สิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมากสำหรับละครไทยเรื่องนี้ ก็คือ ความเหมาะสมและลงตัวของทุกตัวละครในเรื่อง
ซึ่งหากขาดตัวละครตัวใดตัวหนึ่งไป ก็จะรู้สึกนึกถึงหรือคิดถึงตัวละครตัวนั้นๆ ตั้งแต่ตัวละครหลักของเรื่อง หรือแม้แต่ตัวละครที่มีบทบาทลดหลั่นกันลงมา ละครเรื่องนี้คัดเลือกนักแสดงได้ดีมากและนักแสดงเองก็ทำหน้าที่ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครนั้นๆออกมาได้อย่างดีมากๆเช่นเดียวกัน สามารถทำให้คนดูเชื่อได้สนิทใจว่าเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในละครเรื่องนี้ คือ เรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆในสมัยอยุธยา รวมทั้งพาร์ทปัจจุบันเองก็เช่นเดียวกัน
หากเปรียบ "บุพเพสันนิวาส" เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่แสนจะอบอุ่นครอบครัวหนึ่ง การขาดหายไปของตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในบางช่วง บางตอน ก็เหมือนกับการขาดสมาชิกภายในบ้านคนใดคนหนึ่งไป บ้านก็จะรู้สึกเหงาไปบ้าง แต่เมื่อไหร่ที่ได้กลับมาพบเจอพร้อมหน้า ความอบอุ่นนั้นก็กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
1. คุณพี่เดช
ตั้งแต่คุณพี่เดชเดินทางไปเป็นตรีทูตยังประเทศฝรั่งเศส ก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่ง คิดถึงความขี้หึง ขี้งอน ปากร้ายแต่ใจดี คิดถึงการจีบแม่การะเกดโดยการสิงหู (เกือบทุก ep. 555) ตอนที่คุณพี่เดินทางกลับถึงเรือนนี่ดีใจไม่แพ้แม่การะเกดกันเลยทีเดียว
และคุณพี่ก็กลับมาสิงหูแม่การะเกดเช่นเดิม ^^
2. แม่การะเกดของคุณพี่เดช
การที่วิญญาณของแม่การะเกดของคุณพี่เดช (เกศสุรางค์) ออกจากร่างหลังจากไปจับเอาบทสวดกฤษณะกาลี เหลือไว้แต่เพียงร่างที่มีลมหายใจและชีพจรที่แสนแผ่วเบา ความรู้สึกของคุณพี่เดชก็คงจะเป็นไปดังถ้อยคำร้องที่ถูกเรียบเรียงไว้ในเพลง "ออเจ้าเอย" สิ่งที่เคยกลัวนักหนานั้น มันได้เกิดขึ้นแล้ว
"ออเจ้าเอย เคยรู้หรือไม่
ตรงนี้ยังมีใคร ฤทัยห่วงหา
ออเจ้าเอย งามประกายนภา
ขอมองไม่ยอมนิทรา ขอชื่นตาให้พี่ชื่นใจ
กลัวฉันกลัวว่าจันทร์จะลาจากฟ้าไกล
กลัวฉันกลัวว่าใจจะขาดเมื่อร้างลา
กลัวฉันกลัวออเจ้าจะไกลไม่เห็นหน้า
กลัวชะตาจะมาพรากเรา
เพียงลับตากระวนกระวายและร้อนรน
เพียงมืดมนพี่จะทานทนได้รึเปล่า
เพียงยิ้มมาหัวใจเบิกบานคลายทุกข์เศร้า
เราหนอเรา คะนึงถึงออเจ้าเอย"
การขาดไปของแม่การะเกดของคุณพี่ ทำให้รู้สึกคิดถึงความน่ารัก น่าเอ็นดู ของแม่การะเกดคนนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
3. เกศสุรางค์
การจากไปของเกศสุรางค์ ละครบอกเล่าความเศร้าโศกเสียใจผ่านการถ่ายทอดของ
ไอ้เรือง คุณพี่เดช(ในร่างของได้เรือง) คุณแม่และคุณยาย ได้ดีมากๆ
4. แม่การะเกด (ตัวร้าย)
การจากไปของแม่การะเกด (ตัวร้าย) ถึงแม้จะปราศจากคนที่นางรักมาเหลียวแล
แถมคนที่ร่ายมนต์กฤษณะกาลีจนนางถึงแก่ความตาย ก็คือ คนที่นางรักและหวงนักหนา
แต่อย่างน้อยแม่การะเกดก็ได้จากไปท่ามกลางบ่าวผู้จงรักภักดีและรักแม่นายอย่างจริงใจ
และต้องขอบคุณแม่นายคนนี้แหละที่ทำให้แม่การะเกดของคุณพี่เดชรู้ใจตัวเอง
การันตีเลยว่าขาดแม่การะเกดคนนี้ไปสักคน ละครจะขาดสีสันไปเยอะเลยทีเดียว
5. ไอ้จ้อย & ไอ้เหลืองลูกพ่อ
เรื่องนี้บอกเลยว่า ไอ้จ้อยและไอ้เหลืองลูกพ่อเนี่ย ทำให้ละครมีชีวิตชีวาได้อย่างมากมายเลยทีเดียว
ขาดคู่นี้ไป ขาดความฮาไปเหมือนกันนะ
"รอดตายแล้ว ไอ้เหลืองลูกพ่อ" ในยามลำบาก ยังไงเราก็จะไม่ทิ้งกัน 555
6. พี่ผิน พี่แย้ม
การแสดงบทบ่าวของทั้งคู่สุดยอดมากๆ
"พี่ผิน" เป็นบ่าวให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแม่ของแม่การะเกด
"พี่แย้ม" เป็นบ่าวที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพี่สาว ที่พร้อมจะดูแลและปกป้องน้องเสมอ
7. แม่ปริก
แม่บ้านปากร้ายแต่ซื่อสัตย์ เป็นคนที่ไม่มีคำว่าตรงกลาง มีแต่ รักกับเกลียด 5555
วันไหนแม่ปริกออกมาน้อยนี่แอบคิดถึงนะ เป็นอีกตัวละครที่มีสีสันมาก
8. ขุนเรือง
ชอบขุนเรืองตรงที่เป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ชอบพอใครก็แสดงความรู้สึกของตนเองออกไปอย่างชัดเจน
ว่ากันว่า หากจะดูว่าใครรักเราจริง ให้ดูตอนที่เราตกอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของชีวิต คนที่ยังคงรัก เป็นห่วงและพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเราเสมอ
คนนั้นแหละ คือ คนที่มีความรักที่แท้จริงให้แก่เรา และขุนเรืองก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ขุนเรืองรักแม่หญิงจันทร์วาดจริงๆ
9. แม่หญิงจันทร์วาด
เป็นแม่หญิงไฮโซสมัยอยุธยาที่มีความฉลาดมากนะ มีคุณสมบัติการเป็นแม่เรือนสูงมาก แถมสวยมากๆอีกต่างหาก
รู้สึกชอบการแกล้งป่วยเพื่อจะได้ลงเอยกับขุนเรืองที่สุด ตอนแม่หญิงจันทร์วาดดีดตัวขึ้นหลังจากรู้ว่าขุนเรืองมาหานี่โดนใจมากๆ 555
"บุพเพสันนิวาส" เพราะทุกตัวละครคือความเหมาะสมและลงตัว ละครเรื่องนี้คือความประทับใจและจะตราตรึงไปอีกนานแสนนาน
ซึ่งหากขาดตัวละครตัวใดตัวหนึ่งไป ก็จะรู้สึกนึกถึงหรือคิดถึงตัวละครตัวนั้นๆ ตั้งแต่ตัวละครหลักของเรื่อง หรือแม้แต่ตัวละครที่มีบทบาทลดหลั่นกันลงมา ละครเรื่องนี้คัดเลือกนักแสดงได้ดีมากและนักแสดงเองก็ทำหน้าที่ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครนั้นๆออกมาได้อย่างดีมากๆเช่นเดียวกัน สามารถทำให้คนดูเชื่อได้สนิทใจว่าเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ในละครเรื่องนี้ คือ เรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆในสมัยอยุธยา รวมทั้งพาร์ทปัจจุบันเองก็เช่นเดียวกัน
หากเปรียบ "บุพเพสันนิวาส" เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่แสนจะอบอุ่นครอบครัวหนึ่ง การขาดหายไปของตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในบางช่วง บางตอน ก็เหมือนกับการขาดสมาชิกภายในบ้านคนใดคนหนึ่งไป บ้านก็จะรู้สึกเหงาไปบ้าง แต่เมื่อไหร่ที่ได้กลับมาพบเจอพร้อมหน้า ความอบอุ่นนั้นก็กลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
1. คุณพี่เดช
ตั้งแต่คุณพี่เดชเดินทางไปเป็นตรีทูตยังประเทศฝรั่งเศส ก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่ง คิดถึงความขี้หึง ขี้งอน ปากร้ายแต่ใจดี คิดถึงการจีบแม่การะเกดโดยการสิงหู (เกือบทุก ep. 555) ตอนที่คุณพี่เดินทางกลับถึงเรือนนี่ดีใจไม่แพ้แม่การะเกดกันเลยทีเดียว
และคุณพี่ก็กลับมาสิงหูแม่การะเกดเช่นเดิม ^^
2. แม่การะเกดของคุณพี่เดช
การที่วิญญาณของแม่การะเกดของคุณพี่เดช (เกศสุรางค์) ออกจากร่างหลังจากไปจับเอาบทสวดกฤษณะกาลี เหลือไว้แต่เพียงร่างที่มีลมหายใจและชีพจรที่แสนแผ่วเบา ความรู้สึกของคุณพี่เดชก็คงจะเป็นไปดังถ้อยคำร้องที่ถูกเรียบเรียงไว้ในเพลง "ออเจ้าเอย" สิ่งที่เคยกลัวนักหนานั้น มันได้เกิดขึ้นแล้ว
"ออเจ้าเอย เคยรู้หรือไม่
ตรงนี้ยังมีใคร ฤทัยห่วงหา
ออเจ้าเอย งามประกายนภา
ขอมองไม่ยอมนิทรา ขอชื่นตาให้พี่ชื่นใจ
กลัวฉันกลัวว่าจันทร์จะลาจากฟ้าไกล
กลัวฉันกลัวว่าใจจะขาดเมื่อร้างลา
กลัวฉันกลัวออเจ้าจะไกลไม่เห็นหน้า
กลัวชะตาจะมาพรากเรา
เพียงลับตากระวนกระวายและร้อนรน
เพียงมืดมนพี่จะทานทนได้รึเปล่า
เพียงยิ้มมาหัวใจเบิกบานคลายทุกข์เศร้า
เราหนอเรา คะนึงถึงออเจ้าเอย"
การขาดไปของแม่การะเกดของคุณพี่ ทำให้รู้สึกคิดถึงความน่ารัก น่าเอ็นดู ของแม่การะเกดคนนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว
3. เกศสุรางค์
การจากไปของเกศสุรางค์ ละครบอกเล่าความเศร้าโศกเสียใจผ่านการถ่ายทอดของ
ไอ้เรือง คุณพี่เดช(ในร่างของได้เรือง) คุณแม่และคุณยาย ได้ดีมากๆ
4. แม่การะเกด (ตัวร้าย)
การจากไปของแม่การะเกด (ตัวร้าย) ถึงแม้จะปราศจากคนที่นางรักมาเหลียวแล
แถมคนที่ร่ายมนต์กฤษณะกาลีจนนางถึงแก่ความตาย ก็คือ คนที่นางรักและหวงนักหนา
แต่อย่างน้อยแม่การะเกดก็ได้จากไปท่ามกลางบ่าวผู้จงรักภักดีและรักแม่นายอย่างจริงใจ
และต้องขอบคุณแม่นายคนนี้แหละที่ทำให้แม่การะเกดของคุณพี่เดชรู้ใจตัวเอง
การันตีเลยว่าขาดแม่การะเกดคนนี้ไปสักคน ละครจะขาดสีสันไปเยอะเลยทีเดียว
5. ไอ้จ้อย & ไอ้เหลืองลูกพ่อ
เรื่องนี้บอกเลยว่า ไอ้จ้อยและไอ้เหลืองลูกพ่อเนี่ย ทำให้ละครมีชีวิตชีวาได้อย่างมากมายเลยทีเดียว
ขาดคู่นี้ไป ขาดความฮาไปเหมือนกันนะ
"รอดตายแล้ว ไอ้เหลืองลูกพ่อ" ในยามลำบาก ยังไงเราก็จะไม่ทิ้งกัน 555
6. พี่ผิน พี่แย้ม
การแสดงบทบ่าวของทั้งคู่สุดยอดมากๆ
"พี่ผิน" เป็นบ่าวให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแม่ของแม่การะเกด
"พี่แย้ม" เป็นบ่าวที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพี่สาว ที่พร้อมจะดูแลและปกป้องน้องเสมอ
7. แม่ปริก
แม่บ้านปากร้ายแต่ซื่อสัตย์ เป็นคนที่ไม่มีคำว่าตรงกลาง มีแต่ รักกับเกลียด 5555
วันไหนแม่ปริกออกมาน้อยนี่แอบคิดถึงนะ เป็นอีกตัวละครที่มีสีสันมาก
8. ขุนเรือง
ชอบขุนเรืองตรงที่เป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ชอบพอใครก็แสดงความรู้สึกของตนเองออกไปอย่างชัดเจน
ว่ากันว่า หากจะดูว่าใครรักเราจริง ให้ดูตอนที่เราตกอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของชีวิต คนที่ยังคงรัก เป็นห่วงและพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเราเสมอ
คนนั้นแหละ คือ คนที่มีความรักที่แท้จริงให้แก่เรา และขุนเรืองก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ขุนเรืองรักแม่หญิงจันทร์วาดจริงๆ
9. แม่หญิงจันทร์วาด
เป็นแม่หญิงไฮโซสมัยอยุธยาที่มีความฉลาดมากนะ มีคุณสมบัติการเป็นแม่เรือนสูงมาก แถมสวยมากๆอีกต่างหาก
รู้สึกชอบการแกล้งป่วยเพื่อจะได้ลงเอยกับขุนเรืองที่สุด ตอนแม่หญิงจันทร์วาดดีดตัวขึ้นหลังจากรู้ว่าขุนเรืองมาหานี่โดนใจมากๆ 555