*** อัปเดต : ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเรื่องเสื้อผ้า ตอนนี้เราเอาชุดกลับไปเปลี่ยนที่ร้านเรียบร้อยแล้ว สบายใจขึ้นแล้ว และก็รู้ว่าครั้งต่อไปควรมีความหนักแน่นมั่นใจในความต้องการของตัวเองมากกว่านี้ ครั้งที่ผ่านมาเราแย่จริง เพราะฟังคนอื่นมากไป และตัวเองก็ไม่หนักแน่นพอ
_________________________________________
มันเป็นความผิดพลาดของเราเอง ที่ไปซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเอง โดยการพาแม่ไปช่วยเลือกด้วย
เราซื้อชุดผ้าไทยมา 3 ชุด เพราะที่ทำงานรณรงค์ให้ใส่ ตอนแรกเราตั้งใจจะซื้อแค่ 1-2 ชุด เอาแบบชุดเดรส 1 ชุด และแบบเสื้อแยกกระโปรงอีก 1 ชุด เรากับแม่ก็เดินหาอยู่หลายร้าน จนไปเจอร้านหนึ่ง คนขายโคตรจะพูดเก่งและเชียร์เก่ง เขาแนะนำแต่ชุดเดรสแขนสั้นๆให้เรา เรามองว่าแขนมันสั้นมาก ที่โชว์อยู่บนหุ่น แขนมันสั้นจนแทบจะเป็นแขนกุดแล้ว แต่เราเป็นคนไม่ชอบใส่เสื้อแขนสั้น เพราะเป็นคนรักแร้ดำและมีขนรักแร้ นอกจากนี้ในห้องทำงานเราก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ขนาดเราใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวตลอด ก็ยังไม่หายหนาวเลย
คนขายเอาแต่บอกว่าแขนเสื้อไม่สั้นหรอกถ้ามันอยู่บนตัวเรา (เพราะเราตัวเล็ก เตี้ย) และเขาไม่แนะนำชุดแขนยาวหรือแขน 3-4 ส่วนให้เราเลย เพราะเขาบอกว่าใส่แขนยาวแล้วจะดูแก่ แม่เราก็ค่อนข้างใจเอนเอียงไปทางคนขาย แม่ชอบชุดที่คนขายเอามาให้ดู เราลองใส่หลายชุด แม่กับคนขายก็บอกว่าสวยๆ เราเองก็ลำบากใจ เพราะที่ร้านไม่มีชุดที่เราชอบแบบจริงๆเลย แต่เราก็เลือกชุดที่พอจะชอบบ้างมาได้ตัวนึง ชอบเพราะสีและลายของมัน แต่ไม่ชอบที่มันแขนสั้นและคอแหลมลึก(แต่เราชอบตัวนี้ที่สุดแล้วในบรรดาชุดทั้งหมดที่ได้ลองใส่) ซึ่งแม่เราก็ไม่ค่อยชอบ รสนิยมแม่กับเราต่างกัน แล้วแม่ก็บอกให้เราซื้อเพิ่มอีก 3 ตัว ไว้สลับเปลี่ยนกันใส่ ซึ่งแม่กับคนขายช่วยเลือกให้ เลือกจากที่เราลองใส่นั่นแหละ
และที่พลาดมากอีกอย่างคือ ไม่ได้ถามราคาคนขายก่อนที่จะลองใส่ พอลองเสร็จแล้วจึงถาม ปรากฎว่าราคาชุดละ 1,000- นี่คือราคาลดแล้ว ไม่ให้ต่อราคาแล้ว โอ้แม่เจ้า นี่ซื้อในตลาดนะ ไม่ใช่ในห้าง หาซื้อตามเน็ตยังราคาถูกกว่าอีก แต่ตอนนี้ก็ลำบากใจที่จะปฏิเสธแล้ว จึงซื้อตั้ง 4 ชุด แถมเป็นชุดเดรสทั้งหมด ยังไม่ได้ซื้อชุดแบบที่เสื้อกับกระโปรงแยกกันเลย พอออกจากร้าน เราบ่นกับแม่ว่าทำไมซื้อมาเยอะขนาดนี้ แถมยังซื้อแต่แบบเดรสมาอีก เรากับแม่จึงเดินกลับไปที่ร้านแล้วขอคืนชุดไปชุดนึง คนขายมีท่าทีอิดออดไม่อยากจะคืนเงิน เขาบอกว่าปกติไม่มีใครเขาคืนกัน แต่สุดท้ายเขาก็ให้คืน กลายเป็นว่าเราซื้อชุดมา 3 ชุด
ตอนนี้เราเสียใจมาก เพราะทั้ง 3 ชุดที่ซื้อมา ไม่มีชุดไหนเลยที่เราใส่แล้วจะถูกใจตัวเองจริงๆ แม้แต่ตัวที่เราเป็นคนเลือกเองก็ตาม เพราะยังไงมันก็เป็นชุดแขนสั้นมาก และคอเสื้อก็แหลมลึก เราเป็นคนแต่งตัวมิดชิดเรียบร้อยมาตลอด เราไม่มั่นใจที่จะใส่ชุดในสไตล์ที่แตกต่างจากเดิม เพื่อนในที่ทำงานเขาซื้อชุดผ้าไทยใน กทม. ซื้อผ้าถุงสำเร็จรูปมาราคาแค่ 200- เสื้อก็คงราคาไม่กี่บาท แต่เราอุตส่าห์กลับมาซื้อที่ ตจว. เพราะคิดว่าน่าจะมีแบบให้เลือกเยอะ คิดว่าราคาน่าจะถูกกว่าที่ กทม. และจะให้แม่ช่วยเลือกด้วย เพราะเราไม่เคยใส่ชุดผ้าไทยเลย แต่กลายเป็นเราคิดผิด ผิดพลาดไปหมด พังมาก พังสุดๆ
เราก็ไม่รู้จะทำไง ถ้าเอาชุดไปคืน เชื่อว่าคนขายไม่ให้คืนแน่ อย่างมากก็ได้แค่เปลี่ยน แต่ก็ไม่รู้จะมีแบบที่เราชอบไหม เพราะตอนซื้อเราลองมองไปรอบๆร้านแล้วไม่เห็นชุดที่เราถูกใจเลย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะไม่พาแม่หรือพาใครไปช่วยเราเลือกชุดเลย และจะไม่ฟังเสียงคนขายด้วย จริงๆเราเป็นคนใส่ เราควรเลือกเอง ควรเลือกชุดที่เราชอบจริงๆ และใส่แล้วมีความมั่นใจในตัวเอง
จะร้องไห้ เผลอซื้อเสื้อผ้าที่ตัวเองไม่ชอบมา แถมยังราคาแพงอีก
_________________________________________
มันเป็นความผิดพลาดของเราเอง ที่ไปซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเอง โดยการพาแม่ไปช่วยเลือกด้วย
เราซื้อชุดผ้าไทยมา 3 ชุด เพราะที่ทำงานรณรงค์ให้ใส่ ตอนแรกเราตั้งใจจะซื้อแค่ 1-2 ชุด เอาแบบชุดเดรส 1 ชุด และแบบเสื้อแยกกระโปรงอีก 1 ชุด เรากับแม่ก็เดินหาอยู่หลายร้าน จนไปเจอร้านหนึ่ง คนขายโคตรจะพูดเก่งและเชียร์เก่ง เขาแนะนำแต่ชุดเดรสแขนสั้นๆให้เรา เรามองว่าแขนมันสั้นมาก ที่โชว์อยู่บนหุ่น แขนมันสั้นจนแทบจะเป็นแขนกุดแล้ว แต่เราเป็นคนไม่ชอบใส่เสื้อแขนสั้น เพราะเป็นคนรักแร้ดำและมีขนรักแร้ นอกจากนี้ในห้องทำงานเราก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ขนาดเราใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวตลอด ก็ยังไม่หายหนาวเลย
คนขายเอาแต่บอกว่าแขนเสื้อไม่สั้นหรอกถ้ามันอยู่บนตัวเรา (เพราะเราตัวเล็ก เตี้ย) และเขาไม่แนะนำชุดแขนยาวหรือแขน 3-4 ส่วนให้เราเลย เพราะเขาบอกว่าใส่แขนยาวแล้วจะดูแก่ แม่เราก็ค่อนข้างใจเอนเอียงไปทางคนขาย แม่ชอบชุดที่คนขายเอามาให้ดู เราลองใส่หลายชุด แม่กับคนขายก็บอกว่าสวยๆ เราเองก็ลำบากใจ เพราะที่ร้านไม่มีชุดที่เราชอบแบบจริงๆเลย แต่เราก็เลือกชุดที่พอจะชอบบ้างมาได้ตัวนึง ชอบเพราะสีและลายของมัน แต่ไม่ชอบที่มันแขนสั้นและคอแหลมลึก(แต่เราชอบตัวนี้ที่สุดแล้วในบรรดาชุดทั้งหมดที่ได้ลองใส่) ซึ่งแม่เราก็ไม่ค่อยชอบ รสนิยมแม่กับเราต่างกัน แล้วแม่ก็บอกให้เราซื้อเพิ่มอีก 3 ตัว ไว้สลับเปลี่ยนกันใส่ ซึ่งแม่กับคนขายช่วยเลือกให้ เลือกจากที่เราลองใส่นั่นแหละ
และที่พลาดมากอีกอย่างคือ ไม่ได้ถามราคาคนขายก่อนที่จะลองใส่ พอลองเสร็จแล้วจึงถาม ปรากฎว่าราคาชุดละ 1,000- นี่คือราคาลดแล้ว ไม่ให้ต่อราคาแล้ว โอ้แม่เจ้า นี่ซื้อในตลาดนะ ไม่ใช่ในห้าง หาซื้อตามเน็ตยังราคาถูกกว่าอีก แต่ตอนนี้ก็ลำบากใจที่จะปฏิเสธแล้ว จึงซื้อตั้ง 4 ชุด แถมเป็นชุดเดรสทั้งหมด ยังไม่ได้ซื้อชุดแบบที่เสื้อกับกระโปรงแยกกันเลย พอออกจากร้าน เราบ่นกับแม่ว่าทำไมซื้อมาเยอะขนาดนี้ แถมยังซื้อแต่แบบเดรสมาอีก เรากับแม่จึงเดินกลับไปที่ร้านแล้วขอคืนชุดไปชุดนึง คนขายมีท่าทีอิดออดไม่อยากจะคืนเงิน เขาบอกว่าปกติไม่มีใครเขาคืนกัน แต่สุดท้ายเขาก็ให้คืน กลายเป็นว่าเราซื้อชุดมา 3 ชุด
ตอนนี้เราเสียใจมาก เพราะทั้ง 3 ชุดที่ซื้อมา ไม่มีชุดไหนเลยที่เราใส่แล้วจะถูกใจตัวเองจริงๆ แม้แต่ตัวที่เราเป็นคนเลือกเองก็ตาม เพราะยังไงมันก็เป็นชุดแขนสั้นมาก และคอเสื้อก็แหลมลึก เราเป็นคนแต่งตัวมิดชิดเรียบร้อยมาตลอด เราไม่มั่นใจที่จะใส่ชุดในสไตล์ที่แตกต่างจากเดิม เพื่อนในที่ทำงานเขาซื้อชุดผ้าไทยใน กทม. ซื้อผ้าถุงสำเร็จรูปมาราคาแค่ 200- เสื้อก็คงราคาไม่กี่บาท แต่เราอุตส่าห์กลับมาซื้อที่ ตจว. เพราะคิดว่าน่าจะมีแบบให้เลือกเยอะ คิดว่าราคาน่าจะถูกกว่าที่ กทม. และจะให้แม่ช่วยเลือกด้วย เพราะเราไม่เคยใส่ชุดผ้าไทยเลย แต่กลายเป็นเราคิดผิด ผิดพลาดไปหมด พังมาก พังสุดๆ
เราก็ไม่รู้จะทำไง ถ้าเอาชุดไปคืน เชื่อว่าคนขายไม่ให้คืนแน่ อย่างมากก็ได้แค่เปลี่ยน แต่ก็ไม่รู้จะมีแบบที่เราชอบไหม เพราะตอนซื้อเราลองมองไปรอบๆร้านแล้วไม่เห็นชุดที่เราถูกใจเลย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะไม่พาแม่หรือพาใครไปช่วยเราเลือกชุดเลย และจะไม่ฟังเสียงคนขายด้วย จริงๆเราเป็นคนใส่ เราควรเลือกเอง ควรเลือกชุดที่เราชอบจริงๆ และใส่แล้วมีความมั่นใจในตัวเอง