สิ่งที่บุพเพสันนิวาสทำได้ไม่ดีคือ การใส่เพลงประกอบจนไม่มีช่องว่าง

ช่วงที่เป็นการเมือง ฉากดราม่าระหว่างฟอลคอนกะท้าวทองกีบม้าต้องปะทะคารมกัน และอีกมากมาย
ใส่เสียงดนตรีเร้าใจมาตลอดเวลา บางครั้งมันไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ ใส่เท่าที่จำเป็นก็พอ ช่วงแรกปล่อยให้คุยกันบ้างแล้วค่อยใส่มาตอนไคลแมกซ์ของฉากก็พอ แต่นี่ใส่มาทั้งฉากตั้งแต่เริ่มต้นจนจบฉากนั้น กลายเป็นหนังแขกไปแล้ว  ไม่ว่าจะฉากไหนก็ต้องมีดนตรีเร้าใจ มันเยอะไปจนน่ารำคาญ ถ้าใครเคยดูละครแขกน่าจะเข้าใจ แม้แต่ตอนคุยกันปกติก็ใส่เพลงเร้าใจมาทำไมไม่รู้

ประมาณว่าเพลงเกินอารมณ์ของหนัง
ฉากนั้นอารมณ์ยังไม่ถึงขนาดที่จะต้องใส่เพลงเร้าใจขนาดนั้นแต่ก็ใส่มาจนได้



คืนนี้ลองสังเกตดูนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมเห็นต่างครับ Sound ละครเรื่องนี้ดีมากครับ
ช่วงที่มีบทสนทนาก็ไม่ได้ดังมากจนกลบเสียงนักแสดง
แต่ Sound กลับทำให้แต่ละฉากดูสนุก กลมกล่อมมากขึ้น
แต่ละฉากเลือกเสียงได้เหมาะสมกับบรรยากาศมากๆครับ
ความคิดเห็นที่ 3
เราแทบจะกราบคนใส่Sound เลยช่างสรรหามาใส่คือหาได้ดีมาก เข้ากับฉากจังหวะ เราว่ามันไม่ทำให้ชวนหลับ แต่อาจจะเยอะๆเกินบ้างแต่ไม่แย่เลย
ความคิดเห็นที่ 9
เรื่องนี้ใส่ sound ดีมาก โดยเฉพาะจังหวะคอมเมดี้คือเป๊ะเว่อออออออ
เท่าที่สังเกตค่ายบรอดคาซท์นี่ชำนาญเรื่องนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ
555
ความคิดเห็นที่ 2
ซาวน์ดนตรี ช่วยส่งเสริมให้ละครสนุกขึ้นมากๆ

น้องพรเห็นต่างนะคะพี่
ความคิดเห็นที่ 16
หลายคนกำลังหลุดประเด็นเค้าไม่ได้ว่าซาวน์ไม่ดี
เค้าบอกว่าใส่ซาวน์มาเยอะแค่พูดกันก็ใส่มาจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง

ซึ่ง ช่อง3 ชอบใสซาวน์แนวนี้คือแค่มองหน้ากันก็ใส่มาแล้ว ก็เสียงดังด้วย

เท่าที่นึกออกมีเรื่อง ไฟล้างไฟ คลื่นชีวิต ใส่มาเยอะมากจนบางทีหนวกหู

อีกฉากที่จำได้ฝังใจจาก คุณชายพุฒิภัทร
ฉากที่คุณชายควงกรองแก้วไปงานลงจากรถมาเจอท่านพินิจ คือแค่มองหน้ากัน ซาวน์ใส่เข้ามาถล่มทลายมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่