"บางครั้งผมก็โดนดูถูกเพราะคนมองว่าผมตัวเล็กเกินไป ผมต้องแสดงให้พวกเขาเห็น ว่าผมเล่นได้ดี บางครั้งบางคราวผมก็รู้สึกท้ออยู่บ้างเหมือนกัน แต่ผมจะยอมแพ้ไม่ได้ ฟุตบอลเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผม ผมมีความสุขที่สุดเวลาเล่นฟุตบอล ผมต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าวันของผมจะมาถึง"


====================================================================

Writer: Paul Murphy @PaulmurphyBKK
Contributor: These Football Times @thesefootytimes

Translate from: Chanathip Songkrasin And The First Steps to Producing A World Class Thai Footballer

====================================================================

ในตอนที่ชนาธิปกระแทกไหล่ต่อไหล่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้เสียตำแหน่งครองบอล ตั้งแต่ลงสนามเดบิวท์ในเจลีกไม่ทันถึงห้านาที นักเตะไทยคนนี้ถูกกล่าวถึงในแง่ว่า เขาอาจจะได้รับใบเหลืองสำหรับการกระทำของเขา แต่นั่นก็เป็นตัวอย่างพื้นฐานของการเสียสละเพื่อทีม เพราะในฐานะผู้เล่นคอนซาโดเล่ซับโปโร เขาช่วยหยุดจังหวะโต้กลับอันตรายของฝ่ายตรงข้าม

และมันเป็นสิ่งบ่งชี้อย่างมีนัยสำคัญ ว่าชนาธิปไม่ใช่ผู้เล่นที่จะถูกข่มด้วยปัจจัยทางร่างกาย เขาเป็นมากกว่าอาหารพร้อมทานมาตั้งแต่ต้น ทั้งมันถูกใช้เป็นความพยายามในการที่จะพิสูจน์ตัวเองนอกกรอบเดิมๆ นอกประเทศบ้านเกิด ด้วยส่วนสูงเพียง 158 เซนติเมตร ชนาธิปต้องรับมือกับผู้คนที่คลางแคลงใจ คนที่บอกว่าเขาขาดความแข็งแกร่ง และส่วนสูง ที่จะประสบความสำเร็จในฟุตบอลระดับที่สูงกว่าที่เป็นอยู่

ถึงแม้ในทีมของเป็ป กวาดิโอล่า จะเปี่ยมด้วยยอดนักเตะมากพรสวรรค์ที่ส่วนสูงไม่ถึงหกฟุต แต่เมื่อเทียบส่วนสูงของชนาธิปกับลีโอเนล เมสซี่ ชาบี้ และอันเดรส อิเนียสต้าแล้ว กระนั้นก็ยังขาดหายไปหลายนิ้ว

พรสวรรค์ของนักเตะวัย 24 ปีผู้นี้ไม่เป็นที่กังขาเลย สัมผัสแรกอันไร้ที่ติ ทักษะการเลี้ยงลูกที่ชวนให้ตะลึง และสายตาการแทงบอลที่เฉียบคม ทำให้เขากลายเป็นที่จับตามองของแฟนฟุตบอลไทยตั้งแต่เดบิวท์ให้กับบีอีซี เทโรศาสน ในปี 2012 จนถึงความสามารถอันโดดเด่นของเขา กับเมืองทองยูไนเต็ด ในเกม เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ในปี 2017 การได้เป็นแมนออฟเดอะแมทช์ในเกมลีกคัพรอบสุดท้าย ที่บีอีซีเทโร คว้าชัยเหนือบุรีรัมยูไนเน็ต ขณะที่อัฟราม แกรนท์ คุมทีมบีอีซีเทโร ซึ่งคงถือได้ว่า เป็นไฮไลท์ในช่วงต้นอาชีพของเขา

การเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ AFF Cup ในปี 2014 ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางด้วยวัย 21 ปี แต่มันมักจะมีการกล่าวถึงรูปร่างของเขาอยู่เสมอ เมื่อมีการพูดคุยเรื่องความเป็นไปได้ถึงการย้ายไปเล่นในต่างประเทศของเขา เขาเป็นที่ยอมรับว่ามีพรสวรรค์ อย่างไรก็ตามค่าเฉลี่ยส่วนสูงของชายไทยนั้นถือว่าต่ำกว่าประเทศเอเชียตะวันออกอื่นๆ อย่างญี่ปุ่นและเกาหลี และส่วนสูงของชนาธิปยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยชายไทยอย่างมีนัยสำคัญ บ่อยครั้งในการถกเถียงระหว่างหมู่แฟนๆ และผู้เชี่ยวชาญ มักจะให้ความสนใจที่จุดนี้

เขาเคยพยายามหาทางย้ายไปญี่ปุ่นในปี 2013 แต่การทดลองฝีเท้ากับชิมิสุ เอสพัลส์ จบลงโดยไม่ได้รับข้อเสนอ ในบทสัมภาษณ์กับบางกอกโพสต์เมื่อปี 2015 ชนาธิปยอมรับว่าเขาต้องต่อสู้กับแนวคิดของผู้คนที่มองว่า ด้วยรูปร่างของเขานั้น จะไม่สามารถเล่นฟุตบอลในระดับอาชีพได้ เขาบอกว่า "บางครั้งผมก็โดนดูถูกเพราะคนมองว่าผมตัวเล็กเกินไป ผมต้องแสดงให้พวกเขาเห็น ว่าผมเล่นได้ดี บางครั้งบางคราวผมก็รู้สึกท้ออยู่บ้างเหมือนกัน แต่ผมจะยอมแพ้ไม่ได้ ฟุตบอลเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผม ผมมีความสุขที่สุดเวลาเล่นฟุตบอล ผมต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าวันของผมจะมาถึง"

เขาเคยพูดถึงความยากลำบากของการฝึกฝนภายใต้การแนะนำของบิดา ซึ่งเขาทนฝ่าฟันมาได้ และนำเขามาถึงจุดนี้ บวกกับความแน่วแน่ที่จะตอบโต้การสบประมาทในเรื่องรูปร่าง ล้วนแต่ทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งขึ้น