ห้องเพลง**คนรากหญ้า**พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสีไม่มีกลุ่ม มีแต่เสียงเพลง 8/4/61 - หลุมลึกลับในชนบทวอชิงตัน

กระทู้คำถาม


ดอกไม้หัวใจสวัสดีครับอมยิ้ม17 สมาชิกห้องเพลงทุกๆท่าน วันนี้วันอาทิตย์ MC แอ๊ด (WANG JIE หรือ ชื่อดั้งเดิม "พฤษภเสารี" สมาชิกเก่าห้อง รดน.ช่วงปี 2546-2550) ประจำการอีก 1 วันครับ ^^

วันนี้ MC ไปเจอเรื่องประหลาดเรื่องหนึ่งมา ก็เข้าทางเลยครับเพราะชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว มันคือ หลุมลึกลับแห่งหนึ่ง ในรัฐวอชิงตั้น สหรัฐอเมริกา เป็นหลุมที่หาก้นหลุมไม่เจอ ว่ากันว่ามันลึกถึง 8 หมื่นฟุตเป็นอย่างน้อย! มาติดตามกันเลยครับ...


เมื่อ 20 กว่าปีก่อน คืนวันหนึ่งในปี 1997 ชายแก่คนหนึ่งชื่อ เมล วอเทอร์ส์ (Mel Waters) (ไม่รู้ว่าเป็นญาติกับ โรเจอร์ วอเทอร์ส มือเบสและหัวหน้าวง พิ้งค์ ฟลอยด์ หรือเปล่า ? ^^) ผู้เป็นเจ้าของที่ดินแห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตัน ห่างไปทางทิศตะวันตกของเมือง เอลเลนเบิร์ก (Ellensburg) ประมาณ 9 ไมล์ ได้โทรศัพท์เข้าไปที่สถานีวิทยุกระจายเสียงในระบบ AM พูดคุยในรายการวิทยุชื่อว่า COAST TO COAST ซึ่งดำเนินรายการโดย อาร์ต เบลล์ (Art Bell) รายการนี้เป็นรายการวิทยุซึ่งพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติต่างๆทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั่วโลก เมล วอเทอร์สได้เล่าเรื่องประหลาดที่เขาได้เจอในรายการวิทยุนั้น และถูกใจแฟนๆที่ติดตามฟังรายการนั้นกันมาก แล้วเรื่องที่เขาเล่าก็กลายเป็นตำนานลี้ลับจนถึงปัจจุบัน


อาร์ต เบลล์ ผู้ดำเนินรายการ Coast to coast

เมล วอเทอร์ส บอกว่า ในพื้นที่นาของเขา ได้มีหลุมประหลาดลึกลับเกิดขึ้น หลุมนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ไม่มีเสียงแตกตื่นจากฝูงสัตว์ที่เขาเลี้ยงไว้ รวมถึง ไม่มีแม้แต่เสียงขุดเจาะอะไรเลย จู่ๆมันก็เกิดขึ้นมาหน้าตาเฉยราวกับว่าถูกเสกหรือเนรมิตขึ้น สร้างความพิศวงงงงวยให้กับเขาเป็นอันมาก




จากการให้สัมภาษณ์ของเมล หลุมนั้นลึกลงไปในโลกได้ถึง 8 หมื่นฟุต! เมลบอกว่าเขาวัดความลึกโดยใช้สายเบ็ดชักรอกลงไป แต่นั่นยังประหลาดสู้เรื่องพิลึกถัดมาที่เขาเล่าไม่ได้


เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของเบลรู้จักและคุ้นเคยเจ้าหลุมลึกลับนี้ดี เพราะพวกเขามักจะเอาขยะมาโยนทิ้ง แล้วขยะเหล่านั้นก็หายวับไปอย่างง่ายๆแถมไม่ส่งกลิ่นเหม็นอะไรขึ้นมาด้วย การกำจัดขยะเลยกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคนในละแวกนั้น! แต่เมลบอกว่า เขารู้เรื่องประหลาดที่มากกว่านั้นอีก! มีเรื่องร่ำลือกันว่า มีคนพบเห็นลำแสงประหลาดสีดำ พวงพุ่งขึ้นจากภายในหลุมขึ้นสู่ฟ้า!

เรื่องประหลาดพิลึกสุดๆเหนือกว่าเรื่องทุกเรื่องก็คือ พรานท้องถิ่นคนหนึ่งผู้ซึ่งได้สูญเสียสุนัขตัวโปรดแสนรักไปในวันหนึ่ง เขาอุ้มมันไปที่หลุมนั่นและโยนมันลงไป นั่นสมควรจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นมัน ....

แต่ทว่า สองสามวันต่อมา ขณะที่เขากำลังสำรวจดูบริเวณรอบๆหลุมลึกลับนั่น พรานผู้ซึ่งเล่าเรื่องให้เมลฟังในเวลาต่อมาบอกว่า เขาสาบานว่าได้เห็นเจ้าสุนัขตัวโปรดของเขาอีกครั้ง! ขนสีเดียวกัน! แบบเดียวกัน! เหมือนกันเป๊ะทุกอย่าง!! หมายความว่า หลุมลึกลับนั่น ช่วยชุบชีวิตให้สุนัขของเขากลับฟื้นขึ้นมาใหม่อย่างนั้นหรือ ?

หลังจากฟังเบลเล่าเรื่องประหลาดนี้จบ ผู้ฟังทั้งหลายต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เม้าท์กันกระจาย บางคนบอกว่าเป็นเรื่องตลกน่าหัวเราะเพ้อเจ้อ แต่หลายคนไม่คิดเช่นนั้น และต่อมา หลุมลึกลับนั่นก็โด่งดังมีชื่อเสียงถูกเรียกขานกันว่า "หลุมของเมล" (Mel's Hole) และสุดท้ายทางรัฐบาลได้จ่ายค่าที่ดินบริเวณนั้นให้กับเขาเพื่อให้เขาย้ายออกไป

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคนออกมายืนยันเรื่องเล่าหลุดโลกของเมลอีกคน เรด เอลค์ (Red Elk) ชาวอเมริกันคนท้องถิ่นนั้นคนหนึ่งยอมรับว่า เขารู้จักหลุมลึกลับของเมล นับตั้งแต่พ่อของเขาพาเขาไปดูในปี ค.ศ.1961


เรด เอลค์ (Red Elk) คนอเมริกันท้องถิ่นอีกคนซึ่งเคยเห็นหลุมของเมลตั้งแต่ปี 1961


เรด เอลค์ กล่าวว่า "มีคนลงไปในนั้น! พวกต่างดาว มาอยู่ที่นี่ก่อนมนุษย์ (อย่างพวกเรา) อีก! ดาวเคราะห์ที่พวกเขาจากมามันเป็นดาวเคราะห์ที่แห้งแล้ง ดังนั้นพวกเขาจึงพากันลงไปอยู่ใต้พิภพ" ว่าเข้าไปนั่น เขากล่าวสอดคล้องกับทฤษฎีซึ่งเรียกกันว่า "ทฤษฎีโลกกลวง"


อันเนื่องจากเรื่องราวและตำนาน "หลุมของเมล" แปลกประหลาดยิ่งขึ้นทุกที สาธารณชนก็ยิ่งให้ความสนใจมากขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดก็คือ ไม่ว่ามันจะเหลือเชื่อสักปานใด แต่ก็ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ความจริงได้สักคน


ครั้งหนึ่ง เรด เอลค์ พาคน 30 คนไปสำรวจดูหลุมของเมลด้วยตนเอง ซึ่งพวกเขาก็ต้องกลับไปโดยมิได้พบต้นตออะไรเลยแน่อยู่แล้ว ใครก็ไม่สามารถลงไปถึงก้นหลุมนั้นได้


แล้วยังมีเรื่องที่น่าแปลกประหลาดใจชวนสงสัยเพิ่มขึ้นอีกคือ เมื่อมองจากภาพถ่ายดาวเทียมของรัฐบาล นักส่องยูทูปคนหนึ่งรายงานว่า มันไม่มีอะไรเลย ณ ตรงที่หลุมนั้นตั้งอยู่ หลุมมันควรจะต้องปรากฏให้เห็นตรงนั้น! แต่กลับปรากฏกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวตั้งปิดไว้ซะงั้น ??


เรื่องหลุมของเมลแพร่สะพัดไปเรื่อยๆ แล้วก็มีนักหนังสือพิมพ์ผู้เอาจริงคนหนึ่งต้องการความจริง แต่เมื่อเขาหาทางติดต่อกับเมลวอเทอร์ส ปรากฏว่า หาไม่เจอ ไม่มีคนชื่อนี้ หรือไม่ก็ ไม่เคยมีคนชื่อนี้อาศัยอยู่ในเอลเลนเบิร์กด้วยซ้ำ! ไปกันใหญ่ ลึกลับดำมืดมากขึ้นไปอีก!!


"มันก็คงเหมือนเรื่องราวแบบ 'จอกศักดิ์สิทธิ์' (Holy Grail) แหละครับ" แดน (คงเป็นนักหนังสือพิมพ์คนนั้น) กล่าวขำๆ "ถ้าคุณหามันเจอ ผมว่าบางที มันก็อาจจะมีหม้อบรรจุทองคำ ณ ที่แดนปลายสายรุ้ง หรืออาจบางทีมีเหล่าปีศาจรอขย้ำคุณตอนคุณหลับในเวลากลางคืนละมั้ง ไม่รู้สินะ!"

และขณะที่มีคนส่วนน้อยเชื่อเรื่องเล่าทุกเรื่องว่าเป็นความจริง บางคนก็ยังสงสัยว่า มันจะเป็นยังไง...ถ้าหากว่า ตำนานนั้นมาจากเรื่องจริง อะไรก็ตาม ท่าทางมันจะมีหลุมที่หาก้นไม่เจอในชนบทแห่งวอชิงตั้นจริงหรือ ? ด้วยความข้องใจ นักศึกษาวิชาการสร้างภาพยนตร์สองสามคนจึงพยายามไปหาคำตอบ

เพื่อที่จะเริ่มต้นงานวิจัย อีแวน แคทลิน (Evan Catlin), โคลี่ เฮ็นเดอร์สัน (Coly Henderson) และ ไทเลอร์ เท็มเพิลตั้น (Tyler Templeton) นำอุปกรณ์การถ่ายหนังไปร่วมกับสิ่งที่พวกเขาพบทางออนไลน์ กล่องสีขาวเป็นฟุตเทจจากดาวเทียม พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เจออะไร แต่แล้ว...

ทันใดนั้น พวกเขาก็ไปสะดุดกึกกับหลุมซึ่งดูเหมือนว่าไม่รู้มันจะลึกสุดตรงไหน! มันคือหลุมของเมลใช่หรือเปล่า ? "คุณจะมองไม่เห็นก้นหลุมเลยไม่ว่าจะมองทางด้านใด ไปตรงไหนก็มองไม่เห็นมัน" อีแวนกล่าว แต่ว่า มันจะลึกลงไปถึง 8 หมิ่นฟุตจริงหรือ ?

เพื่อทดสอบวัดความลึก อีแวนจึงโยนก้อนหินลงไปและรอฟังเสียงที่มันจะกระทบก้นหลุม หลังจากการรอคอยซึ่งรู้สึกยาวนานเหมือนชั่วนิรันดร์ เขาก็ได้ยิน...แต่เพียงความเงียบ! ไม่มีเสียงอะไรเลย!! เขาจึงโยนหินลงไปอีกก้อน ก็ยังไม่มีเสียงอะไรให้ได้ยินเหมือนเดิม!

เมื่อเป็นเช่นนั้นทางทีมก็เลยจะเล่นของใหญ่บ้าง คือใช้กล้อง "โกโปร" ผูกเชือกเป็นม้วนหย่อนลงไปลึกที่สุดเท่าที่จะลงไปได้ จนสุดปลายเชือกและไม่มีเชือกที่จะต่อ (และบางทีเจ้าของที่อาจจะไล่ตะเพิดพวกเขาไป) แต่ว่า พวกเขาบันทึกภาพอะไรไว้ได้หรือไม่ ?

เขาบอกว่ามันก็ไม่เชิง อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยที่สุดหลุมมันก็ มองดูเหมือนหาก้นหลุมที่สิ้นสุดไม่เจอจริงๆ นี่คือหลุมตามตำนานใช่หรือไม่ ? แม้ว่ามันจะปราศจากลำแสงสีดำพุ่งขึ้นมา สุนัขตายแล้วคืนชีพ หรือเอเลี่ยนก็ตามที ? ปราศจากการยืนยันของเมล พวกเราก็ไม่มีวันจะรู้ได้ แต่มันก็ร้องถามคำถามข้อหนึ่ง...


เรื่องเล่าสู่กันฟังทางวิทยุในสถานีวิทยุ AM ในรายการนั้นกลายเป็นตำนานแพร่สะพัดไปอย่างกว้างขวางได้อย่างไร ? ทำไม เรื่องหลุมของเมล จึงอยู่ยั้งยืนยงมาได้กว่าสองทศวรรษ มาร์ค ออสแลนเดอร์ (Mark Auslander) ผอ.พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมและมานุษยวิทยาคาดเดาว่า


"ในเชิงเปรียบเทียบ เรามิได้มองดูแค่ลักษณะของทิวทัศน์แห่งหนึ่งเท่านั้น แต่เรากำลังมองหาความลับดำมืดบางอย่างในโลกใบนี้" และเขาอาจพูดถูกก็เป็นได้...


ลองชมวีดิโอข้างล่างนี้สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องหลุมของเมล คุณต้องข้องใจ อะไร คือความจริงเกี่ยวกับเรื่องประหลาดเรื่องนี้ ?
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เครดิตข้อมูลจากเว็บต่างประเทศ http://www.thiswillblowmymind.com/the-story-of-the-mysterious-bottomless-pit-that-people-claim-has-magical-powers/

MC แปลและเรียบเรียง อมยิ้ม36

ป.ล.ขอบคุณ คุณ unnamed boy ที่ช่วยทักท้วงคำแปลมาทางหลังไมค์ด้วยครับผม ^^

พบกันใหม่ โอกาสหน้าครับหัวใจดอกไม้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การ์ตูนการเมือง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่