สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านนะคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้เเรกของเราเลย ถ้าเขียนผิดถูก ใช้คำพูดไม่เหมาะสมหรืออะไรยังไงก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ พอดีวันนี้เรามีปัญหาเกี่ยวกับชีวิตอยากจะมาระบายเเละขอคำปรึกษาทุกคนสักเล็กน้อยค่ะ ..
ขออนุญาตเเนะนำตัวเองก่อนนิดนึงนะคะ เราอายุ 23 ปี เรียนจบมาได้เกือบ 1 ปีเเล้วค่ะ เป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งเเต่ปี3เห็นจะได้ เราเป็นลูกคนเดียว อยู่กับพ่อเเม่ค่ะ ตั้งเเต่ตอนเรียน เรามีปัญหาเรื่องความซีมเศร้านี้มาตลอด เเต่จุดเปลี่ยนที่มาทำให้เป็นหนักมากๆถึงกับเคยรู้สึกอยู่ไม่ได้เลย ก็คือเรื่องความรักค่ะ เราไม่เคยมีเเฟนนะคะ เป็นคนอาภัพเรื่องนี้เอามากๆ เหมือนตามที่ใครๆเค้าชอบพูดกันว่าคนเกิดวันศุกร์มักจะอาภัพเรื่องคู่ ซึ่งเราเห็นด้วยมากๆเลย ฮ่าๆ ผิดหวังมาซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเต่เราก็รู้สึกว่าเราโตขึ้นเพราะมันจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นการเรียนรู้ที่คุ้มมั้ย เเต่ก็เลือกไม่ได้นะคะ หลีกเลี่ยงก็ไม่ได้ด้วยมีเเต่จะต้องยอมรับเเละเผชิญหน้ากับมัน เราเป็นคนให้ความสำคัญกับความรักมากๆ เรียกได้ว่า love drive สุดๆ ถ้ามีเรื่องนี้เข้ามา เราพร้อมจะทำทุกอย่าง ให้หมดใจเลย เเต่ก็นั่นเเหละค่ะ พอได้เจอเรื่องราวที่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมามาก ก็เลยหยุด เลิกเอาตัวเองไปเข้าหาเข้าใกล้สิ่งเหล่านั้น จริงๆเราก็ไม่ได้มีโอกาสเจอเพศตรงข้ามมากเท่าไหร่ เรียกได้ว่าไม่มีโอกาสได้เจอเลยด้วยซ้ำ เนื่องด้วยเราเป็นคนไม่ค่อยทำกิจกรรม เเล้วก็ยังเรียนในคณะที่มีเเต่สาวๆทั้งนั้น ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่ไม่ค่อยจะน่ามอง รวมๆกันเเล้วก็เรียกได้ว่าคุณสมบัติครบถ้วนเลยค่ะของความนก ฮ่าๆ คนที่เจอๆมาส่วนใหญ่จึงมาจากโลกออนไลน์ทั้งนั้นเลยค่ะ จับต้องได้บ้างไม่ได้บ้าง เเต่ทุกคนล้วนมีผลกับจิตใจความรู้สึกเราหมดเลย มีมากเกินไปเเบบที่คนปกติที่คบกันจริงจังยังไม่น่าจะรู้สึกรุนเเรงขนาดเราเลยด้วยซ้ำ เราเป็นคนค่อยข้างextreme อารมณ์รุนเเรงมากๆๆเลยค่ะ รู้ตัวเองดี เเต่ก็เเก้ไม่เคยจะได้เลย...
เราเองก็ อยู่ในครอบครัวฐานะปานกลางค่ะ การเลี้ยงดูของพ่อเเม่ก็ออกจะตามใจอยู่บ้าง ไม่ได้อยากจะโทษเค้าเลยเพราะมันคือความรักความหวังดี อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด เเต่มันกลับเป็นดาบสองคม ทำให้เราเป็นคนใจร้อนเเละเอาเเต่ใจเอามากๆ อยากได้อะไรก็คือจะต้องได้มาให้ได้เร็วที่สุด รอไม่เป็น เราเห็นข้อเสียตรงนี้ทุกอย่าง เเต่มันยากเหลือเกินที่จะเเก้ไขนิสัยที่ติดมานานจนเรียกได้ว่าเป็นสันดานไปเเล้ว ... เราเป็นคนชอบวิเคราะห์ตัวเองเเละคนอื่นตลอดเวลาค่ะ จึงทำให้เราเห็นข้อเสียของตัวเองอยู่เรื่อยๆ เเต่เเปลกตรงที่ เราไม่เคยเห็นข้อดีของตัวเองเลย ในขณะที่เราสามารถเห็นข้อดีของคนอื่นได้สารพัด..
พื้นฐานเราเป็นคนขี้เกรงใจเเละถ่อมตัวมากๆๆๆๆค่ะ เราเลยไม่กล้ามั่นใจที่จะทำอะไรเลยทั้งสิ้น ด้วยความที่ไม่มั่นใจทั้งในรูปลักษณ์ ทั้งในความสามารถ เเละทุกๆอย่าง รวมกันจึงทำให้เกิดเป็นการดูถูกตัวเอง การไม่เคารพตัวเองหรือที่ฝรั่งเขาชอบเรียกกันว่า low self-esteem รวมๆกันทุกสิ่งที่อย่างที่ประกอบกันมาเป็นเรา เราไม่ชอบเลยสักอย่างค่ะ ไม่มีอะไรที่เราพอใจเลย เราappreciateอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลย เราเป็นคนไม่มีpassion ไม่มีความชอบอะไรทั้งสิ้น มีเเต่ใช้เงินไปวันๆ กินๆนอนๆ ช้อปปิ้ง งานเราก็ไม่ได้ทำประจำค่ะ งานที่เราทำตั้งเเต่เรียนจบมาเลยก็คือเป็นติวเตอร์ ซึ่งเราทำมานานสักพักนึงจนรู้สึกเบื่อ รู้สึกเอียนกับบรรยากาศเดิมๆ รู้สึกอยากได้อะไรใหม่ๆในชีวิต เพราะที่ๆเราสอนอยู่คือมันเงียบมากค่ะ วันๆไม่ได้เจอผู้เจอคน เเต่เราเป็นคนชอบพูดชอบคุยชอบinteract กับคนอื่นซึ่งบรรยากาศของที่นี่มันไม่ตอบโจทย์เราเลย มันยิ่งทำให้เราอยู่กับตัวเองเยอะ อยู่กับความเป็นตัวเองความคิดตัวเอง ตัวงานเองสบายมากๆๆค่ะ เจ้านายก็ดีกับเรามาก ยืดหยุ่นใหุ้ทุกอย่าง เพราะเราเคยเข้าไปคุยกับเค้าเรื่องโรคซึมเศร้าของเรา เข้างานเราเข้า10โมงบ้าง 10.30บ้าง 11 บ้าง เรียกได้ว่าตามใจฉันสุดๆ พ่อเเม่คนรอบตัวเราทุกคนบอกเสมอว่า เราจะหาที่ๆดีขนาดนี้ เจ้านายที่เข้าใจเราขนาดนี้ไม่ได้อีกเเล้ว ซึ่งเรารู้จุดนั้นดีค่ะ เเต่ประเด็นคือ การที่ให้เราทำงานอยู่ที่นี่ มันทำให้เราสุขภาพจิตเเย่มากๆๆๆๆ เรียกได้ว่าอึดอัดกระวนกระวายเก้าอี้ร้อนมากอยากจะออกอยู่นับครั้งไม่ถ้วน จากทำเต็มวัน เราขอเค้าทำเหลือครึ่งวันค่ะ จากครึ่งวัน ตอนนี้เราเเทบจะไปสอนเเล้วพอไม่มีนักเรียนก็กลับ คือเอาเเต่ใจมากๆเรารู้ เเต่มันทรมานมากเหลือจะทนจริงๆ เราดีใจทุกครั้งที่จะได้กลับบ้าน มานอนเฉยๆ เเต่ในขณะที่นอนเราก็คิดอยู่ตลอดค่ะว่า ชีวิตจะเป็นเเบบนี้ไม่ได้ เเล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย ยังไม่ต้องคิดถึงเลี้ยงพ่อเเม่เลยนะคะ เเค่เลี้ยงตัวเองก็ยากมากเเล้ว ถึงเราจะไม่ได้มีภาระอะไร เเต่เงินที่ได้มาก็ไม่พอ (เพราะเราทำเเค่ครึ่งวันตอนนี้ เเละเข้าเเค่4วันต่อสัปดาห์ค่ะ) เพื่อนๆคงคิดว่า เเล้วทำไมไม่หางานใหม่ละ เราพยายามเเล้วค่ะ เเต่ด้วยความที่เราไม่เคยฝึกงานที่ไหนมาก่อน ตอนปีสามเราไปเเลกเปลี่ยนต่างประเทศ เราจึงไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำงานอะไรเลย มันจึงทำให้มีโอกาสน้อยมากๆๆๆๆๆเรียกได้ว่าเเทบไม่มีเลย ในการที่จะได้ทำงานที่ดีๆกับเค้า เราท้อมากตอนนี้ รู้สึกเเค่ว่า ใช้ชีวิตเเต่ละวันให้รอด ให้ไม่ร้องไห้ ให้ไม่ทุกข์ ตื่นมาให้ได้ก็ยากเเล้ว คนที่ไม่เป็นdepressionคงจะไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ อาจจะคิดว่าเว่อจัง มันจะอะไรขนาดนั้น ภายนอกก็ดูสุขสบายดี เเต่จริงๆข้างในคือพังหมดเเล้วค่ะ จากวันนั้น จุดเริ่มต้นของโรคที่มาจากเรื่องความรัก จนวันนี้ มันเเทบไม่มีอะไรเบาลงเลย เรายังเหงายังต้องการคนอีกคน ยังคงฝากความสุขไว้ที่คนอื่น ยังคงไม่มีเป้าหมาย ล่องลอย ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่มีความชอบไม่มีpassion ไม่มีอะไรให้look forward to มันไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไงเลยค่ะ เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่า เคยมีใครประสบพบเจอกับอะไรคล้ายๆเเบบนี้บ้างมั้ยคะ เคยรู้สึกต้องการความรักตลอดเวลา ให้ความรักเป็นเรื่อง priority ความรู้สึกเบื่อทุกอย่าง ไม่มีเป้าหมาย หาตัวเองไม่เจอ อยากอยู่เฉยๆ เเต่ในขณะเดียวกันก็ใจร้อน อยากประสบความสำเร็จเร็วๆ มันดูขัดเเย้งกันไปหมดเลย มันเลยทำให้เราอึดอัดมากๆๆ ยังไงถ้าใครมีความคิดเห็นหรือคำเเนะนำ กำลังใจดีๆ ก็ช่วยส่งมาไว้ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณมากๆล่วงหน้าเลยค่ะ
เป็นโรคซึมเศร้า รู้สึกไม่มีเป้าหมาย ใช้ชีวิตไปวันๆ (ยาวหน่อยรบกวนด้วยนะคะ)
ขออนุญาตเเนะนำตัวเองก่อนนิดนึงนะคะ เราอายุ 23 ปี เรียนจบมาได้เกือบ 1 ปีเเล้วค่ะ เป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งเเต่ปี3เห็นจะได้ เราเป็นลูกคนเดียว อยู่กับพ่อเเม่ค่ะ ตั้งเเต่ตอนเรียน เรามีปัญหาเรื่องความซีมเศร้านี้มาตลอด เเต่จุดเปลี่ยนที่มาทำให้เป็นหนักมากๆถึงกับเคยรู้สึกอยู่ไม่ได้เลย ก็คือเรื่องความรักค่ะ เราไม่เคยมีเเฟนนะคะ เป็นคนอาภัพเรื่องนี้เอามากๆ เหมือนตามที่ใครๆเค้าชอบพูดกันว่าคนเกิดวันศุกร์มักจะอาภัพเรื่องคู่ ซึ่งเราเห็นด้วยมากๆเลย ฮ่าๆ ผิดหวังมาซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเต่เราก็รู้สึกว่าเราโตขึ้นเพราะมันจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นการเรียนรู้ที่คุ้มมั้ย เเต่ก็เลือกไม่ได้นะคะ หลีกเลี่ยงก็ไม่ได้ด้วยมีเเต่จะต้องยอมรับเเละเผชิญหน้ากับมัน เราเป็นคนให้ความสำคัญกับความรักมากๆ เรียกได้ว่า love drive สุดๆ ถ้ามีเรื่องนี้เข้ามา เราพร้อมจะทำทุกอย่าง ให้หมดใจเลย เเต่ก็นั่นเเหละค่ะ พอได้เจอเรื่องราวที่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจมามาก ก็เลยหยุด เลิกเอาตัวเองไปเข้าหาเข้าใกล้สิ่งเหล่านั้น จริงๆเราก็ไม่ได้มีโอกาสเจอเพศตรงข้ามมากเท่าไหร่ เรียกได้ว่าไม่มีโอกาสได้เจอเลยด้วยซ้ำ เนื่องด้วยเราเป็นคนไม่ค่อยทำกิจกรรม เเล้วก็ยังเรียนในคณะที่มีเเต่สาวๆทั้งนั้น ประกอบกับรูปร่างหน้าตาที่ไม่ค่อยจะน่ามอง รวมๆกันเเล้วก็เรียกได้ว่าคุณสมบัติครบถ้วนเลยค่ะของความนก ฮ่าๆ คนที่เจอๆมาส่วนใหญ่จึงมาจากโลกออนไลน์ทั้งนั้นเลยค่ะ จับต้องได้บ้างไม่ได้บ้าง เเต่ทุกคนล้วนมีผลกับจิตใจความรู้สึกเราหมดเลย มีมากเกินไปเเบบที่คนปกติที่คบกันจริงจังยังไม่น่าจะรู้สึกรุนเเรงขนาดเราเลยด้วยซ้ำ เราเป็นคนค่อยข้างextreme อารมณ์รุนเเรงมากๆๆเลยค่ะ รู้ตัวเองดี เเต่ก็เเก้ไม่เคยจะได้เลย...
เราเองก็ อยู่ในครอบครัวฐานะปานกลางค่ะ การเลี้ยงดูของพ่อเเม่ก็ออกจะตามใจอยู่บ้าง ไม่ได้อยากจะโทษเค้าเลยเพราะมันคือความรักความหวังดี อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด เเต่มันกลับเป็นดาบสองคม ทำให้เราเป็นคนใจร้อนเเละเอาเเต่ใจเอามากๆ อยากได้อะไรก็คือจะต้องได้มาให้ได้เร็วที่สุด รอไม่เป็น เราเห็นข้อเสียตรงนี้ทุกอย่าง เเต่มันยากเหลือเกินที่จะเเก้ไขนิสัยที่ติดมานานจนเรียกได้ว่าเป็นสันดานไปเเล้ว ... เราเป็นคนชอบวิเคราะห์ตัวเองเเละคนอื่นตลอดเวลาค่ะ จึงทำให้เราเห็นข้อเสียของตัวเองอยู่เรื่อยๆ เเต่เเปลกตรงที่ เราไม่เคยเห็นข้อดีของตัวเองเลย ในขณะที่เราสามารถเห็นข้อดีของคนอื่นได้สารพัด..
พื้นฐานเราเป็นคนขี้เกรงใจเเละถ่อมตัวมากๆๆๆๆค่ะ เราเลยไม่กล้ามั่นใจที่จะทำอะไรเลยทั้งสิ้น ด้วยความที่ไม่มั่นใจทั้งในรูปลักษณ์ ทั้งในความสามารถ เเละทุกๆอย่าง รวมกันจึงทำให้เกิดเป็นการดูถูกตัวเอง การไม่เคารพตัวเองหรือที่ฝรั่งเขาชอบเรียกกันว่า low self-esteem รวมๆกันทุกสิ่งที่อย่างที่ประกอบกันมาเป็นเรา เราไม่ชอบเลยสักอย่างค่ะ ไม่มีอะไรที่เราพอใจเลย เราappreciateอะไรเกี่ยวกับตัวเองไม่ได้เลย เราเป็นคนไม่มีpassion ไม่มีความชอบอะไรทั้งสิ้น มีเเต่ใช้เงินไปวันๆ กินๆนอนๆ ช้อปปิ้ง งานเราก็ไม่ได้ทำประจำค่ะ งานที่เราทำตั้งเเต่เรียนจบมาเลยก็คือเป็นติวเตอร์ ซึ่งเราทำมานานสักพักนึงจนรู้สึกเบื่อ รู้สึกเอียนกับบรรยากาศเดิมๆ รู้สึกอยากได้อะไรใหม่ๆในชีวิต เพราะที่ๆเราสอนอยู่คือมันเงียบมากค่ะ วันๆไม่ได้เจอผู้เจอคน เเต่เราเป็นคนชอบพูดชอบคุยชอบinteract กับคนอื่นซึ่งบรรยากาศของที่นี่มันไม่ตอบโจทย์เราเลย มันยิ่งทำให้เราอยู่กับตัวเองเยอะ อยู่กับความเป็นตัวเองความคิดตัวเอง ตัวงานเองสบายมากๆๆค่ะ เจ้านายก็ดีกับเรามาก ยืดหยุ่นใหุ้ทุกอย่าง เพราะเราเคยเข้าไปคุยกับเค้าเรื่องโรคซึมเศร้าของเรา เข้างานเราเข้า10โมงบ้าง 10.30บ้าง 11 บ้าง เรียกได้ว่าตามใจฉันสุดๆ พ่อเเม่คนรอบตัวเราทุกคนบอกเสมอว่า เราจะหาที่ๆดีขนาดนี้ เจ้านายที่เข้าใจเราขนาดนี้ไม่ได้อีกเเล้ว ซึ่งเรารู้จุดนั้นดีค่ะ เเต่ประเด็นคือ การที่ให้เราทำงานอยู่ที่นี่ มันทำให้เราสุขภาพจิตเเย่มากๆๆๆๆ เรียกได้ว่าอึดอัดกระวนกระวายเก้าอี้ร้อนมากอยากจะออกอยู่นับครั้งไม่ถ้วน จากทำเต็มวัน เราขอเค้าทำเหลือครึ่งวันค่ะ จากครึ่งวัน ตอนนี้เราเเทบจะไปสอนเเล้วพอไม่มีนักเรียนก็กลับ คือเอาเเต่ใจมากๆเรารู้ เเต่มันทรมานมากเหลือจะทนจริงๆ เราดีใจทุกครั้งที่จะได้กลับบ้าน มานอนเฉยๆ เเต่ในขณะที่นอนเราก็คิดอยู่ตลอดค่ะว่า ชีวิตจะเป็นเเบบนี้ไม่ได้ เเล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย ยังไม่ต้องคิดถึงเลี้ยงพ่อเเม่เลยนะคะ เเค่เลี้ยงตัวเองก็ยากมากเเล้ว ถึงเราจะไม่ได้มีภาระอะไร เเต่เงินที่ได้มาก็ไม่พอ (เพราะเราทำเเค่ครึ่งวันตอนนี้ เเละเข้าเเค่4วันต่อสัปดาห์ค่ะ) เพื่อนๆคงคิดว่า เเล้วทำไมไม่หางานใหม่ละ เราพยายามเเล้วค่ะ เเต่ด้วยความที่เราไม่เคยฝึกงานที่ไหนมาก่อน ตอนปีสามเราไปเเลกเปลี่ยนต่างประเทศ เราจึงไม่ได้มีประสบการณ์ในการทำงานอะไรเลย มันจึงทำให้มีโอกาสน้อยมากๆๆๆๆๆเรียกได้ว่าเเทบไม่มีเลย ในการที่จะได้ทำงานที่ดีๆกับเค้า เราท้อมากตอนนี้ รู้สึกเเค่ว่า ใช้ชีวิตเเต่ละวันให้รอด ให้ไม่ร้องไห้ ให้ไม่ทุกข์ ตื่นมาให้ได้ก็ยากเเล้ว คนที่ไม่เป็นdepressionคงจะไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ อาจจะคิดว่าเว่อจัง มันจะอะไรขนาดนั้น ภายนอกก็ดูสุขสบายดี เเต่จริงๆข้างในคือพังหมดเเล้วค่ะ จากวันนั้น จุดเริ่มต้นของโรคที่มาจากเรื่องความรัก จนวันนี้ มันเเทบไม่มีอะไรเบาลงเลย เรายังเหงายังต้องการคนอีกคน ยังคงฝากความสุขไว้ที่คนอื่น ยังคงไม่มีเป้าหมาย ล่องลอย ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ไม่มีความชอบไม่มีpassion ไม่มีอะไรให้look forward to มันไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไงเลยค่ะ เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่า เคยมีใครประสบพบเจอกับอะไรคล้ายๆเเบบนี้บ้างมั้ยคะ เคยรู้สึกต้องการความรักตลอดเวลา ให้ความรักเป็นเรื่อง priority ความรู้สึกเบื่อทุกอย่าง ไม่มีเป้าหมาย หาตัวเองไม่เจอ อยากอยู่เฉยๆ เเต่ในขณะเดียวกันก็ใจร้อน อยากประสบความสำเร็จเร็วๆ มันดูขัดเเย้งกันไปหมดเลย มันเลยทำให้เราอึดอัดมากๆๆ ยังไงถ้าใครมีความคิดเห็นหรือคำเเนะนำ กำลังใจดีๆ ก็ช่วยส่งมาไว้ได้เลยนะคะ ขอขอบคุณมากๆล่วงหน้าเลยค่ะ