เมื่อคำดูถูกจากเพื่อนทำให้เรามีแรงฮึดสู้และพิสูจน์ตัวเอง :)

วันนี้เป็นวันที่เพื่อนเราสมัยมัธยมเรียนจบในระดับสายอาชีพจากวิทยาลัยอาชีวะแห่งนึงในต่างประเทศได้วุฒิปตรี!  ใช้เวลาเรียนเพียงแค่2ปี หลักสูตรการทำอาหารเพียวๆเลยค่ะ  เมื่อเพื่อนประสบความสำเร็จตัวเราก็ต้องกล่าวคำยินดี เราก็ทักนางไปในไลน์ว่ายินดีด้วยกับความสำเร็จ! แล้วนางก็ถามชีวิตเราว่าช่วงนี้เป็นไง เราบอกเราก็ยังเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย คำตอบที่เราได้รับจากนางมันทำให้เราอึ้งไปเลยยจร้าาาาา นางตอบว่าเธอเรียนตั้ง4ปีสู้ชั้นไม่ได้หรอกเธอน่ะ ชั้นเรียนแค่2ปีก็ประสบความสำเร็จแล้ว จบสายอาชีพแบบชั้นเนี่ยมันดีมากเพราะไม่ต้องเรียนถึง4ปี เธออ่ะไม่มีวันตามชั้นทันหรอกชั้นเก่งกว่าเธอเยอะจบก่อนเธอด้วย!! ก็แน่ล่ะเธอไม่เก่งฮ่าาาๆ ...เราอ่านแล้วก็เอิ่มมมมม...งงกับตรรกะของนางค่ะ  สมัยอยูามัธยมนางใช้ชีวิตแบบไฮโซค่ะทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่เสื้อผ้าหน้าผมของใช้นี่ตามtrendตลอดบินไปไหนก็ First Class แทบทุกครั้งเข้าใจว่าบ้านรวยมีเงินจะใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้
ลืมบอกว่านางเป็นโรคDyslexiaแบบอ่อนๆค่ะ เป็นเกี่ยวกับการอ่านหนังสือเนี่ยแหละนางเลยเลือกเรียนทำอาหารแทนที่จะเรียนมหาลัย  

เรากับเพื่อนคนนี้ไม่ได้สนิทกันมากค่ะ แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอคำพูดแบบนี้จากเพื่อน ถึงเราจะสำเร็จช้ากว่าแต่มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะแพ้ไปตลอด
บอกตามตรงก็เสียความรู้สึกค่ะ
แต่เราก็ขอบคุณนางที่พูดให้เราเจ็บช้ำเพราะคำดูถูกต่างๆนาๆจะกลายเป็นพลัง+และแรงผลักดันให้เรามุ่งไปสู้เป้าหมายและทำมันให้สำเร็จ การเป็นเพื่อนกันไม่เห็นต้องพูดทับถมกันเลย แค่เพียงเพราะเราเรียนคนละสายไม่ไม่ใช่ว่าเราจะด้อยค่าขนาดนั้น  เราไม่เคยดูถูกใครๆเพราะทุกคนก็ต้องผ่านพบเจอเรื่องราวมากมายมีชีวิต  มีเพื่อนแบบนี้เราคิดว่าเราไม่ควรคบต่อแล้วค่ะ อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตได้ 555555! เราถือคติที่ว่ามีเพื่อนปริมานน้อยๆแต่เปี่ยมด้วยคุณภาพมักจะดีกว่า.... ตอนนี้แค่บอกตัวเองทุกวันว่าให้สู้และทำทุกอย่างให้เต็มที่ ไม่แข่งกับใครแต่แข่งกับตัวเองเท่านั้น ถือว่าครั้งนี้เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันเรื่องเพื่อนนะคะ ยิ่งเราเจอมากเท่าไหร่เราจะยิ่งStrongขึ้นๆ  😊😊✌✌
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่