การรับรองสิทธิ์การรักษาของโรงพยาบาลรามาธิบดี

มีท่านใดเคยไปใช้บริการรับรองสิทธิ์กับทางโรงพยาบาล แล้ว งง กับระบบของทางโรงพยาบาลที่นี่บ้างครับหรือปัญหาบ้างครับ เท่าที่ผมเคยเจอมา บางครั้งดูแล้วไม่สมเหตุสมผล
        1. อย่างเคสของผม อาจารย์แพทย์จากเจ้าของคนไข้(โรงพยาบาลรามาธิบดี)  บอกว่าต้องทำการตรวจเพิ่ม เพื่อหาสาเหตุและวินิจฉัย ว่าโรคที่เป็นมันมีผลกับส่วนอื่นไหม โดยมีทางโรงพยาบาลต้นสังกัดเขียนส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เนื่องจากโรงพยาบาลต้นสังกัด ไม่สามารถรักษาได้ พอตรวจเสร็จ ผมก็ไปรับรองสิทธิ์ในส่วนที่เพิ่มเข้ามาตามปรกติ พร้อมทั้งยื่นเอกสารรายละเอียดไป  เจ้าหน้าที่รับรองสิทธิ์ เห็น ว่ามีการตรวจเพิ่ม และมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ถามกลับมาว่า มันเกี่ยวกับอะไรกับโรคที่เป็น แล้วทำไมต้องตรวจเพิ่ม (ทำน้ำเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่) ตอนแรกเหมือนจะไม่รับรองสิทธิ์ให้ ในส่วนเพิ่มเติมนี้ ผมก็พยาบาลอธิบายว่า โรคที่ผมเป็น มันเป็นโรคที่อาจารย์แพทย์เจ้าของคนไข้ ทางโรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นคนวินิจฉัยและสั่งตรวจ เพื่อหาสาเหตุว่าโรคที่เขียนส่งตัวมานะ มันมีผลกระทบอวัยวะส่วนอื่นหรือไม่ แต่เหมือนเจ้าหน้าที่รับรองสิทธิ์ก็ยังไม่เข้าใจ และจะไม่ให้ ผมก็ชักหงุดหงิดล่ะ ว่ามันอะไร แต่ยังใจเย็นอยู่นะครับ ผลสรุปก็คือ เจ้าหน้าที่รับรองสิทธิ์โทรหาโรงพยาบาลต้นสังกัดว่าจะให้เบิกหรือไม่ ?   สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือ ในเมื่ออาจารย์แพทย์ที่เขารักษาผมอยู่เป็นเจ้าของไข้ มีข้อวินิจฉัยว่าจะต้องตรวจเพิ่ม แล้วเจ้าหน้าที่รับรองสิทธิ์มีปัญหาอะไรหรือครับ ในเมื่อความเห็นทางการแพทย์ของอาจารย์แพทย์เจ้าของไข้เขาให้ตรวจเพิ่ม คุณไม่ใช่แพทย์ เป็นเจ้าหน้าที่รับรองสิทธิ์ คุณก็ควรจะดูในเอกสารหรือระบบขอบคุณ หรือโทรสอบถามพยาบาลต้นสังกัด หรือจะโทรสอบถามกับแพทย์เลยก็ได้ ถ้าคุณทำได้ เพื่อสอบถาม ไม่ใช่มาไล่บี้กับผู้มาขอรับรองสิทธิ์ แบบนี้ ผมเคยเจอขู่แบบนี้ กับเจ้าหน้าที่รับรองสิทธิ์ของประกันสังคมแบบนี้ด้วย ว่าถ้าเบิกไม่ได้ คุณต้องมาจ่ายเองนะ ผมก็แจ้งไปว่าได้ ไม่ได้ซีเรียดอะไร ถ้าเบิกไม่ได้จะมาจ่ายเอง แต่ในใจผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเบิกไม่ได้
       2. ระบบการรับรองสิทธิ์ โดยปรกติเท่าที่ผมเห็น จะมีที่ตึกพระเทพ กับ ตึก 1 (คือตึกเก่า) เมื่อก่อนจะรับรองสิทธิ์ที่ไหนก็ได้ เพราะเห็นเจ้าหน้าที่เคยบอกว่ามันออนไลน์ถึงกัน แต่เดี๋ยวนี้ รักษาตึกไหน รับรองที่ตีกนั่น แทนที่อำนวยความสะดวกกับผู้มาขอรับสิทธิ์ แต่ไม่ว่า แต่ที่แปลกคือ เจ้าหน้าที่บางคนก็ให้บางคนก็ไม่ให้ สรุปแล้วมาตรฐานคืออะไร ที่ทำไม่ได้เป็นที่ตัวบุคคลหรือเป็นที่ตัวระบบกันแน่ครับ เอาให้แน่ๆ ผมไปขอรับสิทธิ์ งง ทุกที ถ้าจะให้เซฟๆ รักษาตึกไหนก็ขอรับสิทธิ์ที่ตึกนั้นถึงแม้คนจะมีปริมาณมากๆก็ต้องรอ
       3. เรื่องสุดท้ายที่ผมเจอกับหน่วยรับรองสิทธิ์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็คือ โดยปรกติแล้ว ใบส่งตัวจากทางโรงพยาบาลต้นสังกัด เขาจะมีการเขียนไว้ ว่าโรคที่ส่งตัวมารักษาเป็นโรคอะไร จากแพทย์ต้นสังกัดชื่ออะไร แล้วจะให้สิทธิ์ จากวันไหน ถึง วันไหน  แต่พอมายืนที่หน่วยรับรองสิทธิ์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เจ้าหน้าที่บางคนรับรองสิทธิ์ให้ตามเอกสารส่งตัวเลย กับ อีก แบบ เจ้าหน้าที่บางคนจะรับรองสิทธิ์ให้ตามใบนัดตรวจที่ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีนัดตรวจไว้ มีท่านใดโดนส่งตัวแล้วเจอแบบผมบ้างครับ ผมเคยสอบถามกับเจ้าหน้าที่ไป เจ้าหน้าที่บอกว่าจะรับรองสิทธิ์ให้เฉพาะวันที่นัดตรวจเท่านั้น แต่ผมก็แย้งนะ ว่าครั้งที่ผ่านๆมาก็รับรองสิทธิ์ให้ตามเอกสารส่งตัวที่ทางโรงพยาบาลต้นสังกัดส่งตัวมา เจ้าหน้าที่รับรองสิทธิ์ประกันสังคมก็แย้งว่า ไม่มี ไม่เคยมี  ผมนี่เป็น งง เลย แล้วที่ผ่านมาคืออะไรครับ แล้วก็ย้อนถามเหมือนข้อที่สอง ที่ทำได้หรือทำไม่ได้ เป็นที่ตัวบุคคลของเจ้าหน้าที่หรือเปล่าว  ผมเองก็ไม่ทราบว่าทำไมต้อง เข้มกับ ผู้ขอเข้ารับสิทธิ์ด้วย ในเมื่อ เขามีสิทธิ์ที่จะใช้ เงินเขาก็จ่าย เอกสารก็มี .

           สิ่งที่ผมบอกว่า คือสิ่งที่ผมสงสัยและไม่เข้าใจ และ งง เกิดเป็นคำถามในใจทุกที ที่ไปรับรองสิทธิ์ที่นี่ มีท่านใดไปรับรองสิทธิ์ แล้วเจอแบบผมบ้างครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
มันมีความเป็นไปได้ ที่โรงพยาบาลต้นสิทธิ์ ส่งไปด้วยโรค ก แล้วโรงพยาบาลปลายทาง ไปตรวจเจอโรค ง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรค ก แล้วดำเนินการให้การรักษา ซึ่งก็เป็นไปได้ที่โรงพยาบาลต้นทาง สามารถรักษาโรค ง ได้ จะไม่อยากให้คนไข้ไปรับการรักษาโรค ง ที่โรงพยาบาลปลายทาง เนื่องจากเปลือง ถ้าโรงพยาบาลปลายทางตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค ง ไป แล้วโรงพยาบาลต้นทางให้ความเห็นว่า ฉันรักษาโรค ง ได้ ฉันส่งคนไข้ไปโรงพยาบาลปลายทางเพื่อรักษาโรค ก ไม่ได้ให้ไปรักษาโรค ง เพราะงั้นค่าตรวจรักษาใดๆ ที่เกี่ยวกับโรค ง ฉันไม่จ่าย  โรงพยาบาลปลายทางก็อาจจะจำเป็นต้องไปเก็บเงินกับผู้ป่วย ทำให้เกิดความเดือดร้อนโดยใช่เหตุ

ส่วนโรค ก และโรค ง มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ บางทีมันก็ชัดเจน บางทีก็ไม่ชัดเจน บางทีเหมือนจะเกี่ยวแต่จริงๆ ไม่เกี่ยว บางทีเหมือนจะไม่เกี่ยวแต่จริงๆ เกี่ยว พวกนี้บางทีก็ต้องให้แพทย์เขาคุยกันเองจนหาข้อสรุปได้ก่อน ก็มีครับ

อันนี้เป็นกฎระเบียบ
ส่วนเรื่องความเหมาะสมเป็นอีกเรื่อง

เป็นไปได้นะครับที่จะเบิกไม่ได้


ว่าแต่พอจะบอกได้ไหมครับ ว่าเขาส่งมาด้วยเรื่องโรคอะไร แล้วหมอรามาเขาตรวจเจออะไร จะให้ตรวจอะไรเพิ่ม น่ะครับ เผื่อพอช่วยทำความเข้าใจให้ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่