[CR] รีวิวหนัง Misery 1990 หนังอีป้ามหาโหดที่ระทึกสุดขั้วแม้ไม่ต้องมีเลือดสาด

อันดับเเรกผมขออนุญาตฝากเพจก่อนเลยนะครับ "โหลก-เถื่อน-หรั่ง Studio" เป็นเพจเกี่ยวกับการรีวิวหนังโดยจะเน้นไปที่หนังเก่าๆเป็นพิเศษนะครับ

ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้เลยครับ
https://www.facebook.com/ReviewMoviesStudio/


มาเเล้วครับกับการรีวิวหนังเรื่องที่สองของเพจ วันนี้จะขอหยิบหนึ่งในหนังที่สร้างจากนวนิยายชื่อดังของ Stephen King มารีวิวนะครับ นั้นก็คือเรื่อง Misery นั้นเอง(บอกก่อนเลยนะผมเนี่ยเป็นแฟนตัวยงของ Stephen King เลยละ)

เรื่องย่อ:ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พอล เชลดอน นักเขียนนิยายชื่อดังผู้มีผลงานที่สร้างชื่อให้เขาอย่างเรื่อง มิสเซอรี่ นิยายของเขาเรื่องนี้ขายดีมากและวันหนึ่งเขาก็คิดได้ว่าควรจะเขียนตอนจบให้กับนิยายเรื่องนี้สักที ทันทีที่เขียนเสร็จพอลรีบขับรถฝ่าพายุหิมะเพื่อไปส่งต้นฉบับให้ทันแต่ก็ดันเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำจนขาเขาหักทั้งสองข้าง โชคดี(รึเปล่า?)ที่ได้หญิงสาวคนหนึ่งมาช่วย เธอชื่อ แอนนี่ วิลสค์ พยาบาลสาวท่าทางใจดีแถมยังเป็นแฟนพันธ์แท้งานเขียนของพอลอีกด้วย ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีเเต่หารู้ไม่นางคนนี้จะนำมาซึ่งความวายป่วงที่จะเปลี่ยนชีวิตของพอลไปตลอดกาล

ความรู้สึกหลังดูจบ:บอกตรงๆหนังยิ้มโครตมันเลยสาสสสส ก่อนจะดูก็ไม่คิดหลอกนะว่าหนังจะระทึกได้ใจขนาดนี้ ยิ่งตอนจบนะพูดเลยมันยิ่งกว่าเชียร์มวยซะอีก อาจจะไม่ใช่หนังระทึกขวัญที่โหดเลือดสาด เอาจริงๆมันก็ไม่ได้โหดอะไรเลย แต่ในเรื่องของการสร้างอารมณ์หนังทำได้ดีสุดยอดระทึกสุดๆ

ในภาพรวมหนังเรื่องนี้คือหนังเเนวระทึกขวัญเอาชีวิตรอด เนื้อเรื่องหลักๆจะเน้นไปที่ตัวของพอลที่พยายามดิ้นรนใช้ทุกกลวิธีในการเอาตัวรอดจากอีป้ามหาโหดอย่างแอนนี่ แต่ก็ดันมีอุปสรรคก้อนใหญ่ตรงที่พอลดันขาหักเดินไม่ได้ซึ่งในจุดนี้ผมขอชื่นชมในเรื่องของไอเดียจริงๆ คือแบบคิดได้ไงวะเขียนเรื่องให้ตัวละครต้องพยายามเอาชีวิตรอดทั้งๆที่ขาหักเดินไม่ได้ มันยิ่งทำให้เราสงสารไปพร้อมๆกับรู้สึกกดดันและลุ้นระทึกขึ้นเป็นเท่าตัว ผมเลยชอบตรงที่มันเป็นความคิดง่ายๆแต่ชานฉลาดเพราะช่วยให้เราระทึกกับหนังมากขึ้นจริงๆและยังสร้างเอกลักษณ์ให้กับหนังเรื่องนี้ได้ด้วย

มาพูดกันในส่วนของตัวละครกันมั้ง ขอพูดถึงแค่สองตัวละครหลักอย่างพอลที่เเสดงโดย James Caan และแอนนี่ที่เเสดงโดย Kathy Bates บอกเลยแสดงดีทั้งคู่ Jamesก็เล่นได้เเบบเหมือนคนขาหักจริงๆเวลาที่เขาแสดงอาการถึงความเจ็บปวดผมดูและผมรู้สึกเจ็บเเทนเลยคือมันเหมือนจริงมากๆ Kathy Batesนี่ก็ไม่ต้องพูดถึงเนื่องจากบทตัวละครที่เธอเล่นนั้นมีความน่าสนใจอยู่แล้วเนื่องจากเป็นCharacterที่มีความสลับสับซ้อนในเรื่องของอารมณ์ทำให้มีมิติที่หลากหลายพอมาบวกกับการแสดงที่ดีมันจึงกลายเป็นอะไรที่perfect ในยามที่เป็นคุณป้าโลกสวยใจดีนางก็ดูใจดีโอบอ้อมอารีจริงๆ แต่ในยามที่นางโกรธนางก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความดุดันบ้าพลังดูรุนเเรงเเละน่ากลัวจนไม่อยากจะอยู่ใกล้ บทจะกลายเป็นคนเย็นชาพูดน้อยทำหน้านิ่งๆก็มีนะ คือเเบบไม่แปลกใจเลยที่นางได้เข้าชิงออสก้าจากบทนี้ก็แบบเเสดงได้หลากหลายอารมณ์ขนาดนี้อะเนอะ

ต้องบอกว่าอารมณ์ของนางป้าแอนนี่นั้นมีผลต่อการดำเนินเรื่องมากๆในยามที่นางใจเย็นอยู่ในโหมดโลกสวยเนื้อเรื่องของหนังก็จะดำเนินไปอย่างราบเรียบสบายๆแถมแอบมีความโรแมนติกนิดนึงด้วย^^ แต่ทันทีที่นางโกรธเลือดขึ้นหน้าทุกอย่างก็จะดูกดดันระทึกขึ้น ตัวของพอลเองก็จะยิ่งพยายามดิ้นรนหนีออกไปมากขึ้นทุกครั้งที่นางป้าแอนนี่บ้าขึ้นเรื่อยๆ จะว่าไปนางก็เปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อเวลามีอะไรมากระทบเหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกจุดที่ทำให้ผมชอบเพราะถ้าป้าแอนนี่เป็นตัวแปลสำคัญในการทำให้เรื่องเดินหน้าดังนั้นยิ่งเราคาดเดาอารมณ์ของนางป้าแอนนี่ยากเท่าไรเราก็ยิ่งจะคาดเดาเนื้อเรื่องได้ยากเท่านั้น ว่าแบบจะเป็นยังไงต่อไปอีป้าจะจับได้ไหม พระเอกจะหาวิธีรับมือยังไงอะไรประมานนี้ และยังส่งเสริมให้เนื้อเรื่องมีความหลากหลายเพราะมีทั้งช่วงที่เราได้พักหัวสบายๆมีเวลาได้หายใจและเมื่อถึงช่วงพีคๆหนังก็ทำให้เราลุ้นระทึกแบบสุดขั้วหัวใจจริงๆ

ปล.เพิ่มเติมนิดหน่อย ขอพูดถึงตัวละครของป้าแอนนี่ที่ถึงแม้เราจะเกลียดนางเพราะสิ่งที่นางทำกับพอลมันเลวร้ายเหลือเกิน แต่เมื่อเราได้เข้าใจเหตุผลของนางมันก็ทำให้ผมรู้สึกสงสารนางอยู่เหมือนกัน(เเต่ก็ยังเกลียดนางอยู่ดี 555)
ชื่อสินค้า:   ภาพยนตร์ Misery
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่