SAMSON AND DELILAH แซมซั่นภาพยนตร์ระดับโลก ฉายที่ทับเที่ยงภาพยนตร์
CLASSIC MOVIE
วิวัย จิตต์แจ้ง เขียนในคอลั่มทอปฮิตในนสพมติตรัง และเวปพีเพิลซีน
ตำนานไบเบิลที่เล่าขานมานาน กล่าวถึง Samson ผู้ที่มีพละกำลังมหาศาล Paramount ได้มาสร้างเป็นภาพยนตร์เทคนิคคัลเลอร์ ยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกไม่เคยลืม เป็นผลงานเรื่องสำคัญของ ผู้อำนวยการสร้างที่มีฝีมืออัจฉริยะที่ชื่อว่า
Cecil B.Mille ท่านสร้างเองกำกับเองถือเป็นสุดยอดในตำนานหนังดังที่กลับมาฉายทั่วโลกหลายครั้งเมืองไทย เคยฉายที่เฉลิมเขตร์ หนแรกเมื่อ 60 ปีก่อน และแซมซั่นได้มาฉายสายใต้ ที่ทับเที่ยงภาพยนตร์เป็นโรงแรก เคยกลับมาฉายในครือพีรามิดช่วงประมาณปี 2515 ก็อบปี้ใหม่
ขอเสนอภาพยนตร์คลาสสิกในปี 1949 ที่พูดถึงแซมซั่น ผู้แข็งแรง มีพละกําลังมหาศาล บทแซมซั่น แสดงโดย VICTOR MATORE ประกบกับ
HEDY LAMARR
ติดตามกันได้เลย เมื่อ1000 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในปัจจัยธาตุทั้งหลายได้หลอมรวมอยู่ในตัวเขาทั้งความยิ่งใหญ่หนักแน่น ด้วยสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดมีความฝันที่จะปลดปล่อยประชาชนของเขาให้เป็นอิสระ นี่คือที่มาของ แซมซั่น มีบทนำตอนหนึ่งที่เลื่องลือกันว่าเขามีจุดเด่นพิเศษ
หนุ่มคนนี้สามารถสู้กับสิงโตตัวใหญ่ โดยไม่มีอาวุธใช้มือเปล่าสู้รัดสิงโตและฉีกปากจนตายคาที่ และทีสำคัญของเรื่องคือมีคำสั่งจากกษัตริย์องค์ซาล่าให้ไปจับตัวมาขณะล่ามโซ่คุมตัวมา แต่มีเหตุไม่น่าเชื่อแซมซั่นปลดโซ่ออกได้ทหารชุดใหญ่อาวุธพร้อมมือมีเครื่องกำบังเข้าจับ เกิดการต่อสู้ดุเดือดแบบรุนแรงทหารโรมันเป็นฝ่ายแพ้เรียบตายเป็นร้อยๆ จนต้องถอยเสียขบวน
หลังจากนั้นองค์ซาลาต้องเรียกนายทหารให้มาสอบสวน มีคำตอบดังนี้
“เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่รู้มีพละกำลังมากมายมาจากไหน” ให้สู้ต่อกรกับทหารนักสู้อย่างทรหดจนทหารตายเรียบหมด ที่ไม่เคยพบเคยเห็น ท่านซาล่าตกใจเป็นไปได้ยังไงเขาทำลายนักรบครบมือลงได้ เขาใช้อาวุธอะไรหรือ ? บอกมา ทหารตอบเขาใช้อาวุธ คือขากรรไกรของลาทำลายล้าง ทหารแพ้ย่อยยับ “ ฮือขากรรไกของลาอันเดียวช่างมีอันตรายขนาดนี้หรือ”
แซมซั่นเกิดในดินแดน Israel ที่ทำสงครามยืดเยื้อขัดแย้งกับพวกPhilistinesมาตลอด พ่อแม่เขาแต่งงานหลายปีแต่ไม่มีบุตรจึงสวดมนต์ขอพระผู้เป็นเจ้า ขอให้มีลูกชายสักคน วันหนึ่งมีภาพปรากฏกายขึ้นเห็น
นางฟ้า An Angel of the Lord มาบอกว่าเธอได้ลูกชายแล้วมีข้อแม้ลูกคนนี้ต้องทำงานอุทิศให้พระผู้เป็นเจ้า พ่อแม่ได้เลี้ยงแซมซั่นจนโตและยึดในคำสัญญาที่เคยให้ไว้ และ 1ในสัญญาที่สำคัญ คือ จะต้องไม่ตัดผม ไม่ทานผลองุ่น และไม่ดื่มไวน์ ไม่แตะศพคนตาย ต้องรักษาสัญญาให้เคร่งครัด เมื่อแซมซั่นโตขึ้นร่างกายแข็งแรงมากมีกล้ามกำยำ แซมซั่น
เขาทำสงครามกับพวก Philisnes หลายครั้งชนะทุกครั้ง รักษาสัญญาไว้กับพระผู้เป็นเจ้ามาตลอด แต่สร้างความโกรธแค้นในใจของชาว Philistines มากมาย
Samson มีจุดอ่อนมักแพ้ความสวยของสตรี และความอ่อนหวานสาวสวยที่ แซมซั่นไปหลงรัก เป็นคู่ปรับ ชาว Philistines ที่สวยมากพูดจาดีชวนหลงไหลมีเสน่ห์ชื่อว่า Delilah ถึงตอนสำคัญแล้วติดตามกันต่อเลยความสวยของผู้หญิงนี้อันตราย เดไรล่าเข้ามาสนิทได้รับสั่งจากพวกเดียวกันให้หาจุดอ่อนเกี่ยวกับมีกำลังมหาศาลของแซมซั่นคืออะไรแน่? ในเมื่อเดไรล่าอาสามาตีสนิทอยู่ใกล้ชิดพยายามหว่านล้อมพูดหวานๆให้บอกความลับเธอใช้มายาหญิงล่อลวงให้อยู่หมัดทำทุกวิธีทางจนวันหนึ่งได้ผล แซมซั่นเผลอพูดบอกจุดอ่อนไปว่าอยู่ที่เส้นผมและช่วงนี้เองน้องผู้หญิงกับหลานชายมาตามแซมซั่นกลับบ้านและ
ทั้งสามเตรียมตัวกลับอยู่แล้ว เดไรล่าอ้อนให้อยู่ต่อสักพักให้เด็กกลับไปก่อน คราวนี้ เดไรล่าได้โอกาสเอาพิษยาสลบผสมไวน์เหล้าองุ่นให้แซมซั่นดื่ม ตอนนี้ผิดคำสัญญาไว้แซมซั่นจะดื่มไวน์แต่ไม่แน่ใจขอสลับถ้วยเลยเข้าทางเดไรล่าทันที แซมซั่นหลับสลบไปนานไม่รู้ตัวว่าถูกนางทรยศต่อความรักเสียแล้วถูกตัดผมจึงถูกทหารโรมันจับเป็นเชลยถูกทรมานล่ามโซ่เฆี่ยนตีต่างๆนานาแต่สิ่งที่ผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้นึกไม่ถึงคือ ทหารเอาเหล็กเผาไฟแนบดวงตาแซมซั่นบอดสนิททั้งสองข้าง จับไปขังโรงโม่ให้ดึงหินโม่บดหนักมากทั้งวัน จนวันหนึ่งทหารและเดไรล่ามาดูการทรมาน แซมซั่น เดไรล่าเธอตกใจนึกไม่ถึงจะถูก
ทำให้ตาบอดสนิททรมานต่างๆแม้แต่น้ำก็ไม่ให้กิน Delilahเธอเริ่มสำนึกผิดเธอบาปไปแล้วที่ทำกับแซมซั่น เธอแอบมาพบแซมซั่น ตอนนี้คนดูทั้งโรงหนังนิ่งเงียบภาพที่เห็นแซมซั่นน่าสงสารมาก เดไลล่าบอกว่าพรุ่งนี้เขาระนำแซมสั่นไปตีทำร้ายประจานที่วิหารใหญ่บูชาเทพเจ้า Temple of Dagon ในอียิปต์จะให้แซมซั่นคุกเข่าขอโทษชาว Philisnes และประจานมีนักการเมืองทหารและผู้นำทางจิตวิญญาณและประชาชนมากมาร่วมเป็นพันคน แซมซั่นบอกเดไลล่าว่า
จะขอพรจากพระเจ้าในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายช่วยให้เขา(ผมเริ่มยาวขึ้น) จะขอได้ไปยืนตรงเสาหินคู่ของวิหาร ถึงเวลาเดไรล่าอยู่ในพิธีแกล้งขอตัวลงมา เอาแซ่ฟาดแซมซั่นจับแส้ได้ เดินตามขึ้นไปเพราะตาบอดมองไม่เห็น และได้ไปยืนตรงเสาหลักที่เป็นฐานรับน้ำหนักสำคัญ เอามือผลักเสาทั้งสองข้างจนร้าวหักลงมาวิหารพังผู้ชมตลึงเพราะ ทั้งหมดทุกชีวิตไม่มีใครเหลือ ภาพในหนังจบลงตอนสุดท้ายจะเห็นน้องผู้หญิงและน้องผู้ชายทั้งสองคนพูดถึงแซมซั่นว่าทำไมต้องตายน้องผู้หญิงตอบว่า จะมีคนกล่าวขานถึง SAMSON เป็นร้อยปีและพันปี นี่คือ บทปิดของ CECIL B. DE MILLE ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฮอลลีวู้ด
ถึงตอนนี้ผู้เขียนขอย้อนเวลาหาอดีต ไปที่โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ตรังที่คุณพ่อ คือคุณเว้ง จิตต์แจ้งนำภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ Samson and Delilah มาฉายครั้งแรกในภาคใต้ ที่ทับเที่ยงภาพยนตร์เป็นโรงแรก
ก็ประสบความส็เร็จเป็นตำนานเล่าขานที่ตรังจนถึงวันนี้ พ่อเล่าให้ฟังว่าได้เตรียมการอย่างดีกับหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เต็มที่ สั่งทำป้ายโปสเตอร์คัดเอาท์ใหญ่ติดหน้าโรงหนัง และไปนำติดสี่มุมเมืองหลายจุดตกแต่งรถแห่หนังอย่างสวยมากไปเวียนทุกจุด ทำใบปิดทั้งจังหวัดและใบปลิวแจก คัตเอาท์สมัยนั้นเขียนโดยนักเขียนป้ายคัตเอาท์โฆษณารุ่นแรก ที่ชาวตรังทึ่งมาก คือฝีมือคืออาจารย์ ยู่ วัฒนะกำพลกิจคือ โกยู่
ที่เขียนป้ายโปสเตอร์สวย และอีกท่านคืออาจารย์อนันต์ หรือโกเซียท่าน เขียนตัวหนังสือได้สวย 2 ท่านนี้ช่วยกันทำความยิ่งใหญ่ กับหนังแซมซั่น ถือเป็นอ.นักเขียนป้ายหนัง 2คนแรกในประวัติศาสตร์โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ตรัง ในรอบ100 ปี
แต่สิ่งที่สำคัญของหนัง Samson and Delilahในครั้งนั้นคือนักพากย์เก่งเลือกเอาลูกศิษย์เอกของอาจารย์ทิดเขียว คุณเว้ง จิตต์แจ้งเจ้าของโรงหนังท่านได้ นำเอา บุศราพันธ์ มานิดา
มาพากย์เรื่อง แซมซั่นแอนด์เดไรล่า ท่านพากย์ได้อรรถรสถูกใจแฟนหนังเต็มทุกรอบนับว่าเป็นการแจ้งเกิดนักพากษ์คู่นี้ทันที คือ บุศราพันธ์ มานิดา
มาประดับวงการ ตอนหลังท่านย้ายมาอยู่หาดใหญ่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกับคุณพ่อคุณแม่ และมาพากย์ประจำให้อีกหลายเรื่อง ภาคใต้ถือเป็นสุดยอดอาจารย์การพากษ์ บุศราพันธ์ท่านได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมนักพากษ์ภาคใต้คนแรก ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
พีเพิลซีนเสนอ SAMSON AND DELILAH แซมซั่นฉายที่ทับเที่ยงภาพยนตร์
CLASSIC MOVIE
วิวัย จิตต์แจ้ง เขียนในคอลั่มทอปฮิตในนสพมติตรัง และเวปพีเพิลซีน
ตำนานไบเบิลที่เล่าขานมานาน กล่าวถึง Samson ผู้ที่มีพละกำลังมหาศาล Paramount ได้มาสร้างเป็นภาพยนตร์เทคนิคคัลเลอร์ ยิ่งใหญ่ที่ทั่วโลกไม่เคยลืม เป็นผลงานเรื่องสำคัญของ ผู้อำนวยการสร้างที่มีฝีมืออัจฉริยะที่ชื่อว่า
Cecil B.Mille ท่านสร้างเองกำกับเองถือเป็นสุดยอดในตำนานหนังดังที่กลับมาฉายทั่วโลกหลายครั้งเมืองไทย เคยฉายที่เฉลิมเขตร์ หนแรกเมื่อ 60 ปีก่อน และแซมซั่นได้มาฉายสายใต้ ที่ทับเที่ยงภาพยนตร์เป็นโรงแรก เคยกลับมาฉายในครือพีรามิดช่วงประมาณปี 2515 ก็อบปี้ใหม่
ขอเสนอภาพยนตร์คลาสสิกในปี 1949 ที่พูดถึงแซมซั่น ผู้แข็งแรง มีพละกําลังมหาศาล บทแซมซั่น แสดงโดย VICTOR MATORE ประกบกับ
HEDY LAMARR
ติดตามกันได้เลย เมื่อ1000 ปีก่อนคริสต์ศักราช มีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในปัจจัยธาตุทั้งหลายได้หลอมรวมอยู่ในตัวเขาทั้งความยิ่งใหญ่หนักแน่น ด้วยสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดมีความฝันที่จะปลดปล่อยประชาชนของเขาให้เป็นอิสระ นี่คือที่มาของ แซมซั่น มีบทนำตอนหนึ่งที่เลื่องลือกันว่าเขามีจุดเด่นพิเศษ
หนุ่มคนนี้สามารถสู้กับสิงโตตัวใหญ่ โดยไม่มีอาวุธใช้มือเปล่าสู้รัดสิงโตและฉีกปากจนตายคาที่ และทีสำคัญของเรื่องคือมีคำสั่งจากกษัตริย์องค์ซาล่าให้ไปจับตัวมาขณะล่ามโซ่คุมตัวมา แต่มีเหตุไม่น่าเชื่อแซมซั่นปลดโซ่ออกได้ทหารชุดใหญ่อาวุธพร้อมมือมีเครื่องกำบังเข้าจับ เกิดการต่อสู้ดุเดือดแบบรุนแรงทหารโรมันเป็นฝ่ายแพ้เรียบตายเป็นร้อยๆ จนต้องถอยเสียขบวน
หลังจากนั้นองค์ซาลาต้องเรียกนายทหารให้มาสอบสวน มีคำตอบดังนี้
“เจ้าหนุ่มคนนี้ไม่รู้มีพละกำลังมากมายมาจากไหน” ให้สู้ต่อกรกับทหารนักสู้อย่างทรหดจนทหารตายเรียบหมด ที่ไม่เคยพบเคยเห็น ท่านซาล่าตกใจเป็นไปได้ยังไงเขาทำลายนักรบครบมือลงได้ เขาใช้อาวุธอะไรหรือ ? บอกมา ทหารตอบเขาใช้อาวุธ คือขากรรไกรของลาทำลายล้าง ทหารแพ้ย่อยยับ “ ฮือขากรรไกของลาอันเดียวช่างมีอันตรายขนาดนี้หรือ”
แซมซั่นเกิดในดินแดน Israel ที่ทำสงครามยืดเยื้อขัดแย้งกับพวกPhilistinesมาตลอด พ่อแม่เขาแต่งงานหลายปีแต่ไม่มีบุตรจึงสวดมนต์ขอพระผู้เป็นเจ้า ขอให้มีลูกชายสักคน วันหนึ่งมีภาพปรากฏกายขึ้นเห็น
นางฟ้า An Angel of the Lord มาบอกว่าเธอได้ลูกชายแล้วมีข้อแม้ลูกคนนี้ต้องทำงานอุทิศให้พระผู้เป็นเจ้า พ่อแม่ได้เลี้ยงแซมซั่นจนโตและยึดในคำสัญญาที่เคยให้ไว้ และ 1ในสัญญาที่สำคัญ คือ จะต้องไม่ตัดผม ไม่ทานผลองุ่น และไม่ดื่มไวน์ ไม่แตะศพคนตาย ต้องรักษาสัญญาให้เคร่งครัด เมื่อแซมซั่นโตขึ้นร่างกายแข็งแรงมากมีกล้ามกำยำ แซมซั่น
เขาทำสงครามกับพวก Philisnes หลายครั้งชนะทุกครั้ง รักษาสัญญาไว้กับพระผู้เป็นเจ้ามาตลอด แต่สร้างความโกรธแค้นในใจของชาว Philistines มากมาย
Samson มีจุดอ่อนมักแพ้ความสวยของสตรี และความอ่อนหวานสาวสวยที่ แซมซั่นไปหลงรัก เป็นคู่ปรับ ชาว Philistines ที่สวยมากพูดจาดีชวนหลงไหลมีเสน่ห์ชื่อว่า Delilah ถึงตอนสำคัญแล้วติดตามกันต่อเลยความสวยของผู้หญิงนี้อันตราย เดไรล่าเข้ามาสนิทได้รับสั่งจากพวกเดียวกันให้หาจุดอ่อนเกี่ยวกับมีกำลังมหาศาลของแซมซั่นคืออะไรแน่? ในเมื่อเดไรล่าอาสามาตีสนิทอยู่ใกล้ชิดพยายามหว่านล้อมพูดหวานๆให้บอกความลับเธอใช้มายาหญิงล่อลวงให้อยู่หมัดทำทุกวิธีทางจนวันหนึ่งได้ผล แซมซั่นเผลอพูดบอกจุดอ่อนไปว่าอยู่ที่เส้นผมและช่วงนี้เองน้องผู้หญิงกับหลานชายมาตามแซมซั่นกลับบ้านและ
ทั้งสามเตรียมตัวกลับอยู่แล้ว เดไรล่าอ้อนให้อยู่ต่อสักพักให้เด็กกลับไปก่อน คราวนี้ เดไรล่าได้โอกาสเอาพิษยาสลบผสมไวน์เหล้าองุ่นให้แซมซั่นดื่ม ตอนนี้ผิดคำสัญญาไว้แซมซั่นจะดื่มไวน์แต่ไม่แน่ใจขอสลับถ้วยเลยเข้าทางเดไรล่าทันที แซมซั่นหลับสลบไปนานไม่รู้ตัวว่าถูกนางทรยศต่อความรักเสียแล้วถูกตัดผมจึงถูกทหารโรมันจับเป็นเชลยถูกทรมานล่ามโซ่เฆี่ยนตีต่างๆนานาแต่สิ่งที่ผู้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้นึกไม่ถึงคือ ทหารเอาเหล็กเผาไฟแนบดวงตาแซมซั่นบอดสนิททั้งสองข้าง จับไปขังโรงโม่ให้ดึงหินโม่บดหนักมากทั้งวัน จนวันหนึ่งทหารและเดไรล่ามาดูการทรมาน แซมซั่น เดไรล่าเธอตกใจนึกไม่ถึงจะถูก
ทำให้ตาบอดสนิททรมานต่างๆแม้แต่น้ำก็ไม่ให้กิน Delilahเธอเริ่มสำนึกผิดเธอบาปไปแล้วที่ทำกับแซมซั่น เธอแอบมาพบแซมซั่น ตอนนี้คนดูทั้งโรงหนังนิ่งเงียบภาพที่เห็นแซมซั่นน่าสงสารมาก เดไลล่าบอกว่าพรุ่งนี้เขาระนำแซมสั่นไปตีทำร้ายประจานที่วิหารใหญ่บูชาเทพเจ้า Temple of Dagon ในอียิปต์จะให้แซมซั่นคุกเข่าขอโทษชาว Philisnes และประจานมีนักการเมืองทหารและผู้นำทางจิตวิญญาณและประชาชนมากมาร่วมเป็นพันคน แซมซั่นบอกเดไลล่าว่า
จะขอพรจากพระเจ้าในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายช่วยให้เขา(ผมเริ่มยาวขึ้น) จะขอได้ไปยืนตรงเสาหินคู่ของวิหาร ถึงเวลาเดไรล่าอยู่ในพิธีแกล้งขอตัวลงมา เอาแซ่ฟาดแซมซั่นจับแส้ได้ เดินตามขึ้นไปเพราะตาบอดมองไม่เห็น และได้ไปยืนตรงเสาหลักที่เป็นฐานรับน้ำหนักสำคัญ เอามือผลักเสาทั้งสองข้างจนร้าวหักลงมาวิหารพังผู้ชมตลึงเพราะ ทั้งหมดทุกชีวิตไม่มีใครเหลือ ภาพในหนังจบลงตอนสุดท้ายจะเห็นน้องผู้หญิงและน้องผู้ชายทั้งสองคนพูดถึงแซมซั่นว่าทำไมต้องตายน้องผู้หญิงตอบว่า จะมีคนกล่าวขานถึง SAMSON เป็นร้อยปีและพันปี นี่คือ บทปิดของ CECIL B. DE MILLE ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฮอลลีวู้ด
ถึงตอนนี้ผู้เขียนขอย้อนเวลาหาอดีต ไปที่โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ตรังที่คุณพ่อ คือคุณเว้ง จิตต์แจ้งนำภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ Samson and Delilah มาฉายครั้งแรกในภาคใต้ ที่ทับเที่ยงภาพยนตร์เป็นโรงแรก
ก็ประสบความส็เร็จเป็นตำนานเล่าขานที่ตรังจนถึงวันนี้ พ่อเล่าให้ฟังว่าได้เตรียมการอย่างดีกับหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์เต็มที่ สั่งทำป้ายโปสเตอร์คัดเอาท์ใหญ่ติดหน้าโรงหนัง และไปนำติดสี่มุมเมืองหลายจุดตกแต่งรถแห่หนังอย่างสวยมากไปเวียนทุกจุด ทำใบปิดทั้งจังหวัดและใบปลิวแจก คัตเอาท์สมัยนั้นเขียนโดยนักเขียนป้ายคัตเอาท์โฆษณารุ่นแรก ที่ชาวตรังทึ่งมาก คือฝีมือคืออาจารย์ ยู่ วัฒนะกำพลกิจคือ โกยู่
ที่เขียนป้ายโปสเตอร์สวย และอีกท่านคืออาจารย์อนันต์ หรือโกเซียท่าน เขียนตัวหนังสือได้สวย 2 ท่านนี้ช่วยกันทำความยิ่งใหญ่ กับหนังแซมซั่น ถือเป็นอ.นักเขียนป้ายหนัง 2คนแรกในประวัติศาสตร์โรงหนังทับเที่ยงภาพยนตร์ตรัง ในรอบ100 ปี
แต่สิ่งที่สำคัญของหนัง Samson and Delilahในครั้งนั้นคือนักพากย์เก่งเลือกเอาลูกศิษย์เอกของอาจารย์ทิดเขียว คุณเว้ง จิตต์แจ้งเจ้าของโรงหนังท่านได้ นำเอา บุศราพันธ์ มานิดา
มาพากย์เรื่อง แซมซั่นแอนด์เดไรล่า ท่านพากย์ได้อรรถรสถูกใจแฟนหนังเต็มทุกรอบนับว่าเป็นการแจ้งเกิดนักพากษ์คู่นี้ทันที คือ บุศราพันธ์ มานิดา
มาประดับวงการ ตอนหลังท่านย้ายมาอยู่หาดใหญ่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกับคุณพ่อคุณแม่ และมาพากย์ประจำให้อีกหลายเรื่อง ภาคใต้ถือเป็นสุดยอดอาจารย์การพากษ์ บุศราพันธ์ท่านได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมนักพากษ์ภาคใต้คนแรก ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ