ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 9/4/2018 (ดาวลูกไก่)

กระทู้คำถาม


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น





สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


วันนี้ไปชมดาวให้เบิกบานใจกันดีกว่า เป็นดาวน่ารักๆ ที่ใครๆ ก็รู้จัก นั่นคือ "ดาวลูกไก่" ค่ะ
เวลาเข้าป่า MC ฮารุจังก็มองออกแต่ดาวลูกไก่นี่แหละ มองง่ายสุดแล้ว เป็นกระจุกๆ
ที่จริงเคยเขียนเรื่องนี้ไว้แล้ว แต่วันนี้นำมาปรับปรุงและเพิ่มเติมข้อมูลค่ะ

ดาวลูกไก่นี่เป็นโลโก้รถยนต์ยี่ห้อหนึ่งด้วยนะ เพื่อนๆ ลองทายดูว่าคือยี่ห้ออะไร เดี๋ยวข้างล่างมีเฉลย

ในวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณี มีตอนที่นางสุวรรณมาลีสอนสินสมุทรกับอรุณรัศมีดูดาว
แล้วพูดถึงดาวลูกไก่ด้วยค่ะ

ดูโน่นแน่ะแม่อรุณรัศมี                    ตรงมือชี้ดาวเต่านั่นดาวไถ
โน่นดาวธงตรงหน้าอาชาไนย       ดาวลูกไก่เคียงอยู่เป็นหมู่กัน
องค์อรุณทูลถามพระเจ้าป้า          ที่ตรงหน้าดาวไถชื่อไรนั่น
นางบอกว่าดาวธงอยู่ตรงนั้น        ที่เคียงกันเป็นระนาวชื่อดาวโลง
...




ดาวลูกไก่

กระจุกดาวลูกไก่สามารถมองเห็นในท้องฟ้ายามค่ำคืนในฤดูหนาวได้อย่างเด่น ชัดเจน    
- ชาวไทยเราเรียกว่า ดาวลูกไก่ หรือ ดาวกฤติกา  
- ชาวญี่ปุ่นเรียก ซูบารุ  
- ชาวจีนเรียก  เหมาซิ่ว หรือ กลุ่มดาวคนผมดก
- ชาวมาวรีในนิวซีแลนด์  เรียกว่า มาตาริกิ (แปลว่า ดวงตาดวงเล็กๆ)
- ชาวแอสแตคเรียกว่า Tianquiztli (แปลว่า ตลาด)
- ชาวพื้นเมืองในหมู่เกาะบอร์เนียวเรียกว่า บิตังสโกระ
- ชาวอาหรับหรือชาวอิสลามเรียกว่า อัท-ธุไรยา (At-thuraiya)  

กระจุกดาวลูกไก่ หรือ กระจุกดาวไพลยาดีส (อังกฤษ: Pleiades) หรือวัตถุเมสสิเยร์ M45
นับเป็นหนึ่งในกระจุกดาวที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด และอาจเป็นกระจุกดาวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า

ถ้าเรามองกลุ่มดาวลูกไก่ด้วยตาเปล่า เราจะเห็นดาวเพียง 7 ดวงเท่านั้น
ชาวตะวันตกจึงเรียกว่า ดาวสาวเจ็ดพี่น้อง “The Seven Sisters”
เลข 7 อีกแล้ว เหมือน 7 นางฟ้าจีน และ 7 นางฟ้าสงกรานต์ของไทยเลย

พี่น้องทั้ง 7 คือบุตรตรีของเทพ  Titan Atlas และ Pleione  
ได้แก่   Maia   sterope   Merope   Electra   Taygete   Celaeno   Alcyone



แต่ความจริงแล้วดาวลูกไก่เป็นกระจุกดาวที่มีดาวฤกษ์กว่า 200 ดวง เกิดมาประมาณ 60 ล้านปีที่แล้ว
เป็นช่วงที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์พอดี

ที่จริงแล้วนอกจากลูกไก่ทั้ง 7 ยังมี พ่อแม่อีก 2 ดวงด้วยนะ



ตำนานดาวลูกไก่

นิทานพื้นบ้านเกี่ยวกับที่มาของดาวลูกไก่สอนเรื่องของความกตัญญู

เรื่องมีอยู่ว่า มีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในป่า วันหนึ่งมีพระธุดงค์ผ่านมา ก็คิดจะหาอาหารไปถวาย แต่ไม่มีอาหารดีๆ
จึงหารือกันจะฆ่าไก่ที่เลี้ยงไว้เพื่อไปทำอาหารถวาย แม่ไก่ได้ยินก็สั่งเสียลูกไก่ทั้งหกตัวให้รักษาตัวให้ดี
ตัวเองต้องแทนคุณตายายที่เลี้ยงดูมา เมื่อถึงเวลาตายายฆ่าแม่ไก่ ลูกไก่ก็กระโดดเข้าเตาไฟตายตามแม่ไปด้วย
เทพยดาเห็นแก่ความกตัญญู จึงให้แม่ไก่และลูกไก่ทั้งหมดขึ้นไปเป็นดาวอยู่บนฟ้าเพื่อเตือนใจคน




ซูบารุ: ดาวลูกไก่แห่งยานยนต์

ดาวลูกไก่ญี่ปุ่นเรียก すばる (subaru) หรือเขียนเป็นคันจิว่า 昴
หรืออีกชื่อคือ 六連星 (musuraboshi แปลชื่อตรงๆได้ว่า หมู่ดาว 6 ดวง)
หรือก็คือ หมู่ดาว Pleiades (ดาวลูกไก่) นั่นเอง

ดาวลูกไก่ของญี่ปุ่นไม่มีแน่นอนว่ามีกี่ดวง ตามตำนานสมัยนารามีบอกว่า 7 ดวงบ้าง 8 ดวงบ้าง
(รถ SUBARU ได้เลือกใช้ดาว 6 ดวง ตอนแรกก็สงสัยนะ ทำไมไม่ 7 ดวงเหมือนดาวลูกไก่ไปเลย)

จริงๆแล้วที่โลโก้ของแบรนด์มีลักษณะเป็นรูปดาว 4 แฉกสังเกตุได้จากดวงใหญ่ 1 ดวงดวงเล็ก 5 ดวง
ล้อมรอบด้วยวงรี 1 วงเป็นสัญลักษณ์แทนความหมายว่า Fuji Heavy Industries

โลโก้ดั้งเดิมที่ใช้สำหรับรถ 360 แสดงถึงการวางตำแหน่งดาวที่คล้ายคลึงกับ กระจุกดาวลูกไก่


ซึ่งดาวแต่ละดวงนั้นเกิดจากการวมตัวกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น
แต่ต้นกำเนิดจริงของซูบารุคือ บริษัท นากาจิมาแอร์คราฟท์ (NAKAJIMA AIRCRAFT)
เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่ดันเกิดเหตุผลทางการเมือง
ทำให้นากาจิมา แอร์คราฟท์ต้องแยกกิจการเป็น 12 บริษัทย่อยในปี 2496
โดยที่ 5 บริษัทย่อยในจำนวน 12 บริษัทนั้นได้รวมตัวกันจนก่อตั้ง บริษัทฟูจิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ ขึ้น
แต่บริษัทนี้ไม่ได้ผลิตเครื่องบินเหมือนดังเดิม แต่หันมาผลิตรถยนต์

สรุปว่าดาว 6 ดวงของรถ SUBARU นั้นมาจากการรวมตัวของ Fuji Heavy Industries
กับอีก 5 บริษัทหลังสมัยสงครามมาเป็น 1 บริษัทใหญ่คือ Fuji Heavy Industries อันเดียว
ในดาว 6 ดวงของตรา SUBARU จะมี 1 ดวงใหญ่กว่าอันอื่น ซึ่งหมายถึงดาวดวงใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่เกิด

โลโก้ซูบารุในปัจจุบัน


ซูบารุแบบแรกได้จัดจำหน่ายในตลาดญี่ปุ่นเป็นรถยนต์นั่งขนาดมินิ
รถยนต์คันนี้มีชื่อรุ่นว่า ซูบารุ 360 นั่นเอง

1969 SUBARU 360 รถยนต์คันแรกของซูบารุสไตล์รถคันจิ๋ว


ฟูจิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนิสสัน และยังคงผลิตรถยนต์
โดยใช้ชื่อว่า ซูบารุเช่นเดิมกิจการของฟูจิ เฮฟวี อินดัสทรีส์
ในปัจจุบันผลิตทั้งรถบรรทุกขนาดเล็ก รถโดยสาร เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินและผลิตรถยนต์นั่ง

ล่าสุดบริษัท ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซูบารุ คอร์เปอร์เรชั่น อย่างเป็นทางการ
เพื่อง่ายต่อการจดจำและส่งเสริมแบรนด์ของบริษัทที่ผลิตทุกอย่างตั้งแต่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไปจนถึงเฮลิคอปเตอร์



ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2010/09/X9669178/X9669178.html
http://ppantip.com/topic/35501160
https://www.gotoknow.org/posts/520636
https://www.gotoknow.org/posts/292431Thank
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88
https://mysteryoftheiniquity.com/2011/11/11/orion-sirius-pleiades-connections/7-sisters-3/
https://www.grandprix.co.th/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%89-subaru/
http://astronscience.blogspot.com/2009/01/2.html


....................................................................


บนถนนมืดมิดอันยาวไกล สายลมพัดพาทำให้เราหนาวสั่น แม้จะยังไม่เห็นจุดหมาย

แต่แสงสว่างน้อยๆ ของดาวเล็กๆ ที่ไม่ไปไหนนี้ ก็เป็นเหมือนกำลังใจให้เรายังต้องก้าวต่อไป
จนกว่าจะพ้นอุปสรรคนี้ไปได้ในสักวันหนึ่ง สุดท้ายเราจะผ่านอุปสรรคทั้งหลายไปได้
ดาวนั้นก็จะเป็นแสงนำทางให้คนรุ่นหลังต่อไป


ซูบารุ ดาวลูกไก่

https://www.youtube.com/watch?v=hMRe9QdHbKI
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เพลงซูบารุนี้ มีเวอร์ชันไทยก็คือดาวประดับใจ ไพเราะมากๆ ค่ะ



แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
นิทานอีสป เรื่อง ดาวลูกไก่ ก็มีนะ คล้ายๆกับตำนานพื้นบ้านของชุนเทียน


ณ บ้านเชิงเขา มีสองตายายอาศัยอยู่กับแม่ไก่ 1 ตัว และลูกไก่อีก 7 ตัว ตายายเลี้ยงดูพวกมันเป็นอย่างดี วันหนึ่งมีพระธุดงค์มาปักกลด ตากับยายจึงพากันไปกราบไหว้ และกลัมาคุยกันว่าพรุ่งนี้จะทำอาหารอะไรไปถวายพระกันดี "พืชผักที่ปลูกไว้ก็ขายหมดแล้ว" ตาจึงบอกว่า "สงสัยเราคงจะต้องฆ่าแม่ไก่ไปทำแกงแล้วล่ะ" แม่ไก่ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจจึงรีบกลับไปบอกลาลูก ๆ ทั้ง 7 ตัวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทั้งหมดจะโผเข้ากอดกันร่ำไห้  

       เช้าวันรุ่งขึ้น ตากับยายก็ฆ่าแม่ไก่ไปทำแกงถวาย ลูกไก่ทั้ง 7 ตัว จึงปรึกษากันว่า เมื่อไม่มีแม่แล้วพวกตนจะอยู่กันอย่างไร ขอตายตามแม่ไก่ไปจะดีกว่า  จากนั้นลูกไก่ทั้ง 7 ตัวก็พร้อมใจกันกระโดดเข้ากองไฟตายตามแม่ไปทันที ด้วยอานิสงส์ผลบุญของแม่ไก่และความกตัญญูของลูกทั้ง 7 ตัว ส่งผลให้บรรดาลูกไก่ไปเกิดเป็นกลุ่มดาว 7 ดวง ที่เราเรียกว่า "ดาวลูกไก่" นั่นเอง



:: นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ::

ความกตัญญูรู้คุณเป็นเครื่องหมายของคนดี



:: พุทธภาษิต ::

ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ.
บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า


http://www.kalyanamitra.org/th/Aesop_detail.php?page=4010
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่