*ขอออกตัวก่อนว่านี่เป็นกระทู้แรกในรอบ 15 ปีที่เราตั้ง อาจมีอะไรผิดพลาดไปบ้าง ขออภัยนะคะ
**เนื้อหาในกระทู้นี้ ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วอย่างดีก่อนตัดสินใจตั้ง เสียเวลาคิดและพิมพ์มิใช่น้อย หวังว่าจะปลอดแอนตี้นะคะ ขอความกรุณาไว้ชีวิตสัตว์โลกตาดำๆ อย่างดิชั้นด้วยค่ะ แค่นี้ทุ่งลาเวนเดอร์หลังบ้านดิชั้นก็สั่นสะเทือนจะแย่แล้วจ่ะ
คมแฝก 2018 เป็นละครบู๊หนักมาก บู๊จนนักแสดงถอนหายใจ (ผู้จัดบอก) แต่ในความบู๊ มันก็ยังมีอารมณ์อื่นใส่เข้ามา ทั้งโหด เลว ตลก กุ๊กกิ๊ก และแน่นอน สิ่งที่ขาดไม่ได้ในละคร...คือความรัก
ความรักหนุ่มสาวใน คมแฝก 2018 มีหลายรส ถ้ากัลป์-อัญชัน ก็จะหมองเศร้า ดราม่า สลับกับหวานแบบผู้ใหญ่ ถ้าเป็นเพลิง-ตะเภา ก็จะตบจูบ น่ารักน่าเอ็นดูแบบหนุ่มสาว ส่วนองอาจ - กระรอก ก็จะออกแนวใสๆ หมาหยอกไก่กันไป ให้คนดูเลือกตามรสนิยมส่วนตัว
สำหรับซีเควนซ์ (หรือฉากที่เรียงต่อกัน ถ้าเราเข้าใจไม่ผิดนะ) ที่จะรีวิวในทู้นี้ คือเบรกแรกของตอนที่ 5 ที่ฉายไปเมื่อวันจันทร์ที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา
โครงสร้างคร่าวๆ คือ
กัลป์วิ่งไปเจอรถอัญชันในไร่ --> อัญชันพากัลป์มาหลบในห้องนอน --> สองคนดื่มเหล้าแก้กลุ้ม --> กัลป์เปิดเผยความในใจที่เก็บมานาน และยังไม่มีโอกาสบอกแม้จะกลับมาเจอกันอีก --> จูบ ร่วมรัก --> ตื่นมาเผชิญความจริงในเช้าวันใหม่
สิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับซีเควนซ์นี้
1. โมโนล็อกที่พระเอกระบายความในใจให้นางเอกฟังแบบหมดเปลือก (นาทีที่ 3.33 – 7.04) ดูแล้วรู้ว่าบทพูดนี้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วอย่างดี มันตรงประเด็น ซาบซึ้ง ที่สำคัญคือ “เรียล” มาก ไม่ฟูมฟาย ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานหลายปี ค่อยๆ ไหลออกมา ผ่านจังหวะพูด น้ำเสียง และสายตา
2. การตัดสลับอดีตของกัลป์ในคุก สายตาของกัลป์ที่เหม่อมองแบบคนสิ้นหวัง ตัดกับภาพน้ำตก อัญชันในชุดขาวดูสวย สงบ ใส่ชุดขาวเหมือนนางฟ้า สมกับที่กัลป์บอกว่าเธอคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงอย่างเดียวของตนตอนที่อยู่ในนั้น
3. จำได้ว่าดูฉากนี้ครั้งแรก เราสะอื้นเล็กๆ คิดว่าน่าจะเพราะบทพูดบวกน้ำเสียง เนื้อเสียงและจังหวะมันไล่ระดับมาจนถึงจุดที่จะต้องระเบิดพอดี บทพูดของกัลป์ที่บรรยายประกอบภาพความหลังที่น้ำตกมันกระแทกใจเรามาก ละครเรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่ฉากบู๊จริงๆ นะ
4. มุมกล้องและการทิ้งจังหวะ ไม่รีบ ค่อยๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมกล้องนาทีที่ 1.47 – 2.02 ที่ถ่ายหน้าอัญชันใกล้ๆ มองเห็นแก้วเหล้า และช็อตนางเอกวางแก้วเหล้าแล้วเทเหล้าลงไปใหม่ และดีมากที่ไม่ใส่ซาวน์อะไรลงมาให้รก แต่เราได้ยินเสียงแก้วกระทบพื้น เสียงเหล้าไหลลงไปในแก้วแทน
5. นักแสดงสองคนรับส่งกันดีมากในซีนปรับความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนาทีที่ 7.07 – 9.30 เรารู้สึกมาตลอดว่าที่จริงหมากกับคิมแสดงละครด้วยสไตล์ที่ต่างกัน แต่ในซีนนี้ เราว่ามันจูนมาเจอกันตรงกลางพอดี มันหนักแน่น เป็นผู้ใหญ่ ดูแล้วคล้อยตาม อินกับความรู้สึกไปด้วย
6. นาทีที่ 9.41 – 9.55 เช้าวันใหม่ แสงแรกของวันส่องเข้ามาภายในห้องนอน มันไม่ได้ตกกระทบใบหน้าของหญิงสาว เหมือนที่ชอบบรรยายกันในนวนิยาย แต่กลับส่องกระทบไม้คมแฝก ถือว่าสวยงาม ดูโรแมนติกแบบผู้ชายๆ และย้ำธีมเรื่องไปในตัว
7. แสงในห้องนอนยามเช้า สวยมาก สีภาพของละครเรื่องนี้ (และอีกหลายๆ เรื่องของเมตตามหานิยม) มักจะหม่น เหลืองจนบางทีคนดูก็บ่น แต่เรื่องนี้เราว่าโอเคนะ ไม่เหลืองเกิน และสีภาพแบบนี้แหละที่ทำให้เนื้อตัวของพระนางในฉากบนเตียงดูสวย เซ็กซี่ แม้จะไม่ได้ทำอะไรกันมากมาย
8. ขอบพระคุณทีมงานมากที่ไม่รีบร้อนกับฉากเช้าวันใหม่บนเตียง เราได้เห็นนางเอกมองหน้า ลูบหน้าพระเอกที่กำลังหลับอย่างเงียบๆ นานเป็นนาที ถือว่าใจป้ำมาก จังหวะภาพยนตร์มาก ดีใจที่ได้เห็นในละคร อ้อ และสายตาคิมในฉากนี้ก็ดีมากด้วย
9. ชอบการบันทึกเสียงในเรื่องนี้ การเก็บเสียงสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ทั้งเสียงแมลง เสียงหายใจ ฯลฯ เอาไว้หมด ทำให้ซาวน์ในแต่ละฉากออกมาพอดีโดยไม่จำเป็นต้องใส่ดนตรีประกอบให้รกเกินจำเป็น
.
.
แน่นอนว่าจุดติมันก็มีแหละ เช่น พระนางจูบกันทำไมเอียงหน้าผิดฝั่ง ฉากจูบไรวะเห็นแต่จมูก แทนที่จะเห็นปาก หรือเทียนไขสามแท่งที่ตัดฉับมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย (เราโอเคกับการตัดให้เห็นข้าวของในห้องนอน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนว่าคนในห้องเขากำลังมีเพศสัมพันธ์กันนะ แต่จังหวะมันไม่เป๊ะก็คือไม่เป๊ะแหละ) แล้วก็ซาวน์ในช่วงวินาทีที่ 1 ถึงนาทีที่ 1:47 ฟังดูเหมือนละครผีมิติพิศวงเกินไป และอื่นๆ อีกนิดๆ หน่อยๆ
แต่รวมๆ แล้ว ซีเควนซ์นี้ก็ถือเป็นสิ่งดีๆ ที่เราประทับใจในละครเรื่องนี้ ขอบคุณมากที่ใส่เข้ามา มันอาจจะไล่คนดูที่ชอบอะไรมันส์ๆ ฉับไว แต่มันได้ใจคอดราม่าอย่างเรามาก
เราสนุกกับการเก็บรายละเอียดอารมณ์ที่ค่อยๆ ไหลแต่ซึมลึกแบบนี้ และเหนืออื่นใด เราว่าฉากเหล่านี้ทำให้ตัวละครกัลป์ - อัญชัน พระนางตามคตินิยมยุคเก่าที่อาจจะดูน่าเบื่อสำหรับคนสมัยนี้ ดูมีมิติ มีความรู้สึกนึกคิดที่ลึกซึ้ง
อัญชัน ราชสีห์ไม่ใช่แค่ผู้หญิงของกัลป์ น้องสาวของแสน แต่เป็นผู้หญิงเศร้าๆ ที่ต้องทำตัวเข้มแข็ง
ส่วนกัลป์ เกรียงไกร ก็ไม่ได้เป็นแค่ลูกผู้ชายถือไม้คมแฝก ฟาดๆ บู๊ๆ (แล้วก็แพ้ -_-) ไปวันๆ แต่เป็น sad hero ที่มีความรัก ความหลัง ความเศร้า และความ “เรียล” ที่เราสัมผัสได้ และพลอยซึ้งใจตามไปด้วย
[คมแฝก] ฉากรัก กัลป์ - อัญชัน ใน คมแฝก 2018 ตอนที่ 5 เบรก 1
**เนื้อหาในกระทู้นี้ ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วอย่างดีก่อนตัดสินใจตั้ง เสียเวลาคิดและพิมพ์มิใช่น้อย หวังว่าจะปลอดแอนตี้นะคะ ขอความกรุณาไว้ชีวิตสัตว์โลกตาดำๆ อย่างดิชั้นด้วยค่ะ แค่นี้ทุ่งลาเวนเดอร์หลังบ้านดิชั้นก็สั่นสะเทือนจะแย่แล้วจ่ะ
คมแฝก 2018 เป็นละครบู๊หนักมาก บู๊จนนักแสดงถอนหายใจ (ผู้จัดบอก) แต่ในความบู๊ มันก็ยังมีอารมณ์อื่นใส่เข้ามา ทั้งโหด เลว ตลก กุ๊กกิ๊ก และแน่นอน สิ่งที่ขาดไม่ได้ในละคร...คือความรัก
ความรักหนุ่มสาวใน คมแฝก 2018 มีหลายรส ถ้ากัลป์-อัญชัน ก็จะหมองเศร้า ดราม่า สลับกับหวานแบบผู้ใหญ่ ถ้าเป็นเพลิง-ตะเภา ก็จะตบจูบ น่ารักน่าเอ็นดูแบบหนุ่มสาว ส่วนองอาจ - กระรอก ก็จะออกแนวใสๆ หมาหยอกไก่กันไป ให้คนดูเลือกตามรสนิยมส่วนตัว
สำหรับซีเควนซ์ (หรือฉากที่เรียงต่อกัน ถ้าเราเข้าใจไม่ผิดนะ) ที่จะรีวิวในทู้นี้ คือเบรกแรกของตอนที่ 5 ที่ฉายไปเมื่อวันจันทร์ที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา
โครงสร้างคร่าวๆ คือ
กัลป์วิ่งไปเจอรถอัญชันในไร่ --> อัญชันพากัลป์มาหลบในห้องนอน --> สองคนดื่มเหล้าแก้กลุ้ม --> กัลป์เปิดเผยความในใจที่เก็บมานาน และยังไม่มีโอกาสบอกแม้จะกลับมาเจอกันอีก --> จูบ ร่วมรัก --> ตื่นมาเผชิญความจริงในเช้าวันใหม่
สิ่งที่ประทับใจเกี่ยวกับซีเควนซ์นี้
1. โมโนล็อกที่พระเอกระบายความในใจให้นางเอกฟังแบบหมดเปลือก (นาทีที่ 3.33 – 7.04) ดูแล้วรู้ว่าบทพูดนี้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วอย่างดี มันตรงประเด็น ซาบซึ้ง ที่สำคัญคือ “เรียล” มาก ไม่ฟูมฟาย ความรู้สึกที่อัดอั้นมานานหลายปี ค่อยๆ ไหลออกมา ผ่านจังหวะพูด น้ำเสียง และสายตา
2. การตัดสลับอดีตของกัลป์ในคุก สายตาของกัลป์ที่เหม่อมองแบบคนสิ้นหวัง ตัดกับภาพน้ำตก อัญชันในชุดขาวดูสวย สงบ ใส่ชุดขาวเหมือนนางฟ้า สมกับที่กัลป์บอกว่าเธอคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงอย่างเดียวของตนตอนที่อยู่ในนั้น
3. จำได้ว่าดูฉากนี้ครั้งแรก เราสะอื้นเล็กๆ คิดว่าน่าจะเพราะบทพูดบวกน้ำเสียง เนื้อเสียงและจังหวะมันไล่ระดับมาจนถึงจุดที่จะต้องระเบิดพอดี บทพูดของกัลป์ที่บรรยายประกอบภาพความหลังที่น้ำตกมันกระแทกใจเรามาก ละครเรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่ฉากบู๊จริงๆ นะ
4. มุมกล้องและการทิ้งจังหวะ ไม่รีบ ค่อยๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมกล้องนาทีที่ 1.47 – 2.02 ที่ถ่ายหน้าอัญชันใกล้ๆ มองเห็นแก้วเหล้า และช็อตนางเอกวางแก้วเหล้าแล้วเทเหล้าลงไปใหม่ และดีมากที่ไม่ใส่ซาวน์อะไรลงมาให้รก แต่เราได้ยินเสียงแก้วกระทบพื้น เสียงเหล้าไหลลงไปในแก้วแทน
5. นักแสดงสองคนรับส่งกันดีมากในซีนปรับความเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนาทีที่ 7.07 – 9.30 เรารู้สึกมาตลอดว่าที่จริงหมากกับคิมแสดงละครด้วยสไตล์ที่ต่างกัน แต่ในซีนนี้ เราว่ามันจูนมาเจอกันตรงกลางพอดี มันหนักแน่น เป็นผู้ใหญ่ ดูแล้วคล้อยตาม อินกับความรู้สึกไปด้วย
6. นาทีที่ 9.41 – 9.55 เช้าวันใหม่ แสงแรกของวันส่องเข้ามาภายในห้องนอน มันไม่ได้ตกกระทบใบหน้าของหญิงสาว เหมือนที่ชอบบรรยายกันในนวนิยาย แต่กลับส่องกระทบไม้คมแฝก ถือว่าสวยงาม ดูโรแมนติกแบบผู้ชายๆ และย้ำธีมเรื่องไปในตัว
7. แสงในห้องนอนยามเช้า สวยมาก สีภาพของละครเรื่องนี้ (และอีกหลายๆ เรื่องของเมตตามหานิยม) มักจะหม่น เหลืองจนบางทีคนดูก็บ่น แต่เรื่องนี้เราว่าโอเคนะ ไม่เหลืองเกิน และสีภาพแบบนี้แหละที่ทำให้เนื้อตัวของพระนางในฉากบนเตียงดูสวย เซ็กซี่ แม้จะไม่ได้ทำอะไรกันมากมาย
8. ขอบพระคุณทีมงานมากที่ไม่รีบร้อนกับฉากเช้าวันใหม่บนเตียง เราได้เห็นนางเอกมองหน้า ลูบหน้าพระเอกที่กำลังหลับอย่างเงียบๆ นานเป็นนาที ถือว่าใจป้ำมาก จังหวะภาพยนตร์มาก ดีใจที่ได้เห็นในละคร อ้อ และสายตาคิมในฉากนี้ก็ดีมากด้วย
9. ชอบการบันทึกเสียงในเรื่องนี้ การเก็บเสียงสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ทั้งเสียงแมลง เสียงหายใจ ฯลฯ เอาไว้หมด ทำให้ซาวน์ในแต่ละฉากออกมาพอดีโดยไม่จำเป็นต้องใส่ดนตรีประกอบให้รกเกินจำเป็น
.
.
แน่นอนว่าจุดติมันก็มีแหละ เช่น พระนางจูบกันทำไมเอียงหน้าผิดฝั่ง ฉากจูบไรวะเห็นแต่จมูก แทนที่จะเห็นปาก หรือเทียนไขสามแท่งที่ตัดฉับมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย (เราโอเคกับการตัดให้เห็นข้าวของในห้องนอน เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนว่าคนในห้องเขากำลังมีเพศสัมพันธ์กันนะ แต่จังหวะมันไม่เป๊ะก็คือไม่เป๊ะแหละ) แล้วก็ซาวน์ในช่วงวินาทีที่ 1 ถึงนาทีที่ 1:47 ฟังดูเหมือนละครผีมิติพิศวงเกินไป และอื่นๆ อีกนิดๆ หน่อยๆ
แต่รวมๆ แล้ว ซีเควนซ์นี้ก็ถือเป็นสิ่งดีๆ ที่เราประทับใจในละครเรื่องนี้ ขอบคุณมากที่ใส่เข้ามา มันอาจจะไล่คนดูที่ชอบอะไรมันส์ๆ ฉับไว แต่มันได้ใจคอดราม่าอย่างเรามาก
เราสนุกกับการเก็บรายละเอียดอารมณ์ที่ค่อยๆ ไหลแต่ซึมลึกแบบนี้ และเหนืออื่นใด เราว่าฉากเหล่านี้ทำให้ตัวละครกัลป์ - อัญชัน พระนางตามคตินิยมยุคเก่าที่อาจจะดูน่าเบื่อสำหรับคนสมัยนี้ ดูมีมิติ มีความรู้สึกนึกคิดที่ลึกซึ้ง
อัญชัน ราชสีห์ไม่ใช่แค่ผู้หญิงของกัลป์ น้องสาวของแสน แต่เป็นผู้หญิงเศร้าๆ ที่ต้องทำตัวเข้มแข็ง
ส่วนกัลป์ เกรียงไกร ก็ไม่ได้เป็นแค่ลูกผู้ชายถือไม้คมแฝก ฟาดๆ บู๊ๆ (แล้วก็แพ้ -_-) ไปวันๆ แต่เป็น sad hero ที่มีความรัก ความหลัง ความเศร้า และความ “เรียล” ที่เราสัมผัสได้ และพลอยซึ้งใจตามไปด้วย