แชร์ประสบการณ์การขอวีซ่ากับทัวร์ที่ผิดพลาดมาก ถึงขั้นต้องขอบันทึกไว้

1. ทัวร์ขี้เกียจซอยกลุ่มขอวีซ่าย่อยหลายกลุ่มค่ะ จับเรารวบขอพร้อมคนอื่นแล้วปลอมเอกสาร หรือไม่ก็ทัวร์จำตารางการใช้พาสปอร์ตเราไม่ได้ทั้งที่แจ้งแล้ว ไม่สามารถหา หรม. ครน. ได้ลงตัว ...  

ตกตะลึงกับการประกาศกร้าวของเจ้าหน้าที่ดูแล incentive ทัวร์ที่ว่า ครั้งต่อไปจะไม่สนใจแล้วว่าใครจะต้องเดินทางใช้เล่มก่อน/หลังทริป incentive วันไหนบ้าง เค้าจะทำงานของเค้าแบบไม่แคร์ ใครจะยื่นก็ยื่น ... อย่างนี้ก็ได้หร๋า?? คือถ้าจะไปกับคุณก็ห้ามไปเที่ยวทริปอื่นๆหร๋า?? ปสด.  

คือการนับคะแนนจบตั้งแต่ 31 ธค. แล้ว ให้คุณเมาค้างจากงานปีใหม่ถึง 15 มค. เลยคุณก็ยังมีเวลา 3 เดือน+ ในการทำวีซ่า คุณก็แบ่งล็อตสิคะ แบ่งกรุ๊ปคนที่ว่างช่วงไหนบ้าง ทยอยเข้าทำวีซ่าก็ได้ เค้าไม่จำเป็นต้องว่างพร้อมกันกว่า 40 ชีวิตเพื่อไปยื่นค่ะ ปสด.


2. ทัวร์เปลี่ยนสถานทูตและวันนัดกับเราไปมา จากฮังการี (ทริปทัวร์คือเที่ยวโปแลนด์-ฮังการี) เป็นสวิสเซอร์แลนด์ และขอเอกสารใหม่หลายรอบ โดยเฉพาะเอกสารการเงิน เพราะมีอายุ XX วันนับจากวันพิมพ์ เช่น บางที่ให้ 30 วัน บางที่ให้ 10 วัน ทัวร์ว่าอย่างงั้น เอกสารรับรองการเงินที่รีบขอด่วนๆๆ ต้องภายในวันนี้ๆๆ เพื่อไปยื่นฮังการี (แล้วเปลี่ยนไปสวิสฯ) ก็เลยหมดอายุไปซะงั้น ต้องไปขอใหม่   มันใช่มั้ย?!


3. ทัวร์ปลอมเอกสารห้องพักและการเดินทางว่าเราจะไปสวิสฯ ทั้งๆที่เราไม่ได้ไป อ้างว่าเพื่อไปขอสถานทูตที่คิวว่าง (สวิสเซอร์แลนด์)  แต่เราจอง TSL เองมันก็ไม่ได้เต็มขนาดนั้นนะเพราะเราก็ได้คิวใน 7 วันต่อไป ในขณะที่ทัวร์รู้ว่าเราจะเดินทางกับเค้าล่วงหน้าหลายเดือน   อีกอย่างเรามีไปทริป 2 ที่ฝรั่งเศสยาวๆเดือน พค. ซึ่งเป็นทริปจริงมีการจ่ายเงินแล้วบางส่วน ทำไมไม่ไปขอที่ฝรั่งเศส กลับปลอมเอกสารให้ไปขอสวิสฯ อันนี้ก็ไม่รู้ตรรกะนาง


4. เอกสารที่ทัวร์ปลอม โดนสถานทูตจับได้ค่ะ เลยโดน reject ยกแผง  แต่สุดท้ายทัวร์แจ้งว่า เค้าไปต่อรองมาได้ว่าสถานทูตจะทำไม่รู้ไม่ชี้หลับตาข้างนึงว่าเราปลอมเอกสาร และจะไม่มีผลต่อการขอวีซ่าครั้งต่อๆไป ก็มาลองดูกันค่ะว่าจริงมั้ย


5. วันที่ไปที่ TLS นัด  30 มีค. 10.00 แต่เข้าไปแล้วรอคิวนานนะ ไม่รู้คิวจริงกี่โมง แต่ไม่ตัดสินละกันเพราะอาจจะคนเยอะจริงๆหล่ะมั้ง  หลังเรียกชื่อเข้าห้องตรวจเอกสารก็นาน สงสัยเอกสารทำทริปน่าสงสัย หึหึ  ออกมาเที่ยงกว่า จำได้แม่นเพราะคนแน่นร้านอาหารไปหมด หึหึ


6. และต้องทำการเก็บลายนิ้วมือ ... คือเรามีวีซ่าเชงเก้นที่ทำมาไม่เกิน 3 ปีไง  ตอนที่เราไปทำเองวันนี้ (12 เมย.) เจ้าหน้าที่บอกว่าจะเก็บลายนิ้วมือใหม่หรือไม่เก็บก็ได้ แล้วทำไมตอนที่เราไปทำกับทัวร์เราต้องเก็บใหม่อีกอันนี้ก็ไม่มั่นใจ  process เพิ่มไปอีก  แต่ถ้าเราทำท่าสงสัยนะว่าทำไมมันยุ่งยากกว่าตอนที่เราขอวีซ่าเอง เจ้าหน้าที่ทัวร์ก็จะบอกว่า ขอเป็นกรุ๊ปก็ยุ่งยากแบบนี้หล่ะค่ะ ไม่ง่ายเหมือนขอเอง  (อ้าว! แล้วจะบังคับให้เรามาขอเป็นกรุ๊ปเพื่อ????)  ความเห็นส่วนตัวคือทัวร์เป็นอาชีพคุณนะ คุณยังไม่แม่นในรายละเอียดของอาชีพคุณ (เรื่องการขอเอกสารและนัดวันทำวีซ่า) แถมอาชีพคุณยังไม่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า  อย่างนี้ถามจริงๆทำไมเราต้องซื้อทัวร์ที่แพงกว่าหล่ะ? ถ้ามันยุ่งยากกว่าไปเที่ยวเอง?


7. หลังจากขอวีซ่าเสร็จเที่ยงวันศุกร์ 30 มีค. บ่ายวันนั้นทัวร์โทรมาแจ้งว่ากรุ๊ปก่อนหน้า (ที่ปลอมเอกสารไปเหมือนกัน) โดนจับได้และ reject จึงขอให้เราไปสถานทูตเซ็นรับทราบและขอรับเล่มคืน แต่ยังไม่รู้ว่าวันไหน คาดว่าน่าจะวันจันทร์   และเพื่อรีบไปขอวีซ่าที่สถานทูตอื่น เค้าแจ้งว่าน่าจะเป็นฮังการี เพราะมีกรุ๊ปที่ลงคิวไว้จะไปเก็บลายนิ้วมือวันที่ 4 เมย. แต่เค้ายังไม่ขอคอนเฟิร์มนะ


8. ทัวร์เสนอ option ว่าให้เราเดินทางช่วงอื่น ซึ่งเป็นช่วงที่ทับกับทริปฝรั่งเศสของเรา เราปฏิเสธว่าไปไม่ได้ค่ะมันทับกับทริปอื่น ทัวร์ก็ได้พยายามหว่านล้อมให้เราไปเลื่อนทริปฝรั่งเศสนั้นด้วยการตื้อวนไปเรื่อยๆ (บ้าหรอ)  คือพูดกันไม่รู้เรื่องอ่ะ เหมือนเค้าจะเอาให้ได้โดยไม่สนตรรกะใดๆ คือจะให้เราตอบตกลงอย่างเดียว สุดท้ายเราเลยบอกว่า ได้ค่ะ เราจ่ายเงินในทริปฝรั่งเศสไปบางส่วนแล้ว ตกคนละประมาณ 6 หมื่นกว่าบาท  ทั้งทริปมีทั้งหมด 9 คน ก็ห้าหกแสนกว่าบาท  ถ้าคุณชดเชยส่วนนี้ให้เราก็จะลองไปเจรจากับอีก 8 ท่านที่เหลือว่าจะยกเลิกทริป  นางจึงยอมชัทอัพค่ะ


9. วันนั้นเราพยายามโทรถามเรื่อยๆว่า วันไหนเราต้องไปรับเล่มคืน และวันไหนเราต้องไปยื่นสถานทูตฮังการี (บวกกับถามย้ำด้วยค่ะว่าตกลงโดน reject มั้ย เพราะกลัวตราบาปมากค่ะ) เพราะเราเองก็มีการงานทำ และไม่สามารถ standby หยุดงานรอได้  และประชุมๆทั้งหลายที่ต้องเข้าก็ไม่สามารถคอนเฟิร์มกับเพื่อนร่วมงานได้ สุดท้ายทางทัวร์เลยแจ้งว่า วันจันทร์น่าจะยังทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นวันหยุดอีสเตอร์ (อ้าว! แล้วตอนแรกบอกให้รีบไปรับเล่มด่วนสุดน่าจะเป็นวันจันทร์เพื่อ?!!?!?!?!)  


10. จำไม่ได้ว่าเสาร์ หรืออาทิตย์ หรือจันทร์ ทัวร์โทรมาบอกว่าให้ไปรับเล่มวันอังคารเช้าก่อน 11.30 โมง   สรุปว่าวันจันทร์ก็แห้วไป ประชุมทั้งหลายที่อุตส่าห์เลื่อน คือเพื่อ?


11. วันอังคาร 3 เมย. เดินทางไปรับเล่มที่สถานทูตสวิสฯ 11.30 ตามเวลานัด เพื่อพบว่าเล่มยังมาไม่ถึง  ทัวร์เลยให้เซ็นเอกสารที่ออกโดยบริษัททัวร์นี่หล่ะ (เอกสารเขียนทำนองว่าเอกสารยื่นประกอบไม่สมบูรณ์ จึงขอพาสปอร์ตคืน และมอบอำนาจให้บริษัททัวร์รับเล่มคืนให้วันหลัง) เราก็เลยถามทัวร์ว่า แล้วจะให้พี่เสียงานมาเพื่อเซ็นเอกสารที่น้องให้แมสเซ็นเจอร์เอาไปให้พี่เซ็นก็ได้เนี่ยอ่ะนะ  แล้วไหนว่าต้องมารับเล่มคืนด้วยตัวเองเท่านั้น สรุปว่าให้ทัวร์รับแทนก็ได้เนี่ยอ่ะนะ  

12. ระหว่างที่ยืนเซ็งว่าให้เรามาเพื่ออะไร ก็เลยคุยกับทัวร์ว่า ตกลงพรุ่งนี้ (4 เมย) จะได้ไปยื่นที่ฮังการีไหม เพราะว่าพี่จะได้หยุดงานรอ (หยุดงานอีกแล้ว!!) ทัวร์บอกว่าเค้าทำเอกสารขอไปตั้งแต่วันศุกร์ จะรีบตอบ (เราถามเช้าเย็นทุกวันเลยนะว่าตกลงให้ทำยังไง ก็ไม่เคยได้คำตอบจนกระทั่งนาทีสุดท้ายจริงๆ)  เราจึงสรุปกับทัวร์ว่า ถ้าเกินวันที่ 4 เราไม่ไปกับทัวร์แล้วนะเพราะเราจะเริ่มมีความเสี่ยงกับทริปฝรั่งเศสของเราแล้ว เราจะไปยื่นวีซ่าฝรั่งเศสของเราเองและไม่รอคุณแล้ว ...


13. เย็นวันที่ 3 เมย. ไม่มีเสียงเรียกเข้าใดๆ ไม่มีคำตอบ ตอนเย็นเราส่งไลน์ถามไปไม่อ่านไม่ตอบ เอาวะ หยุดงานสแตนบายตามคำสัญญา เผื่อเรียกด่วนจะได้พุ่งไป


14. วันที่ 4 เมย. เช้าตอบมาว่าเมื่อวาน (3 เมย.) ทำจดหมายไปแล้ว (อ้าวไหนว่าทำตั้งแต่ 30 มีค) จากนั้นทั้งวันก็ไม่มีสัญญาณใดๆ   จึงตกลงกับครอบครัวว่า เราไม่ไปแล้วดีกว่า เพราะป่านนี้ยังไม่ได้วีซ่า (เดินทาง 23 เมย.) และเราควรจะยื่นวีซ่าสำหรับทริปฝรั่งเศสเองได้แล้ว ไม่ควรฝากยื่นพร้อมกับทัวร์แล้ว



15. วันที่ 4 ตอนเย็น เมื่อคุณแม่โทรไปปฏิเสธว่าไม่ไปแล้ว  ทัวร์ซื้อเวลาด้วยการบอกว่า น่าจะได้คิว 9 10 11 12 ซึ่งมันไม่แน่นอนมากๆ เหมือนซื้อเวลาไปเรื่อยๆ
เราจึงตกลงกันในครอบครัวแล้วว่าจะไม่ไป หลังจากได้ข้อสรุปของข้อสรุปกันในครอบครัวก็พยายามติดต่อทัวร์ แต่ติดต่อไม่ได้ คลาดกันไปมา
พรุ่งนี้ (วันที่ 5) คุณแม่จะทำการปฏิเสธอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ตอนกลางคืนเจ้าหน้าที่ส่งข้อความมาเพิ่มว่า  นัดได้วันที่ 11  ซึ่งเราไม่สนใจหล่ะ บอกว่าให้คุณกับคุณแม่เลย เราไม่ดำเนินการใดๆต่อแล้ว


16. ช่วงบ่ายวันที่ 5 ทัวร์ได้โทรหาคุณแม่ ทำการหว่านล้อมและกดดัน จนคุณแม่ต้องยอมไป และโทรมาบอกเราด้วยเสียงสั่น ว่าเจ้าหน้าที่ทัวร์ไม่ฟังคำปฎิเสธ นางจึงต้องตกลง


17. เราโทรไปหาทัวร์ว่าคุณทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง เพราะเราคุยกันแล้ว  ทัวร์บอกว่าเค้าจะไม่คุยกับเรา
ทัวร์ได้ใช้กริยาและวาจาที่ไม่สุภาพกับเราและสามี


18. เราปฏิเสธไม่ยอมรับการที่ทัวร์ไม่คุยกับเรา เจ้าหน้าที่ทัวร์เริ่มระเบิดใส่เรา เราเลยเสียงดังบอกเค้าว่า ฟังค่ะ! ดิชั้นเป็นลูกค้า  แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานเสียงปรี๊ดของเจ้าหน้าที่ทัวร์ได้ นางย้ำแต่ว่าคุณแม่ไม่เห็นมีปัญหา เค้าคุยกับคุณแม่แล้วคุณแม่ยินดี และคำตอบของเค้าคือคำตอบแทนทุกคน (บ้าหรอ) เราจึงพ่วงสายคุณแม่เข้ามาอีกคนค่ะ เพราะคุณแม่บอกเราว่านางไม่เต็มใจตกลงแต่ทัวร์ไม่ฟังและออกแนวบังคับกดดันให้นางตกลง แต่ทัวร์กลับบอกว่าคุณแม่เต็มใจ  


19. เมื่อคุณแม่เข้ามาใน นางก็เปิดโหมดสตอเบอรี่ทันทีค่า.....เสียงอ่อนเสียงหวานเลยค่าาาาาา
สุดท้ายได้ถามทัวร์ย้ำ 2 คำถามดังนี้   1). เล่มจะออกทันบิน 23 เมย. ไหม  และ 2). เราจะได้ visa ครอบคลุมถึงฝรั่งเศสไหม  เพราะถ้าเราบิน 23 เมย. กลับมาเราจะไม่มีเวลาไปขอวีซ่าฝรั่งเศสแล้วนะ...

ซึ่งทัวร์ก็ให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ว่าจะได้หรือไม่ ตอบได้เพียง “น่าจะทันบิน”  และ "70-80% ที่จะได้วีซ่าครอบคลุมถึงทริปฝรั่งเศสด้วย"
เราจึงถามว่า ถ้าไม่ทันคุณรับผิดชอบอย่างไรบ้าง ทัวร์ก็บอกว่าให้เรามองโลกในแง่ดีเข้าไว้ มันไม่โชคร้ายขนาดนั้น  (ค่ะ!)


20. ทัวร์ได้ขู่เราว่า เค้าได้แจ้งชื่อเรากับสถานทูตฮังการีไปแล้วเมื่อวันที่ 3 เมย. ว่าจะเข้าไปทำวีซ่าวันที่ 11 นี้ ซึ่งถ้าเราไม่ไปเค้าจะเสียหายมาก (เอ๊ะ! ไหนตอนแรกบอกว่าแจ้งไปตั้งแต่ 30 มีค. ตกลงความจริงคืออะไร?)  และเพื่อนร่วมทัวร์ของเราก็จะเสียหายมาก เพราะว่า “ทางสถานทูตกรุณาอนุมัติรอบพิเศษ” ให้ยื่นมาได้ 4 คน (เรา 3 คน + เพื่อนร่วมทัวร์อีก 1 คน)  เค้ากดดันสารพัดอีกทั้งกดดันคนในครอบครัวเราด้วย เราจึงตอบว่าเราได้แจ้งคุณแล้วว่ามันเกินเวลาและทริปอื่นๆของเราเริ่มมีความเสี่ยงไปด้วยแล้วนะ แต่เค้าไม่ฟังอยู่ดีค่ะ เอาแต่พูดแต่เรื่องตัวเอง และเจรจาเสียงหวานจ๋อยกล่อมคุณแม่


21. คุณแม่แพ้ทางสตอเบอรี่ค่ะ เลยเบนมาถามเราและสามีว่าไม่สามารถเลื่อนประชุม/ลางานได้แล้วจริงๆหรือ (นี่เรายังให้ความร่วมมือไม่มากพออีกหรือ?)  เราบอกว่าไม่ได้/ สามีบอกว่าวันที่ 11 เค้ามีประชุม   และไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ คำนวณความเสี่ยง และความน่าเชื่อถือของ operation ทัวร์นี้แล้ว เราคิดว่าเราไม่เสี่ยงแล้วดีกว่าค่ะ เราไม่ไปค่ะ ส่วนคุณแม่จะมีเมตตามหาจิตอย่างไรก็แล้วแต่คุณแม่เลย


22. วันศุกร์ 6 เมย ทัวร์ยังส่งข้อความมาว่าเราไม่ไปยื่นหรือ (!?!?!?!?)  เรามีเขียนต่อว่าไปอย่างยาวค่ะ แต่จนบัดนี้นางยังไม่เปิดอ่าน สงสัยไม่อยู่แล้วค่ะ เค้าล้อเล่น


23. วันจันทร์ 9 เมย. ทราบข่าวจากน้องชายว่าทัวร์ได้โทรไปเหวี่ยงใส่คุณแม่อีกค่ะ ท่าทางจะพูดใส่คุณแม่แรงเพราะน้องชายได้ยินว่า “นี่ต้องพูดกับซ้อแรงขนาดนี้เลยหรอ”  ปกติคุณแม่เมตตามหานิยมค่ะ ไม่เคยพูดกลับ/สวนใครมาก่อน  คำนี้สำหรับคุณแม่คือคำด่าที่แรงมากค่ะ  (คิดแล้วอยากจะโทรไปด่าทัวร์ว่ามาแฟ่ดอะไรใส่แม่ชั้นอีกยะ) แต่งานนี้เราไม่ยุ่งหล่ะค่ะ ใครอยากจะช่วยเหลือใคร เมตตาค้ำจุนใครก็ตามใจ เราไม่พร้อมจะเสียสละหน้าที่การงานของเราและครอบครัวเพื่อให้คนที่ทำงานผิดพลาดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งค่ะ



หมายเหตุ คนทำงานเยอะไม่ได้แปลว่าทำงานดีค่ะ เค้าต้องทำเยอะเพราะเค้าทำรอบแรกผิด รอบสองก็ยังผิด ก็เลยต้องทำหลายๆรอบกว่าจะสำเร็จค่ะ  คนที่ทำงานเก่งนั่นเค้าทำรอบเดียวก็สำเร็จ แล้วเค้าก็ไปนั่งเล่นแล้วค่ะ

หมายเหตุ การทำทานที่ดีนั้น ต้องไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนค่ะ

หมายเหตุ การขอความช่วยเหลือจากคนอื่นโดยการตื้อหรืองี่เง่าอย่างหน้าไม่อายนั้น หน้าไม่อายค่ะ (แต่ถ้าเค้ารู้จักอายตั้งแต่แรกเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดหรอกมั้งคะ)


บริษัททัวร์ชื่อ  มิ (จุด จุด) แต่ไม่ใช่ มิราเคิล ค่ะ
บริษัทที่เราทำ incentive   เป็นประกันค่ะ ชื่อย่อตัวอักษรภาษาอังกฤษ 4 ตัว  ออฟฟิตอยู่แถว ถ.เพชรบุรี

หมายเหตุ หลังสงกรานต์เราจะเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง (ถ้านัดได้นะคะ) ของบริษัท incentive ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่