จากข่าวที่ปรากฎในงานมอเตอร์โชว์นี้
https://chobrod.com/auto-market/mine-mobility-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-motor-show-2018-3493
ผมเห็นสเปคที่ใส่มาในเว็บตามด้านล่าง
ก็เลยสงสัยว่า
1. แบต Li-on มันชาจน์ได้ 25 นาทีเต็ม นี่มันเป็นสิ่งที่ควรทำหรือเปล่า เพราะเห็นแต่เขาใช้เวลาชาจน์ 2-6 ชั่วโมง
2. ขนาดแบต 20 kW.Hr กับเครื่อง 50 kW โดยไม่มีการใช้ไฟฟ้าในรถ (แอร์ วิทยุ ไฟหน้ารถ ... ปิดหมด )หรือสูญเสียใดๆ เลย (ไฟหน้าปัทม์ ไฟฟ้าควบคุม กำลังตกคร่อมสายไฟ ความร้อนในระบบ เช่น มอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ ... คิดว่าไม่มี) แปลว่าขับเต็มที่จะวิ่งได้ 24 นาที ที่ระยะทาง 200 กม. แปลว่า มันจะใช้ความเร็วที่ 4ร้อยกว่ากม./ ชม. ? ต่อให้ระยะลดเหลือ 100 กม. ก็ยังต้องใช้ความเร็ว 2ร้อยกว่ากม./ ชม. ถ้าจะมองว่าเวลาเบรคสามารถเก็บไฟใหม่ได้ก็ไม่ใช่อีกเพราะมันคือการสูญเสีย ยังไงพลังงานก็ไม่เพิ่มขึ้น (พลังงานของการเบรคมากกว่าพลังงานที่เอามาเก็บเสมอ)
3. ในสเปคบอกความเร็วสูงสุดที่ 120 กม./ ชม. แปลว่าที่ 24 นาที มันวิ่งได้แค่ 48 กม. เอง ตามวิธีคิดจากข้อ 2 ถ้าจะวิ่งได้ไกลถึง 200 กม. แบตน่าจะมีความจุไม่น้อยกว่า 80 kW.Hr
4. รูปร่างหน้ารถสร้างปัญหาต่อผู้ถูกชนหรือเปล่า เพราะรู้ว่าหน้าแหลมๆ ที่ยื่นออกมามีส่วนสร้างความบาดเจ็บเพิ่มขึ้น
5. รถซิตี้คาร์ ขอบยางตั้ง 18 นิ้ว มันจะวิ่งออกหรือครับ กับแรงม้าไม่ถึง 70 ตัว แต่คงทำให้อัตราเร่ง 0-100 ในสเปคดูไม่สู้ดีคือ 12 วินาที (ควรน่าจะบอกถึงจุดทศนิยมด้วยเพราะเป็นค่าสำคัญ) แถมมอเตอร์ต้องแบกโหลดตอนออกตัวหนักด้วย จึงไม่ประหยัดพลังงาน มันจะดีเรื่องความเร็วปลายกับการทรงตัวซึ่งไม่น่าเป็นคอนเซ็ปต์ของซิตี้คาร์
ที่จริงเรื่องกำลังงานกับแบตนี่ผมสงสัยทุกรุ่นเลย เพราะสเปคมาแนวเดียวกัน คิดว่ามีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
รถยนต์ไฟฟ้าของไทย Mine Mobility ดูแล้วมันแปลกๆ ครับ
ผมเห็นสเปคที่ใส่มาในเว็บตามด้านล่าง
ก็เลยสงสัยว่า
1. แบต Li-on มันชาจน์ได้ 25 นาทีเต็ม นี่มันเป็นสิ่งที่ควรทำหรือเปล่า เพราะเห็นแต่เขาใช้เวลาชาจน์ 2-6 ชั่วโมง
2. ขนาดแบต 20 kW.Hr กับเครื่อง 50 kW โดยไม่มีการใช้ไฟฟ้าในรถ (แอร์ วิทยุ ไฟหน้ารถ ... ปิดหมด )หรือสูญเสียใดๆ เลย (ไฟหน้าปัทม์ ไฟฟ้าควบคุม กำลังตกคร่อมสายไฟ ความร้อนในระบบ เช่น มอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ ... คิดว่าไม่มี) แปลว่าขับเต็มที่จะวิ่งได้ 24 นาที ที่ระยะทาง 200 กม. แปลว่า มันจะใช้ความเร็วที่ 4ร้อยกว่ากม./ ชม. ? ต่อให้ระยะลดเหลือ 100 กม. ก็ยังต้องใช้ความเร็ว 2ร้อยกว่ากม./ ชม. ถ้าจะมองว่าเวลาเบรคสามารถเก็บไฟใหม่ได้ก็ไม่ใช่อีกเพราะมันคือการสูญเสีย ยังไงพลังงานก็ไม่เพิ่มขึ้น (พลังงานของการเบรคมากกว่าพลังงานที่เอามาเก็บเสมอ)
3. ในสเปคบอกความเร็วสูงสุดที่ 120 กม./ ชม. แปลว่าที่ 24 นาที มันวิ่งได้แค่ 48 กม. เอง ตามวิธีคิดจากข้อ 2 ถ้าจะวิ่งได้ไกลถึง 200 กม. แบตน่าจะมีความจุไม่น้อยกว่า 80 kW.Hr
4. รูปร่างหน้ารถสร้างปัญหาต่อผู้ถูกชนหรือเปล่า เพราะรู้ว่าหน้าแหลมๆ ที่ยื่นออกมามีส่วนสร้างความบาดเจ็บเพิ่มขึ้น
5. รถซิตี้คาร์ ขอบยางตั้ง 18 นิ้ว มันจะวิ่งออกหรือครับ กับแรงม้าไม่ถึง 70 ตัว แต่คงทำให้อัตราเร่ง 0-100 ในสเปคดูไม่สู้ดีคือ 12 วินาที (ควรน่าจะบอกถึงจุดทศนิยมด้วยเพราะเป็นค่าสำคัญ) แถมมอเตอร์ต้องแบกโหลดตอนออกตัวหนักด้วย จึงไม่ประหยัดพลังงาน มันจะดีเรื่องความเร็วปลายกับการทรงตัวซึ่งไม่น่าเป็นคอนเซ็ปต์ของซิตี้คาร์
ที่จริงเรื่องกำลังงานกับแบตนี่ผมสงสัยทุกรุ่นเลย เพราะสเปคมาแนวเดียวกัน คิดว่ามีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ