เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนเราจะแต่งงานประมาณปี 59 แม่เลี้ยงเราเป็นหนี้จากการเล่นแชร์โดยที่ไม่มีใครรู้ เรา กับพ่อก็ไม่รู้
แม่เลี้ยงมาคุยกับเราว่าไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ เพราะเอาเงินไปหมุนหมดแล้ว จะยืมเงินเรา แต่เราไม่มีให้
แม่เลี้ยงเลยขอให้เรา ช่วยพูดกับแฟนเราว่าขอยืมเงินจากแม่แฟนได้ไหม
แฟนเราเลยบอกไปว่า ให้ลองโทรไปคุยดู ตอนแม่เลี้ยงคุยกับเราบอกว่าจะยืม 6 พันเป็นค่างวดรถ
แต่พอโทรไปคุยกับแม่แฟน ยืม3 หมื่น เรามารู้ตอนหลังว่าไม่ใช่ 6พัน โดยที่การยืมเงินนี้ แม่เลี้ยงขอร้องไม่ให้บอกพ่อ
ยืมเงินตอนประมาณ มิ.ย 59 โดยที่ตกลงจะผ่อนให้แม่แฟนเดือนละ 5 พัน
ผ่านมา2เดือน ก็ยังไม่จ่ายให้ แม่แฟนเราทวงถาม แม่เลี้ยงก็บอกยังไม่มี จนแม่แฟนโทรมาคุยกับแฟนว่า
แม่เลี้ยงยังไม่ผ่อนให้สักเดือน แล้วเงินที่ยืมไปคือ 3 หมื่น พอเรารู้โมโหมากทำไมยืมเยอะขนาดนั้น
ไหนบอกว่าแค่ค่างวดรถ เราเลยโทรไปหาแม่เลี้ยง จึงได้รับคำตอบว่า เป็นหนี้แชร์แต่ไม่บอกจำนวนว่าเท่าไหร่
ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับการเป็นหนี้แชร์ แล้วต้องหนีไปอยู่ที่อื่น ตั้งแต่ที่แม่เลี้ยงเรามาคบกับพ่อเรา
ก็มีแต่เรื่องสร้างหนี้จากการเล่นแชร์ นับไม่ถ้วน เราโคตรเอือมระอา แต่พูดอะไรไม่ได้
เพราะเมียพ่อ พ่อปกป้องตลอด ที่ผ่านมาไม่เคยกระทบกับตัวเรามาก จนครั้งนี้หนักที่สุด
หลังจากที่ยังไม่ผ่อนคืนให้แม่แฟน จนล่วงเลยมาเดือนกันยายน แม่แฟนโทรมาอีกครั้งบอกว่า
แม่เลี้ยงไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย เรารู้สึกว่ามากไปแล้วไม่ไว้หน้ากันเลย เรากับแฟนก็จะแต่งงานแล้ว
ทำไมยังไม่คืนเงินเขาอีก เราเลยบอกพ่อว่าแม่เลี้ยงยืมเงินแม่แฟน พอพ่อรู้ก็ทะเลาะกันกับแม่เลี้ยง
พ่อโทรไปคุยกับทางแม่แฟนว่า พ่อรู้เรื่องแล้วเดี๋ยวจัดการให้
พ่อเลยบังคับจ่ายคืนให้อาทิตย์ละ 1400 บาท จนเดือนตุลา 59 เราแต่งงานกับแฟน ผ่อนมาได้ประมาณ
4 อาทิตย์ก่อนแต่ง ช่วงเดือนตุลาไม่ได้ผ่อนให้เพราะต้องใช้เงินแต่งงาน ทางบ้านแฟนก็เข้าใจ
เราได้สินสอดจากบ้านแฟนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และ สร้อยทอง 1 บาท เงินสินสอดซึ่งพ่อเราก็เอาไป
เราก็มีสร้อยเก็บไว้
พ.ย 59 หลังจากแต่งงานพ่อขอให้เรามาอยู่กับพ่อ เราก็ไปอยู่กับพ่อ แต่เรามาอยู่กับพ่อไม่มีงาน
เราว่าจะเอาทองไปจำนำ สัก 5 พันบาท เอามาลงทุนทำแกงขาย พ่อบอกให้แม่เลี้ยงเอาทองไปจำนำกับคนรู้จัก
เขาไม่คิดดอกเบี้ย ตอนเราเอาทองให้เราก็ระแวงว่าเขาจะเอาไปไม่คืนมาอีกเลย แต่เราก็คิดว่าเขาคงไม่ทำกับคนในครอบครัว
เลยวางใจนิดนึง ผ่านไป3-4วัน เราถามว่าได้เงินหรือยัง แม่เลี้ยงบอกว่ารอก่อน คนที่รับจำนำเขาบอกว่าเพิ่งให้คนอื่นยืมเงิน
ผ่านมา 1 อาทิตย์ แม่เลี้ยงหายตัวไปไม่กลับบ้านตอนเย็น เรากับพ่อก็ตามหา ใจเราเริ่มรู้แล้วว่าแน่นอนทองเราไม่อยู่แล้วแน่ๆ
ตามหาจนเจอ สรุปคือหนีเจ้าหนี้ แล้วทองเราเอาไปจำนำร้านทอง แล้วเอาเงินไปจ่ายหนี้ เราโคตรเสียใจแบบพังทลาย
ไม่คิดว่าชีวิตจะโดนโกงครั้งแรกจากคนในครอบครัว พ่อขอให้เราอภัยให้แม่เลี้ยงเห็นแก่ที่เขาเลี้ยงเรามา เราอภัยให้เขา
แต่ใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่เราจะเริ่มยอมพูดเป็นปกติกับเขา แม่เลี้ยงบอกกับเราว่าจะไถ่มาคืนให้ได้ จากนั้นเราไม่เคยทวงถามเรื่องสร้อยอีก
เราไม่อยากทวง ยังไม่ทันจะทวงพ่อก็เอาแต่พูดเรื่อง บุญคุณ ว่าเขาเลี้ยงเรามา อย่าไปเคืองโกรธเลยเดี๋ยวเป็นบาป
สำหรับเราสร้อยที่เขาเอาไปจำนำ เรื่องราคาหรือจำนวนเราไม่สนใจอะไร แต่มันคือของแทนใจอะ มันคือทองแต่งงานเราอะ
ใครจะบอกว่าไม่ตายก็หาใหม่ได้ ก็จริงแต่คุณค่าทางจิตใจมันซื้อคืนไม่ได้
กลับมาที่เรื่องเงินที่แม่เลี้ยงยืมจากแม่แฟน ตอนวันงานแต่งพ่อเราดันเคืองกับพ่อแฟน เรื่องในงาน
เราขอไม่พูดถึงเรื่องนั้น เพราะจะกลายเป็นลูกกตัญญูทันที เดี๋ยวจะนอกประเด็น
หลังจากกลับจากงานแต่งพ่อเราไม่สนใจอีกเลยเรื่องที่แม่เลี้ยงยืมเงินแม่แฟนเรา
เขาพูดว่า ยืมกันเองก็ใช้กันเอง ไม่เกี่ยวกับพ่อ ตอนยืมไม่เห็นมาบอก พอไม่คืน
จะมาทวงที่พ่อ อะไรประมาณนี้ เราฟังแล้วจุกเลย ไม่เคยเห็นความคิดด้านนี้ของพ่อ
จนบัดนี้ หลังจากผ่อนไปเดือนกันยา 59 ก็ไม่ผ่อนต่ออีกเลย แม่เลี้ยงเปลี่ยนเบอร์
บล็อคเบอร์เจ้าหนี้ทุกคน รวมทั้งแม่แฟน เราทวงถาม ก็ได้คำตอบเดิมคือยังไม่มี
เราก็ได้แต่แก้ตัวแทนแม่แฟนว่า เดี๋ยวเขากำลังผ่อนรถจะหมดแล้ว
จนผ่อนหมดเดือน พ.ย 60 ก็ยังไม่ใช้หนี้ จนทางแม่แฟนนั้นปลงแล้วเพราะติดต่อ
แม่เลี้ยงเราไม่ได้ ต้องพูดผ่านเรากับแฟนเรา ส่วนเรื่องสร้อยเราไม่เคยทวงเลยสักครั้ง
แต่พอจะรู้บ้างว่าเขาไปต่อดอกสร้อยอยู่ทุกเดือน
จน ก.พ60 พ่อเราต้องการย้ายไปอยู่ที่อื่น แล้วขอให้เราไปด้วย แต่เราไม่อยากไป
เราเลยปฏิเสธไป พ่อเราโกรธและทะเลาะกับเรา *ขอข้ามเรื่องนี้
จนวันนี้เขาเปลี่ยนการติดต่อทุกช่องทาง แล้วย้ายไปที่ใหม่แล้ว
*** เลยอยากจะถามว่าเราควรทวงสร้อยที่เขาเอาไปจำนำหรือปล่าว
กับเงินที่ยืมแม่แฟนเราไปหรือควรปล่อยไปดี ***
เขาจะว่าเราอกตัญญูไหม หรือเราจะกลายเป็นคนเนรคุณหรือปล่าว
สำหรับเราเห็นเขาอยู่ดีมีความสุข เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ซื้อรถใหม่ก็ดีใจด้วย
ขอความกรุณาไม่ด่านะคะ ไม่นอกประเด็นด้วย
แม่เลี้ยงเอาสร้อยเราไปจำนำ และยืมเงินแม่แฟนเรา ควรทวงไหมคะ?
แม่เลี้ยงมาคุยกับเราว่าไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ เพราะเอาเงินไปหมุนหมดแล้ว จะยืมเงินเรา แต่เราไม่มีให้
แม่เลี้ยงเลยขอให้เรา ช่วยพูดกับแฟนเราว่าขอยืมเงินจากแม่แฟนได้ไหม
แฟนเราเลยบอกไปว่า ให้ลองโทรไปคุยดู ตอนแม่เลี้ยงคุยกับเราบอกว่าจะยืม 6 พันเป็นค่างวดรถ
แต่พอโทรไปคุยกับแม่แฟน ยืม3 หมื่น เรามารู้ตอนหลังว่าไม่ใช่ 6พัน โดยที่การยืมเงินนี้ แม่เลี้ยงขอร้องไม่ให้บอกพ่อ
ยืมเงินตอนประมาณ มิ.ย 59 โดยที่ตกลงจะผ่อนให้แม่แฟนเดือนละ 5 พัน
ผ่านมา2เดือน ก็ยังไม่จ่ายให้ แม่แฟนเราทวงถาม แม่เลี้ยงก็บอกยังไม่มี จนแม่แฟนโทรมาคุยกับแฟนว่า
แม่เลี้ยงยังไม่ผ่อนให้สักเดือน แล้วเงินที่ยืมไปคือ 3 หมื่น พอเรารู้โมโหมากทำไมยืมเยอะขนาดนั้น
ไหนบอกว่าแค่ค่างวดรถ เราเลยโทรไปหาแม่เลี้ยง จึงได้รับคำตอบว่า เป็นหนี้แชร์แต่ไม่บอกจำนวนว่าเท่าไหร่
ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับการเป็นหนี้แชร์ แล้วต้องหนีไปอยู่ที่อื่น ตั้งแต่ที่แม่เลี้ยงเรามาคบกับพ่อเรา
ก็มีแต่เรื่องสร้างหนี้จากการเล่นแชร์ นับไม่ถ้วน เราโคตรเอือมระอา แต่พูดอะไรไม่ได้
เพราะเมียพ่อ พ่อปกป้องตลอด ที่ผ่านมาไม่เคยกระทบกับตัวเรามาก จนครั้งนี้หนักที่สุด
หลังจากที่ยังไม่ผ่อนคืนให้แม่แฟน จนล่วงเลยมาเดือนกันยายน แม่แฟนโทรมาอีกครั้งบอกว่า
แม่เลี้ยงไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย เรารู้สึกว่ามากไปแล้วไม่ไว้หน้ากันเลย เรากับแฟนก็จะแต่งงานแล้ว
ทำไมยังไม่คืนเงินเขาอีก เราเลยบอกพ่อว่าแม่เลี้ยงยืมเงินแม่แฟน พอพ่อรู้ก็ทะเลาะกันกับแม่เลี้ยง
พ่อโทรไปคุยกับทางแม่แฟนว่า พ่อรู้เรื่องแล้วเดี๋ยวจัดการให้
พ่อเลยบังคับจ่ายคืนให้อาทิตย์ละ 1400 บาท จนเดือนตุลา 59 เราแต่งงานกับแฟน ผ่อนมาได้ประมาณ
4 อาทิตย์ก่อนแต่ง ช่วงเดือนตุลาไม่ได้ผ่อนให้เพราะต้องใช้เงินแต่งงาน ทางบ้านแฟนก็เข้าใจ
เราได้สินสอดจากบ้านแฟนเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และ สร้อยทอง 1 บาท เงินสินสอดซึ่งพ่อเราก็เอาไป
เราก็มีสร้อยเก็บไว้
พ.ย 59 หลังจากแต่งงานพ่อขอให้เรามาอยู่กับพ่อ เราก็ไปอยู่กับพ่อ แต่เรามาอยู่กับพ่อไม่มีงาน
เราว่าจะเอาทองไปจำนำ สัก 5 พันบาท เอามาลงทุนทำแกงขาย พ่อบอกให้แม่เลี้ยงเอาทองไปจำนำกับคนรู้จัก
เขาไม่คิดดอกเบี้ย ตอนเราเอาทองให้เราก็ระแวงว่าเขาจะเอาไปไม่คืนมาอีกเลย แต่เราก็คิดว่าเขาคงไม่ทำกับคนในครอบครัว
เลยวางใจนิดนึง ผ่านไป3-4วัน เราถามว่าได้เงินหรือยัง แม่เลี้ยงบอกว่ารอก่อน คนที่รับจำนำเขาบอกว่าเพิ่งให้คนอื่นยืมเงิน
ผ่านมา 1 อาทิตย์ แม่เลี้ยงหายตัวไปไม่กลับบ้านตอนเย็น เรากับพ่อก็ตามหา ใจเราเริ่มรู้แล้วว่าแน่นอนทองเราไม่อยู่แล้วแน่ๆ
ตามหาจนเจอ สรุปคือหนีเจ้าหนี้ แล้วทองเราเอาไปจำนำร้านทอง แล้วเอาเงินไปจ่ายหนี้ เราโคตรเสียใจแบบพังทลาย
ไม่คิดว่าชีวิตจะโดนโกงครั้งแรกจากคนในครอบครัว พ่อขอให้เราอภัยให้แม่เลี้ยงเห็นแก่ที่เขาเลี้ยงเรามา เราอภัยให้เขา
แต่ใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่เราจะเริ่มยอมพูดเป็นปกติกับเขา แม่เลี้ยงบอกกับเราว่าจะไถ่มาคืนให้ได้ จากนั้นเราไม่เคยทวงถามเรื่องสร้อยอีก
เราไม่อยากทวง ยังไม่ทันจะทวงพ่อก็เอาแต่พูดเรื่อง บุญคุณ ว่าเขาเลี้ยงเรามา อย่าไปเคืองโกรธเลยเดี๋ยวเป็นบาป
สำหรับเราสร้อยที่เขาเอาไปจำนำ เรื่องราคาหรือจำนวนเราไม่สนใจอะไร แต่มันคือของแทนใจอะ มันคือทองแต่งงานเราอะ
ใครจะบอกว่าไม่ตายก็หาใหม่ได้ ก็จริงแต่คุณค่าทางจิตใจมันซื้อคืนไม่ได้
กลับมาที่เรื่องเงินที่แม่เลี้ยงยืมจากแม่แฟน ตอนวันงานแต่งพ่อเราดันเคืองกับพ่อแฟน เรื่องในงาน
เราขอไม่พูดถึงเรื่องนั้น เพราะจะกลายเป็นลูกกตัญญูทันที เดี๋ยวจะนอกประเด็น
หลังจากกลับจากงานแต่งพ่อเราไม่สนใจอีกเลยเรื่องที่แม่เลี้ยงยืมเงินแม่แฟนเรา
เขาพูดว่า ยืมกันเองก็ใช้กันเอง ไม่เกี่ยวกับพ่อ ตอนยืมไม่เห็นมาบอก พอไม่คืน
จะมาทวงที่พ่อ อะไรประมาณนี้ เราฟังแล้วจุกเลย ไม่เคยเห็นความคิดด้านนี้ของพ่อ
จนบัดนี้ หลังจากผ่อนไปเดือนกันยา 59 ก็ไม่ผ่อนต่ออีกเลย แม่เลี้ยงเปลี่ยนเบอร์
บล็อคเบอร์เจ้าหนี้ทุกคน รวมทั้งแม่แฟน เราทวงถาม ก็ได้คำตอบเดิมคือยังไม่มี
เราก็ได้แต่แก้ตัวแทนแม่แฟนว่า เดี๋ยวเขากำลังผ่อนรถจะหมดแล้ว
จนผ่อนหมดเดือน พ.ย 60 ก็ยังไม่ใช้หนี้ จนทางแม่แฟนนั้นปลงแล้วเพราะติดต่อ
แม่เลี้ยงเราไม่ได้ ต้องพูดผ่านเรากับแฟนเรา ส่วนเรื่องสร้อยเราไม่เคยทวงเลยสักครั้ง
แต่พอจะรู้บ้างว่าเขาไปต่อดอกสร้อยอยู่ทุกเดือน
จน ก.พ60 พ่อเราต้องการย้ายไปอยู่ที่อื่น แล้วขอให้เราไปด้วย แต่เราไม่อยากไป
เราเลยปฏิเสธไป พ่อเราโกรธและทะเลาะกับเรา *ขอข้ามเรื่องนี้
จนวันนี้เขาเปลี่ยนการติดต่อทุกช่องทาง แล้วย้ายไปที่ใหม่แล้ว
*** เลยอยากจะถามว่าเราควรทวงสร้อยที่เขาเอาไปจำนำหรือปล่าว
กับเงินที่ยืมแม่แฟนเราไปหรือควรปล่อยไปดี ***
เขาจะว่าเราอกตัญญูไหม หรือเราจะกลายเป็นคนเนรคุณหรือปล่าว
สำหรับเราเห็นเขาอยู่ดีมีความสุข เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ซื้อรถใหม่ก็ดีใจด้วย
ขอความกรุณาไม่ด่านะคะ ไม่นอกประเด็นด้วย