สวัสดีค่า “วันฟ้าใส”อยากจะบอกว่านี่คือการรีวิวที่พักครั้งแรกในชีวิต อยากแบ่งปันสถานที่ ประสบการณ์ ให้กับผู้ที่อยากจะเข้ามาแชร์เรื่องราวต่างๆไปด้วยกันนะคะ
จะบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่คิดแล้วว่าเหมาะกับการเริ่มรีวิว เพราะโรงแรมเล็กๆ ที่มี 3 ชั้น ที่เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี หลังจากรีโนเวทซ่อมแซมปรับปรุงไปคะ(พนักงานที่นั่นบอกเพิ่งเปิดไปเมื่อปีที่แล้วคะ ปี2017) ตัวเราเองเลยอยากที่จะบอกเล่าถึงเสน่ห์ ของการได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของโรงแรมในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ขอบอกเลยว่า โรงแรมเล็กๆแบบนี้ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งกับเพื่อนฝูง และคู่รัก ที่นี่มีความสงบ เงียบ บรรยากาศดูน่ารักไปหมดเลยคะ เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้มีขนาดเล็ก มีห้องไม่ได้มากนัก จึงทำให้ผู้ที่เข้ามาพัก รู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัวด้วยละ
แม้ว่าตัวโรงแรมจะไม่ได้ติดกับทะเลไปซะทีเดียว แต่เราก็สามารถที่จะเดินไปที่ทะเลได้เพียงไม่กี่ก้าวจากโรงแรมที่เราพัก เราสามารถมองเห็นทะเลได้จากส่วนกลางสระว่ายน้ำของโรงแรมที่เป็นไฮไลท์ ดึงดูดเหล่าสาวๆที่ชอบถ่ายรูปทั้งหลาย มันน่ารักจริงๆคะ ลองไปพิสูจน์กันได้นะคะ
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 5 แบบ ซึ่งเริ่มตั้งแต่
ห้องPool Side คือห้องพักชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ
ห้อง Pool View คือห้องพักชั้น 3 มีระเบียงส่วนตัว
ห้อง Pool Access คือ ห้องที่ติดสระ สามารถลงสระได้จากระเบียงหน้าห้องเลยคะ
ห้อง Ocean View คือห้องวิวทะเล
และห้องสุดท้ายคือห้อง Suite เป็นห้องที่อยุ่ตรงกลางสระว่ายน้ำ เป็นห้องแบบเดียวที่มีอ่างอาบน้ำคะ
เราจองห้องพักของที่นี่ผ่านเวปไซส์นึงนะคะ ห้องที่เราจองคือห้อง
Ocean View คะ ราคาที่เราได้ต่อคืนประมาณเกือบ 5,000 บาท (ราคาอาจจะสูงนิดนึงเพราะเราเลือกพักช่วงวันหยุดยาวคะ) เราเลือกห้องนี้เพราะเราแค่ต้องการหาห้องที่สามารถมองเห็นทะเลได้ง่ายๆ ส่วนตัวเป็นคนชอบมองทะเลกับฟังเสียงคลื่นคะ พยายามหาโรงแรมที่ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เลยมาพบกับที่นี่คะ
Resort De Paskani
การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่อยากนะคะ เราผ่านตัวเมืองหัวหินเข้ามาทางเขาตะเกียบ ทางเดียวกับไป Cicada Market จากตรงนี้จนถึงโรงแรมเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กม คะ ซอยเข้าโรงแรมจะอยู่ด้านซ้ายมือ มีป้ายเล็กเขียนซื่อโรงแรม ขอโทษที่จำชื่อซอยไม่ได้นะคะ แต่ให้สังเกตว่าก่อนถึงซอยจะพบกับร้านกาแฟอเมซอน และ 7-11 ถัดจากนั้นอีกนิดก็จะถึงซอยทางเข้าคะ ทางเข้าจะเป็นซอยเล็กๆเมื่อตรงเข้าไปแล้วจะเห็นเป็นทาง 3 แยกคะ ให้เลี้ยวไปทางขวา แล้วตรงไปเรื่อยๆ อีกนิดเดียวก็จะเจอป้ายโรงแรมแบบนี้คะ
มองภายนอกดูเหมือนโรงแรมจะไม่พร้อมเสร็จเท่าไหร่ ใช่คะ ดูเหมือนว่าทางโรงแรมจะยังคงสร้างบางส่วนอยู่บ้าง เคยเห็นจากรีวิวก่อนๆ เรื่องเสียงดังขณะก่อสร้างรบกวน จะบอกว่าตอนนี้เสียงไม่มีแล้วคะ อาจจะเพราะสร้างเสร็จเกือบหมดแล้ว เอาละคะไปชมกันต่อ จากหน้าทางเข้านี้ ถ้าเรามองไปด้านซ้ายมือจะเห็นทางเดินไปทะเลคะ ใกล้มากคะ ถ้าใครอยากจะไปเดินเล่นริมทะเลก็สามารถเดินไปได้ง่ายๆเลยคะ
พอเราเลี้ยวเข้ามาจากทางเข้าโรงแรม เราก็จะพบกับทางเข้าแบบนี้ ทางด้านขวานี่เป็นห้อง Reception เราสามารถทำการเช็คอิน/เช็คเอาท์ได้ที่นี่คะ
แต่สำหรับผู้ที่เอารถมานะคะ เราขับตรงเข้าไปที่จอดรถก่อนเลยคะ
ที่จอดรถที่นี่ค่อนข้างจะแคบนะคะ ช่องสำหรับรถวิ่ง หรือ ทางเลี้ยวรถค่อยข้างจะเล็ก ต้องตั้งท่าอยู่หลายครั้งคะ กว่าจะจอดรถ หรือจะเลี้ยวได้คะ 😅 แต่ที่นี่จะมีพี่ รปภ ดูแลให้อย่างดีคะ รวมทั้งน้องเหมียวตัวในรูปด้วยค่ะ อิอิ😄
จากนั้นเราสามารถขึ้นไปเช็นอินห้องได้จากทางที่จอดรถเลยคะ เค้ามีทางบันไดไว้ให้พร้อม จะขอบอกไว้ว่าที่นี่ใช้บันไดล้วนๆนะคะ แต่ไม่เป็นไรคะ มีแค่ 3 ชั้นสบายมาก แต่เราไปเช็คอินที่ชั้น 1 ด้านหน้าตอนแรกก่อนคะ
เดินตามทางมาเรื่อยๆจนเจอป้าย Reception เลี้ยวเข้าไปตามทางเลยคะ
ระหว่างรอเช็คอินจะมี welcome drink มาเสริฟให้เราชื่นใจคะ ระหว่างนั้นก็จะมีที่นั่งรอ น่ารักดีคะ ถ่ายรูปเล่นรอไปพลางๆคะ
หลังจากนี้ไม่นานๆ เราก็ได้ห้องพักแล้ว ห้อง Ocean View อยู่ที่ชั้น 3 คะ จะมีพนักงานผู้หญิงเดินขึ้นไปส่งที่ห้องเลยคะ
ป้ายห้องน่ารักจัง ตื่นเต้นๆๆๆๆ ขอเปิดประตูเข้าไปชมห้องก่อนน๊า
นี่คือบรรยากาศในห้องนะค๊า
ต่อมานี่คือส่วนห้องน้ำค่า
โดยรวมแล้ว บรรยากาศในห้องพักน่ารักมากคะ ชอบเวลาเปิดประตูออกไปรับลม ได้ยินเสียง ได้กลิ่นน้ำทะเลแล้วรู้สึกดีจริงๆ ห้องนี้เรามีที่นั่งกับโต๊ะเล็กๆให้นั่งชิวรับบรรยากาศด้านนอกได้ด้วย ดีมากคะ ส่วนด้านในก็ยังมีโซฟา ให้เราได้นั่งๆนอนๆ เหมาะกับการมานอนพักผ่อนหย่อนใจโดยแท้ค่า เสียดายอย่างเดียวคือจะมองเห็นทะเลจากเตียงนอนได้เพียงนิดเดียว 555 (คิดในใจว่าจะไม่ลุกเลยใช่ไม๊) แต่สามารถมองเห็นทะเลได้จากระเบียงห้องนอนเราเลยคะ และยังสามารถมองเห็นสระที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ด้วยละ เอออออ ลืมบอกไปว่า เครื่องดื่มและขนมที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้เราสามารถดื่มทานได้เลยนะคะ ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแล้วคะ
เอาล่ะต่อไปเราไปดูในส่วนต่างๆของโรงแรมนี้กันดีกว่า
เริ่มจากห้องอาหารกันเลย
ก้องอาหารตกแต่งได้สวยงามมากเลยคะ บรรยากาศดูอบอุ่นคะ ถึงห้องจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ไม่ทำให้แขกที่มานั่งทานอาหารรู้สึกอึดอัดแต่อย่างได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีที่นั่งทานอาหารด้านนอกด้วยคะ แต่ที่นี่อาหารเช้าจะไม่ค่อยมีให้เลือกเยอะเท่าไหร่ แต่ก็เพียงพอสำหรับทุกคนที่มาพักคะ^^
นี่เป็นบรรยากาศยามสายของห้องอาหารคะ แต่ละคนทานกันเงียบๆและเป็นส่วนตัวคะ
ส่วนนี่คือโต๊ะทางด้านนอกห้องอาหารคะ
ส่วนนี่มีหน้าที่เก็บส่วยคะ 555 น่ารักมากๆ เจ้าถิ่นที่นี่ นั่งเรียบร้อยเชียวคะ รู้หน้าที่มากๆ ไม่รบกวนใครเลย
เอาละคะ ต่อไปเราไปดูบรรยากาศรอบๆโรงแรมกันดีกว่าคะ พอเราออกมาจากห้องอาหารก็หันไปเจอป้ายบอกทางไปห้องต่างๆนะคะ
จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปด้านบนกันดีกว่า
พอขึ้นมาก็เจอกับสระว่ายน้ำและห้องต่างๆของที่นี่เลยคะ เราสามารถที่จะเดินดูได้รอบๆเลยละคะ ในส่วนของสระว่ายน้ำนี้คือส่วนกลางนะคะ เราสามารถใช้ได้ตามสบายคะ ดูเหมือนว่าเค้าจะมีห่วงยางน่ารักๆต่างๆไว้ให้บริการด้วยล่ะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการรีวิวครั้งแรกของเรา ถ้ามีเหตุการณ์ไหน หรือเกิดการเข้าใจผิดกันหรือผิดพลาดในเรื่องของข้อมูลต่างๆประการใด กราบขออภ้ยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
และขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ หวังว่าถ้ามีโอกาส จะมารีวิวสถานที่อื่นๆให้ได้ติดตามกันในภายหลังอีกน๊า
บั๊ยบายยยยยยย
“วันฟ้าใส”
“วันฟ้าใส”กับรีวิวครั้งแรก ที่พักหัวหิน Resort De Paskani กับ ห้อง Ocean View
จะบอกว่าทริปนี้เป็นทริปที่คิดแล้วว่าเหมาะกับการเริ่มรีวิว เพราะโรงแรมเล็กๆ ที่มี 3 ชั้น ที่เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี หลังจากรีโนเวทซ่อมแซมปรับปรุงไปคะ(พนักงานที่นั่นบอกเพิ่งเปิดไปเมื่อปีที่แล้วคะ ปี2017) ตัวเราเองเลยอยากที่จะบอกเล่าถึงเสน่ห์ ของการได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของโรงแรมในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ขอบอกเลยว่า โรงแรมเล็กๆแบบนี้ เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ ทั้งกับเพื่อนฝูง และคู่รัก ที่นี่มีความสงบ เงียบ บรรยากาศดูน่ารักไปหมดเลยคะ เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้มีขนาดเล็ก มีห้องไม่ได้มากนัก จึงทำให้ผู้ที่เข้ามาพัก รู้สึกได้ถึงความเป็นส่วนตัวด้วยละ
แม้ว่าตัวโรงแรมจะไม่ได้ติดกับทะเลไปซะทีเดียว แต่เราก็สามารถที่จะเดินไปที่ทะเลได้เพียงไม่กี่ก้าวจากโรงแรมที่เราพัก เราสามารถมองเห็นทะเลได้จากส่วนกลางสระว่ายน้ำของโรงแรมที่เป็นไฮไลท์ ดึงดูดเหล่าสาวๆที่ชอบถ่ายรูปทั้งหลาย มันน่ารักจริงๆคะ ลองไปพิสูจน์กันได้นะคะ
ที่นี่มีห้องพักทั้งหมด 5 แบบ ซึ่งเริ่มตั้งแต่
ห้องPool Side คือห้องพักชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ
ห้อง Pool View คือห้องพักชั้น 3 มีระเบียงส่วนตัว
ห้อง Pool Access คือ ห้องที่ติดสระ สามารถลงสระได้จากระเบียงหน้าห้องเลยคะ
ห้อง Ocean View คือห้องวิวทะเล
และห้องสุดท้ายคือห้อง Suite เป็นห้องที่อยุ่ตรงกลางสระว่ายน้ำ เป็นห้องแบบเดียวที่มีอ่างอาบน้ำคะ
เราจองห้องพักของที่นี่ผ่านเวปไซส์นึงนะคะ ห้องที่เราจองคือห้อง Ocean View คะ ราคาที่เราได้ต่อคืนประมาณเกือบ 5,000 บาท (ราคาอาจจะสูงนิดนึงเพราะเราเลือกพักช่วงวันหยุดยาวคะ) เราเลือกห้องนี้เพราะเราแค่ต้องการหาห้องที่สามารถมองเห็นทะเลได้ง่ายๆ ส่วนตัวเป็นคนชอบมองทะเลกับฟังเสียงคลื่นคะ พยายามหาโรงแรมที่ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ เลยมาพบกับที่นี่คะ Resort De Paskani
การเดินทางมาที่นี่ก็ไม่อยากนะคะ เราผ่านตัวเมืองหัวหินเข้ามาทางเขาตะเกียบ ทางเดียวกับไป Cicada Market จากตรงนี้จนถึงโรงแรมเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กม คะ ซอยเข้าโรงแรมจะอยู่ด้านซ้ายมือ มีป้ายเล็กเขียนซื่อโรงแรม ขอโทษที่จำชื่อซอยไม่ได้นะคะ แต่ให้สังเกตว่าก่อนถึงซอยจะพบกับร้านกาแฟอเมซอน และ 7-11 ถัดจากนั้นอีกนิดก็จะถึงซอยทางเข้าคะ ทางเข้าจะเป็นซอยเล็กๆเมื่อตรงเข้าไปแล้วจะเห็นเป็นทาง 3 แยกคะ ให้เลี้ยวไปทางขวา แล้วตรงไปเรื่อยๆ อีกนิดเดียวก็จะเจอป้ายโรงแรมแบบนี้คะ
มองภายนอกดูเหมือนโรงแรมจะไม่พร้อมเสร็จเท่าไหร่ ใช่คะ ดูเหมือนว่าทางโรงแรมจะยังคงสร้างบางส่วนอยู่บ้าง เคยเห็นจากรีวิวก่อนๆ เรื่องเสียงดังขณะก่อสร้างรบกวน จะบอกว่าตอนนี้เสียงไม่มีแล้วคะ อาจจะเพราะสร้างเสร็จเกือบหมดแล้ว เอาละคะไปชมกันต่อ จากหน้าทางเข้านี้ ถ้าเรามองไปด้านซ้ายมือจะเห็นทางเดินไปทะเลคะ ใกล้มากคะ ถ้าใครอยากจะไปเดินเล่นริมทะเลก็สามารถเดินไปได้ง่ายๆเลยคะ
พอเราเลี้ยวเข้ามาจากทางเข้าโรงแรม เราก็จะพบกับทางเข้าแบบนี้ ทางด้านขวานี่เป็นห้อง Reception เราสามารถทำการเช็คอิน/เช็คเอาท์ได้ที่นี่คะ
แต่สำหรับผู้ที่เอารถมานะคะ เราขับตรงเข้าไปที่จอดรถก่อนเลยคะ
ที่จอดรถที่นี่ค่อนข้างจะแคบนะคะ ช่องสำหรับรถวิ่ง หรือ ทางเลี้ยวรถค่อยข้างจะเล็ก ต้องตั้งท่าอยู่หลายครั้งคะ กว่าจะจอดรถ หรือจะเลี้ยวได้คะ 😅 แต่ที่นี่จะมีพี่ รปภ ดูแลให้อย่างดีคะ รวมทั้งน้องเหมียวตัวในรูปด้วยค่ะ อิอิ😄
จากนั้นเราสามารถขึ้นไปเช็นอินห้องได้จากทางที่จอดรถเลยคะ เค้ามีทางบันไดไว้ให้พร้อม จะขอบอกไว้ว่าที่นี่ใช้บันไดล้วนๆนะคะ แต่ไม่เป็นไรคะ มีแค่ 3 ชั้นสบายมาก แต่เราไปเช็คอินที่ชั้น 1 ด้านหน้าตอนแรกก่อนคะ
เดินตามทางมาเรื่อยๆจนเจอป้าย Reception เลี้ยวเข้าไปตามทางเลยคะ
ระหว่างรอเช็คอินจะมี welcome drink มาเสริฟให้เราชื่นใจคะ ระหว่างนั้นก็จะมีที่นั่งรอ น่ารักดีคะ ถ่ายรูปเล่นรอไปพลางๆคะ
หลังจากนี้ไม่นานๆ เราก็ได้ห้องพักแล้ว ห้อง Ocean View อยู่ที่ชั้น 3 คะ จะมีพนักงานผู้หญิงเดินขึ้นไปส่งที่ห้องเลยคะ
ป้ายห้องน่ารักจัง ตื่นเต้นๆๆๆๆ ขอเปิดประตูเข้าไปชมห้องก่อนน๊า
นี่คือบรรยากาศในห้องนะค๊า
ต่อมานี่คือส่วนห้องน้ำค่า
โดยรวมแล้ว บรรยากาศในห้องพักน่ารักมากคะ ชอบเวลาเปิดประตูออกไปรับลม ได้ยินเสียง ได้กลิ่นน้ำทะเลแล้วรู้สึกดีจริงๆ ห้องนี้เรามีที่นั่งกับโต๊ะเล็กๆให้นั่งชิวรับบรรยากาศด้านนอกได้ด้วย ดีมากคะ ส่วนด้านในก็ยังมีโซฟา ให้เราได้นั่งๆนอนๆ เหมาะกับการมานอนพักผ่อนหย่อนใจโดยแท้ค่า เสียดายอย่างเดียวคือจะมองเห็นทะเลจากเตียงนอนได้เพียงนิดเดียว 555 (คิดในใจว่าจะไม่ลุกเลยใช่ไม๊) แต่สามารถมองเห็นทะเลได้จากระเบียงห้องนอนเราเลยคะ และยังสามารถมองเห็นสระที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ด้วยละ เอออออ ลืมบอกไปว่า เครื่องดื่มและขนมที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้เราสามารถดื่มทานได้เลยนะคะ ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแล้วคะ
เอาล่ะต่อไปเราไปดูในส่วนต่างๆของโรงแรมนี้กันดีกว่า
เริ่มจากห้องอาหารกันเลย
ก้องอาหารตกแต่งได้สวยงามมากเลยคะ บรรยากาศดูอบอุ่นคะ ถึงห้องจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ไม่ทำให้แขกที่มานั่งทานอาหารรู้สึกอึดอัดแต่อย่างได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีที่นั่งทานอาหารด้านนอกด้วยคะ แต่ที่นี่อาหารเช้าจะไม่ค่อยมีให้เลือกเยอะเท่าไหร่ แต่ก็เพียงพอสำหรับทุกคนที่มาพักคะ^^
นี่เป็นบรรยากาศยามสายของห้องอาหารคะ แต่ละคนทานกันเงียบๆและเป็นส่วนตัวคะ
ส่วนนี่คือโต๊ะทางด้านนอกห้องอาหารคะ
ส่วนนี่มีหน้าที่เก็บส่วยคะ 555 น่ารักมากๆ เจ้าถิ่นที่นี่ นั่งเรียบร้อยเชียวคะ รู้หน้าที่มากๆ ไม่รบกวนใครเลย
เอาละคะ ต่อไปเราไปดูบรรยากาศรอบๆโรงแรมกันดีกว่าคะ พอเราออกมาจากห้องอาหารก็หันไปเจอป้ายบอกทางไปห้องต่างๆนะคะ
จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปด้านบนกันดีกว่า
พอขึ้นมาก็เจอกับสระว่ายน้ำและห้องต่างๆของที่นี่เลยคะ เราสามารถที่จะเดินดูได้รอบๆเลยละคะ ในส่วนของสระว่ายน้ำนี้คือส่วนกลางนะคะ เราสามารถใช้ได้ตามสบายคะ ดูเหมือนว่าเค้าจะมีห่วงยางน่ารักๆต่างๆไว้ให้บริการด้วยล่ะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับการรีวิวครั้งแรกของเรา ถ้ามีเหตุการณ์ไหน หรือเกิดการเข้าใจผิดกันหรือผิดพลาดในเรื่องของข้อมูลต่างๆประการใด กราบขออภ้ยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
และขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ หวังว่าถ้ามีโอกาส จะมารีวิวสถานที่อื่นๆให้ได้ติดตามกันในภายหลังอีกน๊า
บั๊ยบายยยยยยย
“วันฟ้าใส”