เป็นที่รู้กันว่า ผญ ในสมัยก่อน การกระทำ การวางตัว คำพูดคำจา ต้องระวังมากๆ ผู้ชายจะโดนเนื้อโดนตัวผู้หญิงไม่ได้ มันไม่งาม
การกระทำเล็กๆในสมัยนี้ อาจเป็นเรื่องใหญ่ในสมัยก่อน
แต่ในละคร มีหลายเรื่องที่แม่หญิงจันทร์วาด กระทำ แล้วทำให้ชวนสงสัยว่า ผญ สมัยนั้นทำแบบนี้ได้หรอ
ทั้งที่ แม่หญิงจันทร์วาด ถูกวางบทไว้ไม่ใช่นางร้าย เป็นผู้ดีมีกิริยาดีงาม ถูกสั่งสอนการเป็นกลุสตรีมาแน่นอน
1. การไปบ้าน ผช บ่อยๆ โดยไปคนเดียวไม่ได้มีผู้ใหญ่ติดตามไปด้วย ทั้งทีเป็นสาวแล้ว (ในที่นี้ ไม่ได้นับบ่าวติดตาม)
คล้ายๆไปหา ผช ถึงบ้าน ที่ยุคนี้ก็ถือว่า การทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็น ผญ ที่แรงอยู่ ในกรณีที่ยังไม่ได้เป็นแฟน หรือ คู่หมั่น
2. การที่ส่งยิ้ม ส่งสายตา พูดจาเกี้ยวพาราสีพูดจาเป็นห่วงเป็นใย การนำของ,ของกิน ขนมไปให้ กับคนที่มีคู่หมายอยู่แล้ว (ไปอ่อย กับคนที่มีคู่หมายอยู่แล้ว)
3. การที่จีบ ส่งยิ้ม ส่งสายตา พูดจาเกี้ยวพาราสี (อ่อย) ถึงในวัด ในศาลาระหว่างทำบุญ รอพระสวด พระเทศน์อยู่
ขนาดสมัยนี้เอง คนที่พาแฟนไปวัดไปทำบุญ เวลาอยู่ในวัดต่างก็มีกิริยาสำรวม มากกว่าแม่หญิงจันทร์วาด
แม่หญิงจันทร์วาด ในละครบุพเพสันนิวาส ถือว่าเป็นกุลสตรีที่ดีในสมัยนั้นไหมครับ
การกระทำเล็กๆในสมัยนี้ อาจเป็นเรื่องใหญ่ในสมัยก่อน
แต่ในละคร มีหลายเรื่องที่แม่หญิงจันทร์วาด กระทำ แล้วทำให้ชวนสงสัยว่า ผญ สมัยนั้นทำแบบนี้ได้หรอ
ทั้งที่ แม่หญิงจันทร์วาด ถูกวางบทไว้ไม่ใช่นางร้าย เป็นผู้ดีมีกิริยาดีงาม ถูกสั่งสอนการเป็นกลุสตรีมาแน่นอน
1. การไปบ้าน ผช บ่อยๆ โดยไปคนเดียวไม่ได้มีผู้ใหญ่ติดตามไปด้วย ทั้งทีเป็นสาวแล้ว (ในที่นี้ ไม่ได้นับบ่าวติดตาม)
คล้ายๆไปหา ผช ถึงบ้าน ที่ยุคนี้ก็ถือว่า การทำแบบนี้ก็ถือว่าเป็น ผญ ที่แรงอยู่ ในกรณีที่ยังไม่ได้เป็นแฟน หรือ คู่หมั่น
2. การที่ส่งยิ้ม ส่งสายตา พูดจาเกี้ยวพาราสีพูดจาเป็นห่วงเป็นใย การนำของ,ของกิน ขนมไปให้ กับคนที่มีคู่หมายอยู่แล้ว (ไปอ่อย กับคนที่มีคู่หมายอยู่แล้ว)
3. การที่จีบ ส่งยิ้ม ส่งสายตา พูดจาเกี้ยวพาราสี (อ่อย) ถึงในวัด ในศาลาระหว่างทำบุญ รอพระสวด พระเทศน์อยู่
ขนาดสมัยนี้เอง คนที่พาแฟนไปวัดไปทำบุญ เวลาอยู่ในวัดต่างก็มีกิริยาสำรวม มากกว่าแม่หญิงจันทร์วาด