สวัสดีครับ วันนี้เรามีรีวิวฟิล์มกรองแสง ซึ่งทางแบรนด์ “Solar Gard” นิยามตัวเองแตกต่างจากคนอื่นสักนิด ว่า “ฟิล์มนิรภัยสะท้อนความร้อน”
ช่วงต้นจะเป็นรีวิวตามความรู้สึกของผมเอง ผู้ทำการรีวิว (น้ำเยอะหน่อย)
ช่วงท้ายจะเป็นข้อมูล Spec จากผู้ผลิตนะครับ (เนื้อเน้นๆ)
ปัญหาของการขับรถในประเทศไทย และในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรของเรา หลักๆคงหนีไม่พ้น อากาศร้อน แดดแรง รถติด เมื่อเราจอดรถตากแดด การจราจรหนาแน่นเวลาที่เราขับ ทำให้เราไม่สามารถทำความเร็วได้ ทำให้ลมไม่สามารถพัดเอาความร้อนที่สะสมบนตัวถังรถออกไปได้ ผลที่ตามมาคือแอร์ก็เย็นช้าตามไปด้วย รถก็ติดอีก หงุดหงิดเป็นบ้าเลยนะครับ
จุดเด่นของฟิล์มกรองแสงที่เราจะเล่าให้ฟังวันนี้
1. เป็นฟิล์มแบบสะท้อนความร้อนสูงที่สุดในท้องตลาด แต่ความสะท้อนแสงต่ำมาก
2. ในตัวรุ่น Top “LX Series Package” เป็นฟิล์มนิรภัยรายเดียวในไทยที่มีความหนาถึง 3 Mil
3. การป้องกันรังสี UV SPF สูงถึง 385+ (UVA+UVB)
4. ทัศนวิสัยการขับขี่ดีเยี่ยม ทั้งในตอนกลางวันที่ลดความจ้าของแดดและกลางคืน
5. รับประกันฟิล์ม 8 ปี จากโรงงานผู้ผลิต ด้วยระบบ QR Code
ในส่วนตัวผมเองนั้น เท่าที่ใช้รถยนต์มาหลายคัน ใช้ฟิล์มมาหลายยี่ห้อ สารภาพเลยครับว่าไม่ค่อยคุ้นกับแบรนด์นี้ แต่ลองหาข้อมูลดู ชื่อเสียงค่อนข้างดี ต้นกำเนิดเป็นบริษัทผลิตกระจกรถยนต์ที่ฝรั่งเศส saint-gobain ปัจจุบันสำนักงานใหญ่อยู่ที่อเมริกา และก็มีสาขาทั่วโลก เป็นอินเตอร์แบรนด์เต็มตัวว่างั้นครับ ผมไปอยู่ไหนมาหว่า ?
เซลล์ขายว่า มีสำนักงานทั่วโลก คือ ทำ R&D พัฒนาสินค้าต่อเนื่อง ทั่วโลกนะครับ เพราะว่าสภาพภูมิอากาศของแต่ละประเทศในโลกนั้นไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของแต่ละประเทศ และเป็นโรงงานผลิตที่ ผลิตฟิล์มด้วยโรงงานของตัวเองจริงๆ ตั้งแต่กรรมวิธีเริ่มต้นจนจบคือไม่ได้ไปจ้าง oem ตีแบรนด์ว่างั้น และเป็นโรงงานแรกที่คิดค้นเครื่องผลิตฟิล์มเทคโนโลยี Multi Layers Sputtering ครับ (เรียนเชิญออกเสียง ทดสอบทักษะด้านภาษา) เรียกได้ว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฟิล์มของโลกเลยก็ว่าได้
“สะท้อนความร้อนแต่ไม่สะท้อนแสง”
เห็นเขาว่า ฟิล์มโซล่าการ์ดเป็นฟิล์มแบบสะท้อนความร้อนแต่ไม่สะท้อนแสงผมขออนุญาตอธิบายภาพให้เข้าใจคร่าวๆอย่างนี้ครับ
เมื่อก่อนฟิล์มซึ่งเป็นแผ่น PET ถ้าต้องการให้มันช่วยกรองแสง จะใช้วิธีการเอาเจ้าแผ่น PET ไปย้อมสี ซึ่งการย้อมสีให้เป็นสีดำ สีชาหรือสีเขียว เนี่ยจะช่วยกรองแสงได้ในระดับหนึ่ง แต่พอต้องการให้มันสะท้อนแสงหรือป้องกันความร้อนก็ต้องฉาบปรอทลงไป ซึ่งปรอทน่ะครับมันเป็นโลหะชนิดหนึ่งพอมันสะท้อนแสงมันก็จะไปรบกวน ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ท่านอื่นบนท้องถนน และนานๆไปเจ้าปรอทที่ฉาบไว้ก็จะเป็นสนิมบ้าง หรือลอกร่อน ยิ่งขับรถเวลากลางคืนมองทะลุผ่านกระจกยาก จะเห็นเป็นเงาตัวเองตลอดเวลา
แต่ฟิล์ม Solar Gard ใช้เทคโนโลยีการผลิตฟิล์มแบบ Multi Layers Sputtering คือเทคโนโลยีการนำประจุโลหะมาทับซ้อนลงบนแผ่น PET หลายๆชั้น อย่างเช่น Silver, Titanium, Gold ทับซ้อนกัน ตั้งแต่ 3 ถึง 9 ชั้น โดยตัว 9 ชั้นก็จะเป็นรุ่น Top เรียกว่า “LX Series Package” ที่ราคาสูงขึ้นมา สำหรับวันนี้ตัวที่เราจะรีวิว บานหน้าเป็นรุ่น LX 25 และรอบคันเป็น GSG 10 (Brilliant Black Package)
ในส่วนนี้ผมให้คะแนน 9/10 ครับ
เวลาเราติดฟิล์มกรองแสงที่มีค่าความสะท้อนแสงสูง เวลาเราขับขี่มองจากในรถไป ฟิล์มจะสะท้อนคอนโซล สะท้อนนู่นนั่นนี่รอบตัวเรา ทำให้ทัศนวิศัยไม่ค่อยดี แต่ฟิล์มตัวนี้ แทบไม่เกิดเงาสะท้อนในเนื้อฟิล์มเวลาขับขี่เลยครับ และที่เค้าบอกว่าสะท้อนความร้อนก็สะท้อนจริงจัง เพราะปกติเวลาใช้ฟิล์มทั่วไปถ้าตากแดดเอามือไปอังบริเวณกระจกด้านใน จะเห็นได้ชัดว่ามีความร้อนแผ่ออกมาจากกระจก แต่อันนี้แทบไม่มีเลยครับ อุ่นๆ นิดๆ เท่านั้นเอง
“ในตัวรุ่น Top “LX Series Package” มีความหนาถึง 3 Mil ”
ปกติฟิล์มกรองแสงทั่วไปจะมีความหนาอยู่ที่ 1-2 Mil ซึ่งเขาบอกว่าฟิล์มกรองแสงที่หนาในระดับนี้สามารถป้องกันการแตกกระจายของกระจกรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้น กระจกรถยนต์เป็นกระจกลามิเนตหรือ เทมเปอร์กลาสแล้วก็ตาม แต่หากมีการแตกก็ยังกระจายอยู่ดี เพราะฉะนั้นฟิล์มที่มีความหนาและเป็นฟิล์มนิรภัยอย่าง Solar Gard จะสามารถยึดเกาะกระจกที่แตกให้เป็นแผ่นไม่กระเด็นมาโดนผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุและหลักๆที่เป็นประโยชน์มากๆคือ ป้องกันการทุบได้อย่างดีเยี่ยม คือต้องใช้เวลานานมากๆกว่าจะแตก จนต้องเลิกทุบไปทุบคันอื่นดีกว่าง่ายกว่าเยอะ ข้อเสียของฟิล์มประเภทนี้คือติดค่อนข้างยากหากว่าช่างที่ติดตั้งไม่เชี่ยวชาญจริงๆ แนะนำให้ติดกับศูนย์บริการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพราะว่าเขาจะมีการเทรนช่างติดตั้ง จะได้ไม่เสียอารมณ์เวลาติดมาแล้วฟิล์มเกิดรอยย่นนะครับ ตอนนี้ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการก็ คือ บริษัท โซล่าการ์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ในส่วนนี้ยังไม่รู้จะให้คะแนนยังไงครับ ครั้นจะไปทุบกระจกรถเพื่อเทสก็กระไรอยู่
การป้องกันรังสี UV SPF สูงถึง 385+ (UVA+UVB)
ด้วยความเป็นฟิล์มแบบ Reflective ก็จะสะท้อนทั้ง รังสี UV UVA, UVB ต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในรถครับ ป้องกันระดับที่ว่าได้รับการรับรองจาก Skin Cancer Foundation USA ว่าใช้แล้วไม่เป็นมะเร็งผิวหนังแน่นอนไม่ได้มโนไปเองอะไรประมาณนั้น ข้อนี้เองไม่รู้จะพิสูจน์ยังไง แต่ว่าด้วยความรู้สึกแดดส่องเข้ามาก็ไม่รู้สึกแสบนะครับ น่าจะโอเคอยู่
“ทัศนวิสัยการขับขี่ดีเยี่ยม ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน”
ในส่วนของรุ่นที่ผมติด คือ บานหน้าเป็นรุ่น LX 25 และรอบคันเป็น GSG 10 เนื้อฟิล์มค่อนข้างดำ มองจากข้างนอกมาไม่เห็นแน่นอน แต่มองจากข้างในออกไป ค่อนข้างใสเคลียร์เลยครับ เรียกได้ว่าตะโกนร้องเพลงออก Acting ได้แบบไม่เขิน หรือจะทำกิจกรรมในรถคนข้างนอกนี่แทบไม่เห็นเลยครับ อย่าคิดมากเซ่ !!! หมายถึงเวลาสาวๆแต่งหน้าในรถไรงี้
ในส่วนนี้เรามีผู้ร่วมทดสอบ คือ Paul Frank ครับ ขอบคุณสำหรับผู้สนับสนุนหลักด้วยนะครับ จิ๊กมาจากรถแฟน
โดยเราได้ทำการทดสอบความเป็นส่วนตัวของฟิล์มด้วยการ เอาเจ้า Paul Frank เนี่ย ไปแทนที่คนในรถครับ เขินไง จะเอาหน้าตัวเองก็กระไรอยู่
ตัวแปรของเรา : จอดรถกลางแดด
ระยะการทดสอบ : ระยะที่ 1 เอาตุ๊กตา แปะไปกับกระจกหน้า
ระยะที่ 2 เอาตุ๊กตา มาแปะไว้หลังพวงมาลัย
ระยะที่ 3 เอาไปแปะไว้ที่ เบาะในระดับที่พิงหัว นั่นก็คือระดับของสรีระผู้ขับขี่ตอนปกตินั่นเองครับ
ระยะที่ 1 เอาตุ๊กตา แปะไปกับกระจกหน้า
จะเห็นได้ว่าเห็นเงาของคุณ Pual Frank ค่อนข้างชัดเจน
ระยะที่ 2 เอาตุ๊กตา มาแปะไว้หลังพวงมาลัย
คุณ Paul Frank เริ่มเลือนลางจนแทบดูไม่ออกว่าเป็นคุณ Paul Frank
ระยะที่ 3 เอาไปแปะไว้ที่ เบาะในระดับที่พิงหัว นั่นก็คือระดับของสรีระผู้ขับขี่ตอนปกตินั่นเองครับ
อ้าว ? คุณ Paul Frank หายไปไหน ?
ชัดเจนดีมั้ยครับรีวิวแบบนี้ เห็นแล้วสบายใจได้เลย ว่าคุณจะได้ความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด ถ้าคุณไม่เอาหน้ามาแปะกระจกรถ
ข้อนี้ผมให้ 10/10 เพราะเคลียร์ที่สุด เท่าที่เคยใช้มา ทัศนวิสัยดีมาก เหมาะสำหรับคนที่ห่วงว่าติดฟิล์มมืดแล้วจะขับออกต่างจังหวัดลำบาก หรือ มองไม่เห็นในตอนกลางคืน เนื้อฟิล์มเคลียร์สุดเหมือนเวลาใส่แว่นกันแดดแพงๆกับแว่นถูกๆเลยก็ว่าได้ ไม่ปวดตา ไม่ปวดหัว
“ประกันฟิล์ม 8 ปี จากโรงงานผู้ผลิต ด้วยระบบ QR Code”
เบื่อมั้ย ? เวลาซื้อสินค้าหรือบริการอะไร แล้วได้ใบรับประกันเป็นกระดาษ ผมนี่ไม่เคยได้เคลมอะไรเลยครับ ที่เค้าให้เขียนใบรับประกัน ส่งไปรษณีย์ไปลงทะเบียน แต่เจ้านี้เค้าเก๋ๆ ด้วยการ ใช้ระบบ QR Code ติดฟิล์มแบบ 4.0 กันไป มี Logo แผ่นโลหะแปะรับรองให้ที่กระจกด้านหลัง หน้าตาดูดีมีชาติตระกูลดีครับ บางเจ้าบังคับให้ติด ยืนยันแล้วยืนยันอีกว่าไม่ติด ประกันขาด ผมนี่ไม่รู้จะให้ไปแปะไว้ตรงไหนเลยครับ ถ้าตั้งใจออกแบบโลโก้ซักหน่อย ก็จะหาที่แปะให้ดีๆแหละ
เค้าจะมี Wartanty Book หน้าตาแบบนี้มาให้ครับ เราก็เอามือถือ Scan ลงทะเบียนให้เรียบร้อย เราก็จะได้รับการประกันฟิล์ม เป็นระยะเวลา 8 ปีถ้วน !!! แถมเค้าว่ามีโปรอะไรดีๆก็จะมาให้เหมือนเราเป็น premium member อะไรแบบนั้น
แหม่ ดูทรงแล้ว ไม่รู้ประกันฟิล์ม หรือ อายุการใช้งานรถผมจะหมดก่อนกันนะครับ ผ่ามมมมมม !
สรุป
โดยรวมผมค่อนข้าง Happy มากครับ ทั้งในด้านการกันความร้อน และทัศนวิสัยในการขับขี่ แอร์เย็นเร็วขึ้นมาก สู้แดดตอนเที่ยงรถติดๆได้สบายๆ ความเคลียร์ของฟิล์มนี่เคลียร์จนต้องกราบครับ มองออกไปบางทีก็ผวา เพราะใสจนกลัวว่าคนข้างนอกจะมองเข้ามาเห็นเรา
ข้อมูลผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
Brand : Solar Gard
Thailand Distributor : บริษัท โซล่าการ์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด
Hotline : 097-246-5645
Website :
www.solargard.co.th
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
บานหน้า “LX Series Package”
เบอร์ฟิล์ม : LX-25
ค่าแสงส่องผ่าน : 23%
ค่าการสะท้อนแสง VLR : 6%
ค่าการสะท้อนความร้อน IRR : 97%
ค่าการป้องกันรังสี UV : 99%
ค่าสะท้อนพลังงานรวม TSER : 65%
Multi Layers Sputtering : 9 Layers (ตัวนี้เฉพาะรุ่น LX นะครับ บานหน้าผมเป็นตัวท็อป เนื้อฟิล์มมีความหนา แต่มองออกไปใสและคลียร์มากครับ ความหนาที่เกิดจากการทับซ้อนของประจุโลหะหลายๆชั้นนี้ เป็นตัวที่ทำให้ฟิล์มสามารถสะท้อนความร้อนได้ดี คือกันร้อนได้โดยไม่ต้องพึ่งความดำของฟิล์มนั่นเอง)
รอบคัน “Briliant Black Package”
เบอร์ฟิล์ม : GSG10
ค่าแสงส่องผ่าน : 6%
ค่าการสะท้อนแสง VLR : 10%
ค่าการสะท้อนความร้อน IRR : 85%
ค่าการป้องกันรังสี UV : 99%
ค่าสะท้อนพลังงานรวม TSER : 70%
Multi Layers Sputtering : 5 Layers
ขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้ครับ ใครมีข้อสงสัยสอบถามได้นะครับ ตอบได้ยินดีให้ข้อมูล ใครเคยใช้ช่วยแวะมาแชร์ประสบการณ์ระยะยาวให้ด้วยนะครับ ว่าใช้ไปนานๆ เป็นยังไง
ขอบพระคุณที่สละเวลาอ่านครับ
[Advertorial]
Review ฟิล์มนิรภัยสะท้อนความร้อน แต่ไม่สะท้อนความรัก กับ Film กรองแสงระดับ Premium Solar Gard
สวัสดีครับ วันนี้เรามีรีวิวฟิล์มกรองแสง ซึ่งทางแบรนด์ “Solar Gard” นิยามตัวเองแตกต่างจากคนอื่นสักนิด ว่า “ฟิล์มนิรภัยสะท้อนความร้อน”
ช่วงต้นจะเป็นรีวิวตามความรู้สึกของผมเอง ผู้ทำการรีวิว (น้ำเยอะหน่อย)
ช่วงท้ายจะเป็นข้อมูล Spec จากผู้ผลิตนะครับ (เนื้อเน้นๆ)
ปัญหาของการขับรถในประเทศไทย และในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรของเรา หลักๆคงหนีไม่พ้น อากาศร้อน แดดแรง รถติด เมื่อเราจอดรถตากแดด การจราจรหนาแน่นเวลาที่เราขับ ทำให้เราไม่สามารถทำความเร็วได้ ทำให้ลมไม่สามารถพัดเอาความร้อนที่สะสมบนตัวถังรถออกไปได้ ผลที่ตามมาคือแอร์ก็เย็นช้าตามไปด้วย รถก็ติดอีก หงุดหงิดเป็นบ้าเลยนะครับ
1. เป็นฟิล์มแบบสะท้อนความร้อนสูงที่สุดในท้องตลาด แต่ความสะท้อนแสงต่ำมาก
2. ในตัวรุ่น Top “LX Series Package” เป็นฟิล์มนิรภัยรายเดียวในไทยที่มีความหนาถึง 3 Mil
3. การป้องกันรังสี UV SPF สูงถึง 385+ (UVA+UVB)
4. ทัศนวิสัยการขับขี่ดีเยี่ยม ทั้งในตอนกลางวันที่ลดความจ้าของแดดและกลางคืน
5. รับประกันฟิล์ม 8 ปี จากโรงงานผู้ผลิต ด้วยระบบ QR Code
ในส่วนตัวผมเองนั้น เท่าที่ใช้รถยนต์มาหลายคัน ใช้ฟิล์มมาหลายยี่ห้อ สารภาพเลยครับว่าไม่ค่อยคุ้นกับแบรนด์นี้ แต่ลองหาข้อมูลดู ชื่อเสียงค่อนข้างดี ต้นกำเนิดเป็นบริษัทผลิตกระจกรถยนต์ที่ฝรั่งเศส saint-gobain ปัจจุบันสำนักงานใหญ่อยู่ที่อเมริกา และก็มีสาขาทั่วโลก เป็นอินเตอร์แบรนด์เต็มตัวว่างั้นครับ ผมไปอยู่ไหนมาหว่า ?
เซลล์ขายว่า มีสำนักงานทั่วโลก คือ ทำ R&D พัฒนาสินค้าต่อเนื่อง ทั่วโลกนะครับ เพราะว่าสภาพภูมิอากาศของแต่ละประเทศในโลกนั้นไม่เหมือนกัน ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของแต่ละประเทศ และเป็นโรงงานผลิตที่ ผลิตฟิล์มด้วยโรงงานของตัวเองจริงๆ ตั้งแต่กรรมวิธีเริ่มต้นจนจบคือไม่ได้ไปจ้าง oem ตีแบรนด์ว่างั้น และเป็นโรงงานแรกที่คิดค้นเครื่องผลิตฟิล์มเทคโนโลยี Multi Layers Sputtering ครับ (เรียนเชิญออกเสียง ทดสอบทักษะด้านภาษา) เรียกได้ว่าเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฟิล์มของโลกเลยก็ว่าได้
“สะท้อนความร้อนแต่ไม่สะท้อนแสง”
เห็นเขาว่า ฟิล์มโซล่าการ์ดเป็นฟิล์มแบบสะท้อนความร้อนแต่ไม่สะท้อนแสงผมขออนุญาตอธิบายภาพให้เข้าใจคร่าวๆอย่างนี้ครับ
เมื่อก่อนฟิล์มซึ่งเป็นแผ่น PET ถ้าต้องการให้มันช่วยกรองแสง จะใช้วิธีการเอาเจ้าแผ่น PET ไปย้อมสี ซึ่งการย้อมสีให้เป็นสีดำ สีชาหรือสีเขียว เนี่ยจะช่วยกรองแสงได้ในระดับหนึ่ง แต่พอต้องการให้มันสะท้อนแสงหรือป้องกันความร้อนก็ต้องฉาบปรอทลงไป ซึ่งปรอทน่ะครับมันเป็นโลหะชนิดหนึ่งพอมันสะท้อนแสงมันก็จะไปรบกวน ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ท่านอื่นบนท้องถนน และนานๆไปเจ้าปรอทที่ฉาบไว้ก็จะเป็นสนิมบ้าง หรือลอกร่อน ยิ่งขับรถเวลากลางคืนมองทะลุผ่านกระจกยาก จะเห็นเป็นเงาตัวเองตลอดเวลา
แต่ฟิล์ม Solar Gard ใช้เทคโนโลยีการผลิตฟิล์มแบบ Multi Layers Sputtering คือเทคโนโลยีการนำประจุโลหะมาทับซ้อนลงบนแผ่น PET หลายๆชั้น อย่างเช่น Silver, Titanium, Gold ทับซ้อนกัน ตั้งแต่ 3 ถึง 9 ชั้น โดยตัว 9 ชั้นก็จะเป็นรุ่น Top เรียกว่า “LX Series Package” ที่ราคาสูงขึ้นมา สำหรับวันนี้ตัวที่เราจะรีวิว บานหน้าเป็นรุ่น LX 25 และรอบคันเป็น GSG 10 (Brilliant Black Package)
ในส่วนนี้ผมให้คะแนน 9/10 ครับ
เวลาเราติดฟิล์มกรองแสงที่มีค่าความสะท้อนแสงสูง เวลาเราขับขี่มองจากในรถไป ฟิล์มจะสะท้อนคอนโซล สะท้อนนู่นนั่นนี่รอบตัวเรา ทำให้ทัศนวิศัยไม่ค่อยดี แต่ฟิล์มตัวนี้ แทบไม่เกิดเงาสะท้อนในเนื้อฟิล์มเวลาขับขี่เลยครับ และที่เค้าบอกว่าสะท้อนความร้อนก็สะท้อนจริงจัง เพราะปกติเวลาใช้ฟิล์มทั่วไปถ้าตากแดดเอามือไปอังบริเวณกระจกด้านใน จะเห็นได้ชัดว่ามีความร้อนแผ่ออกมาจากกระจก แต่อันนี้แทบไม่มีเลยครับ อุ่นๆ นิดๆ เท่านั้นเอง
“ในตัวรุ่น Top “LX Series Package” มีความหนาถึง 3 Mil ”
ปกติฟิล์มกรองแสงทั่วไปจะมีความหนาอยู่ที่ 1-2 Mil ซึ่งเขาบอกว่าฟิล์มกรองแสงที่หนาในระดับนี้สามารถป้องกันการแตกกระจายของกระจกรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้น กระจกรถยนต์เป็นกระจกลามิเนตหรือ เทมเปอร์กลาสแล้วก็ตาม แต่หากมีการแตกก็ยังกระจายอยู่ดี เพราะฉะนั้นฟิล์มที่มีความหนาและเป็นฟิล์มนิรภัยอย่าง Solar Gard จะสามารถยึดเกาะกระจกที่แตกให้เป็นแผ่นไม่กระเด็นมาโดนผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุและหลักๆที่เป็นประโยชน์มากๆคือ ป้องกันการทุบได้อย่างดีเยี่ยม คือต้องใช้เวลานานมากๆกว่าจะแตก จนต้องเลิกทุบไปทุบคันอื่นดีกว่าง่ายกว่าเยอะ ข้อเสียของฟิล์มประเภทนี้คือติดค่อนข้างยากหากว่าช่างที่ติดตั้งไม่เชี่ยวชาญจริงๆ แนะนำให้ติดกับศูนย์บริการที่เป็นตัวแทนจำหน่ายโดยตรงเพราะว่าเขาจะมีการเทรนช่างติดตั้ง จะได้ไม่เสียอารมณ์เวลาติดมาแล้วฟิล์มเกิดรอยย่นนะครับ ตอนนี้ผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการก็ คือ บริษัท โซล่าการ์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ในส่วนนี้ยังไม่รู้จะให้คะแนนยังไงครับ ครั้นจะไปทุบกระจกรถเพื่อเทสก็กระไรอยู่
การป้องกันรังสี UV SPF สูงถึง 385+ (UVA+UVB)
ด้วยความเป็นฟิล์มแบบ Reflective ก็จะสะท้อนทั้ง รังสี UV UVA, UVB ต่างๆ ไม่ให้เข้ามาในรถครับ ป้องกันระดับที่ว่าได้รับการรับรองจาก Skin Cancer Foundation USA ว่าใช้แล้วไม่เป็นมะเร็งผิวหนังแน่นอนไม่ได้มโนไปเองอะไรประมาณนั้น ข้อนี้เองไม่รู้จะพิสูจน์ยังไง แต่ว่าด้วยความรู้สึกแดดส่องเข้ามาก็ไม่รู้สึกแสบนะครับ น่าจะโอเคอยู่
“ทัศนวิสัยการขับขี่ดีเยี่ยม ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน”
ในส่วนของรุ่นที่ผมติด คือ บานหน้าเป็นรุ่น LX 25 และรอบคันเป็น GSG 10 เนื้อฟิล์มค่อนข้างดำ มองจากข้างนอกมาไม่เห็นแน่นอน แต่มองจากข้างในออกไป ค่อนข้างใสเคลียร์เลยครับ เรียกได้ว่าตะโกนร้องเพลงออก Acting ได้แบบไม่เขิน หรือจะทำกิจกรรมในรถคนข้างนอกนี่แทบไม่เห็นเลยครับ อย่าคิดมากเซ่ !!! หมายถึงเวลาสาวๆแต่งหน้าในรถไรงี้
ในส่วนนี้เรามีผู้ร่วมทดสอบ คือ Paul Frank ครับ ขอบคุณสำหรับผู้สนับสนุนหลักด้วยนะครับ จิ๊กมาจากรถแฟน
โดยเราได้ทำการทดสอบความเป็นส่วนตัวของฟิล์มด้วยการ เอาเจ้า Paul Frank เนี่ย ไปแทนที่คนในรถครับ เขินไง จะเอาหน้าตัวเองก็กระไรอยู่
ตัวแปรของเรา : จอดรถกลางแดด
ระยะการทดสอบ : ระยะที่ 1 เอาตุ๊กตา แปะไปกับกระจกหน้า
ระยะที่ 2 เอาตุ๊กตา มาแปะไว้หลังพวงมาลัย
ระยะที่ 3 เอาไปแปะไว้ที่ เบาะในระดับที่พิงหัว นั่นก็คือระดับของสรีระผู้ขับขี่ตอนปกตินั่นเองครับ
ระยะที่ 1 เอาตุ๊กตา แปะไปกับกระจกหน้า
จะเห็นได้ว่าเห็นเงาของคุณ Pual Frank ค่อนข้างชัดเจน
ระยะที่ 2 เอาตุ๊กตา มาแปะไว้หลังพวงมาลัย
คุณ Paul Frank เริ่มเลือนลางจนแทบดูไม่ออกว่าเป็นคุณ Paul Frank
ระยะที่ 3 เอาไปแปะไว้ที่ เบาะในระดับที่พิงหัว นั่นก็คือระดับของสรีระผู้ขับขี่ตอนปกตินั่นเองครับ
อ้าว ? คุณ Paul Frank หายไปไหน ?
ชัดเจนดีมั้ยครับรีวิวแบบนี้ เห็นแล้วสบายใจได้เลย ว่าคุณจะได้ความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด ถ้าคุณไม่เอาหน้ามาแปะกระจกรถ
ข้อนี้ผมให้ 10/10 เพราะเคลียร์ที่สุด เท่าที่เคยใช้มา ทัศนวิสัยดีมาก เหมาะสำหรับคนที่ห่วงว่าติดฟิล์มมืดแล้วจะขับออกต่างจังหวัดลำบาก หรือ มองไม่เห็นในตอนกลางคืน เนื้อฟิล์มเคลียร์สุดเหมือนเวลาใส่แว่นกันแดดแพงๆกับแว่นถูกๆเลยก็ว่าได้ ไม่ปวดตา ไม่ปวดหัว
“ประกันฟิล์ม 8 ปี จากโรงงานผู้ผลิต ด้วยระบบ QR Code”
เบื่อมั้ย ? เวลาซื้อสินค้าหรือบริการอะไร แล้วได้ใบรับประกันเป็นกระดาษ ผมนี่ไม่เคยได้เคลมอะไรเลยครับ ที่เค้าให้เขียนใบรับประกัน ส่งไปรษณีย์ไปลงทะเบียน แต่เจ้านี้เค้าเก๋ๆ ด้วยการ ใช้ระบบ QR Code ติดฟิล์มแบบ 4.0 กันไป มี Logo แผ่นโลหะแปะรับรองให้ที่กระจกด้านหลัง หน้าตาดูดีมีชาติตระกูลดีครับ บางเจ้าบังคับให้ติด ยืนยันแล้วยืนยันอีกว่าไม่ติด ประกันขาด ผมนี่ไม่รู้จะให้ไปแปะไว้ตรงไหนเลยครับ ถ้าตั้งใจออกแบบโลโก้ซักหน่อย ก็จะหาที่แปะให้ดีๆแหละ
เค้าจะมี Wartanty Book หน้าตาแบบนี้มาให้ครับ เราก็เอามือถือ Scan ลงทะเบียนให้เรียบร้อย เราก็จะได้รับการประกันฟิล์ม เป็นระยะเวลา 8 ปีถ้วน !!! แถมเค้าว่ามีโปรอะไรดีๆก็จะมาให้เหมือนเราเป็น premium member อะไรแบบนั้น
แหม่ ดูทรงแล้ว ไม่รู้ประกันฟิล์ม หรือ อายุการใช้งานรถผมจะหมดก่อนกันนะครับ ผ่ามมมมมม !
สรุป
โดยรวมผมค่อนข้าง Happy มากครับ ทั้งในด้านการกันความร้อน และทัศนวิสัยในการขับขี่ แอร์เย็นเร็วขึ้นมาก สู้แดดตอนเที่ยงรถติดๆได้สบายๆ ความเคลียร์ของฟิล์มนี่เคลียร์จนต้องกราบครับ มองออกไปบางทีก็ผวา เพราะใสจนกลัวว่าคนข้างนอกจะมองเข้ามาเห็นเรา
ข้อมูลผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
Brand : Solar Gard
Thailand Distributor : บริษัท โซล่าการ์ด คอร์ปอเรชั่น จำกัด
Hotline : 097-246-5645
Website : www.solargard.co.th
บานหน้า “LX Series Package”
เบอร์ฟิล์ม : LX-25
ค่าแสงส่องผ่าน : 23%
ค่าการสะท้อนแสง VLR : 6%
ค่าการสะท้อนความร้อน IRR : 97%
ค่าการป้องกันรังสี UV : 99%
ค่าสะท้อนพลังงานรวม TSER : 65%
Multi Layers Sputtering : 9 Layers (ตัวนี้เฉพาะรุ่น LX นะครับ บานหน้าผมเป็นตัวท็อป เนื้อฟิล์มมีความหนา แต่มองออกไปใสและคลียร์มากครับ ความหนาที่เกิดจากการทับซ้อนของประจุโลหะหลายๆชั้นนี้ เป็นตัวที่ทำให้ฟิล์มสามารถสะท้อนความร้อนได้ดี คือกันร้อนได้โดยไม่ต้องพึ่งความดำของฟิล์มนั่นเอง)
รอบคัน “Briliant Black Package”
เบอร์ฟิล์ม : GSG10
ค่าแสงส่องผ่าน : 6%
ค่าการสะท้อนแสง VLR : 10%
ค่าการสะท้อนความร้อน IRR : 85%
ค่าการป้องกันรังสี UV : 99%
ค่าสะท้อนพลังงานรวม TSER : 70%
Multi Layers Sputtering : 5 Layers
ขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้ครับ ใครมีข้อสงสัยสอบถามได้นะครับ ตอบได้ยินดีให้ข้อมูล ใครเคยใช้ช่วยแวะมาแชร์ประสบการณ์ระยะยาวให้ด้วยนะครับ ว่าใช้ไปนานๆ เป็นยังไง
ขอบพระคุณที่สละเวลาอ่านครับ
[Advertorial]