แค่ฝันอยากขายเสื้อผ้ามันไม่พอ ต้องลงมือทำด้วย

ชอบตามแฟชั่น ชอบเสื้อผ้า อยากมีร้านเป็นของตัวเอง?
แต่ไม่มีเวลา ต้นทุนเริ่มต้นก็มีไม่มาก ไม่รู้จะเริ่มยังไง
.
อยากจะทำตามฝัน อยากเริ่มต้นขายเสื้อผ้าแฟชั่น
แต่ไม่กล้า กลัวเจ๊ง กลัวนั่นโน่นนี่ มีข้ออ้างสารพัด
เลยไม่กล้าเริ่มต้นทำอะไรสักที

.
จริงๆแทบทุกคนก็เริ่มต้นจากศูนย์นะคะ
ไม่มีใครเทพมาตั้งแต่เกิด
.
ในฐานะทีอยู่วงการขายเสื้อผ้าแฟชั่นมาพอสมควร
ทั้งเคยรับมาขาย และสั่งผลิตเอง จนตอนนี้ผันตัวเองมาเป็นผู้ค้าส่งเต็มตัว
เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ ให้แม่ค้ามือใหม่ ที่กำลังฝัน และกำลังลงมือทำฝันอยู่นั้น
.
การจะเริ่มต้นขายเสื้อผ้าแฟชั่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ก็ไม่ได้ยาก!!
ถ้าคุณมีความฝันเหมือนกัน มาเลยค่ะ จะเล่าให้ฟัง
.
.
.
.
ก่อนที่จะมาขายเสื้อผ้าแฟชั่น
เริ่มต้น เราก็คงเหมือนผู้หญิงทั่วไป
เรียนจบมาเป็นพนักงานออฟฟิศ
ได้แต่งตัวสวยๆ อยู่ในห้องแอร์
.
ก่อนหน้านี้เราทำงานแบงค์ ตำแหน่งteller แต่มารู้ทีหลังว่า
ต้องโดนบังคับขายประกันด้วย ไม่ใช่ไม่ชอบงานขาย
แต่มันต้องไปบังคับขายคนที่เค้ามาฝากเงิน
คนที่เค้ายังไม่อยากทำ เราไม่ชอบ มันไม่ใช่ตัวเรา
เราไม่ขาย ฝืนไปไม่ไหว จนเราต้องออกเอง
.
เลยกลับมาคิดดูว่า ครั้งหนึ่ง เราเคยมีความฝันค่ะ
เราเป็นคนชอบเสื้อผ้า ตั้งแต่วัยรุ่น ชอบแต่งตัว รักสวยรักงาม ก็คงเหมือนผู้หญิงทั่วไปเนอะ
เลยอยากทำตามความฝันสักครั้งนึง คือ"ขายเสื้อผ้าแฟชั่น"
.
ถ้าพูดถึง ขายเสื้อผ้าแฟชั่น เราเริ่มจากศูนย์ค่ะ
เราไม่รู้อะไรเลย ว่าจะรับของยังไง จะขายที่ไหน จะขายใคร
.
เราเริ่มจากsearch ทางเน็ต เริ่มแรกไปรับเสื้อผ้าแฟชั่น ที่ขายรวมเป็นกระสอบมาขาย
กระสอบนึงได้เป็นร้อยตัว แต่ราคาไม่กี่บาท
แรกๆขายดีมาก สั่งเดือนนึงมาหลายกระสอบ
.
.
แต่ปัญหาคือ เราเลือกแบบเองไม่ได้
เสื้อผ้าคละแบบมา มีทั้งแบบสวยและไม่สวย งานดีและไม่ดี
แบบที่สวยเราขายได้ราคา ลูกค้าซื้อไปแฮปปี้
แต่แบบไม่สวยขายไม่ได้ และบางทีลดราคาขายเท่าทุนแล้ว ก็ยังขายไม่ออก
.
และหลายๆครั้ง ลูกค้าซื้อไปแล้วมาเปลี่ยน มาว่าเรา
หาว่าของมีตำหนิ ไม่สวย ไม่เหมือนนางแบบในรูป
เราก็รู้สึกแย่ ขายได้ แต่ไม่มีความสุข ก็ไม่รู้จะขายไปทำไม
เหมือนเงินที่ได้ ไปปล้นใครมา
มันไม่มีความหมาย แบบนี้เราไม่เอา
.
จนเราต้องตัดสินใจว่า ทำไมเราไม่ทำแบบเอง
จะได้เสื้อผ้าแบบที่เราชอบ กับงานตัดเย็บที่เราคุมได้
.
.
เราเริ่มหาข้อมูลทั้งหมดอีกรอบ
ซื้อผ้าที่ไหน หาช่างตัดเย็บยังไง จนมาได้ช่างแถวดินแดง
จำได้ว่า แรกๆเหนื่อยมาก เพราะต้องหาผ้าเอง หาแบบเอง ทำเองทุกอย่างทั้งหมด
.
เช้ามาต้องไปซื้อผ้าพาหุรัด กับสั่งผ้าที่วัดสน
บ่ายๆขับรถเอาผ้าไปให้ช่างตัดเย็บ ดูแบบที่ขึ้นแพทเทินมา
ตอนเย็นก็ต้องกลับมาดูร้าน ดูลูกน้อง
เหนื่อยนะ แต่มันมีความสุข
.
.
แรกๆเหมือนเดิม ขายดีนะ ลูกค้าชอบ ชมร้านเราแบบสวย คุณภาพดี ราคาถูก
แต่ปัญหาที่เราคิดว่าคุมได้ กลับคุมไม่ได้ คือช่างค่ะ
มีช่าง3คน แรกๆงานดี เย็บสวย แต่หลังๆงานช้า แถมทำมาไม่เหมือนแบบอีก
.
เราต้องตามงานทุกวัน ทะเลาะกับช่างทุกวัน ว่าเย็บคอเบี้ยวบ้าง เย็บชายเสื้อไม่เท่ากันบ้าง
จนไม่มีเวลานอน แทบจะต้องไปนอนกับช่างอยู่แล้ว
.
จนเป็นตัวเราที่ไม่ไหวเอง
ตัดเย็บช้า เย็บมาบางทีไม่เหมือนแบบ ลูกค้าว่าเราเละเลย เราเริ่มขาดทุน
.
จนเราต้องตัดสินใจอีกรอบ ว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง จะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้นะ
เราเลยตัดสินใจว่าจะขายส่ง และไปนำเข้าเสื้อผ้ามาเอง
.
ด้วยความที่เราชอบมิกซ์แอนแมทช์เสือผ้าอยู่แล้ว
จับเสื้อตัวโน้นมาคู่กับกระโปรงแบบนี้
.
ชอบแต่งตัว ชอบเสื้อผ้า ชอบตามแฟชั่นตลอด แบบไหนกำลังมา เราต้องมี
เราเลยมีเซนส์ และมั่นใจ ว่าถ้าเราเห็นแบบไหนสวย แบบนั้นต้องขายดีแน่นอน
.
แต่แบบที่สวยหลายแบบ ราคาค่อนข้างแพง ต้นทุนสูง
เลยคิดว่า เราจะสู้ร้านอื่นได้หรอ
ร้านเราอยู่ในประตูน้ำ ตลาดที่เน้นแต่ราคาถูก เสื้อบางตัวขายกันไม่ถึงร้อย
แบบนี้เราจะขายยังไง ใครจะมาซื้อของเรา
.
เราทะเลาะกับหุ้นส่วนเรา เค้าบอกว่า
คนซื้อเสื้อผ้าชอบของถูก แบบไม่ต้องอะไรมากหรอก
เน้นถูกๆไว้ก่อน งานตัดเย็บดี ไม่ดีอีกเรื่อง
ลูกค้าไม่สนใจหรอก
.
เราไม่เชื่อ เราเถียงชนฝา เราทำให้เห็นว่าลูกค้าไม่ได้ชอบของถูก
แบบมันต้องสวยก่อน โดนใจก่อน ลูกค้าถึงซื้อ!!
บางแบบเหมือนกันเด๊ะ แต่พอเป็นงานราคาต่ำ ลดต้นทุนปุ๊ป เนื้อผ้าก็ไม่ดี ตะเข็บปริ ทรงเบี้ยว
จากแบบที่สวยๆ กลายเป็นงานโหลเลย
.
"ถ้าจะขายของห่วยๆแบบนี้เราจะเลิก เราไม่ทำด้วย"

"เสื้อผ้าสำหรับเรา ไม่ได้เป็นแค่อะไรก็ได้ที่สวมใส่ร่างกายเท่านั้น ไม่ใช่อยากจะขายอะไรก็ขาย
แต่มันคือความชอบ ความสุข และคือความฝัน
เราอยากขายเสื้อผ้าที่เราชอบ แบบสวยๆ
เราอยากเห็นลูกค้าใส่แล้วมีความสุข เหมือนที่เรารู้สึก"

"และต่อให้สุดท้ายเราต้องเจ๊ง ขอให้เราเจ๊งเพราะต่อสู้ในสิ่งที่เราเชื่อ ดีกว่าเจ๊งเพราะทำตามคนอื่น"
.
ตอนแรกก็โดนแอบหัวเราะใส่นะ แต่พอเราได้ลองทำเท่านั้นแหละ
.
วันแรกที่เอาของไปลงขาย ตื่นแต้นมาก
คิดต่างๆนาๆว่าลูกค้าจะชอบแบบมั้ย ราคารับได้รึเปล่า
แต่พอลงของวันแรก ลูกค้าบอกว่าแบบเสื้อผ้าเราสวย ไม่เหมือนร้านไหนในประตูน้ำ
งานไม่โหล ตัดเย็บดี บอกว่ารับไปแล้วขายได้
แค่ได้ยินลูกค้าชมแบบนี้ มันสุขยิ่งกว่า ถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอีก


แต่ก็มีบ้างที่ลูกค้าหลายคนกลัว บอกว่าสวยนะ แต่ติดเรื่องราคา ไม่รู้จะไปขายยังไง เราก็บอกว่า
"ถ้าเราขายอยู่ที่ประตูน้ำ ที่แม่ค้าชอบเสื้อผ้าตัวละร้อยกว่าบาท เรายังขายได้
คุณก็เอาของร้านเรา ไปขายที่อื่นได้สบาย จะกลัวอะไรกับเรื่องราคา"
.
ปัจจุบัน เราขายส่งเสื้อผ้าแฟชั่นที่ประตูน้ำมากว่า 10ปีแล้วค่ะ เรายึดแนวทางขายแบบนี้มาตลอด
แบบเสื้อผ้า ที่ลูกค้ารับของเราไป ต้องสวย ต้องขายได้
แม่ค้าที่รับของเราไปขายมีทั้งขายในอินเตอร์เน็ต facebook IG มีหน้าร้าน
หรือหลายๆร้านในแพลทตินั่ม ก็รับไปขายอีกทีค่ะ
.
.
.
พอได้ลองมองย้อนกลับไป ตอนที่เรายังไม่เริ่มทำ
ก็รู้สึกกลัวไปหมด กลัวขาดทุน กลัวเจ๊ง กลัวสารพัดที่จะนึกขึ้นมากลัวได้
.
แต่พอได้ลองทำเท่านั้นแหละ...
ตอนนี้กลับคิดว่า ทำไมไม่ทำให้เร็วกว่านี้
.
พอได้ทำ มันรู้สึกดี.. รู้สึกเหมือนได้เจอ ได้ทำอะไรบางอย่าง ที่เรามีความสุขอยู่ทุกวัน
ความสุขไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล มันอยู่แค่ข้างๆเรานี่แหละ
.
เราว่าทุกคนมีความฝันในตัวอยู่แล้ว
อยู่ที่จะปลุกมันขึ้นมาเมื่อไร คุณอินกับมันมากพอรึเปล่า
ฝันแล้วมานั่งมโนกลัวนั่น กลัวนี่ แล้วไม่ยอมลงมือทำสักที
เมื่อไรจะประสบความสำเร็จ
.
การมีความฝันอยากขายเสื้อผ้า กับการลงมือเปิดร้านขายเสื้อผ้าขึ้นมาจริงๆนั่นมันคนละเรื่องเลย
สิ่งที่คุณลงมือทำจริงนี่สิสำคัญ ไม่ใช่สิ่งที่คุณแค่คิด พูด หรือวางแผน
.
สิ่งที่เราอยากแนะนำคือ คว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสักตัว แล้วเริ่มลงขายเลย เมื่อคุณสนใจอะไร
คุณก็จำเป็นต้องสร้างมันให้เกิดขึ้นทันที สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเริ่มต้น
.
คุณก็แค่ต้องเริ่มลงมือ ลงแรงกับสิ่งที่คุณชอบ
จำไว้ว่า หาก"คิด"ว่าจะเริ่มแล้ว ต้องลงมือ"ทำ"
อย่าลืมว่า"ความฝัน"จะเป็น"ความจริง"ได้
คุณต้อง "ลงมือทำ" เท่านั้น
.
.
.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่