ถ้าพูดในมุมมองการตลาด มันก็เป็นไปตามกลไกการตลาดนั่นแหละ ถ้าสังเกตุกันดู
- เพลงช่วงแรกๆของทั้งคู่ (46&48) เพลงจะดีมากๆ ทำนองไม่แหวกแนวเกินไป อย่าลืมว่าเพลงแนวไอดอลมันขายแฟนบอยได้อยู่แล้ว แต่ถ้าทำดีก็มีสิทธิดึงคนนอกแฟนด้อมเข้ามาได้ ตัวอย่างชัดๆก็ เฮฟวี่โรฯ ฟอร์จูนคุกกี้ (48) Girl's Rule (Nogi) ส่วน Keya นี่ปัจจุบันยังทำดีอยู่
- ที่ต้องทำเพลงแรกๆให้ดี เป็นเพราะฐานแฟนๆยังไม่มั่นคงเท่าไหร่ ทำเพลงดีๆ ให้พื้นมันแน่น จนกระทั่งสามารถ "ออกเพลงอะไรก็ได้แล้วยังขายได้" นั่นแหละ เพลงถึงจะเริ่มดรอป
- มันเป็นแทคติกที่มีนานมากแล้ว ฝั่งเกาหลีก็ใช้บ่อยมาก ค่ายที่เห็นชัดสุดคือ SM เพลงเดบิวต์และคัมแบ็คแรกๆ เพลงจะดีมาก โคตรแมส ไม่แหวกแนว แต่พอแฟนด้อมใหญ่เท่านั้นแหละ เพลงประหลาดๆมีให้ฟังได้หมด
- โดยสรุปคือ เพลงมันจะเริ่มดรอปเมื่อเพลงเป็นกระแสหลักถาวรได้ และสามารถขายได้แน่ๆ

แต่ถ้าวัดกันเรื่องเพลงล้วนๆ ผมว่า
- 48 เน้นแบ๊ว ขายสดใสเป็นหลัก ถ้านับทีละ Cycle (4 Single = 1 Single Sem + 2 Single ปกติ + 1 Single ตั๋วเลือกตั้ง) ซิงทีจะแหวกแนวหนักๆได้จะเป็นซิงปกติไม่ก็ซิงตั๋วเลือกตั้งนั่นแหละ เพราะซิงตั๋วฯมันยังไงก็ขายได้แน่ๆ ให้ตายยังไงก็ขายได้เกินล้าน (ใช้เลือกตั้ง)
อย่างล่าสุดก็ Teacher Teacher ถ้าไม่ใช่ซิงตั๋วฯ ไม่มีทางจะออกมาได้หรอก แหวกแนวโคตรๆ
- Nogi 46 เน้นสาวขึ้นมาหน่อย ช่วงอายุประมาณ 20 กลางๆค่อนปลายแล้ว เพลงไม่แบ๊ว เน้นฟังเรื่อยๆ ถ้าคนกระโดดข้ามมาจาก K-Pop มาตามจะรู้สึกสมูทกว่า เพราะความคมการเต้น แนวเพลงคล้ายๆกันอยู่
- Keya 46 อันนี้ผมว่า Sony ตั้งใจปั้นเป็นศิลปินมากกว่าที่จะเป็นไอดอล โดยเฉพาะฝั่ง Kanji เป็นแนวเพลงที่สามารถเปิดให้คนที่ไม่ได้สนใจพวกไอดอลฯ ฟังได้แล้วไม่รู้สึกว่าเป็นเพลงของไอดอล

ส่วนเรื่องดังไม่ดังพูดยาก เทสต์มิวสิคแต่ละคนไม่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้จะวัดจากจำนวนอัลบั้มที่ขายก็ไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องซิงเลือกตั้งเอย ซิงที่ต้องปั้มเพื่อต่อสถิติล้านแผ่นเอย ฯลฯ คงต้องวัดว่าเพลงมันถูกพูดถึงหรือถูกเปิดบ่อยขนาดไหนมากกว่า โดยเฉพาะหลังจากช่วงโปรโมทไปแล้วด้วยน่ะนะ