนก็ใช้ชีวิตกับการดูแลครอบครัวไปครับ ชีวิตตัวเองหมดเกลี้ยง พอพูดแบบนี้ก็จะหาว่าแรง ว่าเป็นคนไม่ดี คุณเข้าใจผิด ครอบครัวผมรักกันดี ทุกวันนี้ดูแลพ่อแม่ตามเหมาะสม และพ่อแม่ผมก็ไม่ได้เป็นภาระอะไร ผมแค่มองสังคมจริงๆที่บางบ้านลูกไม่ได้ผุดได้เกิดกับชีวิตตัวเองเพราะต้องหาเงินส่งให้คนข้างหลัง อะไรแบบนี้
สรุปว่าผมไม่หวังข้อนี้ครับ สงสารลูกเพราะ เขาก็คือชีวิตหนึ่งเช่นกัน เขาอาจรวยหรือจนหรือมีภาระ แม้แต่ตายก่อนเรา ฉะนั้น เราไม่หวังเป็นภาระใคร
2. จะได้มีโซ่ทองคล้องใจ ครอบครัวสมบูรณ์ เอาตรงๆนะครับ..!! ไม่จำเป็นเลยครับ สามีภรรยาจะอยู่กันได้ไม่จำเป็นต้องมีบ่วงอะไรมาคล้อง ขอแค่รักและซื่อสัตย์ต่อกัน ก็สมบูรณ์ได้ หากวันใดหมดสิ้นความรักความซื่อสัตย์อยากถามว่าจะคล้องกันไว้เพื่ออะไร? ภรรยาก็อ้างว่าต้องทนสามีเจ้าชู้เพื่อลูก (จริงๆคือตัวเองใจไม่เด็ดขาดพอ) สามีก็อ้างง้อภรรยาเมื่อถูกจับได้ว่าตนมีชู้ ว่าอย่าทิ้งกันเลยเห็นแก่ลูกเถอะ (ตอนไปมีชู้ไม่เห็นนึกถึงลูกเลย) สรุปจะดันทุรัง..?แบบนี้คือมีความสุข คือครอบครัวสมบูรณ์ แค่ได้อยู่กันพร้อมหน้าอย่างอดทนเนี่ยนะ ผมว่าหลายบ้านแยกกันลูกก็ยังมีครบทั้งพ่อแม่ ชีวิตสมบูรณ์กว่าอีก บางคนเอาลูกเป็นเครื่องมือต่อรองผัวด้วยซ้ำไป พาลูกไปไล่ตามราวีผัวถึงรังเมียน้อย หวังให้เมียน้อยอับอายใจว่าทำร้ายเด็ก หารู้ไม่ แม่แบบนี้ล่ะทำร้ายลูกที่สุด ภาพนั้นมันจะฝังใจเขาชั่วชีวิต ทำลงได้ยังไง เป็นแม่ภาษาอะไรจิตใจอำมหิตเหลือเกิน เห็นแก่ตัวจนเอาลูกเป็นอุปกรณ์
สรุปไม่ต้องมีโซ่ หมดรักก็เลิกกัน จบง่ายดี หรือพวกคุณคิดว่าไม่จริง..!!
3. จะได้มีความหวัง มีจุดมุ่งหมายในชีวิต อันนี้เห็นบ่อยครับ ทำงานเยอะๆ ทำเงินเยอะๆ ลูกจะได้มีอนาคตดีๆ ลูกต้องเรียนสูงๆ เรียนเก่งๆ ต้องมีพร้อมนะ อัดเข้าไปสอบเข้าที่นั่นแข่งขันที่นี่ เรียนดีต้องไปเป็นหมอ คือเอาความหวังของตัวเองยัดไว้บนไหล่ลูก และบอกว่านี่คือ "หวังดี" ทำ ทุกอย่างเพื่อให้แกได้เรียนน่ะ แกต้องตอบสนองบุญคุณสิ เรียนแบบที่พ่อแม่ต้องการ เป็นหมอสิ เป็นข้าราชการสิ จะได้ชื่นใจ (ชื่นใจใครครับ ไหนว่าเสียสละ) พอลูกทำไม่ได้ก็เสียอกเสียใจร้องไห้ให้ลูกเป็นตราบาป ความหวังตัวเองแท้ๆ ลูกผิดอะไร ไปสร้างบาปให้เขาทำไม
บางคนลูกอายุสามสิบกว่าแล้ว จะแต่งงาน พ่อแม่ไม่ยอมรับแฟน ไม่ให้แต่ง ถึงขั้นขู่ตัดพ่อแม่ถ้าแต่งกับแฟนคนนี้ ถามหน่อยมีสิทธิ์อะไรครับ คนเขาจะแต่งกัน จะแต่งแล้วจะเจริญหรือจะโดนหลอกหมดตัวมันก็ชีวิตของเขาที่ต้องเรียนรู้เอง บางคนซ้ำร้ายบังคับให้แต่งกับคนที่ตนเห็นว่าเหมาะสม ตกลงนี่ชีวิตคนรึเปล่า ไหนว่ามีลูกแล้วรู้จักเสียสละมากขึ้น รักมนุษย์มากขึ้น นี่สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานยังละเมิดกันเลย
ห่วงใย หวังดี ต้องตักเตือนสั่งสอนสร้างพื้นฐานที่ดีแต่เล็กให้ลูกคิดเองได้ ไม่ใช่บังคับจนโตนะครับ นี่คือมันไม่ใช่
4. คนมีลูกจะรู้จักอดทนเสียสละมากขึ้น ...ไม่เชื่อครับ อันนี้เห็นมามาก คืออดทนเสียสละมากขึ้นกับลูกตัวเองแต่ใจแคบลงกับสังคมครับ อดทนเพื่อลูก เสียสละเพื่อลูก แต่เอาเปรียบสังคม มาทำงานเกือบสิบโมง ออกบ่ายสามอ้างรับ-ส่ง ลูก ทั้งๆที่มีคนช่วยเลี้ยงช่วยรับส่งแต่ใจตัวเองติดลูก หาเรื่องเบี้ยวงาน แต่พอถึงเวลาโบนัสจะเอานะ ชั้นมีลูกมีภาระอยากได้เงิน (ทั้งออฟฟิศคลอดลูกเป็นอยู่คนเดียวเหรอครับ คนอื่นเขาก็มีลูก ทำงานหนักกว่า รับผิดชอบกว่า ไม่เห็นเอาอย่างเขา) จะต่อแถวก็ให้เด็กแซง ใครไม่ให้ก็บอกใจร้ายไม่สงสารเด็ก (มีแต่ลูกคุณน่ะที่จะล้มเจ็บถ้าไม่ได้แซงคิว ลูกคนที่ได้รับการขัดเกลาจนมีวัฒนธรรมเขาต่อแถวปกติ ทำเป็นคนป่าไปได้ อะไรนี่) พาไปไหนก็ปล่อยลูกวิ่งเอะอะชนข้าวของเสียหายแล้วบอกหน้าด้านหนาๆว่าเป็นเรื่องปกติ เด็กต้องซน ช่วยลองไปปกติที่ต่างประเทศหน่อยไหม ถ้าไม่โดนข้อหานี่มารับเงินไปเลย
เคยมีกระทู้ปรึกษาว่าลูกทำแหวนเพื่อนหาย หรือกำไลนี่ล่ะ ราคาสี่พันกว่า ควรชดใช้ไหม พ่อแม่หลายคนเกินครึ่งกระทู้บอกว่าไม่ต้องใช้ หรือใช้ครึ่งเดียว เป็นความผิดพ่อแม่เด็กเจ้าของแหวนที่ให้ลูกเอาของแพงๆมาใช้ โอ้โฮ สยองขวัญมากๆครับ สังคมบ้าอะไรคิดอย่างนี้ อีกหน่อยลูกโตติดยาก็โทษคนขายยา ไปข่มขืนเขาก็อ้างผู้หญิงแต่งโป๊ ไปขโมยเขาก็คงบอกคนพวกนั้นไม่ระวังข้าวของเอง แย่มาก คิดได้ยังไง ขอถามกลับว่าถ้ามีคนมาทำของลูกคุณหายจะใช้ตรรกะเดียวกันไหมคือโทษตัวเองว่าให้ลูกเอาของไป คนทำหายไม่ต้องชดใช้
นี่คือตัวอย่างพ่อแม่ของสังคมที่ทำให้ผมเองไม่อยากมีลูกครับ กลัวว่าความรู้สึกของการเป็นพ่อแม่จะทำให้เราต้องกดดันลูก เอาเปรียบบงการชีวิตลูกด้วยความต้องการของเราเอง หรือเบียดเบียนสังคมเพื่อเอาใจลูก บางคนบอกว่าไม่ชอบก็อย่าเป็นพ่อแม่แบบนั้นสิ ผมว่ามันพูดง่ายนะครับ วันนี้ใครก็พูดได้ แต่ความรักแบบพ่อแม่อาจทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อและไม่รู้ตัว ผมกลัวมากครับ เลยยังไม่พร้อมจะมี
พ่อแมที่ดีๆก็มีเยอะครับ แต่ที่เห็นๆในสังคมส่วนใหญ่ บอกไว้ตรงนี้เลยว่าไม่ค่อยปลื้มคับ...จบ..!!!
ความคิดเห็นที่ 38
ความเห็นที่ 27 จะลอกความเห็นคนอื่นมาลงสมอ้าง ก็ควรให้เกียรติให้เครดิตด้วย มันจะดีมากเลย ถ้าคุณให้เครดิตเจ้าของความเห็นตัวจริงบ้าง และไม่ปลอมแปลงใส่ “ครับ” ลงไปให้ดูเหมือนคิดเอง
กระทู้นี้ https://m.ppantip.com/topic/33029984?
ความเห็นที่ 62 ดิฉันเขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2557 เหมือนกับที่คุณเขียนทุกประการ ยกเว้นคำว่า “ครับ”
เสียมารยาท
กระทู้นี้ https://m.ppantip.com/topic/33029984?
ความเห็นที่ 62 ดิฉันเขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2557 เหมือนกับที่คุณเขียนทุกประการ ยกเว้นคำว่า “ครับ”
เสียมารยาท
ความคิดเห็นที่ 2
มีแล้วไม่ได้เลี้ยงเอง ส่วนมากลูกอยู่กับย่า ย่าตามใจทำให้นิสัยไม่ดี พอเราจะดุ จะสอน หรือสั่งให้ทำอะไร ไม่ยอมทำ ดื้อ มึน เพราะคิดว่ายังไงก็มีย่า ต่อให้พ่อแม่ไม่รักก็ไม่แคร์
เคยคิดอยากจะมีลูก อยากอบรมสั่งสอน แล้วสร้างเขาให้ประสบความสำเร็จ แต่พอลูกนิสัยแบบนี้ คือเหนื่อยใจ
ถ่ามีลูกแล้วไม่ได้เลี้ยงเอง เราจะไม่คุ้นชินกับนิสัยของลูก พอลูกดื้อก็เหมือนกับที่เราเห็นลูกคนอื่นดื้อนั่นแหละ
เคยคิดอยากจะมีลูก อยากอบรมสั่งสอน แล้วสร้างเขาให้ประสบความสำเร็จ แต่พอลูกนิสัยแบบนี้ คือเหนื่อยใจ
ถ่ามีลูกแล้วไม่ได้เลี้ยงเอง เราจะไม่คุ้นชินกับนิสัยของลูก พอลูกดื้อก็เหมือนกับที่เราเห็นลูกคนอื่นดื้อนั่นแหละ
แสดงความคิดเห็น
มีคนไหนมีลูกแล้วรู้สึกว่าไม่เห็นมีความสุขอย่างที่เขาว่ากันเลย
และคิดว่าเราคงมีความสุขและรักลูก เหมือนคนอื่นๆที่เขามีลูกกัน
แต่พอมีจริงๆแล้วกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น