สวัสดีท่านผู้อ่านอีกครั้ง... สำหรับรอบนี้ไปกัวลาลัมเปอร์
เน้นเที่ยว-เน้นช้อปปิ้ง-เน้นพากินร้านเด็ด (บางร้าน) ในราคาประหยัด
ตามกระทู้ในห้องบลูฯ  รวมถึงร้านที่รวบรวมมาจากหลายๆที่บังเอิญชิม บังเอิญแวะ ><
[[ หัวกระทู้อาจจะใช้คำไม่สุภาพ เนื่องจากความสอดคล้อง  ขออภัยด้วยจริงๆ ]]

โดยรอบนี้มาแบบงบ 5000 บาทหย่อนๆ สำหรับทริป3 วัน2 คืน และสำหรับ2 คน : )
เรท 7.89 ฿ ::  RM 1

** ข อ เ ก ริ่ น เ รื่ อ ง จิ ป า ถ ะ เ ล่ า สู่ กั น ฟั ง  ... ก่ อ น จ ะ พ า ฟิ น ย า ว ๆ ด้ ว ย ข อ ง กิ น ***

ตั๋ ว เ ค รื่ อ ง บิ น


*จองข้ามปีจากต.ค. ปี่ที่แล้วได้เรตไป-กลับ พร้อมโหลดกระเป๋า20 kg ในราคา3000ปลายๆ = )
(*พาดหัวกระทู้ 5000 บาท คือเน้นกินและเที่ยวเล็กน้อย ไม่ร่วมตั๋วนะ เพราะจ่ายไปแต่ปีที่แล้ว 555)

** ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จากไทยถึง KLIA 2 ลงชั้นล่างสุดนั่งรถบัส เพียง RM 12 ใช้เวลา1 ชั่วโมงก็ถึง KL Sentral


ที่ พั ก
* อ่านรีวิวในห้องบลูฯ ส่วนใหญ่เค้าจะไปพักกันที่ My hotel ใช่! โรงแรมที่ผุดเป็นดอกเห็ดมีหลายสาขาพอๆกับ7-eleven(ฮาา)
เราจอง ที่ My Hotel @  Sentral  (ใกล้ๆ old town จะมีอีก โรงแรมคือ My Hotel @ KL Sentral ที่หรูกว่าและแพงกว่า)
ค่าใช้จ่าย RM 176 ; ภาษีนักท่องเที่ยวRM 10/คืน ; มัดจำ RM20 รวมจ่ายไป RM 216

ข้อดี คือ ใกล้ kl central ใกล้ที่พัก ประหยัด มีปลั๊ก สองขาแบบบ้านเรา1 ตัวไม่ต้องใช้ universalปลั๊ก  
ที่นี่ไม่เก็บค่าทำความสะอาด ช่วงกลางวันพนง.จะมาทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าปูและผ้าเช็ดตัว เติมน้ำเปล่า และกาแฟให้
ข้อเสีย คือ ห้องอับ ตอนเช้าจะมีเสียงดังในละแวกที่พักพอสมควร

ซิม เ น็ ต
** แนะนำอย่าซื้อที่ที่สนามบิน เรท RM40 สำหรับเราว่าแพงพอสมควร **
ถ้าคนที่ติดมือถือมากๆ สนามบินมีไวไฟฟรี เร็วและแรงดี : P)
รอบนี้ เราได้ซิม Tunetalk เน็ต 2 GB ตลอดการใช้งานสำหรับ7 วัน ราคา RM25
ส่วนตัวเราชอบ xpax  ไม่มีจุดอับสัญญาณ และถูกกว่าราคาเพียง RM 20 (แต่หาอีกอันเจอก่อน -w - )

แ ห ล่ ง ท่ อ ง เ ที่ ย ว

* ขอหมายเหตุไว้ก่อนว่า ช่วงที่เรามาฝนตก2วันติดเลย แต่ถ้ามีรอบหน้าคงมามาเลย์นี่ล่ะ คหสต.เราว่าถูกและประหยัดดี
** แถมกลับไปยังมีเงินเหลือหลักพัน :3 ** >>โดยที่ที่กล่าวมาเป็นทริคการเดินทางเน้นประหยัดในเวลาที่ไม่เร่งรีบค่ะ ))


::.  central market &china town  .::

            ปกติจะนั่ง LRT มาลงสถานี pasar seni ค่าโดยสารRM  1.90  ซึ่งจริงๆเราว่ามันไม่ไกลเลย  
แต่ !!! เราเลยนั่งรถบัส ขึ้นหน้าห้าง KL Sentral ลง สถานี pasar seni ค่าโดยสาร RM 1: คน ถึงไวด้วย
(ประหยัดนิดหน่อยก็เอา= P )

-  central market
คือ ศูนย์รวมของจตุจักรและพาหุรัด มีทั้งเสื้อผ้า งานศิลปะ DIY ของแปลก ของตกแต่งบ้าน (ซึ่งเราว่าแพงมาก! )
มีชอคโกแลตและของฝากจิปาถะ อ่อ..ชั้นสองก็มีผ้าถุง ผ้าต่างๆลายสวยเลยค่ะ
...และสิ่งมี่ชอบสุดของที่นี่คือ ห้องน้ำ การตกแต่งเก๋ๆและที่แปลกตาคือชักโครก
ที่ทำให้ต้องไปเหลียวมองว่านี่ห้องน้ำหญิงหรือชาย ( 5555)

- ส่วน china town
ก็คล้ายๆกับไชนาทาวน์ผสมสำเพ็งบ้านเรา และมีของขายเช่นพวก นาฬิกาแบรนด์ต่างๆ รองเท้า เสื้อผ้า ละลานตาไปหมด
เอาบรรยากาศทั้งกลางวัน-กลางคืนมาฝาก ^ __ ^
ที่นีมีผสมของกินแนว street food และเราก็จะรีวิวอาหารที่นี่ในพาร์ทของกิน,,เมื่อมาแล้วต้องให้คุ้ม!!



*** ระหว่างทางไป central market &china town   มีมุมถ่ายรูปเล็กๆบนฟุตบาท
และมีการตกแต่งลวดลายบนผนังด้วยสีสันที่น่ารักๆ เหมาะแก่การถ่ายรูปเพลินๆ

::.  Batu Caves  .::

            การเดินทางไปถ้ำบาตู โดยปกติจะสั่งรถไฟสาย KTM (สายสีแดง) จากKL Sentral ไป
แต่ขออัพเดตว่า ปัจจุบันงดให้บริการ (ตั้งแต่ 3 ก.พ.) วิ่งไปถ้ำบาตูโดยตรงแล้ว
,, โดยวิธีการเดินทางคือ ต้องนั่งรถชัตเตอร์บัส(ฟรี)จาก KL Sentral เพื่อไปลงสถานี  Kl Sentul แล้วต่อรถไฟไป batu,,
** ที่ขึ้นรถจะอยู่โซนเดียวกับรถทัวร์ไปสนามบินแต่ สนามบินเลี้ยวซ้าย ไปถ้ำเลี้ยวขวา =: ) **
รถไฟจะตรงเวลามากๆ และจอดแต่ละสถานีตรงเวลาสุด โดยสามารถดูตารางรถวิ่งตามนี้เลยค่ะ ค่าโดยสารRM 2.30:คน


ที่นี่ถือเป็นสถานที่ไหว้พระพิฆเนศที่ชื่อดังของประเทศมาเลเซีย
ถ้ามีโอกาสแนะนำมาค่ะ เดินขึ้นบันไดชิวๆไป 272 ขั้นค่ะ
แต่แนะนำว่า ควรทาครีมกันแดดมาด้วยน้าาา ขากลับเราหน้าดำเลย 555


ที่นี่มีทั้งลิงที่ซนน้อยกว่าเขาสามมุข  มีทั้งนกพิราบที่ต้องขึ้นบันไดไปหา ในโซนบนสุด
และมีกิจกรรมสำรวจถ้ำ-สัตว์แปลกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวในอัตราค่าบริการ คนละ RM35 โดยเมื่อเข้าไปข้างในห้ามถ่ายรูปค่ะ  ** แต่จขกท.ไม่ได้เข้าไปค่ะ **

::.  Pavililon & Fahrenheit 88 & Vincci .::

           เชื่อว่าขา shoppingท่องเที่ยวคงรู้จักดีแล้ว ไม่ต้องรีวิวอะไรมากค่ะ
เพียงแต่ จขกท.ขอแนะนำวิธีการเดินทางฟรี ฟรี และฟรี! มาฝากค่ะ  
ปกติจะนั่งรถไฟฟ้า  monorial สายสีเขียว ค่าบริการ RM2.90  ใช่มั้ยคะ ?
มีทางที่ประหยัดมาแนะนำค่ะ  คือ  .....
การนั่งรถบัส จากหน้าห้าง KL Sentral  เลย ค่าโดยสาร RM 1: คน มาลงสถานี pasar seni
ตรงนี้จะมีรถบัสฟรีที่ให้บริการเป็นสายเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าค่ะ  สามารถขึ้นป้ายที่เขียนว่าไป B.Bingtang ได้เลยค่ะ

(มีลายแทงจาก pantip ว่า หลังห้าง Fahrenheit 88 มีร้าน sakura Restaurant  
เมนูเด็ด nasi lemak  จขกท.ไปแล้วร้านปิดค่ะ ใครได้ลองไปชิมแล้วแนะนำบ้างนะคะ =: )


Mydin ร้ า น ข อ ง ฝ า ก

            ปกติแล้วนิยมซื้อของฝากกันที่ Duty Free ถูกไหมละคะ?
แต่เรามีร้านแนะนำค่ะ  ตามลายแทงจากคอมเมนต์ในห้องบลูฯไป  เฟริมเลยค่ะว่าถูกสมคำล่ำลือ  
พิกัดร้าน MYDIN  (เป็นร้านของชาวมาเลเชื้อสายอินเดีย) จะอยู่สถานีรถบัส อยู่แถวๆ china town
คือสามารถปักหมุดมาที่ร้านได้เลยค่ะ จุดสังเกตุคือสถานีรถบัสเดินทางออกจากตัวเมืองเยอะๆ ,,, ตรงนี้ค่าาา

  ที่ร้านจะมีโปรโมชั่นลดราคาเยอะ แถมคอนเฟริมว่าถูกกว่าร้านมินิมาร์ท
เช่น dairy milk ในมินิมาร์ท จะขาย RM7.70  และ RM 10.35 (สูตร Oreo) แต่ที่ Mydin จะขาย  RM5.39 และ 7.90


...จขกท.ขอเปรียบเทียบที่นี่เป็นบิ๊กซี-โลตัสนะคะ เพราะที่นีมีทุกอย่าง!!
นอกจากจะมีของฝากที่นี่เรียกว่ามีทุกอย่างยันเครื่องแกง และของตกแต่งบ้าน ใครอยากได้ผ้าถุงที่นี่ก็มีขายค่ะ ,,
** ส่วน จขกท.ติดใจที่นี่มากกกกก  มาสองรอบค่ะสองวันติด  
และวันที่สองที่มามีโปรโมชั่น kitkat 1 แถม1 พร้อมแก้วเก๋ๆ โหลดกลับไทยอีก 1 ใบด้วย : ))
มาเปิดกระเป๋ากันค่ะ ว่า เราซื้ออะไรไปบ้าง ;3  รอบแรกจำราคาได้เพราะมีใบเสร็จ ส่วนรอบสองใบเสร็จหาย


สำหรับยาหม่องหรือครีมจันทร์เทศ ช่วยบรรเทาอาการปวด ซื้อในร้านยาค่ะ
ส่วนนมกล่องชอคโกแลตซื้อในมินิมาร์ทค่ะ ,, บังเอิญถ่ายรูปรวมไป 2 ชิ้นนี่คือของฝากที่ไม่ได้ซื้อจาก mydin    

ทั้งหมดนี้คิดเป็นเงินไทยทั้งหมด 800 กว่าบาท ถ้าย้อนเวลากลับไปได้  จะไปโกยขนมให้มากกว่านี้