หนังแอ็คชั่นพันธุ์เกรียน มัน เว่อร์ หลุดโลกของ พี่ เจสัน สเตแธม และ พี่ วิน ดีเซล เป็นอีกผลงานของทั้งคู่ที่ดังในอดีต ก่อนพี่แกทั้งสองจะมาฉะกันใน Fast & Furious ภาค 7-8

เริ่มกันที่พระเอกหนังบู๊ขวัญใจผมตอนเด็ก คือ พี่ วิน ดีเซล จำได้ว่าดู Fast ภาคแรกซ้ำหลายรอบมาก และอีกสองเรื่องที่ดูบ่อยและชอลไม่แพ้กัน คือ Triple X (2002) และ The Chronicles Of Riddick (2004) หรือ Riddick ภาคสอง คือ ปัจจุบันรู้สึกเบื่อๆหน้าพี่แกกับบทโดมินิค โทเร็ตโต้ละ ผมชอบ การแสดงของ ทอม ครูซ,แมตต์ เดม่อน,เลียม นีสัน มากกว่า แต่ในตอนเด็กรู้จักเพียงไม่กี่คนจากหนังแผ่นวีซีดีที่เช่ามาดูซ้ำๆกับน้าสาวสายบู๊ของผม หนังแถวบ้าน ก็มี
Terminator 2, Hellboy, Spider Man 2,
Die Hard 3, Speed, Mission Impossible 2, Face/Off, Pay Check, Catwoman, หนังของพี่ วิน ดีเซล หลายเรื่องอยู่ (Fast 1,Pitch Black,Triple X,Riddick 2 และ A Man Apart) และก็ Transporter 1-2 คือ เช่าดูหนังเหล่านี้บ่อยมากๆ สัปดาห์นึงต้องดูหนังเหล่านี้ซักสองถึงสามเรื่อง

โดยส่วนตัวผมชอบ character ของวิน ดีเซล ในเรื่อง Triple X มากกว่าเรื่อง Fast ซะอีก บท สายลับพันธุ์เกรียน Xander Cage ดูเกรียนบ้าพลัง ตลกๆเฮฮาหน่อย ดูไม่ซีเรียส ตึงเครียด หรือคารมณ์หวานซึ้ง แบบ ดอม ซึ่งบางทีดูไปนานๆก็ออกลิเกไปหน่อย ผมโตมากับหนังพี่ดีเซล ชอบมากๆ คือ Triple X เฉพาะภาคแรกเท่านั้น มันคือหนังสายลับที่มีความล้อเลียน เจมส์ บอนด์ อยู่นิดๆ ได้พี่วิน ดีเซล มาเล่นในบทสายลับที่ดูมาดเถื่อนๆ เกรียนๆ ไม่หล่อมากแต่ดุดัน ชอบตั้งแต่ฉากเปิดตัวที่พี่แกขโมยรถสว.แคลิฟอร์เนียไปแว๊นเล่น แถมโชว์ฉากเสี่ยงตายโดดร่มลงจากสะพานสูงอีก โดนใจสุดๆ ไหนจะบทของป๋า แซมวล แอล แจ็คสัน อีก ในบทจนท. NSA ออตัสกัส กิ๊บบอนด์ มาแบบจริงจังดูดุ แต่ก็คอย support พี่แซนเดอร์ เคจตลอดทั้งเรื่อง บทของ โทบี้ ลีเชเวอร์ ที่ออกไม่มาก แต่ฮามาก ดูในหนังแล้วนึกถึง พวก Q ในหนังตระกูลบอนด์ที่คอยจัดหาอุปกรณ์ไฮเทคนู้นนี่นั้นให้เหล่าสายลับ เช่นเดียวกับบทของโทบี้ คือ เป็นจนท.จัดหาอาวุธต่างๆให้สายลับ ที่แตกต่างคือมาฮาเกรียนแตก ตั้งแต่มีกล้องส่องทะลุเสื้อผ้า, ระเบิดพลาสเตอร์, ไงจะปืนลูกโม่หลายฟังก์ชั่นอีก เยอะอะ แถมตอนหลังพี่แกทำรถ GTO มาพร้อมอาวุธติดรอบคัน เว่อร์ได้อีก ที่ชอบอีกอย่าง คือ การเล่นกีฬาเอ็กซสตรีมสุดขั้วของพระเอกในเรื่อง เราจะได้เห็นฉากบู๊ที่ตื่นตาตื่นใจมากกว่าพี่วิน แกทำหน้าเครียด เร่งเครื่อง ซิ่งรถ ในหนังเรื่องนี้ พี่แกทั้ง แว๊นมอเตอร์ไซค์ โดข้ามสิ่งกีดขวาง สุดหวาดเสียว เหินมอเตอร์ไซค์ข้ามรั้วกำแพงสูง และฉากไคล์แมกซ์ของเรื่อง ที่พี่แกระเบิดกองหิมะ ขณะขี่สโนบอร์ดหนีตาย กลางกองหิมะถล่ม สุดๆเลย ฝันเรื่อง soundtrack ต่างๆถูกใส่มาอย่างเร้าใจ ไม่ว่าจะเพลงร็อคต่างๆ ถูกใส่มาถูกจังหวะในหนัง และเข้ากับฉากแต่ละฉาก

โดยสรุปชอบภาคแรกมากที่สุด

Riddick ต้องภาคสอง เพราะ เนื้อเรื่องที่เปิดกว้างขึ้นกว่าภาคแรก CG ที่ดูเนียนและยิ่งใหญ่กว่าภาคแรก นักแสดงสมบทต่างๆมีมากมายสมกับฟอร์มของหนัง ฉากบู๊สุดมันแต่ใส่มาไม่ยั้งทั้งเรื่อง แถมพี่วินแกดูโหดหน้าตายมาก ในบท ริดดิค นักโทษแดนเถื่อนผู้มากับสายตาปีศาจ ภาคนี้ ชอบตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง ที่ริดดิควิ่งหนีกลุ่มนักล่าค่าหัวกลางหิมะ ไหนจะฉากในคุกใต้ดินอีก จนไปถึงฉากจบที่พี่ริดดิคแกบุกเดี่ยวถึงรังพวกเนโครมังเกอร์ มาสู้กับ ลอร์ด มาร์แชล ที่เก่งกว่าริดดิคมาก กว่าจะฆ่าตายเล่ยเอาพี่ริดดิคแทบตาย แถมตอนหลังพีคสุด พี่แกได้เป็นกษัตริย์ครองเมืองเฉยเลย จากตอนเริ่มเรื่องยังเป็นนักโทษหนีตาย จนภายหลังโค่นลอร์ด มาร์แชล ได้เป็นกษัตริย์

สรุปชอบภาคสองมากที่สุด ส่วน 1กับ3 ดูได้ สนุกระดับนึงตามมาตรฐานริดดิค ไม่ตราตรึงเท่าภาคสอง

Transporter ของพี่โล้นสเตแธม ผมชอบทั้งสามภาคพอๆกัน ทั้งเนื้อเรื่อง ฉากบู๊ เตะต่อย ฉากขับรถไล่ล่า แต่ภาคที่ดูแล้วตราตรึงใจสุดๆ คงภาคสอง เพราะดูพี่แฟรงค์ มาร์ตินดูพระเอกมากๆ รักเด็ก คอยปกป้องเด็กจากพวกตัวร้าย ฉากแอ็ค
ชั่นอาจดูเว่อร์วังที่สุดในตระกูล Transporter ทั้งขับรถข้ามตึก ฉากต่อสู้มือเปล่าที่เว่อร์ได้อีก บลา บลา บลา ท้ายที่สุดชอบ สาวโหดปืนคู่ ที่มาสู้กับพระเอกในภาคนี้ คือ ดูนางน่ากลัวมากๆ และเก่งพอๆกับพระเอกด้วย

สรุปชอบสองที่สุด

The Mechanic ภาคแรกคือที่สุด ของหนังทริลเลอร์ดราม่า ที่มาโทนดาร์กๆหน่อย ไม่บู๊มาก แต่เนื้อเรื่องสนุก ทำให้อยากดูจนจบ ถึงในภาคนี้พระเอกดูเป็นคนเลวก็ตามเถอะ ชอบฉากที่พระเอกวางแผนลอบสังหารเหยื่อ ดูฉลาดมีกึ๋นมาก แถมตอนท้ายเรื่องก็จบแบบ เห้ย...แกถูกยิงถังน้ำมันระเบิดยังรอดได้แบบ สุดยอดเลยอะ แถมพระเอกยังฉลาดรู้ทันลูกศิษย์แกซะอีก เลยระเบิดรถตู้ม แบบ หลอกฆ่าเนียนๆ ชอบมากภาคแรก

ภาคสอง คือ หนังเกรดซี บทห่วย เนื้อเรื่องธรรมดาเดินเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรทำให้คิดตามแบบภาคแรก ฉากบู๊มีเพิ่มขึ้นดูเพลินๆ เอามันได้ แต่ไม่สุดขีดเท่าภาคแรก