การที่เลี้ยงลูกแบบเข็มงวด จนกลายเป็นเรื่องที่ลูกไม่ชอบอันนี้ใครๆ ก็ถาม และแน่นอนกว่าจะเข้าถึงปัญหาที่ซุกซ่อนไว้ในใจของลูกก็คือ การถวิลความสุขที่ลูกต้องการนั้นคืออะไร ก็คงตำหนิการเลี้ยงดูลูกว่าเลี้ยงไม่ดีเอง ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล จนลูกอาจอยากหนีมาอยู่เอง แน่นอนแพทย์ที่ประเมินความสุขในช่วงที่อยู่กับอีกฝ่ายย่อมเห็นดีด้วยว่า ลูกหนีไปนั้นก็เพื่อความสุข เพราะอีกฝ่ายให้ไม่ได้
จริงอยู่แม้จะเลี้ยงดูดีอย่างไรก็ตาม แต่ไม่มีเครื่องชี้วัด คำว่า "ขาด" การที่ไม่เคยคิดว่าได้มากพอ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของการเลี้ยงดู แต่เป็นเรื่องวุฒิภาวะ ซึ่งมีผลต่อทัศนคติของการดำเนินชีวต จึงไม่แปลกที่หากลูกมาอยู่ที่นี่มีความสุขดี และไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆ เมื่อลูกมีความสุข ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ แม้จะไม่มีใครเหลืออยู่ในโลก แต่ก็มี ฉันคนนี้ดูแลอยู่ไม่ขาด และอีกไม่นานลูกก็โตทำงานได้ ฉันก็เกษียร ทุกอย่างนั้น ก็พอดี ลูกมีงานทำ ฉันก็อยู่บ้านเฉยๆ เป็นการส่งเสริมให้ลูกรู้จักความกตัญญูกตเวทีอีกทางหนึ่งด้วย
ดังนั้นความสุขที่แท้จริง ที่แสวงหาผ่านการโกหกต่อคนทั่วๆ ไป เพื่อให้สำเร็จผลตามความสุขที่ต้องการนั้น ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกใช้ได้กับลูก
แต่ความทุกข์ที่ลูกได้รับจนกลายเป็นแรงกดดันให้กับลูกนั้น ลูกต้องทนรับ เพื่อให้ได้รับความสุขที่วาดฝันไว้ให้ได้
หากขึ้นศาลจริงๆ ก็คงต้องขอร้องให้ทนายเล่นงานฝ่ายที่ปล่อยให้ลูกหนีมาได้ว่า ทำไมให้ลูกหนีมาได้ นี่ไม่ได้ชักจูงลูกนะ ลูกอยากหนีมาเอง แพทย์ที่ยืนยันสุขภาพจิตลูกก็ยืนยันได้ว่า ลูกมีสุขภาพจิตดีกว่าอยู่กับอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญลูกคงเก็บกดมานานที่ต้องทนกับสภาพความเป็นอยู่ และการกีดกันไม่ให้พบกัน จนลูกวางแผนให้ฉันไปยืนยันการลาออกให้เอง และที่สำคัญ ลูกก็เกลียดอีกฝ่ายที่ปล่อยให้ลูกหนีมาด้วยว่าทำเกินกว่าเหตุ จนฉันถูกมองว่าเป็นโจร ทำให้ลูกเสียความรู้สึกมากๆ ที่ลูกเคยนับถือฝ่ายนั้นเป็นผู้ให้กำเนิดที่คอยเลี้ยงดูมาต้ั้งแต่เกิด แต่แค่ความสุขของลูกยังให้ไม่ได้ ก็มาฟ้องร้องกัน
ความจริงควรเห็นใจฉันที่ฉันให้ความสุขลูกได้ดีกว่าอีกฝ่าย มิใช่ตำหนิ เพราะหากลูกโตไป ฉันก็เตรียมบอกว่าอีกฝ่ายคงมีครอบครัวใหม่มีลูกที่น่ารัก และไม่สนใจลูกแล้ว เพราะรู้ว่าตอนนั้นอีกฝ่ายคงโกรธและไม่ไว้วางใจลูกได้ที่ลูกหนีมาแบบนี้ ลูกก็จะได้อยู่กับฉันไปตลอดชีวิต และนี่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ฉันรักลูกแค่ไหน หากไม่รักลูกคงไม่ยอมแบกภาระพาลูกหนีมาเช่นนี้แน่นอน ขอให้เข้าใจด้วย และช่วยหาทางออกทางกฏหมาย เพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้ามให้ถึงที่สุดที่ไม่สามารถทำให้ลูกมีความสุขได้ จะดีมาก
ความสุขของลูกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากคำนึงถึงจุดนี้ ก็ต้องหัดตามใจลูกบ้าง ลูกจะได้ไม่หนีไป
จริงอยู่แม้จะเลี้ยงดูดีอย่างไรก็ตาม แต่ไม่มีเครื่องชี้วัด คำว่า "ขาด" การที่ไม่เคยคิดว่าได้มากพอ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของการเลี้ยงดู แต่เป็นเรื่องวุฒิภาวะ ซึ่งมีผลต่อทัศนคติของการดำเนินชีวต จึงไม่แปลกที่หากลูกมาอยู่ที่นี่มีความสุขดี และไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆ เมื่อลูกมีความสุข ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ แม้จะไม่มีใครเหลืออยู่ในโลก แต่ก็มี ฉันคนนี้ดูแลอยู่ไม่ขาด และอีกไม่นานลูกก็โตทำงานได้ ฉันก็เกษียร ทุกอย่างนั้น ก็พอดี ลูกมีงานทำ ฉันก็อยู่บ้านเฉยๆ เป็นการส่งเสริมให้ลูกรู้จักความกตัญญูกตเวทีอีกทางหนึ่งด้วย
ดังนั้นความสุขที่แท้จริง ที่แสวงหาผ่านการโกหกต่อคนทั่วๆ ไป เพื่อให้สำเร็จผลตามความสุขที่ต้องการนั้น ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกใช้ได้กับลูก
แต่ความทุกข์ที่ลูกได้รับจนกลายเป็นแรงกดดันให้กับลูกนั้น ลูกต้องทนรับ เพื่อให้ได้รับความสุขที่วาดฝันไว้ให้ได้
หากขึ้นศาลจริงๆ ก็คงต้องขอร้องให้ทนายเล่นงานฝ่ายที่ปล่อยให้ลูกหนีมาได้ว่า ทำไมให้ลูกหนีมาได้ นี่ไม่ได้ชักจูงลูกนะ ลูกอยากหนีมาเอง แพทย์ที่ยืนยันสุขภาพจิตลูกก็ยืนยันได้ว่า ลูกมีสุขภาพจิตดีกว่าอยู่กับอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญลูกคงเก็บกดมานานที่ต้องทนกับสภาพความเป็นอยู่ และการกีดกันไม่ให้พบกัน จนลูกวางแผนให้ฉันไปยืนยันการลาออกให้เอง และที่สำคัญ ลูกก็เกลียดอีกฝ่ายที่ปล่อยให้ลูกหนีมาด้วยว่าทำเกินกว่าเหตุ จนฉันถูกมองว่าเป็นโจร ทำให้ลูกเสียความรู้สึกมากๆ ที่ลูกเคยนับถือฝ่ายนั้นเป็นผู้ให้กำเนิดที่คอยเลี้ยงดูมาต้ั้งแต่เกิด แต่แค่ความสุขของลูกยังให้ไม่ได้ ก็มาฟ้องร้องกัน
ความจริงควรเห็นใจฉันที่ฉันให้ความสุขลูกได้ดีกว่าอีกฝ่าย มิใช่ตำหนิ เพราะหากลูกโตไป ฉันก็เตรียมบอกว่าอีกฝ่ายคงมีครอบครัวใหม่มีลูกที่น่ารัก และไม่สนใจลูกแล้ว เพราะรู้ว่าตอนนั้นอีกฝ่ายคงโกรธและไม่ไว้วางใจลูกได้ที่ลูกหนีมาแบบนี้ ลูกก็จะได้อยู่กับฉันไปตลอดชีวิต และนี่ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ฉันรักลูกแค่ไหน หากไม่รักลูกคงไม่ยอมแบกภาระพาลูกหนีมาเช่นนี้แน่นอน ขอให้เข้าใจด้วย และช่วยหาทางออกทางกฏหมาย เพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้ามให้ถึงที่สุดที่ไม่สามารถทำให้ลูกมีความสุขได้ จะดีมาก