สวัสดีค่า ^_^
วันนี้ว่างๆ เลยจะมารีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของนี่ห้อ Neato ให้อ่านกันนะคะ
พอดีเราได้รับเครื่องดูดฝุ่น Neato รุ่น D3 Connected (อ่านว่านีโต้) มาลองใช้ที่บ้านค่ะ
สำหรับยี่ห้อ Neato นี้ เค้าบอกว่าเป็น “หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ฉลาดที่สุดในโลก” ก็เดี๋ยวมาลองชมกันดูค่ะ
พอได้ใช้งานไปซักพักแล้วเลยนำมารีวิวกันให้ดูนะคะ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังหาซื้อกันอยู่ค่ะ
และขออนุญาตแจ้งไว้ก่อนว่า สำหรับรีวิวนี้ เราจะไม่ได้รีวิวเรื่องสเปค หรือเทคนิกอะไรมากมายนะคะ จะเน้นไปที่การใช้งานอย่างเดียวค่ะ ^_^
ถ้าสนใจเรื่องเสปคหรือการใช้งานขั้นสูง สามารถหารีวิวของท่านอื่นได้นะคะ เราเห็นมีลงไว้อยู่ค่ะ
แกะกล่องออกมาจะมีอุปกรณ์ตามนี้ค่ะ แท่นชาร์ตและตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นค่ะ
เริ่มแรกขอพูดเรื่องดีไซน์ก่อนเลยค่ะ ครั้งแรกที่เห็นเจ้าเครื่องนี้ เราชอบนะ รู้สึกว่าสวยกว่าแบบกลมๆ ค่ะ ดูมีดีไซน์
และจุดที่เป็นทรงรูปตัว D เห็นแล้วทำให้รู้เลยว่า มันต้องเข้าไปดูตรงมุมได้ดีกว่าเครื่องกลมแน่ๆ
หมายเหตุ : จริงๆ ชื่อรุ่นว่า Neato D3 Connected ในส่วนของ D3 นี่ก็มาจากรูปทรงที่เป็นตัว D นี่แหล่ะค่ะ ^_^
ความหนาของเครื่อง ดูหนากว่าทั่วไป แต่ก็สามารถเข้าตามใต้ตู้ใต้โซฟาที่บ้านเราได้อยู่ค่ะ
มาดูภาพการใช้งานจริงกันค่ะ
ขั้นตอนแรก เราต้องเอาเครื่องออกมาชาร์ตก่อนค่ะ โดยการวางในรูปแบบนี้
ตรงแถบแม่เหล็กจุดนี้จะเป็นตัวที่แนบไปกับแท่นชาร์ตค่ะ และที่เป็นช่องๆ นั้นก็เป็นที่ให้อากาศออกจากเครื่องค่ะ
ใช้งานจริงก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ
สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนตอนขณะที่ตัวเครื่องทำงานนะคะ เรารู้สึกว่าเจ้าเครื่อง Neato D3 นี้ วิ่งเร็วดีค่ะ ทำให้งานเสร็จไวมากๆ
ในตอนแรก เครื่องจะวิ่งเหมือนเลาะขอบห้องเพื่อเป็นการทำแผนที่ห้องของเราค่ะ พอเดินเลาะเสร็จแล้วก็จะไปทำพื้นที่ตรงกลางค่ะ
(การทำงานแบบนี้เรียกว่า Laser Smart Guide Mapping ค่ะ)
และเรารู้สึกว่าตัวเลเซอร์และการทำงานเค้าดีกว่ารุ่นอื่น (เราเคยใช้รุ่นอื่นมาด้วย) คือถ้าเค้าเก็บข้อมูลไปแล้ว เค้าจะไม่วิ่งชนอะไรมั่วซั่วเลยค่ะ
เพิ่มเติม : ทางผู้จัดจำหน่ายบอกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของ Neato ทุกรุ่น ใช้เทคโนโลยี Laser Smart Mapping ที่เป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับ Google Car ที่สามารถขับเคลื่อนได้เองนั่นเอง
เอาจริงๆ ตอนแรกเรารู้สึกเฉยๆ ว่ามีแล้วดีกว่ายังไง แต่พอมาลองใช้เรารู้สึกว่า เออ มันดีกว่าจริงๆ เพราะวิ่งแบบมีทิศทาง ไม่มั่วเลย
ตัว Laser Mapping จะอยู่ตรงส่วนบนเครื่องที่เป็นโลโก้ของ Neato ตรงนี้ค่ะ
หลังจากวิ่งไปซักพัก มาแกะดูฝุ่นที่ดูดได้กันค่ะ วิธีแกะกล่องเก็บฝุ่นก็คือเปิดจากด้านบนของเครื่องได้เลยค่ะ
และนี่คือฝุ่นเจ้าเครื่องนี้ดูดมาได้ค่ะ มหาศาลมากๆ ค่ะ นี่ขนาดเปิดให้วิ่งแป๊บเดียวเท่านั้น
บ้านเราเลี้ยงหมา 3 ตัวในบ้านค่ะ ใครมีน้องหมาน้องแมวเราแนะนำเครื่องนี้มากๆ เลยค่ะ เพราะพลังดูดเค้าแรงจริงๆ ค่ะ
สังเกตได้จากเสียงพัดลม จะเสียงดังนิดนึงค่ะ
เราอยากเพิ่มเติมเรื่องตัว Filter/ตัวกรอง นิดนึงค่ะ (ตัวที่สีส้มๆ ในรูป)
ตัวสีส้มนี้จะเป็นตัวที่แถมมากับรุ่น D3 Conneted ค่ะ มันจะเป็นรุ่นมาตราฐาน
แต่เราอยากแนะนำเป็นตัวนี้มากกว่าค่ะ นั่นคือตัวสีม่วงค่ะ
เจ้าตัวสีม่วงนี้มันดีกว่ายังไงเราถึงแนะนำ
สำหรับตัวสีส้มมันจะกรองฝุ่นได้ระดับมาตราฐานทั่วไปค่ะ แต่เจ้าตัวสีม่วงจะกรองฝุ่นได้ดีกว่าและอายุการใช้งานนานกว่าค่ะ
ทีนี้มันก็จะดีในกรณีที่พอเครื่องดูดฝุ่นมันดูดฝุ่นผ่านตัวกรอง เพื่อที่จะนำอากาศออกมาจากเครื่องอีกครั้ง
ตัวกรองสีม่วงซึ่งกรองฝุ่นได้ละเอียดกว่า ก็จะทำให้ฝุ่นที่ออกมาจากตัวเครื่องมีฝุ่นน้อยกว่าแบบตัวปกติค่ะ
ตัวกรองสีม่วงนี้ สามารถซื้อเพิ่มเติมได้นะคะ ราคาไม่แพงค่ะ ติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่ายได้เลยค่ะ
และอันนี้เป็นแปรงที่ใช้ดันฝุ่นขึ้นมา เรียกว่าแปรงผสม (Combo Brush) อยู่ส่วนใต้เครื่อง ตัวนี้ถอดออกมาทำความสะอาดได้ค่ะ
คือว่าถอดออกมาหลังจากการใช้งาน มันก็เลยมีเส้นผมติดอยู่บ้าง ต้องขอโทษด้วยนะคะ >__<
และอยากแนะนำฟังชันก์ที่น่าสนใจเพิ่มอีกนิดนึงค่ะ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่น Neato D3 Connected อันนี้ สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้ด้วยนะคะ
วิธีการเชื่อมต่อก็ไม่ยากเย็นอะไรค่ะ แค่โหลดแอพ Neato ใน Google Play หรือ App Store และทำตามขั้นตอนที่เค้าบอก เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ
เราเอาหน้าจอแสดงตัวอย่างมาให้ดูส่วนนึงด้วยค่ะ
และจุดหลักๆ ที่เราคิดว่าน่าสนใจคือ 2 ฟังชันก์นี้ค่ะ
รูปซ้าย : จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่องค่ะ เช่น ควรจะเอาฝุ่นออกไปทิ้งเมื่อไหร่ ควรจะเปลี่ยนตัวกรองเมื่อไหร่ และควรจะเปลี่ยนแปรงด้านล่างเมื่อไหร่
สำหรับเราตรงนี้สะดวกมาก เพราะเราชอบลืมเอาฝุ่นออกไปทิ้งอยู่บ่อยๆ ค่ะ หรือบางทีก็ขี้เกียจบ้างไรบ้าง พอมีระบบแจ้งเตือน เราเลยว่ามันตอบโจทย์เราค่ะ
รูปขวา : อันนี้ดีมากๆ สำหรับพนกงานประจำหรือคนที่ต้องออกจากบ้านบ่อยๆ ค่ะ คือเราสามารถตั้งเวลาให้เครื่องทำงาน/หยุดทำงานได้ตามที่เราสะดวกเลยค่ะ
มาถึงส่วนสุดท้าย เราขอสรุปเป็นคะแนนโดยรวมดังนี้ค่ะ
(ในส่วนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ)
การใช้งาน : 9/10
การใช้งานดีค่ะ พลังดูดแรง เดินเป็นระเบียบทั่วถึง แต่หัก 1 คะแนน เพราะเสียงตอนทำงานอาจจะดังไปนิดนึงค่ะ
ความแข็งแรง : 10/10
ดูจากวัสดุแล้วเราว่าทนอยู่ค่ะ ตัวบอดี้และล้อเรารู้สึกได้ว่าเป็นวัสดุที่ดีค่ะ
ราคา : 8/10
ราคาอยู่ในระดับจับต้องได้ค่ะ แต่ถ้าถามว่าถูกมั้ยก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าเทียบราคากับเทคโนโลยีที่ได้แล้ว ก็ถือว่าเหมาะสมค่ะ
ความทนทาน : 9/10
พอดีว่าเพิ่งใช้ได้ไม่นาน เลยตอบแบบเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่เห็นว่าเป็นของนำเข้าจากอเมริกา เราเลยคิดว่าน่าจะทนค่ะ
เพราะมาตราฐานบ้านเค้าน่าจะดีอยู่ค่ะ
ความสวยงาม : 10/10
เราให้ 10 เต็มเลยนะ เห็นมีบางคนบอกว่ามันหน้าตาแปลกๆ แต่เรากลับชอบ 555
ดูเหมือนผ่านการออกแบบมาแล้ว ไม่ใช่แค่ทำเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เราสามารถวางไว้ที่บ้านได้เลย
เวลาแขกมาก็ไม่รู้สึกว่าต้องอายอะไร เพราะสวยดีค่ะ
และแล้วการรีวิวเครื่องดูดฝุ่น Neato D3 Connected ก็จบแล้วค่ะ
ถ้าใครสนใจก็สามารถติดต่อไปที่แบรนด์ของเค้าได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านมาจนจบนะคะ ^_^
[SR] รีวิว : หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Neato รุ่น D3 Connected
วันนี้ว่างๆ เลยจะมารีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของนี่ห้อ Neato ให้อ่านกันนะคะ
พอดีเราได้รับเครื่องดูดฝุ่น Neato รุ่น D3 Connected (อ่านว่านีโต้) มาลองใช้ที่บ้านค่ะ
สำหรับยี่ห้อ Neato นี้ เค้าบอกว่าเป็น “หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ฉลาดที่สุดในโลก” ก็เดี๋ยวมาลองชมกันดูค่ะ
พอได้ใช้งานไปซักพักแล้วเลยนำมารีวิวกันให้ดูนะคะ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังหาซื้อกันอยู่ค่ะ
และขออนุญาตแจ้งไว้ก่อนว่า สำหรับรีวิวนี้ เราจะไม่ได้รีวิวเรื่องสเปค หรือเทคนิกอะไรมากมายนะคะ จะเน้นไปที่การใช้งานอย่างเดียวค่ะ ^_^
ถ้าสนใจเรื่องเสปคหรือการใช้งานขั้นสูง สามารถหารีวิวของท่านอื่นได้นะคะ เราเห็นมีลงไว้อยู่ค่ะ
แกะกล่องออกมาจะมีอุปกรณ์ตามนี้ค่ะ แท่นชาร์ตและตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นค่ะ
เริ่มแรกขอพูดเรื่องดีไซน์ก่อนเลยค่ะ ครั้งแรกที่เห็นเจ้าเครื่องนี้ เราชอบนะ รู้สึกว่าสวยกว่าแบบกลมๆ ค่ะ ดูมีดีไซน์
และจุดที่เป็นทรงรูปตัว D เห็นแล้วทำให้รู้เลยว่า มันต้องเข้าไปดูตรงมุมได้ดีกว่าเครื่องกลมแน่ๆ
หมายเหตุ : จริงๆ ชื่อรุ่นว่า Neato D3 Connected ในส่วนของ D3 นี่ก็มาจากรูปทรงที่เป็นตัว D นี่แหล่ะค่ะ ^_^
ความหนาของเครื่อง ดูหนากว่าทั่วไป แต่ก็สามารถเข้าตามใต้ตู้ใต้โซฟาที่บ้านเราได้อยู่ค่ะ
มาดูภาพการใช้งานจริงกันค่ะ
ขั้นตอนแรก เราต้องเอาเครื่องออกมาชาร์ตก่อนค่ะ โดยการวางในรูปแบบนี้
ตรงแถบแม่เหล็กจุดนี้จะเป็นตัวที่แนบไปกับแท่นชาร์ตค่ะ และที่เป็นช่องๆ นั้นก็เป็นที่ให้อากาศออกจากเครื่องค่ะ
ใช้งานจริงก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ
สิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนตอนขณะที่ตัวเครื่องทำงานนะคะ เรารู้สึกว่าเจ้าเครื่อง Neato D3 นี้ วิ่งเร็วดีค่ะ ทำให้งานเสร็จไวมากๆ
ในตอนแรก เครื่องจะวิ่งเหมือนเลาะขอบห้องเพื่อเป็นการทำแผนที่ห้องของเราค่ะ พอเดินเลาะเสร็จแล้วก็จะไปทำพื้นที่ตรงกลางค่ะ
(การทำงานแบบนี้เรียกว่า Laser Smart Guide Mapping ค่ะ)
และเรารู้สึกว่าตัวเลเซอร์และการทำงานเค้าดีกว่ารุ่นอื่น (เราเคยใช้รุ่นอื่นมาด้วย) คือถ้าเค้าเก็บข้อมูลไปแล้ว เค้าจะไม่วิ่งชนอะไรมั่วซั่วเลยค่ะ
เพิ่มเติม : ทางผู้จัดจำหน่ายบอกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของ Neato ทุกรุ่น ใช้เทคโนโลยี Laser Smart Mapping ที่เป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับ Google Car ที่สามารถขับเคลื่อนได้เองนั่นเอง
เอาจริงๆ ตอนแรกเรารู้สึกเฉยๆ ว่ามีแล้วดีกว่ายังไง แต่พอมาลองใช้เรารู้สึกว่า เออ มันดีกว่าจริงๆ เพราะวิ่งแบบมีทิศทาง ไม่มั่วเลย
ตัว Laser Mapping จะอยู่ตรงส่วนบนเครื่องที่เป็นโลโก้ของ Neato ตรงนี้ค่ะ
หลังจากวิ่งไปซักพัก มาแกะดูฝุ่นที่ดูดได้กันค่ะ วิธีแกะกล่องเก็บฝุ่นก็คือเปิดจากด้านบนของเครื่องได้เลยค่ะ
และนี่คือฝุ่นเจ้าเครื่องนี้ดูดมาได้ค่ะ มหาศาลมากๆ ค่ะ นี่ขนาดเปิดให้วิ่งแป๊บเดียวเท่านั้น
บ้านเราเลี้ยงหมา 3 ตัวในบ้านค่ะ ใครมีน้องหมาน้องแมวเราแนะนำเครื่องนี้มากๆ เลยค่ะ เพราะพลังดูดเค้าแรงจริงๆ ค่ะ
สังเกตได้จากเสียงพัดลม จะเสียงดังนิดนึงค่ะ
เราอยากเพิ่มเติมเรื่องตัว Filter/ตัวกรอง นิดนึงค่ะ (ตัวที่สีส้มๆ ในรูป)
ตัวสีส้มนี้จะเป็นตัวที่แถมมากับรุ่น D3 Conneted ค่ะ มันจะเป็นรุ่นมาตราฐาน
แต่เราอยากแนะนำเป็นตัวนี้มากกว่าค่ะ นั่นคือตัวสีม่วงค่ะ
เจ้าตัวสีม่วงนี้มันดีกว่ายังไงเราถึงแนะนำ
สำหรับตัวสีส้มมันจะกรองฝุ่นได้ระดับมาตราฐานทั่วไปค่ะ แต่เจ้าตัวสีม่วงจะกรองฝุ่นได้ดีกว่าและอายุการใช้งานนานกว่าค่ะ
ทีนี้มันก็จะดีในกรณีที่พอเครื่องดูดฝุ่นมันดูดฝุ่นผ่านตัวกรอง เพื่อที่จะนำอากาศออกมาจากเครื่องอีกครั้ง
ตัวกรองสีม่วงซึ่งกรองฝุ่นได้ละเอียดกว่า ก็จะทำให้ฝุ่นที่ออกมาจากตัวเครื่องมีฝุ่นน้อยกว่าแบบตัวปกติค่ะ
ตัวกรองสีม่วงนี้ สามารถซื้อเพิ่มเติมได้นะคะ ราคาไม่แพงค่ะ ติดต่อผ่านตัวแทนจำหน่ายได้เลยค่ะ
และอันนี้เป็นแปรงที่ใช้ดันฝุ่นขึ้นมา เรียกว่าแปรงผสม (Combo Brush) อยู่ส่วนใต้เครื่อง ตัวนี้ถอดออกมาทำความสะอาดได้ค่ะ
คือว่าถอดออกมาหลังจากการใช้งาน มันก็เลยมีเส้นผมติดอยู่บ้าง ต้องขอโทษด้วยนะคะ >__<
และอยากแนะนำฟังชันก์ที่น่าสนใจเพิ่มอีกนิดนึงค่ะ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่น Neato D3 Connected อันนี้ สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Phone ได้ด้วยนะคะ
วิธีการเชื่อมต่อก็ไม่ยากเย็นอะไรค่ะ แค่โหลดแอพ Neato ใน Google Play หรือ App Store และทำตามขั้นตอนที่เค้าบอก เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ
เราเอาหน้าจอแสดงตัวอย่างมาให้ดูส่วนนึงด้วยค่ะ
และจุดหลักๆ ที่เราคิดว่าน่าสนใจคือ 2 ฟังชันก์นี้ค่ะ
รูปซ้าย : จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับตัวเครื่องค่ะ เช่น ควรจะเอาฝุ่นออกไปทิ้งเมื่อไหร่ ควรจะเปลี่ยนตัวกรองเมื่อไหร่ และควรจะเปลี่ยนแปรงด้านล่างเมื่อไหร่
สำหรับเราตรงนี้สะดวกมาก เพราะเราชอบลืมเอาฝุ่นออกไปทิ้งอยู่บ่อยๆ ค่ะ หรือบางทีก็ขี้เกียจบ้างไรบ้าง พอมีระบบแจ้งเตือน เราเลยว่ามันตอบโจทย์เราค่ะ
รูปขวา : อันนี้ดีมากๆ สำหรับพนกงานประจำหรือคนที่ต้องออกจากบ้านบ่อยๆ ค่ะ คือเราสามารถตั้งเวลาให้เครื่องทำงาน/หยุดทำงานได้ตามที่เราสะดวกเลยค่ะ
มาถึงส่วนสุดท้าย เราขอสรุปเป็นคะแนนโดยรวมดังนี้ค่ะ
(ในส่วนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ)
การใช้งาน : 9/10
การใช้งานดีค่ะ พลังดูดแรง เดินเป็นระเบียบทั่วถึง แต่หัก 1 คะแนน เพราะเสียงตอนทำงานอาจจะดังไปนิดนึงค่ะ
ความแข็งแรง : 10/10
ดูจากวัสดุแล้วเราว่าทนอยู่ค่ะ ตัวบอดี้และล้อเรารู้สึกได้ว่าเป็นวัสดุที่ดีค่ะ
ราคา : 8/10
ราคาอยู่ในระดับจับต้องได้ค่ะ แต่ถ้าถามว่าถูกมั้ยก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าเทียบราคากับเทคโนโลยีที่ได้แล้ว ก็ถือว่าเหมาะสมค่ะ
ความทนทาน : 9/10
พอดีว่าเพิ่งใช้ได้ไม่นาน เลยตอบแบบเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่เห็นว่าเป็นของนำเข้าจากอเมริกา เราเลยคิดว่าน่าจะทนค่ะ
เพราะมาตราฐานบ้านเค้าน่าจะดีอยู่ค่ะ
ความสวยงาม : 10/10
เราให้ 10 เต็มเลยนะ เห็นมีบางคนบอกว่ามันหน้าตาแปลกๆ แต่เรากลับชอบ 555
ดูเหมือนผ่านการออกแบบมาแล้ว ไม่ใช่แค่ทำเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เราสามารถวางไว้ที่บ้านได้เลย
เวลาแขกมาก็ไม่รู้สึกว่าต้องอายอะไร เพราะสวยดีค่ะ
และแล้วการรีวิวเครื่องดูดฝุ่น Neato D3 Connected ก็จบแล้วค่ะ
ถ้าใครสนใจก็สามารถติดต่อไปที่แบรนด์ของเค้าได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่อ่านมาจนจบนะคะ ^_^