สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เจ้าของกระทู้ ก็เขียนได้ดี มีรายละเอียดชัดเจน ถ้าตั้งใจอ่าน ก็ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลมาจากทางฝั่งของผู้ให้บริการ อีกทางนึง ที่ผู้ใช้บริการแท็กซี่สมควรนำไปพิจารณาด้วย
ซึ่งทางแก้ปัญหา สมควรมาเจอกันครึ่งทาง คือทางผู้ขับแท็กซี่ ต้องพยายามเข้ามาอยู่ในระเบียบ กฎเกณฑ์ของทางราชการ และช่วยกันขจัด "แท็กซี่ปลอม" หรือ "แท็กซี่เถื่อน" ออกไปให้หมด ส่วนผู้ใช้บริการหรือผู้โดยสารทั้งหลาย ก็ควรช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน แท็กซี่ถูกกฎหมาย และมีจิตสำนึกในการบริการ ให้สามารถทำมาหากินได้ต่อไปครับ
ซึ่งทางแก้ปัญหา สมควรมาเจอกันครึ่งทาง คือทางผู้ขับแท็กซี่ ต้องพยายามเข้ามาอยู่ในระเบียบ กฎเกณฑ์ของทางราชการ และช่วยกันขจัด "แท็กซี่ปลอม" หรือ "แท็กซี่เถื่อน" ออกไปให้หมด ส่วนผู้ใช้บริการหรือผู้โดยสารทั้งหลาย ก็ควรช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน แท็กซี่ถูกกฎหมาย และมีจิตสำนึกในการบริการ ให้สามารถทำมาหากินได้ต่อไปครับ
ความคิดเห็นที่ 1
กรณีที่สอง
ก่อนจะถึงด่านเก็บเงินค่าทางด่วน ถามลูกค้าว่า ลูกค้ารับใบเสร็จไหมครับ ...?(เนื่องจากผมไม่ทราบหรอกครับว่าคุณจะเอาไปทำอะไร ขนาดกรรมกรเขายังเอาไปเบิกเลย จึงจำเป็นต้องถามทุกคนที่ขึ้นทางด่วน เพราะหากลูกค้าจะเอาแล้วไม่บอก
จะกลายเป็นโทษคนขับอีก) คำตอบคือ เอามาทำอะไร เอาไปเบิกใคร เอาไปเบิกนายกได้ไหม...!!! อึ้งไปเลยครับ ถามดีๆ พูดก็พูดครับ ดันตอบแบบนี้ พวกที่ตอบ ไม่เอา(ด้วนๆ)หรือไม่รู้เอาไปทำไร ซิดซ้ายไปเลย ฮึฮึฮึ
กรณีที่สาม
เมา ขึ้นมาก็ถามพูดนู้นนี่นั้น พวกเมาเจอบ่อย หนักสุดเจอบ่ายๆ เรียกไปเมืองทอง เมาทั้งเหล้าทั้งแดด ถามเราว่า พี่ พี่ตาบอดป่าวใส่แว่นดำเนี้ย( อยากกระโดดถีบตกรถมา) นั่งไปอีกประมาน2-3นาที หันมาถามอีก ผมถามจริงๆพี่ ตาบอดป่าว แล้ว...เอานิ้วมาจิ้มตาตรงแว่นเรา
หันมองถอดแว่น สงสัยรู้แล้วไม่พอใจ เลยหันมาบอกว่า โทษทีนะพี่ผมเมา ไม่ถึง5นาทีทำท่าจะอ็วกแล้ว
น้ำลายใส่รถ...!!!
กรณีที่สี่(เจอเยอะสุด เจอบ่อยมาก เจอแทบทุกวัน)
ท่าผู้ใช้บริการทุกท่านครับ กระเป๋าแบบลาก เขาไม่ได้มีไว้วางที่เบาะนะครับ เพราะไม่มีใบไหนในโลก ที่ท่านลากออกมาจากบ้านแล้วเอามาไว้บนเบาะแล้วมันจะไม่เลอะเป็นรอยล้อ
ทั้งตอนเอาวางและลงรถแล้วลากลง ทั้งเลอะทั้งเป็นรอย หนักสุดถึงกับเบาะขาดเลยนะครับเพราะกระเป๋าพวกนี้ค่อนข้างหนัก ถ้าท่านขึ้นรถแท็กซี่แล้วที่เบาะที่ท่านจะนั้นมีรอยคราบล้อกระเป๋า ท่านจะคิดยังไงครับ
กางเกงท่านจะเลอะไหม รถคันนี้ทำมัยสกปรกจัง ฯ ท่านผู้โดยสารครับ ไม่มีแท็กซี่คันไหนล้างรถเสร็จกลัวลูกค้าทำเลอะแล้วทำเลอะซะเองก่อนหรอกครับ
เป็นอีก1เหตุผลที่ท่านๆทั้งหลายที่จะไปดอนเมือง สุวรรณภูมิหรือขนส่งต่างๆ หรือมาจากขนส่งเหล่านั้นแล้วจะกลับบ้าน เขาเห็นกระเป๋าแล้วไม่อยากรับครับ
ยกตัวอย่างถนนเส้นหนึ่งแถวๆฝั่งตรงข้ามดอนเมือง มีเป็นสิบหมู่บ้านเลย แอร์โฮตเตสส่วนใหญ่ใช้บริการแท็กซี่เพื่อไปสนามบิน 90% เอาวางไว้ที่พักเท้า เพราะเคยถาม
เขาบอกเขามีรถเขาเข้าใจเป็นผู้ให้บริการเหมือนกัน แต่อีก10%เอาวางบนเบาะ ทำให้เดี๋ยวนี้ ไม่รับเลยครับพวกมีกระเป๋าลากเห็นแล้วผ่านเลย
กรณีที่ห้า
ไม่รู้ทาง บอกเราว่าไปทางไหนก็ได้ เอาใกล้ๆ
คือเอ่อ แท็กซี่ไม่ใช่ ตรูเกิ้ลแมพ แท็กซี่มีบ้านมีช่อง รู้ทางแค่หลักๆ ทางลัดเลาะก็ได้เฉพาะโซนที่เคยวิ่ง นะครับ
เจอบอกว่าทางไหนก็ได้ แต่พอมาได้สักพัก เราไปที่นี่เราก็จะไปทางนี้ เพราะทางอื่นเราไม่รู้ ใกล้ๆบ้านเขา
กลับถามเราว่า พี่พาหนูอ้อมมาทางนี้ทำไม ทำไมไม่ไปทางนั้น ซอยนั้นทะลุซอยนั้น ออกทางนี้เลี้ยวนี่ก็โผล่ตรงนี้ก็ถึงแล้ว
เอ่อคือ ไปไม่เป็นเลย หาว่าพาอ้อมซะงั้น
แท็กซี่มีหลายแสนคัน หลายแสนเรื่อง แต่คนมีเป็นล้าน และล้านเรื่องครับ
อยากบอกอีกครับ ปกติพวกท่านขับรถวันละกี่ ชม. ไปทำงาน ออกหาลูกค้า กลับบ้าน เที่ยวห้าง หาของกิน รถติดเบื่อไหมครับ ผมคนขับแท็กซี่ ติดตั้งแต่ตื่นยันเข้าบ้านนอนครับ
ท่านติด สัก1ชม. รู้สึกแบบไหน แท็กซี่ติดทั้งวันจะรู้สึกแบบไหน อาชีพขับรถไม่ใช่อาชีพขับรถติดครับ อยากบอกว่า ถ้าท่านหงุดหงิด แท็กซี่เยอะกว่าพวกท่าน มีหนี้สินรายวันทุกนาทีที่รถติดครับ
ทุกๆเหตุผลที่กล่าวมาใช่ว่าจะทำความสะอาดไม่ได้ ประเด็นคือส่งพวกท่านเสร็จ ไปวิ่งไปหาที่จอดซึ่งไม่ใช่ข้างถนนเพราะอาจจะทำให้รถติด จอดเพื่อลงมาทำความสะอาดรถ วันหนึ่งรับลูกค้า10คน
ต้องจอดทำความสะอาด10รอบ มันใช้เวลาไม่นานหรอก แต่กว่าจะหาที่จอดกว่าจะเช็ดแล้วกว่าจะออกไปวิ่งหาคนต่อ ตกแล้วรอบๆหนึ่งมันก็ นานโขอยู่นะครับสำหรับคนที่ทำงานเร่งต่อเวลาบนท้องถนน แทนที่คนลงแล้วจะเปิดไฟว่างเพื่อรับผู้โดยสารต่อทันที ต้องวิ่งออกไปจอดรถทำความสะอาด
แต่ที่ประทับใจคือ มีเจ้าหน้าที่ ตร.2นาย คิดว่าอยู่ สน.ทุ่งสองห้อง เนื่องจากไปรับมาจากที่พักแถวนั้น คาดว่าเป็น นักเรียนนายร้อยเพิ่งจบมาใหม่ เพราะยังหนุ่มมาก เรียกรถเข้ามา
จากหน้าปากซอย ให้เข้ามารับที่แฟลตตร. ระว่างรอผมไม่รู้ทำอะไรก็เลยเช็ดรถทำความสะอาดรถ ตร.2นายนั้นมา เห็นผมเช็ดรถ ก็เปิดประตูแล้วมองไปในรถ นั่งลงบนเบาะ
แล้วถอดรองเท้าเอาไปตั้งไว้ แล้วขยับไปด้านข้างขวา อีกคนก็นั่งลงแล้วถอดรองเท้าแล้วเอาไปวางใกล้ๆกัน แล้วนั่งไป พอใกล้ถึงจะลง(รถตู้รังสิต)ก็หยิบรองเท้ามาใส่แล้วก้าวลง
อันนี้คือประทับใจสุดๆครับ ไม่ใช่เพราะเขาเป็น ตร. แต่เพราะเขาสนใจและใส่ใจ ในการใช้บริการ มองความสะอาด มองคนให้บริการ ไม่ใช่แค่เราเรียกแล้วจ่ายตัง ไม่ได้ขอนั่งฟรีๆ
เหมือนหลายๆคอมเม้นในโลกออนไลน์เขาเม้นกัน รถจะเลอะ จะเป็นรอย หรืออะไรไม่รู้ รู้แต่เราเสียตังนั่งรถ ไม่ได้ขอนั่งฟรีๆ ตรรกะแบบนี้ เขาเรียกเห็นแก่ตัวเอาตัวเองเป็นที่ตั้งครับ
แท็กซี่ใกล้ถึงแล้วปิดไฟ อาจจะเป็นเพราะแท็กซี่คันนั้นใช้แอพ แท็กซี่โอเค แกรป อูเบอร์ เพราะถ้าแอพเด้งขึ้นมาแท็กซี่จะปิดไฟว่างแล้วขับรถไปหาลูกค้าที่ใช้บริการผ่านแอพนะครับ
แท็กซี่เปิดไฟว่างแล้วไม่จอดรับ อาจจะเป็นเพราะเขาไม่สะดวกจอดตรงนั้น อาจจะมีรถตามหลังมาแบบกระชั้นชิด อาจอยู่ในเลนที่ไม่สามารถเข้ามารับได้เพราะจะทำให้รถคันอื่นเดือนร้อน
หรือเขาอาจจะเห็นใครขี่คอคุณอยู่ หรือมองเห็นคนโบกรถไม่มีหัว หรืออะไรก็แล้วแต่ หมายถึงเขาไม่รับครับ ไม่ผิด แต่กรณีจอดถามแล้วไม่ไป ผิดครับ ก็มียกเว้นอีกนะครับ เช่นท่านไม่รู้ทาง แท็กซี่ก็ไม่รู้ทาง
ท่านไปไกลเกินก๊าสไปไม่ถึง ขอเติมแล้วท่านไม่โอเค ก็เป็นเหตุผลที่ไม่รับได้ครับ แก๊สNGVเต็มถังวิ่งได้ประมาณ150-200กม.ไม่รวมรถติด ก๊าสประมาณ300-500กม.ไม่รวมรถติด แล้ววิ่งมานานเท่าไหร่
กว่าจะเจอท่านและเรียกไปที่ไกลๆ ก็เป็นได้ครับ
( บริการผ่านแอพ ไม่ใช่เขาไม่ปฏิเสธนะครับ เขาปฏิเสธกันหมดแล้ว ที่เหลือคือคนที่เขาอยากไปทางนั้น หรือไม่เกี่ยงครับ เพราะแอพจะส่งไปให้คนแรกที่ใกล้สุด พอไม่รับก็ส่งไปอีกคนเรื่อยๆจนมีคนรับครับ
ไม่ใช่บอกว่าใช้แอพนู้นนั้นซิ ไม่มีปฏิเสธ อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมขับอยู่ทุกแอพที่ใช้ๆกันอยู่แหล่ะครับ )
ถ้าวันไหนกรณีเปิดไฟว่างมีคนเรียกแล้วไม่จอดรับ จอดถามเป็นความผิดเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแท็กซี่ที่วิ่งเลน2 เลน3 เลน4 เมื่อเห็นคนเรียกจะปาดหน้าชนทุกคันมารับ เพราะถ้าไม่รับเป็นความผิดครับ
หรือไม่ก็จะเบรคให้หัวทิ่มหัวตำ คันหลังชนท้ายกระจายเพราะถ้าไม่จอดรับเป็นความผิดครับ ต้องต่อสู้กันในศาลอีกทีละครับว่าไครผิด ระว่างไม่จอดรับจอดถามแล้วมีความผิด กับจอดรับจอดถามแล้วเกิดอุบัติเหตุ
ขึ้นใครเป็นคนรับผิดชอบ ขนส่งรับผิดหรือเปล่าเพราะถ้าไม่รับผิด ต้องรอผมถูกจับปรับก่อนนะครับผมจะทำให้ดูครับ ถ้าศาลตัดสินว่าผมไม่จอดถามจอดรับแล้วเป็นความผิด จะปาดเข้าไปรับทุกคนที่โบกครับ
แต่ถ้าศาลตัดสินว่าผมไม่จอดรับจอดถามถือว่าไม่ผิด ผมจะแจ้งข้อหาขนส่งว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ครับ
และฝากถึงผู้ใช้บริการที่ชอบแอบ คือ แอบใต้ต้นใต้ ยืนหลังป้าย หรืออื่นๆ แดดร้อน ฝนตก พอเห็นรถแท็กซี่แล้ววิ่งออกมาโบกรถ จะบอกว่า จอดไม่ทันนะครับ
เบรกจอดกะทันหันรถคันอื่นที่ตามมาเขาจะด่าพ่อล้อแม่เอาทั้งแท็กซี่ทั้งคนโบกนะครับ
อีกอย่างคือเวลาโบกรถ รบกวนโบกแล้วมองว่ารถแท็กซี่เปิดไฟเลี้ยว ไฟกระพริบ หรือชิดเลนซ้ายแล้วค่อยเอามือลงด้วยนะครับ
เพราะเห็นส่วนมาก โบกกันสองขยักแล้วเอาลง คือจะบอกว่าขับรถไม่ได้มองแต่คนโบกนะครับ มองรถซ้าย รถขวา รถหลัง จังหวะท่านโบกอาจจะมองไม่เห็น
เลยขับผ่านไปแล้วท่านก็มองตาละห้อย(ประมาณว่า เห้...เอ้ย ไม่รับตูฟร่ะ)ด่าตามหลังนะครับ เพราะตอนมอง ท่านไม่ได้โบก เมื่อไม่เห็นโบก ใครจะจอดละครับท่านนนนนน
และแท็กซี่มิเตอร์มีมิเตอร์อยู่ด้านหน้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจน กรุณาเตรียมเงินก่อนถึงจุดหมายปลายทางได้ไหมครับ
หลายๆคนถึงที่แล้วค่อยล้วงกระเป๋าตัง มานับ กว่าจะหาเศษตังจนครบ รถมันติดครับ คันหลังเขาจะด่าพ่อล้อแม่เอานะครับ
ย้ายห้อง ขนของ พ่อค้าแม่ค้าขนของไปขาย ที่ไว้ด้านหลังไม่พอ เยอะครับแบบนี้ปกติไม่ใช้หรอกแท็กซี่ แต่พอขนของเยอะก็เรียกแท็กซี่ ประเด็นคือเป็นรอยครับ ท่านที่นั่งแท็กซี่บ่อยๆจะเห็นว่า
ด้านหลังผู้โดยสารและคนขับ ประตูข้างซ้ายและขวาฝั่งผู้โดยสาร ส่วนใหญ่จะเป็นรอยขูดขีด มาจากเหตุผลพวกนี้ทั้งนั้นเลยครับ 100ละ100 บอกไม่เป็นรอย ตั้งไปดี มีกระดาษรอง มีพลาสติกหุ้ม
แต่เวลารถเร่ง เบรค เลี้ยว ของพวกนี้ก็จะไปโดนจนเป็นรอยครับ อยากนั่งรถใหม่ รถสะอาดกันทุกคนเพราะเสียตังนั่งกันแล้ว แต่ที่เก่าและโทรมมาจากเหตุผลนี้แหล่ะครับ
เอาเท่านี้ก่อนนะครับ เรื่องมีเยอะร้อยแปดพันเก้า เจอคนทุกรูปแบบ โจรยังเคยเจอเลยครับ
อย่าลืมนะครับ อ่านจบก่อนนะครับ ค่อยเม้นนะครับ
ปล.ต่างประเทศ สตาร์ทเริ่มต้น100-200บาท เริ่มต้นกม.ละ10+บาท นะครับ ไครอยากรู้ลองหาข้อมูลดูได้ครับ
ราคาค่ามิเตอร์ประเทศไทย
เริ่มต้น 35.00 บาท
1-10 กม. กม.ละ 5.50บาท
10-20 กม. กม.ละ 6.50บาท
20-40 กม. กม.ละ 7.50บาท
40-60 กม. กม.ละ 8.00บาท
60-80 กม. กม.ละ 9.00บาท
เกิน80 กม. กม.ละ 10.50บาท
รถติด นาทีละ2.00บาท
ประเทศไทยรถติดอันดับต้นๆของโลก และราคารถแท็กซี่มิเตอร์ก็ถูกติดอันดับต้นๆของโลกเช่นเดียวกัน
น้ำมันก็แพง ก๊าสแก๊สก็แพง ซ่อมก็แพง ภาษีรถก็แพง ค่าครองชีพ ค่าห้อง ค่ากินก็แพง
เคยไปซื้อไข่ปิ้งกับคนขายที่แบกเตาย่างขาย แถวๆซอยวัดกู้ วัดบางพัง เขาบอกเขาเคยขับรถแท็กซี่ เขาบอกไม่ไหวไม่คุ้ม(ไม่โกง ไม่เหมา ไม่ปฏิเสธ)
แบกเตาหามขายไข่ปิ้งยังเหลือมากกว่าอีก อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุน (เดือนมีนาคม ปี61 ยังเห็นเขาขายอยู่ลองไปถามดูได้)
อย่าบอกให้เลิกขับเลยครับ เพราะเป็นอาชีพสุจริต ขอแค่พวกผิดกฎหมายออกไปหมดทุกกรณี รถหมดอายุ ไม่มีใบขับขี่ รถป้ายแดง อื่นๆ เท่านี้แท็กซี่ก็หายไปครึ่งเมืองแล้วครับ เชื่อผม ผมขับอยู่ ^^
ก่อนจะถึงด่านเก็บเงินค่าทางด่วน ถามลูกค้าว่า ลูกค้ารับใบเสร็จไหมครับ ...?(เนื่องจากผมไม่ทราบหรอกครับว่าคุณจะเอาไปทำอะไร ขนาดกรรมกรเขายังเอาไปเบิกเลย จึงจำเป็นต้องถามทุกคนที่ขึ้นทางด่วน เพราะหากลูกค้าจะเอาแล้วไม่บอก
จะกลายเป็นโทษคนขับอีก) คำตอบคือ เอามาทำอะไร เอาไปเบิกใคร เอาไปเบิกนายกได้ไหม...!!! อึ้งไปเลยครับ ถามดีๆ พูดก็พูดครับ ดันตอบแบบนี้ พวกที่ตอบ ไม่เอา(ด้วนๆ)หรือไม่รู้เอาไปทำไร ซิดซ้ายไปเลย ฮึฮึฮึ
กรณีที่สาม
เมา ขึ้นมาก็ถามพูดนู้นนี่นั้น พวกเมาเจอบ่อย หนักสุดเจอบ่ายๆ เรียกไปเมืองทอง เมาทั้งเหล้าทั้งแดด ถามเราว่า พี่ พี่ตาบอดป่าวใส่แว่นดำเนี้ย( อยากกระโดดถีบตกรถมา) นั่งไปอีกประมาน2-3นาที หันมาถามอีก ผมถามจริงๆพี่ ตาบอดป่าว แล้ว...เอานิ้วมาจิ้มตาตรงแว่นเรา
หันมองถอดแว่น สงสัยรู้แล้วไม่พอใจ เลยหันมาบอกว่า โทษทีนะพี่ผมเมา ไม่ถึง5นาทีทำท่าจะอ็วกแล้ว

กรณีที่สี่(เจอเยอะสุด เจอบ่อยมาก เจอแทบทุกวัน)
ท่าผู้ใช้บริการทุกท่านครับ กระเป๋าแบบลาก เขาไม่ได้มีไว้วางที่เบาะนะครับ เพราะไม่มีใบไหนในโลก ที่ท่านลากออกมาจากบ้านแล้วเอามาไว้บนเบาะแล้วมันจะไม่เลอะเป็นรอยล้อ
ทั้งตอนเอาวางและลงรถแล้วลากลง ทั้งเลอะทั้งเป็นรอย หนักสุดถึงกับเบาะขาดเลยนะครับเพราะกระเป๋าพวกนี้ค่อนข้างหนัก ถ้าท่านขึ้นรถแท็กซี่แล้วที่เบาะที่ท่านจะนั้นมีรอยคราบล้อกระเป๋า ท่านจะคิดยังไงครับ
กางเกงท่านจะเลอะไหม รถคันนี้ทำมัยสกปรกจัง ฯ ท่านผู้โดยสารครับ ไม่มีแท็กซี่คันไหนล้างรถเสร็จกลัวลูกค้าทำเลอะแล้วทำเลอะซะเองก่อนหรอกครับ
เป็นอีก1เหตุผลที่ท่านๆทั้งหลายที่จะไปดอนเมือง สุวรรณภูมิหรือขนส่งต่างๆ หรือมาจากขนส่งเหล่านั้นแล้วจะกลับบ้าน เขาเห็นกระเป๋าแล้วไม่อยากรับครับ
ยกตัวอย่างถนนเส้นหนึ่งแถวๆฝั่งตรงข้ามดอนเมือง มีเป็นสิบหมู่บ้านเลย แอร์โฮตเตสส่วนใหญ่ใช้บริการแท็กซี่เพื่อไปสนามบิน 90% เอาวางไว้ที่พักเท้า เพราะเคยถาม
เขาบอกเขามีรถเขาเข้าใจเป็นผู้ให้บริการเหมือนกัน แต่อีก10%เอาวางบนเบาะ ทำให้เดี๋ยวนี้ ไม่รับเลยครับพวกมีกระเป๋าลากเห็นแล้วผ่านเลย
กรณีที่ห้า
ไม่รู้ทาง บอกเราว่าไปทางไหนก็ได้ เอาใกล้ๆ
คือเอ่อ แท็กซี่ไม่ใช่ ตรูเกิ้ลแมพ แท็กซี่มีบ้านมีช่อง รู้ทางแค่หลักๆ ทางลัดเลาะก็ได้เฉพาะโซนที่เคยวิ่ง นะครับ
เจอบอกว่าทางไหนก็ได้ แต่พอมาได้สักพัก เราไปที่นี่เราก็จะไปทางนี้ เพราะทางอื่นเราไม่รู้ ใกล้ๆบ้านเขา
กลับถามเราว่า พี่พาหนูอ้อมมาทางนี้ทำไม ทำไมไม่ไปทางนั้น ซอยนั้นทะลุซอยนั้น ออกทางนี้เลี้ยวนี่ก็โผล่ตรงนี้ก็ถึงแล้ว
เอ่อคือ ไปไม่เป็นเลย หาว่าพาอ้อมซะงั้น
แท็กซี่มีหลายแสนคัน หลายแสนเรื่อง แต่คนมีเป็นล้าน และล้านเรื่องครับ
อยากบอกอีกครับ ปกติพวกท่านขับรถวันละกี่ ชม. ไปทำงาน ออกหาลูกค้า กลับบ้าน เที่ยวห้าง หาของกิน รถติดเบื่อไหมครับ ผมคนขับแท็กซี่ ติดตั้งแต่ตื่นยันเข้าบ้านนอนครับ
ท่านติด สัก1ชม. รู้สึกแบบไหน แท็กซี่ติดทั้งวันจะรู้สึกแบบไหน อาชีพขับรถไม่ใช่อาชีพขับรถติดครับ อยากบอกว่า ถ้าท่านหงุดหงิด แท็กซี่เยอะกว่าพวกท่าน มีหนี้สินรายวันทุกนาทีที่รถติดครับ
ทุกๆเหตุผลที่กล่าวมาใช่ว่าจะทำความสะอาดไม่ได้ ประเด็นคือส่งพวกท่านเสร็จ ไปวิ่งไปหาที่จอดซึ่งไม่ใช่ข้างถนนเพราะอาจจะทำให้รถติด จอดเพื่อลงมาทำความสะอาดรถ วันหนึ่งรับลูกค้า10คน
ต้องจอดทำความสะอาด10รอบ มันใช้เวลาไม่นานหรอก แต่กว่าจะหาที่จอดกว่าจะเช็ดแล้วกว่าจะออกไปวิ่งหาคนต่อ ตกแล้วรอบๆหนึ่งมันก็ นานโขอยู่นะครับสำหรับคนที่ทำงานเร่งต่อเวลาบนท้องถนน แทนที่คนลงแล้วจะเปิดไฟว่างเพื่อรับผู้โดยสารต่อทันที ต้องวิ่งออกไปจอดรถทำความสะอาด
แต่ที่ประทับใจคือ มีเจ้าหน้าที่ ตร.2นาย คิดว่าอยู่ สน.ทุ่งสองห้อง เนื่องจากไปรับมาจากที่พักแถวนั้น คาดว่าเป็น นักเรียนนายร้อยเพิ่งจบมาใหม่ เพราะยังหนุ่มมาก เรียกรถเข้ามา
จากหน้าปากซอย ให้เข้ามารับที่แฟลตตร. ระว่างรอผมไม่รู้ทำอะไรก็เลยเช็ดรถทำความสะอาดรถ ตร.2นายนั้นมา เห็นผมเช็ดรถ ก็เปิดประตูแล้วมองไปในรถ นั่งลงบนเบาะ
แล้วถอดรองเท้าเอาไปตั้งไว้ แล้วขยับไปด้านข้างขวา อีกคนก็นั่งลงแล้วถอดรองเท้าแล้วเอาไปวางใกล้ๆกัน แล้วนั่งไป พอใกล้ถึงจะลง(รถตู้รังสิต)ก็หยิบรองเท้ามาใส่แล้วก้าวลง
อันนี้คือประทับใจสุดๆครับ ไม่ใช่เพราะเขาเป็น ตร. แต่เพราะเขาสนใจและใส่ใจ ในการใช้บริการ มองความสะอาด มองคนให้บริการ ไม่ใช่แค่เราเรียกแล้วจ่ายตัง ไม่ได้ขอนั่งฟรีๆ
เหมือนหลายๆคอมเม้นในโลกออนไลน์เขาเม้นกัน รถจะเลอะ จะเป็นรอย หรืออะไรไม่รู้ รู้แต่เราเสียตังนั่งรถ ไม่ได้ขอนั่งฟรีๆ ตรรกะแบบนี้ เขาเรียกเห็นแก่ตัวเอาตัวเองเป็นที่ตั้งครับ
แท็กซี่ใกล้ถึงแล้วปิดไฟ อาจจะเป็นเพราะแท็กซี่คันนั้นใช้แอพ แท็กซี่โอเค แกรป อูเบอร์ เพราะถ้าแอพเด้งขึ้นมาแท็กซี่จะปิดไฟว่างแล้วขับรถไปหาลูกค้าที่ใช้บริการผ่านแอพนะครับ
แท็กซี่เปิดไฟว่างแล้วไม่จอดรับ อาจจะเป็นเพราะเขาไม่สะดวกจอดตรงนั้น อาจจะมีรถตามหลังมาแบบกระชั้นชิด อาจอยู่ในเลนที่ไม่สามารถเข้ามารับได้เพราะจะทำให้รถคันอื่นเดือนร้อน
หรือเขาอาจจะเห็นใครขี่คอคุณอยู่ หรือมองเห็นคนโบกรถไม่มีหัว หรืออะไรก็แล้วแต่ หมายถึงเขาไม่รับครับ ไม่ผิด แต่กรณีจอดถามแล้วไม่ไป ผิดครับ ก็มียกเว้นอีกนะครับ เช่นท่านไม่รู้ทาง แท็กซี่ก็ไม่รู้ทาง
ท่านไปไกลเกินก๊าสไปไม่ถึง ขอเติมแล้วท่านไม่โอเค ก็เป็นเหตุผลที่ไม่รับได้ครับ แก๊สNGVเต็มถังวิ่งได้ประมาณ150-200กม.ไม่รวมรถติด ก๊าสประมาณ300-500กม.ไม่รวมรถติด แล้ววิ่งมานานเท่าไหร่
กว่าจะเจอท่านและเรียกไปที่ไกลๆ ก็เป็นได้ครับ
( บริการผ่านแอพ ไม่ใช่เขาไม่ปฏิเสธนะครับ เขาปฏิเสธกันหมดแล้ว ที่เหลือคือคนที่เขาอยากไปทางนั้น หรือไม่เกี่ยงครับ เพราะแอพจะส่งไปให้คนแรกที่ใกล้สุด พอไม่รับก็ส่งไปอีกคนเรื่อยๆจนมีคนรับครับ
ไม่ใช่บอกว่าใช้แอพนู้นนั้นซิ ไม่มีปฏิเสธ อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมขับอยู่ทุกแอพที่ใช้ๆกันอยู่แหล่ะครับ )
ถ้าวันไหนกรณีเปิดไฟว่างมีคนเรียกแล้วไม่จอดรับ จอดถามเป็นความผิดเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแท็กซี่ที่วิ่งเลน2 เลน3 เลน4 เมื่อเห็นคนเรียกจะปาดหน้าชนทุกคันมารับ เพราะถ้าไม่รับเป็นความผิดครับ
หรือไม่ก็จะเบรคให้หัวทิ่มหัวตำ คันหลังชนท้ายกระจายเพราะถ้าไม่จอดรับเป็นความผิดครับ ต้องต่อสู้กันในศาลอีกทีละครับว่าไครผิด ระว่างไม่จอดรับจอดถามแล้วมีความผิด กับจอดรับจอดถามแล้วเกิดอุบัติเหตุ
ขึ้นใครเป็นคนรับผิดชอบ ขนส่งรับผิดหรือเปล่าเพราะถ้าไม่รับผิด ต้องรอผมถูกจับปรับก่อนนะครับผมจะทำให้ดูครับ ถ้าศาลตัดสินว่าผมไม่จอดถามจอดรับแล้วเป็นความผิด จะปาดเข้าไปรับทุกคนที่โบกครับ
แต่ถ้าศาลตัดสินว่าผมไม่จอดรับจอดถามถือว่าไม่ผิด ผมจะแจ้งข้อหาขนส่งว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ครับ
และฝากถึงผู้ใช้บริการที่ชอบแอบ คือ แอบใต้ต้นใต้ ยืนหลังป้าย หรืออื่นๆ แดดร้อน ฝนตก พอเห็นรถแท็กซี่แล้ววิ่งออกมาโบกรถ จะบอกว่า จอดไม่ทันนะครับ
เบรกจอดกะทันหันรถคันอื่นที่ตามมาเขาจะด่าพ่อล้อแม่เอาทั้งแท็กซี่ทั้งคนโบกนะครับ
อีกอย่างคือเวลาโบกรถ รบกวนโบกแล้วมองว่ารถแท็กซี่เปิดไฟเลี้ยว ไฟกระพริบ หรือชิดเลนซ้ายแล้วค่อยเอามือลงด้วยนะครับ
เพราะเห็นส่วนมาก โบกกันสองขยักแล้วเอาลง คือจะบอกว่าขับรถไม่ได้มองแต่คนโบกนะครับ มองรถซ้าย รถขวา รถหลัง จังหวะท่านโบกอาจจะมองไม่เห็น
เลยขับผ่านไปแล้วท่านก็มองตาละห้อย(ประมาณว่า เห้...เอ้ย ไม่รับตูฟร่ะ)ด่าตามหลังนะครับ เพราะตอนมอง ท่านไม่ได้โบก เมื่อไม่เห็นโบก ใครจะจอดละครับท่านนนนนน
และแท็กซี่มิเตอร์มีมิเตอร์อยู่ด้านหน้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจน กรุณาเตรียมเงินก่อนถึงจุดหมายปลายทางได้ไหมครับ
หลายๆคนถึงที่แล้วค่อยล้วงกระเป๋าตัง มานับ กว่าจะหาเศษตังจนครบ รถมันติดครับ คันหลังเขาจะด่าพ่อล้อแม่เอานะครับ
ย้ายห้อง ขนของ พ่อค้าแม่ค้าขนของไปขาย ที่ไว้ด้านหลังไม่พอ เยอะครับแบบนี้ปกติไม่ใช้หรอกแท็กซี่ แต่พอขนของเยอะก็เรียกแท็กซี่ ประเด็นคือเป็นรอยครับ ท่านที่นั่งแท็กซี่บ่อยๆจะเห็นว่า
ด้านหลังผู้โดยสารและคนขับ ประตูข้างซ้ายและขวาฝั่งผู้โดยสาร ส่วนใหญ่จะเป็นรอยขูดขีด มาจากเหตุผลพวกนี้ทั้งนั้นเลยครับ 100ละ100 บอกไม่เป็นรอย ตั้งไปดี มีกระดาษรอง มีพลาสติกหุ้ม
แต่เวลารถเร่ง เบรค เลี้ยว ของพวกนี้ก็จะไปโดนจนเป็นรอยครับ อยากนั่งรถใหม่ รถสะอาดกันทุกคนเพราะเสียตังนั่งกันแล้ว แต่ที่เก่าและโทรมมาจากเหตุผลนี้แหล่ะครับ
เอาเท่านี้ก่อนนะครับ เรื่องมีเยอะร้อยแปดพันเก้า เจอคนทุกรูปแบบ โจรยังเคยเจอเลยครับ
อย่าลืมนะครับ อ่านจบก่อนนะครับ ค่อยเม้นนะครับ
ปล.ต่างประเทศ สตาร์ทเริ่มต้น100-200บาท เริ่มต้นกม.ละ10+บาท นะครับ ไครอยากรู้ลองหาข้อมูลดูได้ครับ
ราคาค่ามิเตอร์ประเทศไทย
เริ่มต้น 35.00 บาท
1-10 กม. กม.ละ 5.50บาท
10-20 กม. กม.ละ 6.50บาท
20-40 กม. กม.ละ 7.50บาท
40-60 กม. กม.ละ 8.00บาท
60-80 กม. กม.ละ 9.00บาท
เกิน80 กม. กม.ละ 10.50บาท
รถติด นาทีละ2.00บาท
ประเทศไทยรถติดอันดับต้นๆของโลก และราคารถแท็กซี่มิเตอร์ก็ถูกติดอันดับต้นๆของโลกเช่นเดียวกัน
น้ำมันก็แพง ก๊าสแก๊สก็แพง ซ่อมก็แพง ภาษีรถก็แพง ค่าครองชีพ ค่าห้อง ค่ากินก็แพง
เคยไปซื้อไข่ปิ้งกับคนขายที่แบกเตาย่างขาย แถวๆซอยวัดกู้ วัดบางพัง เขาบอกเขาเคยขับรถแท็กซี่ เขาบอกไม่ไหวไม่คุ้ม(ไม่โกง ไม่เหมา ไม่ปฏิเสธ)
แบกเตาหามขายไข่ปิ้งยังเหลือมากกว่าอีก อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุน (เดือนมีนาคม ปี61 ยังเห็นเขาขายอยู่ลองไปถามดูได้)
อย่าบอกให้เลิกขับเลยครับ เพราะเป็นอาชีพสุจริต ขอแค่พวกผิดกฎหมายออกไปหมดทุกกรณี รถหมดอายุ ไม่มีใบขับขี่ รถป้ายแดง อื่นๆ เท่านี้แท็กซี่ก็หายไปครึ่งเมืองแล้วครับ เชื่อผม ผมขับอยู่ ^^
ความคิดเห็นที่ 7
กรณีที่ 5 ถ้าไม่รู้ทาง ทำไมไม่ถามผู้โดยสารล่ะ
ผมเคยนั่ง คนขับไม่รู้ทาง เค้าก็บอกไม่รู้ทางนะ ช่วยบอกเค้าหน่อย ก็แค่นั้น
ส่วนที่จะมาบอกว่าคุณขับรถ รถติด เครียด นั่นมันคืออาชีพคุณครับ
คนอื่นเค้าทำงานก็เครียดเหมือนกัน มีภาระหนี้สินเหมือนกัน
คุณจะเอามาเป็นข้ออ้างไม่ได้
จะขอราคาเท่าต่างประเทศ คุณต้องดูคุณภาพและการให้บริการของบ้านเค้าด้วยว่าเท่ากันไหม
ลงมาช่วยยกของ สุภาพ มีชุดฟอร์ม กดมิเตอร์ทุกครั้ง ขับไม่เร็ว
ไม่อย่างนั้นทำไมคนถึงใช้บริการ uber กับ Grab ทั้งที่ผิดและราคาแพงกว่า
ก็เพราะ Taxi ธรรมดาไม่ตอบโจทย์เค้า
อันนี้ผมพูดรวมๆนะ เพราะต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ Taxi บ้านเรามันไม่ดีในสายตาคนทั่วไป
ผมเคยนั่ง คนขับไม่รู้ทาง เค้าก็บอกไม่รู้ทางนะ ช่วยบอกเค้าหน่อย ก็แค่นั้น
ส่วนที่จะมาบอกว่าคุณขับรถ รถติด เครียด นั่นมันคืออาชีพคุณครับ
คนอื่นเค้าทำงานก็เครียดเหมือนกัน มีภาระหนี้สินเหมือนกัน
คุณจะเอามาเป็นข้ออ้างไม่ได้
จะขอราคาเท่าต่างประเทศ คุณต้องดูคุณภาพและการให้บริการของบ้านเค้าด้วยว่าเท่ากันไหม
ลงมาช่วยยกของ สุภาพ มีชุดฟอร์ม กดมิเตอร์ทุกครั้ง ขับไม่เร็ว
ไม่อย่างนั้นทำไมคนถึงใช้บริการ uber กับ Grab ทั้งที่ผิดและราคาแพงกว่า
ก็เพราะ Taxi ธรรมดาไม่ตอบโจทย์เค้า
อันนี้ผมพูดรวมๆนะ เพราะต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ Taxi บ้านเรามันไม่ดีในสายตาคนทั่วไป
ความคิดเห็นที่ 15
ดีครับ ที่กรุณาเข้ามาอธิบายในมุมของคนขับบ้าง การทำความเข้าใจกันเป็นสิ่งที่ดี ถึงจะยาวไปนิด แต่ก็อ่านจนจบเพราะต้องการข้อมูลตรงจากผู้ขับขี่บ้าง
เราชอบคำว่า "แท๊กซี่ปลอม" ของคุณ บางคนไม่มีคุณสมบัติการเป็นแท๊กซี่เลย ใบอนุญาตสาธารณะก็ไม่มี เราคิดว่าที่คุณบอกว่าตรวจพบให้ยึดรถเราก็เห็นด้วย เจ้าของอู่ควรจะมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้ใครเช่ารถไปขับก็ได้ ต้องให้เฉพาะผู้ที่มีใบอนุญาต และมีการตรวจสอบประวัติอย่างเข้มงวด ผู้โดยสารก็จะปลอดภัย ถ้าคนขับไม่มีใบอนุญาตสาธารณะ เจ้าของอู่ต้องโดนก่อน ถือเป็นการปล่อยปละละเลย ไม่รับผิดชอบต่อสังคม
เรื่องการไม่รับผู้โดยสารนี่เป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาล ไม่เคยมีใครแก้ไขได้ มันก็แปลก สังคมเรามีกฏ ระเบียบ แต่ไม่มีผู้บังคับใช้ให้ได้ผล
เช่ารถมาขับแล้วไม่รับคน เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอารายได้จากไหน ในข่าวก็เห็นนะว่าคนไทยรอเป็นกลุ่มๆ ย่อยๆ เรียกรถก็จอดด้วยนะ แต่ไม่รับซักคัน เป็นข้อสังเกตุว่าถ้าไม่รับคนไทย เพราะค่าโดยสารไม่คุ้ม ดังนั้น คุณจะต้องไปทำอะไรกับชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบน่าจะตระหนักถึงเรื่องนี้บ้าง
เราว่าแท๊กซี่ดีๆ ที่ตั้งใจทำมาหากิน รับผู้โดยสารอย่างจริงจัง ก็ยังมีอยู่มาก เพียงแต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคันไหนที่ไม่เลือกผู้โดยสาร ถ้างั้นเรามีข้อเสนอ
ลองดูแบบนี้ไม๊ ในเมื่อแท๊กซี่มีหลากสีอยู่แล้ว ก็เอาเป็นสีๆ กันไปเลย เช่น สมมุติว่า
สีขาว ไปทุกที่ทั่วไทย รับทุกคน
สีเขียว รับเฉพาะชาวต่างชาติ
สีเหลือง รับเฉพาะโซนไม่เกิน 15-20 กม.
สีแดง รับเฉพาะ กทม และ ปริมณฑล
เช่นนี้ ผู้โดยสารก็จะได้เข้าใจว่ารถแต่ละคัน จะบริการแบบใดบ้าง คนขับเองก็จะได้ทราบว่า แบบไหนจะมีรายได้ดีกว่ากัน ไม่ต้องมาโบกมาถามกัน ใช้สีเป็นสัญลักษณ์กันไปเลย
ส่วนเรื่องราคาค่ามิเตอร์ ที่ท่านคิดว่ายังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ก็ควรจะมีการศึกษาว่าจุดคุ้มทุนอยู่ที่เท่าไหร่ ที่ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารต่างก็รับได้ ทั้งในช่วงรถติด และช่วงปกติ
เราชอบคำว่า "แท๊กซี่ปลอม" ของคุณ บางคนไม่มีคุณสมบัติการเป็นแท๊กซี่เลย ใบอนุญาตสาธารณะก็ไม่มี เราคิดว่าที่คุณบอกว่าตรวจพบให้ยึดรถเราก็เห็นด้วย เจ้าของอู่ควรจะมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้ใครเช่ารถไปขับก็ได้ ต้องให้เฉพาะผู้ที่มีใบอนุญาต และมีการตรวจสอบประวัติอย่างเข้มงวด ผู้โดยสารก็จะปลอดภัย ถ้าคนขับไม่มีใบอนุญาตสาธารณะ เจ้าของอู่ต้องโดนก่อน ถือเป็นการปล่อยปละละเลย ไม่รับผิดชอบต่อสังคม
เรื่องการไม่รับผู้โดยสารนี่เป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาล ไม่เคยมีใครแก้ไขได้ มันก็แปลก สังคมเรามีกฏ ระเบียบ แต่ไม่มีผู้บังคับใช้ให้ได้ผล
เช่ารถมาขับแล้วไม่รับคน เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอารายได้จากไหน ในข่าวก็เห็นนะว่าคนไทยรอเป็นกลุ่มๆ ย่อยๆ เรียกรถก็จอดด้วยนะ แต่ไม่รับซักคัน เป็นข้อสังเกตุว่าถ้าไม่รับคนไทย เพราะค่าโดยสารไม่คุ้ม ดังนั้น คุณจะต้องไปทำอะไรกับชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบน่าจะตระหนักถึงเรื่องนี้บ้าง
เราว่าแท๊กซี่ดีๆ ที่ตั้งใจทำมาหากิน รับผู้โดยสารอย่างจริงจัง ก็ยังมีอยู่มาก เพียงแต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าคันไหนที่ไม่เลือกผู้โดยสาร ถ้างั้นเรามีข้อเสนอ
ลองดูแบบนี้ไม๊ ในเมื่อแท๊กซี่มีหลากสีอยู่แล้ว ก็เอาเป็นสีๆ กันไปเลย เช่น สมมุติว่า
สีขาว ไปทุกที่ทั่วไทย รับทุกคน
สีเขียว รับเฉพาะชาวต่างชาติ
สีเหลือง รับเฉพาะโซนไม่เกิน 15-20 กม.
สีแดง รับเฉพาะ กทม และ ปริมณฑล
เช่นนี้ ผู้โดยสารก็จะได้เข้าใจว่ารถแต่ละคัน จะบริการแบบใดบ้าง คนขับเองก็จะได้ทราบว่า แบบไหนจะมีรายได้ดีกว่ากัน ไม่ต้องมาโบกมาถามกัน ใช้สีเป็นสัญลักษณ์กันไปเลย
ส่วนเรื่องราคาค่ามิเตอร์ ที่ท่านคิดว่ายังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ก็ควรจะมีการศึกษาว่าจุดคุ้มทุนอยู่ที่เท่าไหร่ ที่ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารต่างก็รับได้ ทั้งในช่วงรถติด และช่วงปกติ
แสดงความคิดเห็น
สวัสดีครับ ผมคนขับแท็กซี่ครับ
(กรุณาอ่านให้หมดให้จบก่อนค่อยเม้นนะครับ ไม่เข้าใจหรืออยากรู้อะไรถามได้ครับ ถามแบบอยากรู้นะครับไม่ใช่ถามเอามัน
และโปรดเข้าใจว่าผมเป็นแค่คนคนหนึ่งตอบได้เฉพาะที่ผมเคยพบเจอและรู้ อย่าเอาแท็กซี่คันอื่นคนอื่นมาเทียบ เพราะมันอยู่ที่ตัวบุคลไม่ใช่อยู่ที่อาชีพนี้จะเป็นเหมือนกันทุกคน)
อยากจะมาทำความเข้าใจและระบายอะไรที่ได้พบเจอมาตลอดช่วงเวลาที่ได้ขับรถแท็กซี่บริการพี่น้องประชาชน
ผมเช่ารถขับครับรถรุ่นเก่ายังไม่หมดอายุ เมื่อก่อนวันละ500บาท บวกค่าแก๊ส 250-300บาท ตกประมาณวันละ 800บาท
ปัจจุบันรถใหม่ ค่าเช่า 900บาท ค่าก๊าส 500บาท ตกประมานวันละ 1400บาท
ถ้าพวกรถหมดอายุหรือรถผิดกฎหมายอื่นๆ ตัดค่าเช่าออกเลยครับ เหลือแต่แค่ก๊าสค่าแก๊สและค่าซ่อม คงไม่ได้ซ่อมทุกวันแน่ๆ
เมื่อก่อนรถคันละไม่เท่าไหร่ ปัจจุบัน
ดาวน์รถ3แสน ผ่อนวันละ700บาท 5ปี คือ
700บาทคูณ30วัน คูณ12เดือน คูณ5ปี เท่ากับ 1260000+เงินดาวน์300000เท่ากับ 1560000บาทครับ (ราคารวมประมาณรวมดอกเบี้ย)
ดาวน์รถ3-5หมื่น ผ่อนวันละ 1100บาท 4ปี คือ
1100บาทคูณ30วัน คูณ12เดือน คูณ4ปี เท่ากับ 1584000+เงินดาวน์3-5หมื่นเท่ากับ 1634000+บาทครับ (ราคารวมประมาณรวมดอกเบี้ย)
ยังไม่รวม ค่าน้ำมันเครื่องทุกเดือน ค่ายาง ค่าต่อภาษี พรบ. ประกัน ค่าซ่อมรถอื่นๆ นะครับ
ผมจึงตัดสินใจเช่าดีกว่าซื้อ เพราะมีเหตุอะไรต้องหยุดหรือซ่อมอะไร มันไม่มีค่าใช้จ่ายตามหลังครับ เพราะถ้าซื้อห้ามหยุด ห้ามลา ห้ามป่วย ห้ามตายครับ
เท่าที่รู้จักคนขับแท็กซี่มาน้อยคนมากที่จะซื้อรถใหม่มือหนึ่งแล้วผ่อนจนหมดเป็นของตัวเองจริงๆครับ ส่วนใหญ่จะซื้อเป็นมือสองที่ราคาตกแล้วเกือบทั้งนั้นและปัญหาต่อไปคือการซ่อมปะปรายเรื่อยเปื่อยครับ
ถ้าผมเช่ารถแล้ว เปิดมิเตอร์ตั้งแต่8โมงเช้า ถึง4โมงเย็น เป็นเวลา8ชั่วโมง ตามเวลาการทำงานปกติ ผมจะได้ค่ามิเตอร์ สตาร์ท35บาท นาทีละ2บาท คูณ60นาที คูณ8ชั่วโมง
เท่ากับ995บาท กับค่าเช่าค่าก๊าสวันละ1400บาท
กรณีไปที่รถติดทั่วไปไม่ติดมาก1.30ชม. ได้ประมาณ250บาท 3ชม. 500บาท 6ชม.1000บาท 9ชม.1500บาท ค่าเช่ากับค่าก๊าสก็1400บาท
กรณีรถติดมาก 1ชม. ได้ประมาณ150บาท 8ชม.1200บาท ค่าเช่าค่าก๊าส1400บาท
ที่กล่าวมานี่หมายถึงมีคนขึ้นลงแล้วขึ้นต่อทันทีนะครับ แต่ความเป็นจริงส่งคนลงเสร็จ วิ่งไปอีกนานเท่าไหร่ไม่รู้จะมีคนใช้บริการต่อ ตกแล้วผมต้องขับรถวันละกี่ ชม.ถึงจะได้กำไร มาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเลี้ยงครอบครับ ถ้ารถยังติดหรือไปแต่ที่รถติดแบบนี้ครับ
กรณีขับรถจากดอนเมืองไปประตูน้ำ จากดอนเมืองไปถึงอนุสาวรีย์ ราคามิเตอร์ประมาน 150-160บาทใช้เวลาประมาน20-30นาที(รถไม่ติดมาก) และจาก อนุสาวรีย์ไปถึงประตูน้ำไม่ไกล ระยะเวลาประมาน45นาที
จาก150-160จะกลายเป็น 240-260บาท ลูกค้าจะบ่นรถติด มิเตอร์แพง
ท่านทราบไหมครับ รถติดมิเตอร์ขึ้นชม.ละ120บาท แต่ถ้ารถไม่ติดขับทำความเร็วได้1ชม. ค่ามิเตอร์400-500แน่ๆครับ
ต้นทุนรถ ต้นทุนน้ำมัน ต้อนทุนก๊าสแก๊สและอื่นๆมันขยับขึ้น นาทีละ2บาท บอกตรงๆขาดทุนครับ ต้นทุนอยู่ที่3บาทเกือบ4บาทแล้วครับ
เห็นความแตกต่างไหมครับ รถติด รถไม่ติด ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของรถที่ถูกกฎหมายและไม่ปฏิเสธลูกค้า พวกเขาอยู่ยากกว่าพวกผิดกฎหมายครับ
และนี่คือเหตุผลที่แท็กซี่ไม่ชอบรถติดครับ
อยากให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ และหาทางแก้ไข เรื่องต้นทุนที่แท้จริงกับสะภาพการจราจรในปัจจุบันครับ
และอยากรู้เหมือนกันถ้าราคาเป็นความเป็นจริงแล้วยังจะมีใครใช้บริการแท็กซี่อีกไหม ไปรถติดนาทีละ4บาท
วิ่งช้ากว่า20กม.ต่อชม.ให้คิดเป็นนาที นี่แหล่ะครับต้นทุนที่แท้จริง
น่าจะทำให้แก้ปัญหาปฏิเสธผู้โดยสารไปที่ที่รถติดได้ เพราะไปแล้วไม่ขาดทุน อยู่ที่ลูกค้าจะเลือกไปไหมแล้วละครับทีนี้
เข้าเรื่องเลยนะครับ
เรียนก่อนนะครับว่า กว่าผมจะได้ใบขับขี่แท็กซี่มาใช้เวลา 7เดือน รอตรวจประวัติอาชญากรรม รอคิวอบรม ฯ
แตกต่างจากพวก ไม่รู้ทำอะไรพอมีตังไปหาเช่ารถแท็กซี่มาขับ เพราะสามารถขับได้เลย ไม่ต้องรออะไร
ขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถแท็กซี่ เหมือนรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป แตกต่างประมาณ 2-3ข้อเรื่องเส้นทาง
นอกนั้นเหมือนกันหมด แล้วทำไมต้องไปทำใบขับขี่สาธารณะ เพราะเขาจะตรวจประวัติอาชญากรรม
มีคดีอะไรติดตัวอยู่ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน เขาไม่ให้ขับ และถ้าหากพ้นโทษออกมาแล้วต้องเกิน3ปี
ถึงจะมาให้บริการได้เนื่องจากต้องการให้อยู่ในสังคมให้ได้ก่อน ไม่ใช่ออกจากคุกมาแล้วจะมาขับได้เลย
ลองค้นๆดูในข่าว มีคนขับแท็กซี่ที่เพิ่งออกจากคุกมาแล้วไปเช่ารถไปก่อคดีหลายคดี ข่มขืน ปล้น ลักทรัพย์ ฯ
นี่เฉพาะเรื่องใบขับขี่นะครับ คนที่ไม่มีใบขับขี่สาธารณะ(แท็กซี่) ก็คือไม่ใช่แท็กซี่ แค่หากินกับรถแท็กซี่
แท็กซี่ไม่ใช่ ตำรวจหรือทหาร ที่พอมีอะไรเกิดขึ้น ใช้คำว่า ตำรวจปลอม ทหารปลอม ชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่
คนขับรถแท็กซี่ทุกคนที่ไม่มีใบขับขี่(รวมถึงหมดอายุ) ถือว่าไม่ใช่แท็กซี่ แล้วใช้คำว่าแท็กซี่ปลอม ได้ไหมครับ (ถามนักข่าว)
รวมไปถึงรถที่หมดอายุ รถป้ายแดง เสื้อยืด รองเท้าแตะ กางเกงยีนส์ขาดๆ พวกนี้ก็ขอให้ใช้คำว่า แท็กซี่นอกคอก เหมือนข่าว ตร. ทห. ได้ไหมครับ
เพราะถ้าใช้คำแบบนี้ แท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้มีกำลังใจ ไม่ใช่เหมารวมหมด
เปิด จส.100 หรือ สวพ.91 ฟัง ใน1วัน มีแท็กซี่คืนของ หาเจ้าของทรัพย์สิน ที่ทำหล่นไว้ในรถ ทั้งเงิน โทรศัพท์ ทอง ขนาดเพชรยังมีเลย
และก็มีจำนวนไม่น้อยที่ประชาชนที่ใช้บริการตามหาทรัพย์สิน ผมในฐานะคนขับ บอกตรงๆเลยนะครับ ไม่ใช่จะเป็นคนขับทุกคนที่จะมองเห็นทรัพย์สินของท่าน
ท่านลงจากรถ มีท่านอื่นใช้บริการต่อ คนดีเขาก็บอกคนขับ คนไม่ดีเขาก็เก็บไป ทางที่ดีที่สุดคือท่านต้องระวังตัวเองครับ
วิธีแก้ไข
ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ตั้งด่านหรือขับไปพบเจอ(หรือที่ใช้คำว่าเหตุซึ่งหน้า)
จับกุมอย่างจริงจัง ตรวจใบขับขี่ ตรวจเอกสารของรถทั้ง พรบ. ใบตรวจมิเตอร์ ต้องไม่เกินกำหนด การแต่งตัว ตรวจอย่างนี้ พบว่าผิด จับกุมยึดรถ
ทำไมถึงต้องยึดรถ เพราะรถแท็กซี่เป็นรถสาธารณะ(คนให้เช่าจะได้ไม่กล้าให้เช่ามั่วๆ) มีทั้ง เด็ก ผู้หญิง คนชรา คนท้อง ผู้ป่วย คนพิการ ใช้บริการ
ท่านเคยคิดไหมถ้าลูกหลานท่านเป็นเด็กผู้หญิง เลิกเรียน หรือต้องไปทำกิจกรรมใดๆ แล้วนั่งรถแท็กซี่ที่คนขับไม่มีใบขับขี่สาธารณะ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
หรือท่านจะต้องรอให้มันเกิดขึ้นก่อน ท่านถึงจะมาเอาจริงเอาจังสักพักหนึ่งเหมือนที่ผ่านๆมา
อย่าบอกนะครับ ว่าท่านไปส่ง ท่านไม่ให้ลูกหลานท่านขึ้นรถแท็กซี่ ถ้าท่านคิดแบบนี้ ท่านเห็นแก่ตัวมากครับ เพราะบางครอบครัวเขาไม่มีรถ
บางครอบครัวเขามีเหตุจำเป็นต้องให้ลูกหลานเขาใช้บริการ เพราะลูกหลานท่านไม่ได้ใช้บริการ ลูกหลานคนอื่นช่างหัวมัน ใช่หรือไม่ครับ...?
คนดีๆที่ขับรถป้ายแดง หรือขับรถหมดอายุก็มี ก็เข้าใจ แต่ท่านเข้าใจคำว่า ผิดกฎหมายไหมครับ...? มันเป็นเส้นบางๆระหว่างคำว่าเอาเปรียบและเห็นแก่ตัวครับ
เรื่องต่อไป ส่งรถ ก๊าสหมด แก๊สหมด
เรียนท่านผู้ใช้บริการและผู้ขับรถแท็กซี่ทุกท่านนะครับ
ไม่มีลูกค้าคนไหนโบกรถแท็กซี่ไป กะ คุณหรอกครับ ถ้าจะไปส่งรถ ก็ไม่ต้องเปิดไฟว่างครับ
ก๊าสหมด แก๊สหมด ต้องบอกลูกค้าว่า ขออนุญาตแวะเติมได้ไหมครับ ถ้าไม่ได้เขาเรียกคันใหม่เองเพราะเขาไม่อยากเสียเวลากับคุณเป็นการตัดสินใจของผู้ใช้บริการที่จะไม่ไปเอง ถ้าได้คุณก็แวะเติมแค่นั้น
แต่ไม่ใช่เขาเรียกไปใกล้ๆ ประมาณ50-60บาทแล้วคุณไปถามเขาว่าขอแวะเติมมันก็เกินไป ถ้าไปแค่นั้นแล้วต้องแวะเติม อย่าเปิดมิเตอร์เลยครับ ปิดแล้ววิ่งไปเติมก่อนเถอะครับ
เหมาเท่านั้น เจอแบบนี้มี2ทางเลือกครับ คือไม่ไป..จบ
และไปในราคาที่พอใจหรือพอไหว แล้วถ่ายคริปถ่ายรูป หรือจำทะเบียนรถ จำสี จำเวลาหรือลงรถแล้วโทรแจ้ง1584ได้เลยครับ รับแจ้ง24ชม.
เขาติดตามและจับปรับ หากโดนซ้ำมีพักใบอนุญาตและถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตครับ มีการตอบกลับจากขนส่งด้วยครับทาง SMS
ผมเองยังเคยโทรแจ้งเองเลยครับ ขับตามหลังมา มีคนเรียก เราก็ขับแซงไป ดูกระจกกลับไม่รับลูกค้าซะงั้น เสียครับเสียโอกาสของคน
ทำมาหากินและไม่ปฏิเสธลูกค้า เลยโทรแจ้งเลยครับ เพราะเขาไม่รับ เพราะถ้าไม่มีเขาขับนำหน้าและจอดถาม ผมรับแน่นอนไม่ปฏิเสธเพราะผมไปทุกที่ ที่มีคนนั่งไปด้วย ใกล้ไกลไปไหมด ข้างฝั่งยังไปเลยครับ
(คนแก่เดินข้ามสะพานลอยไม่ไหวก็โบกแท็กซี่ไปไกลับรถไปส่งมีเยอะครับ)
ส่วนตัวผมจะกลับบ้านหรือไปธุระ จะปิดมิเตอร์วิ่งครับ แต่เชื่อไหมครับ มีคนจำนวนไม่น้อยไม่ดูมิเตอร์เนื่องจากแค่มองเข้ามาแล้วไม่มีคน บางทีก็เดินมาจากข้างหลังไม่เห็นมิเตอร์ เปิดประตูขึ้นมานั่งเลยก็มีบ่อยมากๆเลยครับ
ขึ้นมาปุ๊บผมจะบอกว่าผมไม่ได้เปิดมิเตอร์ไฟว่างนะครับ ผมจะกลับบ้านที่...ครับ เคยมีคนที่จะไปทางเดียวกันกับไปทางผ่าน พูดคุยกันแล้วไปก็มี คนลงแล้วด่ารถที่ไม่เปิดมิเตอร์ไม่รับคนแต่ตัวเองไม่ดูมานั่งเองก็มี
แต่เท่าที่ขับมา เวลาปิดมิเตอร์จะกลับบ้าน คนจะมองว่าไอนี่ไม่มีคน จ้องแต่รับชาวต่างชาติ เป็นซะแบบนี้แหล่ะครับ
ลูกค้าจะเป็นใครระดับไหน ผอ. ทนาย ตร. ทหาร. พนักงานบริษัท ลูกจ้าง หรือแม้แต่ กรรมกรก่อสร้าง ผมจะพูดครับ ทุกคนเพราะถือว่าเป็นลูกค้าใช้บริการ แม้แต่เด็กนักเรียน ก็พูดคำว่าครับเหมือนกัน
ลูกค้าที่ใช้บริการจำนวนไม่น้อยที่การกระทำไม่สมกับหน้าที่อาชีพการงาน ทิ้งขวดน้ำ ทิ้งกระดาษทิชชู่ ทิ้งใบเสร็จทางด่วน(ทั้งๆที่ถามแล้วว่าเอาไหม ไม่เอาจะเก็บไว้ทิ้งเอง ได้ไม่ต้องไปขยำทิ้งแอบซุกไว้ในรถ)
กินขนมขบเคี้ยวแล้วเศษขนมตกกระจายบนเบาะ กรรมกรบางคนขึ้นมา ถอดรองเท้าขึ้นและขอโทษก่อนขึ้นรถเพราะในรถสะอาดก็ยังมี แตกต่างพวกที่กล่าวมาทีแรก
แย่สุดที่เคยเจอก็มีเป็นนักศึกษา ม.ดัง ย่านนนทบุรี รับมาจาก ซอยอัมพรไพศาล 2คน กินกีวี แต่คายเปลือกที่มีน้ำลายและน้ำจากกีวีไว้ในช้องมือจับเพื่อเปิดปิดประตู
ไม่ได้เอาทิชชู่หรืออะไรห่อไว้เลย เปลือกแบบที่บีบกินกินเหลือแต่เปลือกล้วนๆเลยครับ
ท้อสุดคือเราไม่รู้ทาง เราก็จะบอกลูกค้าว่า ผมไปครับ แต่ผมไม่รู้ทางรบกวนบอกทางได้ไหมครับ ซึ่ง99%ไม่มีปัญหา
แต่1%ที่ด่าเราว่า ไม่อยากไปก็บอกดีๆ ไม่ต้องมาอ้างไม่รู้ทาง อย่ามาขับเลยแท็กซี่ นู้นนี่นั้น ด่าเสร็จปิดประตูไปเลย
อยากบอกว่า เขาบอกว่าไม่รู้ทางให้บอกทาง ถ้าท่านขึ้นรถแล้วเขาไม่ไปก็ด่าไปเลย แต่นี่ท่านยังไม่ขึ้นรถแล้วบอกทางเขาทีเลย
ท่านด่าเขายังกับเขาเอารถไปชนญาติท่านตายมาซะอย่างนั้น
หนักสุดมีหลากหลายกรณีเช่น
กรณีแรก
เด็กมากับผู้ปกครอง ผู้ปกครองขึ้นมาแล้วนั่งเล่นโทรศัพท์ ปล่อยลูกเล่น เท้าเหยียบเบาะคนขับ เบาะข้างคนขับ ใส่รองเท้ายืนเล่นบนเบาะหลัง แกะกล้องข้างหลัง เอานิ้วเท้าไปดึงป้าย
ที่เคลือบคำเตือนไว้จนขาดพังเสียหาย หยิบของเล่นมาเคาะกับขอบประตูจนเป็นรอยหลายจุด คนเป็นพ่อพูดว่านั่งเฉยๆดิ แต่มือและตาอยู่กับโทรศัพท์ ไม่ตีไม่ดุ หรือห้ามอะไรมากกว่านั้นเลย
ลงรถไปจอดรถดู ท้อเลยครับ รอยเท้าเต็มรถ ป้ายพัง กล้องติดกาวไว้ยังหลุดกระจายสายไฟกล้องดึงจนที่ซ่อนไว้ข้างในพรมหลุด (ทำให้ไม่อยากรับเด็กเลย เพราะลูกเทวดาและพ่อเทวดาแบบนี้ เจอเดือนละครั้ง2ครั้งต่อเดือนครับ)