[SR] เที่ยวอ่าวอุดม พา Review Chefs De Plago At Sikhara Resort (เชฟ เดอ พลาโช่ ณ สิขรา พลาโซ รีสอร์ท)

อ่าวอุดม
ถ้าจะพูดถึงจังหวัดที่มีทะเลใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนคงจะตอบว่า "ชลบุรี" เป็นอันดับต้น ๆ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่ามีทั้งหาดพัทยา และหาดบางแสน การเดินทางก็ไม่ได้ไกล ขับรถมาชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงแล้ว แต่ชลบุรีไม่ได้มีแต่ บางแสน พัทยานะคะ "ศรีราชา" ก็เป็นอีกแห่งที่น่าเที่ยว เพราะอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารการกิน และเดินทางสะดวก คนน้อยไม่พลุกพล่าน
ใกล้ ๆ กันนี้มีหาดที่น่าสนใจอย่าง "อ่าวอุดม" ที่วันนี้เปลี่ยนตัวเองจากสถานที่ทำมาค้าขาย อุตสาหกรรมการประมง และการเดินเรือ มาเป็นหาดท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ของทั้งคนในพื้นที่ และคนนอกพื้นที่ ดังที่เราจะเห็นได้จากบ้านพักตากอากาศของธุรกิจใหญ่หลาย ๆ แห่งที่มาสร้างไว้ในย่านนี้
สะพานสั้น ณ อ่าวอุดม
ยิ่งโดยเฉพาะในยามที่แดดร่มลมตกช่วงเย็น ๆ จะเห็นผู้คนหอบลูกจูงหลาน มาเล่นน้ำ กินข้าว ปิ๊กนิคกันแถว ๆ นี้ ค่ำ ๆ ก็จะมีนักเลงประมง หยิบเบ็ดถือเหยือมาตกปลาๆ ปลายสะพานสั้นกันคึกครื้น นอกจากนี้ ยังมีบริการพานั่งเรือไปไดร์หมึกกันอีกด้วย
บ้านพักตากอากาศ และ/หรือ ศูนย์สันทนาการของธุรกิจแห่งหนึ่ง
ถัดออกมาจากอ่าวอุดมไม่ไกลนัก มีต้นไม้ใหญ่ เรียกกันว่า "ต้นเลียบ" ถือเป็นของดีประจำตำบล อวดได้ เพราะมันใหญ่จริง ๆ ค่ะ น่าจะถึงหกคนโอบ เดิมที่ไม่มีใครมาจับจองเป็นเจ้าของแต่อย่างใด แต่ปัจจุบันอย่างที่เห็น มีบ้านน้อยหลังนี้มาอยู่ที่โคนต้น และตามธรรมเนียม ต้องมีผ้าเจ็ดสีเจ็ดศอกพันรอบต้นเลียบไว้ ถือเป็นกุสโลบายอย่างหนึ่ง ถ้าจะตัดก็ต้องเกรงเจ้ากันบ้างหละจ๊ะ
ขับรถเลยต้นเลียบยักษ์นี้ไปหน่อย ถ้ามาจากกรุงเทพจะเลยตลาดหนองมนมาทางบางพระ ใกล้กับค่ายทหาร เลยไปสักประมาณ 100 เมตร จะเป็นทางเข้าของ สิขรา พลาโซ รีสอร์ท ใช่ค่ะ เราจะพักที่นี่คืนนี้ แต่ก่อนอื่น ขอเดินชมวิว และกินข้าวก่อนนะคะ
สิขรา พลาโซ รีสอร์ทChefs De Plago At Sikhara Resort
Chefs De Plago (เชฟ เดอ พลาโช่) เป็นร้านอาหารริมทะเล บรรยากาศดี ของ Sikhara Plago Resort (สิขรา พลาโซ รีสอร์ท) ซึ่งมีหาดส่วนตัวไว้ค่อยบริการผู้เข้าพัก และผู้ที่เข้ามาริมรสอาหารกันที่นี่ การจัดวางพื้นที่ให้บริการก็กว้างขวาง สะดวก สบาย ไม่แออัดเหมือนร้านอาหารทั่วไปที่ต้องการมีโต๊ะไว้บริการมาก ๆ จึงนั่งชมวิวทะเลได้อย่างชิล ๆ
มุมรับลมทะเล
เงือกสาว หางปลากัด ปฏิมากรรมที่มีลักษณะเฉพาะ สัญญาลักษณ์ของ สิขราฯ
Chefs De Plago (เชฟ เดอ พลาโช่) แห่งนี้ มีความเป็นปัจเจกไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่เรียบหรูดูดี ในห้องอาหารด้านใน หรือการจัดวางและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ของห้องอาหารด้านนอกที่ชายหาด เฟอร์นิเจอร์ที่ชายหาด และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องพัก ล้วนเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำจากแรงงานของเกษตรกร โดยที่ทางสิขราฯ เป็นผู้ออกทุน และหาครูที่มีฝีมือไปออกแบบ และสอนให้ชาวนาย่านศรีสะเกษ ซึ่งประสบปัญหาภัยแล้ง เป็นผู้ลงแรง ผลของมันจึงมีค่ามากกว่าเฟอร์นิเจอร์ธรรมดา เพราะมีเรื่องราวของความเอื้อเผื้อต่อกันอยู่เต็มที่
ระเบียงรับลมด้านหน้าต่อกับห้องอาหารด้านในการตกแต่งภายในห้องอาหารชิงช้าเล็ก ๆ สองตัวไว้ให้บริการนั่งชมวิวทะเลชายหาดยามเย็นพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าโต๊ะริมทะเล ถูกออกแบบมาอย่างเก๋ไก๋ และนั่งสบายมีจอฉายหนังให้ดูด้วย
เราไปถึงในเวลาค่อนข้างเย็นแล้ว เลือกโต๊ะริมทะเลได้โต๊ะนึง ประทับใจมากค่ะกับการจัดโต๊ะและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ทั้งแก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม ยังไม่สั่งอาหาร แต่ขอนั่งมองฟ้า มองน้ำ มองทะเลไปก่อน บรรยากาศแบบนี้ถ้ามากับแฟนสงสัยจะซึ้งน่าดู กำลังฟิน ๆ หันมามองคนข้าง ๆ แม่และเด็ก ปลงซะลูกเอ้ย
Red Magarita
ก่อนจะสั่งอะไรมาก็ขอเบา ๆ เรียกน้ำย่อย เป็นค๊อกเทลสวย ๆ ใส ๆ สักแก้วนึงก่อนเป็นไร Red Magarita จึงถูกเสิร์ฟมาก่อนเป็นอันดับแรก รสหวานซ้อนเปรี้ยวที่ตัดรสมาด้วยความเค็มปะแล่ม ๆ ของเกลือป่นที่ขอบแก้ว ช่วยขับรสชาติความสดชื่นของเครื่องดื่มแก้วนี้ได้เป็นอย่างดี เรียกว่า เป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยที่เหมาะไม่น้อย
ค๊อกเทลสองแก้วสวย ๆ ของเราMango Sticky Rice Cocktail
แก้วนี้เป็นข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ ใช่ค่ะอ่านไม่ผิด "ข้าวเหนียวมะม่วง" เขาเอาข้าวเหนียวมูลมาปั่นลงไปด้วยค่ะ ความมันของข้าวเหนียวกับความหวานของมะม่วงตัดรสด้วยความขมเล็ก ๆ ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าครีเอตได้น่าสนใจ และอร่อยมากค่ะ สำหรับ Mango Sticky Rice Cocktail
นั่งจนแดดร่มลมตก ฟ้ามืดก็เริ่มสั่งอาหารจานหลักมากินกันได้ แต่ว่าไปมุมมองตอนกลางคืนของ Chefs De Plago นี่ก็สวยไม่น้อยนะคะ เลยถ่ายรูปเก็บไว้เบา ๆ
ผัดป่าเนื้อแกะ
จานแรกที่นำมาเสิร์ฟเหมาะกับการเป็นกับแกล้มมากเพคะ ผัดป่าเนื้อแกะ เคยกินแต่สเต็กแกะ คราวนี้แปลรูปมาในรูปผัดป่า เนื้อแกะหั่นเป็นชิ้นนุ่มมากมาย ผัดมากับเครื่องแกงป่า เผ็ดร้อน แต่ผัดแห้ง ให้รสเผ็ดด้วยหมาล่า ใช่ค่ะได้ข่าวว่าเชฟเขาใส่มาด้วยนะคะ กินกับโหระพาทอด หอมกรอบ อร่อย เป็นเนื้อแกะที่อร่อยมากค่ะ
แหม๋ ได้เบียร์ซักถังนะคะ ฟินเฟอร์
สเต็กโทมาฮอก
เนื้อสันส่วนที่ติดมันชิ้นใหญ่ ๆ หนา ๆ ชิ้นเบ้อเริ่ม เสิร์ฟมากับผักทอด ผักย่าง ชนิดต่าง ๆ พร้อมซอสไวน์แดงเข้มข้น เนื้อนุ่มจนแทบจะละลายในปาก ปรุงได้สุกกำลังดี แบบมีเดียม แถมมาด้วยน้ำจิ้มแจ่ว แบบรู้ใจคนไทย รสเปรี้ยวเค็มหวานเข้ากันกับเนื้อชิ้นหนา ฟินเฟอร์ สวรรค์ของคนรักเนื้อจริง ๆ
สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า
ด้วยความที่เรามีแม่และเด็กมาด้วยค่ะ เมนูเด็กต้องมา สปาเก็ตตี้ คาโบนาร่า นี่เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี เจอของร้านนี้เข้าไปฟินเข้าไปใหญ่ เพราะใส่ไข่เบเนดิกและโรยด้วยชีสมาแบบไม่กลัวเปลือง แถมซอสคาโบนาร่ายังเข้มข้นหวานมัน กินกับเบคอนกรอบ ๆ เด็กซัดเสียหมดจาน ผู้ใหญ่ได้ชิมนิดเดียว
ซูชิที่ประกอบไปด้วย เนื้อปลา ปูอัด อโวคาโด่ ห่อด้วยสาหร่ายทอดกรอบ
แซลมอนอโวคาโด โรลล์
ส่วนจานนี้เราจะไม่เสียเชิงให้เด็กอีกต่อไป เรียกได้ว่าเป็นเมนูแย่งเด็กกิน เพราะแซลมอน อโวคาโด โรลล์จานนี้อร่อยมาก เลยเพิ่งรู้ว่าเชฟที่นี่มีชื่อด้านการทำซูชิ เพราะเพื่อนผู้แม่แอบกระซิบบอก ม่วนค่ะม่วน ประกอบไปด้วย เนื้อปลาแซลมอน ปูอัด อโวคาโด่ ห่อด้วยสาหร่ายทอดกรอบ เป็นหลัก พอเอาเข้าปากกินรวมกันแล้วทั้งกรุบทั้งกรอบหวานมัน ไม่ต้องพึ่งพาวาซาบิให้เมื่อย
บรรยากาศริมทะเลยามค่ำ

กว่าจะสิ้นสุดค่ำคืนอันประทับใจทั้งในรสชาติของอาหาร ทั้งบรรยากาศ เล่นเอาพุงหลามกันเลยทีเดียว เลยได้นั่งพึ่งพุงรับลมทะเลเย็น ๆ ชายหาด ถือว่าเป็นอีกคืนที่น่าประทับใจ และจดจำ สำหรับ Chefs De Plago At Sikhara Resort (เชฟ เดอ พลาโช่ ณ สิขรา พลาโซ รีสอร์ท) ในครั้งนี้ แล้วเดี๋ยวจะมารีวิวห้องพักให้ฟังกันค่ะ
ขอบคุณที่รับชมนะคะ
ชื่อสินค้า:   Chefs De Plago At Sikhara Resort (เชฟ เดอ พลาโช่ ณ สิขรา พลาโซ รีสอร์ท)
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่