เป็น MV ที่ดูเนื้อเรื่องแล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาวิธีการไหนมาบรรยายออกมาเป็นภาษาเขียนได้เลยงะ คือมันค่อนข้างที่จะซ้อนทับกันพอสมควร แล้วคนที่ไม่ได้ตาม BTS มาตั้งแต่ต้น จะงง บอกเลยคุณงงแน่ คือคุณต้องกลับไปดูเรื่องราวตั้งแต่ I Need You นะ แล้วก็ตามต่อมาเรื่อย ๆ เห็นมีหลายคนแนะนำเอาไว้ ง่าย ๆ ก็คือตามลำดับอัลบั้มที่ BTS ออกเลย แล้วก็ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกคู่ขนาน โลกเสมือน ตัวตนสมมุติ ภาพในเชิงอุปมา นิดนึง เพราะ MV BTS Bighit เขาอัดเรื่องพวกนี้มาเต็ม ๆ มันไม่ใช่ภาพที่ตรงไปตรงมาซะทีเดียว
แต่เรื่องนี้ สำหรับคนที่ตามมาตลอดป้าจะขอย้อนกลับไปแค่ตอน Love Yourself Highlight Reel “起承轉結” แล้วกันนะ ใน MV จะเป็นเรื่องราวในมุมมองของจิน โดยจินจะเป็นคนเล่าเรื่อง มันจะมีซีนแรกคือตอนที่จินเก็บสมุดบันทึกได้ สมุดบันทึกสีชมพู เข้าใจว่าน่าจะสื่อว่าให้เราเปิด THE NOTE ที่แนบมากับอัลบั้ม HER อ่านซะ เพราะใช้สีปกสีชมพูเหมือนกันเลย บางคนอาจจะบอกว่าสี Old Rose แต่ป้ามองว่ามันเป็นสี Vanilla Sky นะ คือมันเป็นสีท้องฟ้าที่ใช้ใน MV หลายตัว สี Vanilla Sky จะเกิดขึ้นตอนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่ยังเหลือแสงสะท้อนให้เรามองเห็น เหมือนกับคนรักที่จะต้องจากกันแต่ยังเหลือความห่วงใย ความหวังดีทิ้งไว้ให้กัน
สำหรับใครที่บอกจะอ่านได้ไง Bighit ไม่แปลเป็นภาษาอังกฤษมาให้ (BH น่าโดนด่ามาก) ก็ขอสรุปเรื่องราวของแต่ละคนที่บันทึกไว้ย่อ ๆ ในแต่ละย่อหน้าต่อไปนี้นะคะ โดยในบันทึก 1 เล่ม จะแบ่งย่อยเป็นบันทึกของแต่ละคน คนละ 2 วัน ใครที่ซื้อ อัลบั้ม L กับ V หรือ O กับ E จะได้บันทึกครบ 3 วัน ส่วนใคร่ที่ซื้ออัลบั้มเดียว หรือซื้อ L กับ O หรือ V กับ E คุณก็ได้บันทึกแค่ 2 วันนั้น
เริ่มที่จิน บันทึกตั้งแต่ปี 19 - 22 ตามบันทึกพื้นฐานครอบครัวคือต้องมีฐานะแหละ เคยได้ไปใช้ชีวิตอยู่อเมริกา แต่เหมือนมีความผิดปกติทางพฤติกรรมบางอย่าง ปี 19 ในบันทึกเข้าใจว่าถูกพ่อส่งเข้า รร.ประจำ เพื่อดัดนิสัย แล้วก็ไปเจออาจารย์ที่จินรู้สึกราวเป็นปีศาจ ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น จินมาเจอกับน้อง ๆ น่าจะเจอกันทั้งหมดในเดือน May.19 เพราะบันทึกของจินวันที่ 11 Apr 22 บอกว่า ‘ถ้าอยากกลับไปแก้เรื่องราวเมื่อ 2 ปี 10 เดือนก่อนหน้า’ ก็เลยนับย้อนไปได้ว่าเป็น เดือน May.19 ซึ่ง MV I Need You ปล่อยเดือน May พอดีเลย
จินเป็นเหมือนตัวแทนของคนที่รู้สึกผิดกับการที่ ไม่สามารถอยู่ช่วยเหลือคนที่รักได้ในเวลาที่เขาต้องการ ทั้ง ๆ ที่รู้ ที่เห็นความเป็นไปของทุก ๆ คน แต่เหมือนต้องทิ้ง ต้องหายไป ซึ่งตรงเนี้ย การแยกย้ายกันไป ยังไม่เฉลยชัดสักคนนะว่าเพราะอะไร
นัมจุน บันทึก ปี 20 – 22 เข้าใจว่านัมจุนน่าจะเป็นคนที่ฐานะทางบ้านมีปัญหา ปี 20 เหมือนต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ที่คิดว่ากลางคันเพราะในบันทึกมีช่วงที่น้อง ๆ ถามว่าแล้วจะเจอกันอีกมั้ย หรือมาเจอกันอีกได้มั้ย แล้วนัมจุนคิดในใจว่า เขาอาจจะไม่กล้ามาเจอพวกพี่ ๆ น้อง ๆ อีก เลยคิดว่าน่าจะเกิดจากความอายที่ต้องออกจากโรงเรียนแล้วไปทำงานที่ปั๊ม หลังจากนั้นชีวิตก็เป็นอย่างที่เห็นใน MV คือใช้ชีวิตแบบพวกชอบไปพ้นสีตามกำแพง น่าจะเป็นการระบายอารมย์ การอยากมีตัวตนอยู่ในโลกที่มันไม่เท่าเทียม ซึ่งในห้องเรียน นัมจุนเป็นคนชอบวาดรูปอยู่แล้ว วาดแล้วก็ทิ้งไว้ตามลิ้นชัก ( นัมจุนน่าจะเป็นการยกฝั่งตรงข้ามของชีวิตจริงของ RM มาสร้างตัวละคร ที่น่าจะเหมือนนิดเดียวคือ RMเคยบอกว่า ตอนเรียน ถึงเรียนเก่งก็จริง แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากเป็นอะไร หาตัวตนไม่เจอ )
ยุนกิ บันทึกปี 20-22 คือเป็นบันทึกที่ยาวมาก คืออัตชีวประวัติเหรอ โดยส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความไม่เข้าใจกันระหว่าง พ่อ แม่ แล้วก็ตัวยุนกิเอง ให้ประเมิณครอบครัวยุนกิน่าจะเป็นครอบครัวหัวโบราณ อยู่ในระเบียบ กิจกรรมในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกินข้าว อาบน้ำ เข้านอน คือเป็นเวลาตามกฎ ตามเวลาเลย แต่ยุนกิมีความคิดขบถ เป็นตัวของเอง เคารพความของคิดของตัวเอง ไม่หนีจากความฝัน นั้นคืออยากเป็นนักแต่งเพลง เลยเป็นชะนวนให้ความสัมพันธุ์ระหว่างพ่อแม่ และเขาไม่ดีเลย แถมเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุณแรงแล้วด้วย ยกมาจากบันทึกช่วงหนึ่ง ความคิดที่น่ากลัวก็คือ ‘ในเมื่อไม่มีใครเข้าใจ โลกของเขา เขาก็อยากจะเผาไอโลกใบนี่ที่เขาอยู่ ให้มันดับหายไปให้หมดเลย’ (ต้องเข้าใจก่อนนะ มันเกิดจากอาการของคนเป็นโรคซึมเศร้านะ ไม่ได้เป็นคนไม่ดี)
โฮซอก บันทึกปี 20-22 เป็นคนเดียวที่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ตอนจดบันทึก ในปี 20 อายุได้ 17 ปีแล้ว เพราะบันทึก 20 Jun 22 บอกว่าเขาถูกแม่ทิ้งตอนอายุ 7 ขวบ (จริง ๆ ในบันทึกก็ไม่ชัดว่าถูกแม่ทิ้งนะ เพียงแต่บรรยายว่าได้ยินเสียงแม่อีกครั้ง เสียงที่เคยไดยินเมื่อตอนอายุ 7 ขวบว่า ‘โฮซอก กำลังจะไปไหน’) แล้วบันทึก 15 May 20 ตอนไปหาจีมินกับแม่จีมินที่โรงพบาล ในบันทึกบอกว่าเขาอยู่บ้านเด็กพร้ามา 10 ปีแล้ว โฮซอกน่าจะเป็นตัวแทนของคนที่พยายามทำในสิ่งที่ตนรัก เพื่อใช้ช่องทางนั้นตามหาแม่ ก็คือการเต้น หวังว่าถ้าวันหนึ่งเขามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ แม่จะกลับมาหาเขา แล้วก็จะมีอาการเห็นภาพหลอน ภาพซ้อนเมื่อเห็นใครต่อใครที่มาทำดีกับตัวเอง จะเห็นหน้าเขาเหมือนแม่ตัวเองไปเลย
จีมิน บันทึกปี 19 – 22 จีมินน่าจะเกิดจากในบ้านแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะตอนบันทึกของโฮซอก เขียนถึงแม่ของจีมินไว้ ดูค่อนข้างเหมือนจะหวงลูกชายมาก น่าจะเป็นเหตุผลให้จีมินเลิกคบกับโฮซอก เพราะในปี 19 จีมินรู้แล้วว่าโฮซอก อยู่บ้านเด็กกำพร้า แล้วน่าจะบอกให้แม่ฟัง แม่ก็คงไม่ชอบที่ลูกจะไปคบหา (คือต้องอ่านบันทึกของสองคนนี่ ไปมาถึงจะรู้นะ มันจะเชื่อมโยงกันอยู่แล้วเอามาสรุป) ทำให้จีมินที่เห็นโฮซอกเป็นแบบอย่างของเขา คนที่เขาเคยเดินตามเป็นเงา แล้ววันหนึ่งต้องตัดใจหายจากโฮซอกไปต้องรู้สึกเจ็บปวดมาก ๆ
ที่ยังไม่เฉลยในบันทึกของจีมินคือ จีนมินเข้าโรงบาล และเริ่มได้รับการรักษาจากจิตแพทย์ได้ยังไง หมอเริ่มให้ทบทวนเรื่องราวบางอย่างเพื่อจดบันทึก แต่จีมินโกหกว่า เขาจำอะไรไม่ได้เลย ในทึกบอกไว้เลยว่านั้นคือการเริ่มต้นโกหกครั้งยิ่งใหญ่ของเขา แม้แต่โฮซอกก็อยากรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างของจีมิน แต่ถูกแม่จีมินกันไว้ก่อน โดยส่วนตัวจีมินเป็นตัวละครที่ไม่ชัด และซับซ้อนที่สุดแล้ว
แทฮยอง บันทึกปี 10-22 ตัวละครนี้ย้อนไปไกล เพราะต้องเล่าว่าตั้งแต่ปี 10 แทฮยองถูกทำร้ายร่างกาย ผลจากอาการเมาของพ่อ และโดนทำร้ายอย่างรุณแรง คือเอาหัวกระแทกกำแพง สลบ จิตใจตอนนั้นมีแต่ความกลัว ความรังเกียจพ่อตัวเองได้ก่อตัวขึ้น หลังจากนั้น พฤติกรรมความก้าวร้าว และรุณแรง เริ่มปรากฎให้เห็นในตัวเขา และเขาเข้าใจว่านั้นเป็นเพราะได้รับสายเลือดเลวๆนี่มาจากพ่อ (ก็คือมนุษย์จะเป็นไปตามสภาพที่ตนดำรงค์อยู่ คือถ้าอยู่ในครอบครัวที่มีแต่ความรุณแรง การแสดงออกก็จะเป็นแบบนั้น เพราะเคยชิน)
จองกุก บันทึกปี 20-22 มาโลกสดใสด้วยจองกุกกัน ก็เป็นตัวแทนของน้องเล็กแหละ มีพี่ ๆ เป็นแบบอย่าง ในตัวละครคือก็ติดยุนกิ จะเรียนเปียนโน(เราอาจได้เห็นกุกกี้เล่นเปียโน)จะทำอะไรก็คือตามยุนกิ ที่ตรงกับบทสัมภาษณ์ระหว่างกุกกี้ กับตัวละครนี้ก็คือ ด้วยความเป็นเด็ก พอเห็นพี่มีปัญหา แล้วเข้าไปช่วยอะไรไม่ได้ มันก็เจ็บปวด สิ่งที่ทำได้ก็คือพยายามไม่เป็นภาระ
สรุปบันทึกของ THE NOTE โดยรวมคือบอกพื้นฐานของแต่ละคน เราจะได้เข้าใจตัวละครของโลก Love Yourself มากขึ้น ไม่แน่ใจว่า Wonder อาจจะมีบันทึกแนบมาเป็นเล่มอีกมั้ย น่าจะมีเรื่องเพิ่มให้เราเข้าใจมากขึ้นไปอีก
เดี๋ยวๆๆๆ นี้ยังไม่เข้าเรื่อง Euphoria เลยหล่อน
อ้า! มากลับมา คือพอเข้าใจพื้นฐานตัวละครแล้วใช่มั้ย แล้วก็ดู MV Highlight Reel แล้วนะ จะมีตอนที่จินพูดไว้ตอนไกล้ ๆ จบเรื่องว่า
“ถ้าพวกเรา ย้อนเวลากลับไปได้ จะกลับไปเวลาไหน เพียงสถานที่หนึ่งที่เราย้อนกลับไปเพื่อไปแก้ไข หรือยกเลิกข้อผิดพลาดได้ พวกเราตอนนี้จะมีมีความสุขอยู่มั้ย?”
อย่างที่บอกข้างต้น จินเป็นตัวแทนของคนที่ไม่ยอมให้อภัยตัวเอง โทษว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต่างๆ ตัวเองมีส่วนผิด ใน MV Euphoria ตามการตีความของป้านะ
จึงเป็นเหตุการณ์ที่เป็นเหมือน ภาพสมมุติเรื่องราว ที่จินกลับไปแก้ไข ในจุดที่ตัวเองคิดว่าแก้แล้วมันจะดีขึ้น
ต่อจากเรื่องเดิมคือภาพนี้
เป็นจังหวะที่จินนึกย้อน แล้วตอนที่รับแจกันดอกไม้ไว้ได้ทัน ก็เลยฉุกคิดว่าถ้าตอนนั้น ถ้าตัวเองไปช่วย ไปอยู่ให้ทันในเหตุการณ์ เรื่องราวร้าย ๆ ก็จะไม่เกิด เหมือนที่จินรับแจกันไว้ได้ แจกันไม่ตกลงมาแตก (MV Highlight Reel)
MV Euphoria ก็ย้อนตามนั้นเลย คือทำยังไง ไม่ให้แทฮยองฆ่าพ่อ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะต้องแก้ไขก่อนเลย เพราะต่อจากนั้นคือการนำมาของการฆ่าตัวตายของแทฮยอง แล้วคนอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบกันเป็นต่อ ๆ กัน ภาพย้อนลำดับการแก้ไขก็ตามนี้คือ
ให้จองกุกไปช่วยยุนกิได้ทัน ให้จีมินไม่ทิ้งโฮซอก ให้มารักษาอาการป่วยทางจิตด้วยด้วยกัน
จินไปเก็บเงินที่ลูกค้างี่เง่าทิ้งลงพื้นมาให้นัมจุน นัมจุนจะได้ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจนเผาปั้ม แล้วอีกอย่างไฟเช็ค อีพี่จินก็เป็นคนยื่นให้นั้มจุนเองนะคะ
อันเนี้ยที่ไม่แน่ใจ คิดว่าน่าจะให้โฮซอก ได้มีครอบครัวเอาเข้าไปอยู่ในครอบครัวแทแทเลย อย่างน้อยก็ปกป้องน้องได้ (แต่เห็นหลายคนตีความว่า โฮซอก กันแทเป็นพี่น้องที่แยกกันตอนพ่อแม่เลิกกัน)
ถ้าทุกคนยังอยู่พร้อมหน้าทุกคนก็มีโอกาสไปเยี่ยม ไปหาจีมิน จะได้ไม่รักษาอยู่คนเดียว ไม่ต้องสร้างโลกที่ตัวเองโกหกขึ้นมา
หลังจากนั้นเรื่องก็ดำเนินตาม MV เลย คือเรื่องคล้ายถูกรีเซ็ท เริ่มต้นใหม่ ใช้โทนสี ใช้สภาวะแวดล้อมที่สดใส ตรงข้ามกับ MV เดิม จะเห็นภาพเหมือนเป็นเด็กมั่วสุมในที่ ๆ รกร้าง ดื่มเมากัน แต่ MV นี้เรื่องราวถูกแก้ไขให้ดูสวยงาม วิ่งเล่นกันตามวัย ไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะไปมั่วสุม หรือเสพสิ่งมัวเมาใด ๆ ไม่เล่นอะไรแผลงๆ
สุดท้ายแล้วคนที่ยังอยู่ด้วยความหวังในตอนนี้ มีสามคน คือ จิน จีมิน จองกุก ไม่เห็นในส่วนปัจจุบันในมุมมองของอีกสี่คนนะ
ตอนท้ายของ MV ก่อนซีนจองกุกเดินตัดหน้ารถ ก็มีข้อความดับฝัน
“ฮยอง นั้นคือเรื่องราวทุกอย่างหรือ ไม่มีอะไรซ้อนอยู่อีกแล้วใช่มั้ย” (ดู MV BTS ต้องดูให้จบให้สิ้นนะคะ ไม่งั้นคุณจะพลาดสารบางอย่างที่เขาจงใจทิ้งเอาไว้ แล้ว Youtube ก็จะนับยอดวิวด้วย)
ถ้าให้ตีความจากข้อความนี้ ก็คือ
‘เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นด้านเดียวหรอก ต่อให้กลับไปแก้ไขมันได้ ต้นเหตุที่แท้จริงของเรื่องที่เกิดขึ้น มันก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ตาเราเห็นก็ได้ เพราะฉนั้นถ้าแก้ไขมัน ก็ใช้ว่าพวกเราจะกลับมามีชีวิต อยู่อย่างมีความสุขตามที่เราคิดได้’ ดับฝันกันไปค่ะ
แล้วทำไมให้กุกกี้ร้องเพลง ถ้าเป็นจินฮยองที่คิดจะแก้ไขอดีต ทำไมไม่ให้จินร้องเพลง ก็จินฮยองในเรื่อง ไม่ได้เป็นสมาชิกวง BTS นี้ค่ะ ให้กุกกี้ร้อง แต่ใช้เรื่องของจินไง เพราะมีเส้นเรื่องเดียวกันกับเนื้อหาเพลง
สร้างโลกที่สวยงามของตัวเอง เพื่อดื่มด่ำและมีความสุขอยู่กับมัน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่เป็นจริงก็ตาม
หมายเหตุ หวีดแม่นาย คุณพี่หมื่นอยู่ดีๆ จบปุ๊บ ต้องมาเป็นโคนันเพราะเด็กพวกนี้ บางทีก็ปรับสมองไม่ทันเลย คืนนี้จะมีอะไรอีกมั้ย
*แก้คำผิด
ตีความ MV Euphoria : Theme of Love Yourself 起 Wonder การกลับไปแก้ไขจุดเริ่มต้น (จากมุมมองตัวเอง)
แต่เรื่องนี้ สำหรับคนที่ตามมาตลอดป้าจะขอย้อนกลับไปแค่ตอน Love Yourself Highlight Reel “起承轉結” แล้วกันนะ ใน MV จะเป็นเรื่องราวในมุมมองของจิน โดยจินจะเป็นคนเล่าเรื่อง มันจะมีซีนแรกคือตอนที่จินเก็บสมุดบันทึกได้ สมุดบันทึกสีชมพู เข้าใจว่าน่าจะสื่อว่าให้เราเปิด THE NOTE ที่แนบมากับอัลบั้ม HER อ่านซะ เพราะใช้สีปกสีชมพูเหมือนกันเลย บางคนอาจจะบอกว่าสี Old Rose แต่ป้ามองว่ามันเป็นสี Vanilla Sky นะ คือมันเป็นสีท้องฟ้าที่ใช้ใน MV หลายตัว สี Vanilla Sky จะเกิดขึ้นตอนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่ยังเหลือแสงสะท้อนให้เรามองเห็น เหมือนกับคนรักที่จะต้องจากกันแต่ยังเหลือความห่วงใย ความหวังดีทิ้งไว้ให้กัน
สำหรับใครที่บอกจะอ่านได้ไง Bighit ไม่แปลเป็นภาษาอังกฤษมาให้ (BH น่าโดนด่ามาก) ก็ขอสรุปเรื่องราวของแต่ละคนที่บันทึกไว้ย่อ ๆ ในแต่ละย่อหน้าต่อไปนี้นะคะ โดยในบันทึก 1 เล่ม จะแบ่งย่อยเป็นบันทึกของแต่ละคน คนละ 2 วัน ใครที่ซื้อ อัลบั้ม L กับ V หรือ O กับ E จะได้บันทึกครบ 3 วัน ส่วนใคร่ที่ซื้ออัลบั้มเดียว หรือซื้อ L กับ O หรือ V กับ E คุณก็ได้บันทึกแค่ 2 วันนั้น
เริ่มที่จิน บันทึกตั้งแต่ปี 19 - 22 ตามบันทึกพื้นฐานครอบครัวคือต้องมีฐานะแหละ เคยได้ไปใช้ชีวิตอยู่อเมริกา แต่เหมือนมีความผิดปกติทางพฤติกรรมบางอย่าง ปี 19 ในบันทึกเข้าใจว่าถูกพ่อส่งเข้า รร.ประจำ เพื่อดัดนิสัย แล้วก็ไปเจออาจารย์ที่จินรู้สึกราวเป็นปีศาจ ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้น จินมาเจอกับน้อง ๆ น่าจะเจอกันทั้งหมดในเดือน May.19 เพราะบันทึกของจินวันที่ 11 Apr 22 บอกว่า ‘ถ้าอยากกลับไปแก้เรื่องราวเมื่อ 2 ปี 10 เดือนก่อนหน้า’ ก็เลยนับย้อนไปได้ว่าเป็น เดือน May.19 ซึ่ง MV I Need You ปล่อยเดือน May พอดีเลย จินเป็นเหมือนตัวแทนของคนที่รู้สึกผิดกับการที่ ไม่สามารถอยู่ช่วยเหลือคนที่รักได้ในเวลาที่เขาต้องการ ทั้ง ๆ ที่รู้ ที่เห็นความเป็นไปของทุก ๆ คน แต่เหมือนต้องทิ้ง ต้องหายไป ซึ่งตรงเนี้ย การแยกย้ายกันไป ยังไม่เฉลยชัดสักคนนะว่าเพราะอะไร
นัมจุน บันทึก ปี 20 – 22 เข้าใจว่านัมจุนน่าจะเป็นคนที่ฐานะทางบ้านมีปัญหา ปี 20 เหมือนต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ที่คิดว่ากลางคันเพราะในบันทึกมีช่วงที่น้อง ๆ ถามว่าแล้วจะเจอกันอีกมั้ย หรือมาเจอกันอีกได้มั้ย แล้วนัมจุนคิดในใจว่า เขาอาจจะไม่กล้ามาเจอพวกพี่ ๆ น้อง ๆ อีก เลยคิดว่าน่าจะเกิดจากความอายที่ต้องออกจากโรงเรียนแล้วไปทำงานที่ปั๊ม หลังจากนั้นชีวิตก็เป็นอย่างที่เห็นใน MV คือใช้ชีวิตแบบพวกชอบไปพ้นสีตามกำแพง น่าจะเป็นการระบายอารมย์ การอยากมีตัวตนอยู่ในโลกที่มันไม่เท่าเทียม ซึ่งในห้องเรียน นัมจุนเป็นคนชอบวาดรูปอยู่แล้ว วาดแล้วก็ทิ้งไว้ตามลิ้นชัก ( นัมจุนน่าจะเป็นการยกฝั่งตรงข้ามของชีวิตจริงของ RM มาสร้างตัวละคร ที่น่าจะเหมือนนิดเดียวคือ RMเคยบอกว่า ตอนเรียน ถึงเรียนเก่งก็จริง แต่ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยากเป็นอะไร หาตัวตนไม่เจอ )
ยุนกิ บันทึกปี 20-22 คือเป็นบันทึกที่ยาวมาก คืออัตชีวประวัติเหรอ โดยส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความไม่เข้าใจกันระหว่าง พ่อ แม่ แล้วก็ตัวยุนกิเอง ให้ประเมิณครอบครัวยุนกิน่าจะเป็นครอบครัวหัวโบราณ อยู่ในระเบียบ กิจกรรมในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกินข้าว อาบน้ำ เข้านอน คือเป็นเวลาตามกฎ ตามเวลาเลย แต่ยุนกิมีความคิดขบถ เป็นตัวของเอง เคารพความของคิดของตัวเอง ไม่หนีจากความฝัน นั้นคืออยากเป็นนักแต่งเพลง เลยเป็นชะนวนให้ความสัมพันธุ์ระหว่างพ่อแม่ และเขาไม่ดีเลย แถมเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุณแรงแล้วด้วย ยกมาจากบันทึกช่วงหนึ่ง ความคิดที่น่ากลัวก็คือ ‘ในเมื่อไม่มีใครเข้าใจ โลกของเขา เขาก็อยากจะเผาไอโลกใบนี่ที่เขาอยู่ ให้มันดับหายไปให้หมดเลย’ (ต้องเข้าใจก่อนนะ มันเกิดจากอาการของคนเป็นโรคซึมเศร้านะ ไม่ได้เป็นคนไม่ดี)
โฮซอก บันทึกปี 20-22 เป็นคนเดียวที่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ตอนจดบันทึก ในปี 20 อายุได้ 17 ปีแล้ว เพราะบันทึก 20 Jun 22 บอกว่าเขาถูกแม่ทิ้งตอนอายุ 7 ขวบ (จริง ๆ ในบันทึกก็ไม่ชัดว่าถูกแม่ทิ้งนะ เพียงแต่บรรยายว่าได้ยินเสียงแม่อีกครั้ง เสียงที่เคยไดยินเมื่อตอนอายุ 7 ขวบว่า ‘โฮซอก กำลังจะไปไหน’) แล้วบันทึก 15 May 20 ตอนไปหาจีมินกับแม่จีมินที่โรงพบาล ในบันทึกบอกว่าเขาอยู่บ้านเด็กพร้ามา 10 ปีแล้ว โฮซอกน่าจะเป็นตัวแทนของคนที่พยายามทำในสิ่งที่ตนรัก เพื่อใช้ช่องทางนั้นตามหาแม่ ก็คือการเต้น หวังว่าถ้าวันหนึ่งเขามีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ แม่จะกลับมาหาเขา แล้วก็จะมีอาการเห็นภาพหลอน ภาพซ้อนเมื่อเห็นใครต่อใครที่มาทำดีกับตัวเอง จะเห็นหน้าเขาเหมือนแม่ตัวเองไปเลย
จีมิน บันทึกปี 19 – 22 จีมินน่าจะเกิดจากในบ้านแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะตอนบันทึกของโฮซอก เขียนถึงแม่ของจีมินไว้ ดูค่อนข้างเหมือนจะหวงลูกชายมาก น่าจะเป็นเหตุผลให้จีมินเลิกคบกับโฮซอก เพราะในปี 19 จีมินรู้แล้วว่าโฮซอก อยู่บ้านเด็กกำพร้า แล้วน่าจะบอกให้แม่ฟัง แม่ก็คงไม่ชอบที่ลูกจะไปคบหา (คือต้องอ่านบันทึกของสองคนนี่ ไปมาถึงจะรู้นะ มันจะเชื่อมโยงกันอยู่แล้วเอามาสรุป) ทำให้จีมินที่เห็นโฮซอกเป็นแบบอย่างของเขา คนที่เขาเคยเดินตามเป็นเงา แล้ววันหนึ่งต้องตัดใจหายจากโฮซอกไปต้องรู้สึกเจ็บปวดมาก ๆ
ที่ยังไม่เฉลยในบันทึกของจีมินคือ จีนมินเข้าโรงบาล และเริ่มได้รับการรักษาจากจิตแพทย์ได้ยังไง หมอเริ่มให้ทบทวนเรื่องราวบางอย่างเพื่อจดบันทึก แต่จีมินโกหกว่า เขาจำอะไรไม่ได้เลย ในทึกบอกไว้เลยว่านั้นคือการเริ่มต้นโกหกครั้งยิ่งใหญ่ของเขา แม้แต่โฮซอกก็อยากรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างของจีมิน แต่ถูกแม่จีมินกันไว้ก่อน โดยส่วนตัวจีมินเป็นตัวละครที่ไม่ชัด และซับซ้อนที่สุดแล้ว
แทฮยอง บันทึกปี 10-22 ตัวละครนี้ย้อนไปไกล เพราะต้องเล่าว่าตั้งแต่ปี 10 แทฮยองถูกทำร้ายร่างกาย ผลจากอาการเมาของพ่อ และโดนทำร้ายอย่างรุณแรง คือเอาหัวกระแทกกำแพง สลบ จิตใจตอนนั้นมีแต่ความกลัว ความรังเกียจพ่อตัวเองได้ก่อตัวขึ้น หลังจากนั้น พฤติกรรมความก้าวร้าว และรุณแรง เริ่มปรากฎให้เห็นในตัวเขา และเขาเข้าใจว่านั้นเป็นเพราะได้รับสายเลือดเลวๆนี่มาจากพ่อ (ก็คือมนุษย์จะเป็นไปตามสภาพที่ตนดำรงค์อยู่ คือถ้าอยู่ในครอบครัวที่มีแต่ความรุณแรง การแสดงออกก็จะเป็นแบบนั้น เพราะเคยชิน)
จองกุก บันทึกปี 20-22 มาโลกสดใสด้วยจองกุกกัน ก็เป็นตัวแทนของน้องเล็กแหละ มีพี่ ๆ เป็นแบบอย่าง ในตัวละครคือก็ติดยุนกิ จะเรียนเปียนโน(เราอาจได้เห็นกุกกี้เล่นเปียโน)จะทำอะไรก็คือตามยุนกิ ที่ตรงกับบทสัมภาษณ์ระหว่างกุกกี้ กับตัวละครนี้ก็คือ ด้วยความเป็นเด็ก พอเห็นพี่มีปัญหา แล้วเข้าไปช่วยอะไรไม่ได้ มันก็เจ็บปวด สิ่งที่ทำได้ก็คือพยายามไม่เป็นภาระ
สรุปบันทึกของ THE NOTE โดยรวมคือบอกพื้นฐานของแต่ละคน เราจะได้เข้าใจตัวละครของโลก Love Yourself มากขึ้น ไม่แน่ใจว่า Wonder อาจจะมีบันทึกแนบมาเป็นเล่มอีกมั้ย น่าจะมีเรื่องเพิ่มให้เราเข้าใจมากขึ้นไปอีก
เดี๋ยวๆๆๆ นี้ยังไม่เข้าเรื่อง Euphoria เลยหล่อน อ้า! มากลับมา คือพอเข้าใจพื้นฐานตัวละครแล้วใช่มั้ย แล้วก็ดู MV Highlight Reel แล้วนะ จะมีตอนที่จินพูดไว้ตอนไกล้ ๆ จบเรื่องว่า“ถ้าพวกเรา ย้อนเวลากลับไปได้ จะกลับไปเวลาไหน เพียงสถานที่หนึ่งที่เราย้อนกลับไปเพื่อไปแก้ไข หรือยกเลิกข้อผิดพลาดได้ พวกเราตอนนี้จะมีมีความสุขอยู่มั้ย?”
อย่างที่บอกข้างต้น จินเป็นตัวแทนของคนที่ไม่ยอมให้อภัยตัวเอง โทษว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต่างๆ ตัวเองมีส่วนผิด ใน MV Euphoria ตามการตีความของป้านะ จึงเป็นเหตุการณ์ที่เป็นเหมือน ภาพสมมุติเรื่องราว ที่จินกลับไปแก้ไข ในจุดที่ตัวเองคิดว่าแก้แล้วมันจะดีขึ้น
ต่อจากเรื่องเดิมคือภาพนี้
เป็นจังหวะที่จินนึกย้อน แล้วตอนที่รับแจกันดอกไม้ไว้ได้ทัน ก็เลยฉุกคิดว่าถ้าตอนนั้น ถ้าตัวเองไปช่วย ไปอยู่ให้ทันในเหตุการณ์ เรื่องราวร้าย ๆ ก็จะไม่เกิด เหมือนที่จินรับแจกันไว้ได้ แจกันไม่ตกลงมาแตก (MV Highlight Reel)
MV Euphoria ก็ย้อนตามนั้นเลย คือทำยังไง ไม่ให้แทฮยองฆ่าพ่อ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่จะต้องแก้ไขก่อนเลย เพราะต่อจากนั้นคือการนำมาของการฆ่าตัวตายของแทฮยอง แล้วคนอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบกันเป็นต่อ ๆ กัน ภาพย้อนลำดับการแก้ไขก็ตามนี้คือ
ให้จองกุกไปช่วยยุนกิได้ทัน ให้จีมินไม่ทิ้งโฮซอก ให้มารักษาอาการป่วยทางจิตด้วยด้วยกัน
จินไปเก็บเงินที่ลูกค้างี่เง่าทิ้งลงพื้นมาให้นัมจุน นัมจุนจะได้ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจจนเผาปั้ม แล้วอีกอย่างไฟเช็ค อีพี่จินก็เป็นคนยื่นให้นั้มจุนเองนะคะ
อันเนี้ยที่ไม่แน่ใจ คิดว่าน่าจะให้โฮซอก ได้มีครอบครัวเอาเข้าไปอยู่ในครอบครัวแทแทเลย อย่างน้อยก็ปกป้องน้องได้ (แต่เห็นหลายคนตีความว่า โฮซอก กันแทเป็นพี่น้องที่แยกกันตอนพ่อแม่เลิกกัน)
ถ้าทุกคนยังอยู่พร้อมหน้าทุกคนก็มีโอกาสไปเยี่ยม ไปหาจีมิน จะได้ไม่รักษาอยู่คนเดียว ไม่ต้องสร้างโลกที่ตัวเองโกหกขึ้นมา
หลังจากนั้นเรื่องก็ดำเนินตาม MV เลย คือเรื่องคล้ายถูกรีเซ็ท เริ่มต้นใหม่ ใช้โทนสี ใช้สภาวะแวดล้อมที่สดใส ตรงข้ามกับ MV เดิม จะเห็นภาพเหมือนเป็นเด็กมั่วสุมในที่ ๆ รกร้าง ดื่มเมากัน แต่ MV นี้เรื่องราวถูกแก้ไขให้ดูสวยงาม วิ่งเล่นกันตามวัย ไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะไปมั่วสุม หรือเสพสิ่งมัวเมาใด ๆ ไม่เล่นอะไรแผลงๆ
สุดท้ายแล้วคนที่ยังอยู่ด้วยความหวังในตอนนี้ มีสามคน คือ จิน จีมิน จองกุก ไม่เห็นในส่วนปัจจุบันในมุมมองของอีกสี่คนนะ
ตอนท้ายของ MV ก่อนซีนจองกุกเดินตัดหน้ารถ ก็มีข้อความดับฝัน “ฮยอง นั้นคือเรื่องราวทุกอย่างหรือ ไม่มีอะไรซ้อนอยู่อีกแล้วใช่มั้ย” (ดู MV BTS ต้องดูให้จบให้สิ้นนะคะ ไม่งั้นคุณจะพลาดสารบางอย่างที่เขาจงใจทิ้งเอาไว้ แล้ว Youtube ก็จะนับยอดวิวด้วย)
ถ้าให้ตีความจากข้อความนี้ ก็คือ ‘เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นด้านเดียวหรอก ต่อให้กลับไปแก้ไขมันได้ ต้นเหตุที่แท้จริงของเรื่องที่เกิดขึ้น มันก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ตาเราเห็นก็ได้ เพราะฉนั้นถ้าแก้ไขมัน ก็ใช้ว่าพวกเราจะกลับมามีชีวิต อยู่อย่างมีความสุขตามที่เราคิดได้’ ดับฝันกันไปค่ะ
แล้วทำไมให้กุกกี้ร้องเพลง ถ้าเป็นจินฮยองที่คิดจะแก้ไขอดีต ทำไมไม่ให้จินร้องเพลง ก็จินฮยองในเรื่อง ไม่ได้เป็นสมาชิกวง BTS นี้ค่ะ ให้กุกกี้ร้อง แต่ใช้เรื่องของจินไง เพราะมีเส้นเรื่องเดียวกันกับเนื้อหาเพลง สร้างโลกที่สวยงามของตัวเอง เพื่อดื่มด่ำและมีความสุขอยู่กับมัน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่เป็นจริงก็ตาม
หมายเหตุ หวีดแม่นาย คุณพี่หมื่นอยู่ดีๆ จบปุ๊บ ต้องมาเป็นโคนันเพราะเด็กพวกนี้ บางทีก็ปรับสมองไม่ทันเลย คืนนี้จะมีอะไรอีกมั้ย
*แก้คำผิด