ดูจากหัวข้อสนทนาแล้ว คุณพี่เดชจักหาว่าข้าพูดจากไม่เป็นประสาเป็นแน่แท้ แต่ข้ามิอาจหาคำใดให้เหมาะสมไปกว่านี้ได้ไม่
ภาษาโบราณนี่ยากเหมือนกันนะ แต่มีเสน่ห์ไม่เบาเลย ดูได้จากคนรอบข้างที่พูดจากันให้ทั่วคุ้ง นานๆ จะเขียนถึงละครแต่ละเรื่องสักที กระทู้นี้เลยอาจจะยาวไปหน่อย คงต้องขออภัยล่วงหน้า ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ชื่นชมละครเรื่องนี้ด้วยคน
บุพเพสันนิวาสเป็นนิยายที่ชื่นชอบเรื่องหนึ่ง และเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่อ่านรวดเดียวจบแบบไม่วางหนังสือ เรียกได้ว่าอ่านกันตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนเลยทีเดียว ต้องชื่นชมคนเขียนมา ณ ที่นี้ด้วย โชคดีที่ได้อ่านตั้งแต่หนังสือยังไม่ขาดตลาด อยุธยาสมัยพระนารายณ์ที่ตอนเรียนว่าสนุกแล้ว พอมาอยู่ในนิยายในเรื่องนี้ยิ่งสนุกใหญ่ ด้วยตัวดำเนินเรื่องที่เป็นนางเอกที่มาจากยุคปัจจุบันอย่างเช่นเราๆ ไปอยู่ในที่ที่ตัวเองอยากรู้อยากเห็น มันย่อมมี Passion เป็นธรรมดา [พูดจาไม่เป็นประสาอีกแล้วหนา] ตอนอ่านเรื่องนี้เลยทำให้มีความอยากรู้อยากเห็นตามเกศสุรางค์ไปตลอดเวลา ประหนึ่งตัวเองเป็นตัวละครอีกตัวในนั้น
แต่ใช่ว่านิยายสนุก ละครจะสนุกไปด้วยทุกเรื่อง แต่ละครเรื่องนี้ทำได้สนุกมากๆ ทำได้เกินคาดมากๆ เรียกได้ว่ามาเกือบทุกอย่างที่คนอ่านนิยายอยากให้มี ลางทีก็มีเพิ่มเติมมาให้เซอร์ไพรส์ไปตามๆ กัน ขนาดว่าจะแอบดูย้อนหลังเงียบๆ ตอนรอขึ้นเครื่อง ยังหัวเราะลั่นกลางสนามบินกับท่าเก็บกางเกงในไว้เช็ดน้ำหมากของพี่ผินให้พวกฟะรังคีแถวนั้นมึนงงกันไป
ด้วยส่วนตัวคิดว่าบุพเพสันนิวาสคงไม่โด่งดังจนเป็นกระแสไปทั้งพระนคร แลหัวเมืองทั้งหลายเช่นนี้ ถ้าองค์ประกอบหลายๆ อย่างมาไม่ครบ
นิยายฤา....สนุกมากๆ ขอชื่นชมคนเขียนอีกครั้งด้วยใจจริง
ผู้ผลิต....บรอดคาซท์สร้างชื่อละครย้อนยุคมาหลายเรื่อง [สำหรับ จขกท แล้ว ข้าบดินทร์ยังเป็นที่สุดอยู่นะ]
บทโทรทัศน์...ระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว [พี่ไกรยังคงเป็นหนึ่งในใจมาจนถึงทุกวันนี้]
นักแสดง...สุดๆ ทุกคน ยันไอ้เหลือง เป็นแคสติ้งที่ จขกท ยกให้เป็นที่สุด ณ ตอนนี้ และเป็นที่มาของชื่อกระทู้ The right man on the right job
ผู้กำกับ...แม้จะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน แต่ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้คุณทำให้ จขกท จดชื่อคุณไว้ในลิสต์ผู้กำกับที่อยากตามผลงานอีกคน “ภวัต พนังคศิริ”
องค์ประกอบฉาก...ทำให้ขนลุกได้หลายฉากเลยทีเดียว แต่ที่สุด คงหนีไม่พ้นการถวายสาส์นจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แม้ CG ในเรื่องจะไม่อลังการเท่า Game of Thrones แต่ก็ทำให้ตื่นตาตื่นใจกับพระนครได้อยู่
เสื้อผ้า หน้า ผม...ดีมากๆ ละเอียดละออ
เพลงประกอบ...ที่สุดของที่สุด ติดหูทุกเพลง
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อยากพูดถึงนักแสดงเพิ่มเติมอีกสักนิด เรื่องนี้แคสติ้งดีมากๆ อย่างที่กล่าวไปแล้ว และสิ่งที่มากกว่าการแคสติ้งคือทุกคนถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก หลายฉากที่ทำให้ยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว หลายฉากต้องร้องไห้ หลายฉากถึงกับต้องหยุดนิ่ง ขอยกมาไม่กี่คน แต่ยืนยันได้ว่านักแสดงในละครเรื่องนี้ดีงามมากๆ ทุกคน
โป๊ป ธนวรรธน์ ยอมรับว่ายังไม่เคยดูละครของผู้ชายคนนี้เต็มๆ สักเรื่องเลย ที่ดูมากที่สุดเห็นทีจะเป็นเรื่อง พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง แต่ก็เปิดดูบ้าง ไม่ดูบ้าง ด้วยเหตุจำเป็นหลายๆ อย่าง เรื่องนี้ยอมรับว่าโป๊บเป็นผู้ชายอยุธยาที่น่ารักเป็นที่สุด คนอะไรยิ้มมาที ก็ทำใจสั่น เขินประหนึ่งตัวเองเป็นแม่การะเกดเสียอย่างนั้น สายตาและรอยยิ้ม อบอุ่น ชวนให้ละลาย จังหวะจะโคนในการเล่นบทนิ่งๆ เงียบๆ แต่มีอะไรนี่สุดยอดมากๆ ความอยากรู้อยากเห็นและความสงสัยในตัวแม่การะเกดของคุณพี่เดช นี่เป็นกิมมิคของเรื่องเลย ผู้ชายนิ่งๆ ประพฤติตัวแปลกๆ ดูแล้วทำให้ขำและเอ็นดูได้ไม่ยาก ซึ่งโป๊บทำได้ดีมากๆ แบบว่า...เห็นเงียบๆ ไม่เบาเลยนะ
เบลล่า ราณี ชอบเบลล่ามาตั้งแต่ปดิวรัดา สารภาพว่าไม่ได้ดูละครของเบลล่าทุกเรื่องหรอกนะ แต่ทุกเรื่องที่ดู เบลล่าก็ทำได้ดีมาตลอด เรื่องนี้ก็เช่นกัน เรียกได้ว่า...สุดๆ ทำได้ดีทั้งบทของการะเกดและเกศสุรางค์เลย เล่นได้แตกต่างทั้งสายตาและท่าทาง ด้วยตัวบทเกศสุรางค์ในร่างแม่การะเกดเป็นอะไรที่น่าดูอยู่แล้ว และเบลล่าก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยทีเดียว หากตัวละครตัวนี้ซึ่งเรียกว่าเป็นตัวเรียกแขกทำได้ไม่ดีตั้งแต่ต้น ก็อาจจะทำให้พาลไม่ดูละครและไม่รู้จักตัวละครอื่นๆ ไปเลยก็ได้
ก๊อต จิรายุ หลวงสรศักดิ์หรือพ่อเดื่อออกมาเพียงไม่กี่ฉาก แต่ทุกฉากเป็นที่น่าจดจำสำหรับ จขกท จริงๆ คงคาแรคเตอร์ได้ดีมากๆ ตั้งแต่ฉากใหญ่ๆ อย่างฉากซ้อมมวย หรือฉากเล็กๆ อย่างการขึ้นเรือนมางานแต่ง ขอชื่นชมจริงๆ
บิ๊ก ศรุต พระเพทราชาที่ออกมาไม่กี่ฉากเช่นเดียวกัน แต่ทุกฉากก็มีอะไรให้กล่าวถึง บางฉากทำให้ขนลุกในอารมณ์และความลึกของตัวละคร สายตามีอำนาจเมื่ออยู่กับขุนนางด้วยกัน มีความเกลียดชังเมื่ออยู่กับฟอลคอน มีความรัก ความห่วงใย และความผิดหวังเมื่อเผชิญหน้ากับขุนหลวง ทุกอย่างทำให้ละสายตาไปจากหน้าจอไม่ได้จริงๆ
ปราบต์ ปราบต์ปฎล เป็นนักแสดงที่ไปโผล่ในละครย้อนยุคหลายๆ เรื่อง และเรื่องนี้มารับบทพระนารายณ์มหาราช ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นแคสติ้งที่ดีมากๆ ของเรื่องนี้เลย และทึ่งในการแสดงด้วย สีหน้า สายตา น้ำเสียง วาจา ท่าทาง และการแสดงหลายๆ อย่างทำให้นึกถึงจินตนาการตอนที่เรียนประวัติศาสตร์ แบบว่า เฮ้ย...ใช่ ชอบการรับส่งอารมณ์ระหว่างขุนหลวงและออกพระเพทราชามากๆ เช่นกัน
หยา จรรยา และ นุ่น รมิดา ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นตัวละครที่ทำให้ติดละครเรื่องนี้ ไม่ใช่พี่หมื่นหรือแม่การะเกดนะเออ ชอบจังหวะจะโคนของคำพูดและท่าทางของพี่ผิน พี่แย้ม ในเรื่องนี้มากๆ มันมีความฮา มีความซึ้ง มีความรัก ทั้งสองคนเล่นได้ดีมากๆ บอกเลยว่ารักตัวละครสองตัวนี้ที่สุด ด้วยเหตุทำ จขกท หลุดหัวเราะดังมากกลางสนามบิน และฉากรับหวายแทนก็เป็นอีกฉากหนึ่งที่เสียน้ำตาไปโดยไม่รู้ตัว
ชมมาเยอะแล้ว ขอมีข้อกังขากับละครนิดๆ หน่อยๆ บ้าง Nothing is perfect อยู่แล้ว ขอยกมาสองสามประเด็นละกัน มีความสงสัยในเรื่องการเรียนภาษาฝรั่งเศสของคณะทูต ในนิยายจะคณะทูตจะมีการเรียนกันตั้งแต่เกศสุรางค์มาอยุธยาใหม่ๆ ด้วยเหตุว่ามีแผนจะส่งคณะทูตไปอีกครั้งหลังจากส่งไปแล้วแต่มีเหตุให้เรือล่ม แต่ในละครเรียนกันหลังจากมีคณะทูตจากฝรั่งเศสมาแล้ว ซึ่งมีเวลาแค่สองเดือน ยากที่คณะทูตจะเรียนและพูดได้โดยไม่ใช้ล่าม มองว่าในนิยายสมเหตุสมผลมากกว่า ภาษาฝรั่งเศสของฟอลคอนค่อนข้างแปล่ง แต่ก็ให้อภัยได้ด้วยการแสดงของหลุยส์ และเข้าใจได้ว่ามันยากในการออกเสียง และขอติมากๆ คือฉากทำอาหาร อาหารที่ออกมาดูน่ากินเกินไป ไม่รู้หรือไงว่าดึกๆ มันหิว...เดี๋ยวๆ
สุดท้ายนี้ก็อยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่ทำให้มีอะไรดีๆ มาให้ดูกัน okay?
[บุพเพสันนิวาส] The right man on the right job
ภาษาโบราณนี่ยากเหมือนกันนะ แต่มีเสน่ห์ไม่เบาเลย ดูได้จากคนรอบข้างที่พูดจากันให้ทั่วคุ้ง นานๆ จะเขียนถึงละครแต่ละเรื่องสักที กระทู้นี้เลยอาจจะยาวไปหน่อย คงต้องขออภัยล่วงหน้า ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ชื่นชมละครเรื่องนี้ด้วยคน
บุพเพสันนิวาสเป็นนิยายที่ชื่นชอบเรื่องหนึ่ง และเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่อ่านรวดเดียวจบแบบไม่วางหนังสือ เรียกได้ว่าอ่านกันตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนเลยทีเดียว ต้องชื่นชมคนเขียนมา ณ ที่นี้ด้วย โชคดีที่ได้อ่านตั้งแต่หนังสือยังไม่ขาดตลาด อยุธยาสมัยพระนารายณ์ที่ตอนเรียนว่าสนุกแล้ว พอมาอยู่ในนิยายในเรื่องนี้ยิ่งสนุกใหญ่ ด้วยตัวดำเนินเรื่องที่เป็นนางเอกที่มาจากยุคปัจจุบันอย่างเช่นเราๆ ไปอยู่ในที่ที่ตัวเองอยากรู้อยากเห็น มันย่อมมี Passion เป็นธรรมดา [พูดจาไม่เป็นประสาอีกแล้วหนา] ตอนอ่านเรื่องนี้เลยทำให้มีความอยากรู้อยากเห็นตามเกศสุรางค์ไปตลอดเวลา ประหนึ่งตัวเองเป็นตัวละครอีกตัวในนั้น
แต่ใช่ว่านิยายสนุก ละครจะสนุกไปด้วยทุกเรื่อง แต่ละครเรื่องนี้ทำได้สนุกมากๆ ทำได้เกินคาดมากๆ เรียกได้ว่ามาเกือบทุกอย่างที่คนอ่านนิยายอยากให้มี ลางทีก็มีเพิ่มเติมมาให้เซอร์ไพรส์ไปตามๆ กัน ขนาดว่าจะแอบดูย้อนหลังเงียบๆ ตอนรอขึ้นเครื่อง ยังหัวเราะลั่นกลางสนามบินกับท่าเก็บกางเกงในไว้เช็ดน้ำหมากของพี่ผินให้พวกฟะรังคีแถวนั้นมึนงงกันไป
ด้วยส่วนตัวคิดว่าบุพเพสันนิวาสคงไม่โด่งดังจนเป็นกระแสไปทั้งพระนคร แลหัวเมืองทั้งหลายเช่นนี้ ถ้าองค์ประกอบหลายๆ อย่างมาไม่ครบ
นิยายฤา....สนุกมากๆ ขอชื่นชมคนเขียนอีกครั้งด้วยใจจริง
ผู้ผลิต....บรอดคาซท์สร้างชื่อละครย้อนยุคมาหลายเรื่อง [สำหรับ จขกท แล้ว ข้าบดินทร์ยังเป็นที่สุดอยู่นะ]
บทโทรทัศน์...ระดับปรมาจารย์เลยทีเดียว [พี่ไกรยังคงเป็นหนึ่งในใจมาจนถึงทุกวันนี้]
นักแสดง...สุดๆ ทุกคน ยันไอ้เหลือง เป็นแคสติ้งที่ จขกท ยกให้เป็นที่สุด ณ ตอนนี้ และเป็นที่มาของชื่อกระทู้ The right man on the right job
ผู้กำกับ...แม้จะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน แต่ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้คุณทำให้ จขกท จดชื่อคุณไว้ในลิสต์ผู้กำกับที่อยากตามผลงานอีกคน “ภวัต พนังคศิริ”
องค์ประกอบฉาก...ทำให้ขนลุกได้หลายฉากเลยทีเดียว แต่ที่สุด คงหนีไม่พ้นการถวายสาส์นจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แม้ CG ในเรื่องจะไม่อลังการเท่า Game of Thrones แต่ก็ทำให้ตื่นตาตื่นใจกับพระนครได้อยู่
เสื้อผ้า หน้า ผม...ดีมากๆ ละเอียดละออ
เพลงประกอบ...ที่สุดของที่สุด ติดหูทุกเพลง
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อยากพูดถึงนักแสดงเพิ่มเติมอีกสักนิด เรื่องนี้แคสติ้งดีมากๆ อย่างที่กล่าวไปแล้ว และสิ่งที่มากกว่าการแคสติ้งคือทุกคนถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก หลายฉากที่ทำให้ยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว หลายฉากต้องร้องไห้ หลายฉากถึงกับต้องหยุดนิ่ง ขอยกมาไม่กี่คน แต่ยืนยันได้ว่านักแสดงในละครเรื่องนี้ดีงามมากๆ ทุกคน
โป๊ป ธนวรรธน์ ยอมรับว่ายังไม่เคยดูละครของผู้ชายคนนี้เต็มๆ สักเรื่องเลย ที่ดูมากที่สุดเห็นทีจะเป็นเรื่อง พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง แต่ก็เปิดดูบ้าง ไม่ดูบ้าง ด้วยเหตุจำเป็นหลายๆ อย่าง เรื่องนี้ยอมรับว่าโป๊บเป็นผู้ชายอยุธยาที่น่ารักเป็นที่สุด คนอะไรยิ้มมาที ก็ทำใจสั่น เขินประหนึ่งตัวเองเป็นแม่การะเกดเสียอย่างนั้น สายตาและรอยยิ้ม อบอุ่น ชวนให้ละลาย จังหวะจะโคนในการเล่นบทนิ่งๆ เงียบๆ แต่มีอะไรนี่สุดยอดมากๆ ความอยากรู้อยากเห็นและความสงสัยในตัวแม่การะเกดของคุณพี่เดช นี่เป็นกิมมิคของเรื่องเลย ผู้ชายนิ่งๆ ประพฤติตัวแปลกๆ ดูแล้วทำให้ขำและเอ็นดูได้ไม่ยาก ซึ่งโป๊บทำได้ดีมากๆ แบบว่า...เห็นเงียบๆ ไม่เบาเลยนะ
เบลล่า ราณี ชอบเบลล่ามาตั้งแต่ปดิวรัดา สารภาพว่าไม่ได้ดูละครของเบลล่าทุกเรื่องหรอกนะ แต่ทุกเรื่องที่ดู เบลล่าก็ทำได้ดีมาตลอด เรื่องนี้ก็เช่นกัน เรียกได้ว่า...สุดๆ ทำได้ดีทั้งบทของการะเกดและเกศสุรางค์เลย เล่นได้แตกต่างทั้งสายตาและท่าทาง ด้วยตัวบทเกศสุรางค์ในร่างแม่การะเกดเป็นอะไรที่น่าดูอยู่แล้ว และเบลล่าก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีเลยทีเดียว หากตัวละครตัวนี้ซึ่งเรียกว่าเป็นตัวเรียกแขกทำได้ไม่ดีตั้งแต่ต้น ก็อาจจะทำให้พาลไม่ดูละครและไม่รู้จักตัวละครอื่นๆ ไปเลยก็ได้
ก๊อต จิรายุ หลวงสรศักดิ์หรือพ่อเดื่อออกมาเพียงไม่กี่ฉาก แต่ทุกฉากเป็นที่น่าจดจำสำหรับ จขกท จริงๆ คงคาแรคเตอร์ได้ดีมากๆ ตั้งแต่ฉากใหญ่ๆ อย่างฉากซ้อมมวย หรือฉากเล็กๆ อย่างการขึ้นเรือนมางานแต่ง ขอชื่นชมจริงๆ
บิ๊ก ศรุต พระเพทราชาที่ออกมาไม่กี่ฉากเช่นเดียวกัน แต่ทุกฉากก็มีอะไรให้กล่าวถึง บางฉากทำให้ขนลุกในอารมณ์และความลึกของตัวละคร สายตามีอำนาจเมื่ออยู่กับขุนนางด้วยกัน มีความเกลียดชังเมื่ออยู่กับฟอลคอน มีความรัก ความห่วงใย และความผิดหวังเมื่อเผชิญหน้ากับขุนหลวง ทุกอย่างทำให้ละสายตาไปจากหน้าจอไม่ได้จริงๆ
ปราบต์ ปราบต์ปฎล เป็นนักแสดงที่ไปโผล่ในละครย้อนยุคหลายๆ เรื่อง และเรื่องนี้มารับบทพระนารายณ์มหาราช ส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นแคสติ้งที่ดีมากๆ ของเรื่องนี้เลย และทึ่งในการแสดงด้วย สีหน้า สายตา น้ำเสียง วาจา ท่าทาง และการแสดงหลายๆ อย่างทำให้นึกถึงจินตนาการตอนที่เรียนประวัติศาสตร์ แบบว่า เฮ้ย...ใช่ ชอบการรับส่งอารมณ์ระหว่างขุนหลวงและออกพระเพทราชามากๆ เช่นกัน
หยา จรรยา และ นุ่น รมิดา ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นตัวละครที่ทำให้ติดละครเรื่องนี้ ไม่ใช่พี่หมื่นหรือแม่การะเกดนะเออ ชอบจังหวะจะโคนของคำพูดและท่าทางของพี่ผิน พี่แย้ม ในเรื่องนี้มากๆ มันมีความฮา มีความซึ้ง มีความรัก ทั้งสองคนเล่นได้ดีมากๆ บอกเลยว่ารักตัวละครสองตัวนี้ที่สุด ด้วยเหตุทำ จขกท หลุดหัวเราะดังมากกลางสนามบิน และฉากรับหวายแทนก็เป็นอีกฉากหนึ่งที่เสียน้ำตาไปโดยไม่รู้ตัว
ชมมาเยอะแล้ว ขอมีข้อกังขากับละครนิดๆ หน่อยๆ บ้าง Nothing is perfect อยู่แล้ว ขอยกมาสองสามประเด็นละกัน มีความสงสัยในเรื่องการเรียนภาษาฝรั่งเศสของคณะทูต ในนิยายจะคณะทูตจะมีการเรียนกันตั้งแต่เกศสุรางค์มาอยุธยาใหม่ๆ ด้วยเหตุว่ามีแผนจะส่งคณะทูตไปอีกครั้งหลังจากส่งไปแล้วแต่มีเหตุให้เรือล่ม แต่ในละครเรียนกันหลังจากมีคณะทูตจากฝรั่งเศสมาแล้ว ซึ่งมีเวลาแค่สองเดือน ยากที่คณะทูตจะเรียนและพูดได้โดยไม่ใช้ล่าม มองว่าในนิยายสมเหตุสมผลมากกว่า ภาษาฝรั่งเศสของฟอลคอนค่อนข้างแปล่ง แต่ก็ให้อภัยได้ด้วยการแสดงของหลุยส์ และเข้าใจได้ว่ามันยากในการออกเสียง และขอติมากๆ คือฉากทำอาหาร อาหารที่ออกมาดูน่ากินเกินไป ไม่รู้หรือไงว่าดึกๆ มันหิว...เดี๋ยวๆ
สุดท้ายนี้ก็อยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่ทำให้มีอะไรดีๆ มาให้ดูกัน okay?