สวัสดีครับ.. รีวิว ครั้งแรกในชีวิต (เวอร์ไปไหม) ขอนำเสนอ Kororo เยลลี่รสผลไม้แสนอร่อย รสองุ่นม่วงซึ่งเป็นของฝากที่ฮิตๆกัน.. เมืองไปญี่นมาเที่ยวนี้ หลานๆฝากซื้อกันล้นหลาม..ผมต้องขนซื้อมาเกือบ 2 โหล ซึ่ง พี่ๆน้องๆ ที่ตั้งความหวังไว้ เมื่อผมกลับมาต้องได้ลิ้มรสกันถ้วนหน้าๆ
ผมจึงต้องตระเวนหา Kororo เยลลี่รสผลไม้แสนอร่อย รสองุ่น ซึ่งก็ไม่ได้หายากเย็น..เพราะว่ากำลังฮิตเป็นของฝากกัน ... (เมืองไทยช่วงนั้นยังไม่มีขาย) ... แต่เมื่ออาทิตย์ก่อน หลังผมกลับจากญีปุ่นมา ได้เห็นขนมเจ้าเยลลี่ Kororo นี้คันๆในร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน.. จึงได้ลองซื้อมารีวิวให้แฟนพันธ์ุแท้ขนมเยลลี่ให้ได้ทราบกันครับ.. ส่วนรสชาติจะเหมือน / ต่างอย่างไร ตามผมมาได้เลย..
/ ซองด้านหลัง
ด้านข้าง
รูปร่าง ขนม
ขอสรุปดังนี้ : หีบห่อ = จากที่ได้สังเกตุ พอจะคาดเดาได้ว่า บริษัทนี้คงมาทำตลาดในบ้านเรา หรือ บ้านเราคงไปซื้อลิขสิทธิ์มาทำ (บ้านเราซองจะขลิปทอง) + มีข้อความภาษาไทยระบุด้านหลัง
ตัวขนม = เนื้อเยลลี่บ้านเราจะดูเละๆ แชะๆ หยุ่นๆ กว่าของญี่ปุ่นอยู๋จิสนึง
รสชาติ = เมื่อลองทานเทียบกันดู (ถ้าไม่อุปทานเกินไป) รสชาติจากญี่ปุ่นจะแน่นๆมีสัมผัสที่นุ่มนวลรสละมุนกว่า ..สำหรับของบ้านเราจะมีรสฝาดๆ กลิ่นแรงกว่านิดนึง
ราคา = ของบ้านเราขาย 49 บาท ของญี่ปุ่นคิดเป็นเงินไทยประมาณ 30 บาท (ถ้าร้านไหนมีเซลล์ก็จะถูกกว่านิดนึง)
สรุปรวมอีกที 5555 ถ้าไม่เทียบกันซองต่อซองแล้วแทบจะคล้ายกันครับ..แต่ถ้าเทียบกันจริงๆก็ต่างแหล่ะ (ต้องลิ้นสัมผัสถึงๆแบบคอไวน์ 55) + ถ้าคิดค่าเครือ่งบินไปซื้ออีก ผมว่าทานของบ้านเราก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักแบบมีนัยยะสำคัญ
* * ผมขอจบรีวิวน้อยๆแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าแฟนพันธุ์แท้เยลลี่น่าจะพอเป็นข้อมูลกันได้บ้างนะครับ... ขอบคุณครับ
/ กระบี่ใสๆ
[CR] รีวิว.. Kororo เยลลี่รสผลไม้แสนอร่อย ต้นตำรับ & บ้านเรา
ผมจึงต้องตระเวนหา Kororo เยลลี่รสผลไม้แสนอร่อย รสองุ่น ซึ่งก็ไม่ได้หายากเย็น..เพราะว่ากำลังฮิตเป็นของฝากกัน ... (เมืองไทยช่วงนั้นยังไม่มีขาย) ... แต่เมื่ออาทิตย์ก่อน หลังผมกลับจากญีปุ่นมา ได้เห็นขนมเจ้าเยลลี่ Kororo นี้คันๆในร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน.. จึงได้ลองซื้อมารีวิวให้แฟนพันธ์ุแท้ขนมเยลลี่ให้ได้ทราบกันครับ.. ส่วนรสชาติจะเหมือน / ต่างอย่างไร ตามผมมาได้เลย.. / ซองด้านหลัง ด้านข้าง รูปร่าง ขนม ขอสรุปดังนี้ : หีบห่อ = จากที่ได้สังเกตุ พอจะคาดเดาได้ว่า บริษัทนี้คงมาทำตลาดในบ้านเรา หรือ บ้านเราคงไปซื้อลิขสิทธิ์มาทำ (บ้านเราซองจะขลิปทอง) + มีข้อความภาษาไทยระบุด้านหลัง
ตัวขนม = เนื้อเยลลี่บ้านเราจะดูเละๆ แชะๆ หยุ่นๆ กว่าของญี่ปุ่นอยู๋จิสนึง
รสชาติ = เมื่อลองทานเทียบกันดู (ถ้าไม่อุปทานเกินไป) รสชาติจากญี่ปุ่นจะแน่นๆมีสัมผัสที่นุ่มนวลรสละมุนกว่า ..สำหรับของบ้านเราจะมีรสฝาดๆ กลิ่นแรงกว่านิดนึง
ราคา = ของบ้านเราขาย 49 บาท ของญี่ปุ่นคิดเป็นเงินไทยประมาณ 30 บาท (ถ้าร้านไหนมีเซลล์ก็จะถูกกว่านิดนึง)
สรุปรวมอีกที 5555 ถ้าไม่เทียบกันซองต่อซองแล้วแทบจะคล้ายกันครับ..แต่ถ้าเทียบกันจริงๆก็ต่างแหล่ะ (ต้องลิ้นสัมผัสถึงๆแบบคอไวน์ 55) + ถ้าคิดค่าเครือ่งบินไปซื้ออีก ผมว่าทานของบ้านเราก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนักแบบมีนัยยะสำคัญ
* * ผมขอจบรีวิวน้อยๆแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าแฟนพันธุ์แท้เยลลี่น่าจะพอเป็นข้อมูลกันได้บ้างนะครับ... ขอบคุณครับ
/ กระบี่ใสๆ